รองศาสตราจารย์พิเศษ อดิศร เพียงเกษ ม.ป.ช. ม.ว.ม.[2][3] (เกิด 6 กันยายน พ.ศ. 2495) ชื่อเล่น ตุ๊ อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (ประธานวิปรัฐบาล) อดีตข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตำแหน่งโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์)[4][5] อดีตประธานสถานีประชาชน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงเป็นประธานกรรมการมูลนิธิไกวแก้ว เพียงเกษ
ประวัติ
รองศาสตราจารย์พิเศษอดิศรเกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2495 ที่อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เป็นบุตรของนายทองปักษ์ เพียงเกษ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น[1] กับนางไกวแก้ว เพียงเกษ
การศึกษา
รองศาสตราจารย์พิเศษอดิศร เพียงเกษ จบการศึกษาระดับประถมปีที่ 1-2 ที่โรงเรียนหลักเมือง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม และย้ายไประดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-4 ที่โรงเรียนบ้านขามเฒ่า (ขามเฒ่าผดุงศิลป์) ตำบลขามเฒ่าพัฒนา อำเภอกันทรวิชัย และระดับชั้นประถมปีที่ 5-7 ที่โรงเรียนมาตุภูมิอนุสรณ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนราษฎร์ ที่ก่อตั้งโดยทองปักษ์ บิดาของเขา ใช้ศาลาวัดบ้านขามเฒ่า เป็นสถานที่เรียน จากนั้นจบการศึกษามัธยมต้น ที่โรงเรียนบำรุงไทย 1, โรงเรียนสงเคราะห์นิยมวิทยา, และโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จังหวัดขอนแก่น แล้วจบการศึกษามัธยมปลาย ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ รุ่น 10-12 (DSA84) เลขประจำตัวนักเรียน ท.ศ.11260
ในระดับอุดมศึกษา อดิศรสำเร็จนิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, พุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พระพุทธศาสนา) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนด้าน Oriental Studies ระยะสั้นที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ประเทศพม่า, ปริญญาเอกด้านปรัชญาและด้านพุทธศาสนาจากมหาวิทยาลัยมคธ ประเทศอินเดีย, ประกาศนียบัตรชั้นสูง หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.1) จากสถาบันพระปกเกล้า, ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตรดุษฏีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
การเมือง
ขณะที่รศ.พิเศษอดิศรเป็นนักศึกษา เขาร่วมชุมนุมขับไล่พระถนอม เมื่อกลางเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2519 อันเป็นชนวนสำคัญของเหตุการณ์ 6 ตุลา หลังจากนั้นครอบครัวของเขาได้เข้าเป็นแนวร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยพำนักอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และมีชื่อจัดตั้งว่า "สหายศรชัย" หรือ "สหายสอง"
รศ.พิเศษอดิศรเริ่มเข้าสู่การเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2515 โดยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ[6] กระทั่งได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น สังกัดพรรคมวลชน เมื่อปี พ.ศ. 2534 และต่อมา ย้ายไปสังกัดพรรคพลังธรรม และเข้ารับตำแหน่ง รองเลขาธิการให้กับพรรคนำไทย[7] ในที่สุดจึงย้ายมาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ตัดสิทธิทางการเมืองของเขา เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549[8]
รศ.พิเศษอดิศรเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมา 4 สมัย ได้แก่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ[9] เมื่อ พ.ศ. 2535 และเป็น ส.ส.สังกัดพรรคพลังธรรม ชนะการเลือกตั้งแบบยกทีมในเขต 1 จังหวัดขอนแก่น ในการเลือกตั้ง 35/2 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม[10] เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (11 มีนาคม พ.ศ. 2548)[11] และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (2 สิงหาคม 2548)
ด้านภรรยา ดร.เยาวนิตย์ เพียงเกษ ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชนและกองทุน[12]
ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 40[13] แต่การเลือกตั้งกล่าวเป็นโมฆะ
ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 23[14] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมีตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 18[15] และได้รับการเลือกตั้ง[16] และต่อมาเมื่อวันที่ 14 กันยายน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งให้อดิศรเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล[17]
งานสื่อสารมวลชน
- ผู้ดำเนินรายการวิทยุ “กุญแจเมืองไทย” (อดิศร เพียงเกษ, วิสา คัญทัพ และ ไพจิตร อักษรณรงค์) ทาง FM 105 MHz
- ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ “สร้างบ้านแปงเมือง” ทาง MVTV
- ประธานสถานีประชาธิปไตย D-Station
- ประธานสถานีประชาชน People Channel และผู้ดำเนินรายการ "คุยกับอดิศร"
- ประธานที่ปรึกษาสถานีโทรทัศน์ทีวี 24 และวิทยากรประจำรายการ "ตรงไปตรงมา"
- ผู้ก่อตั้งเพจ "ตรงไปตรงมาทีวี" และจัดรายการออนไลน์ผ่านเพจตรงไปตรงมาทีวี
- ผู้ดำเนินรายการคลิปสั้น "ประเด็นร้อนกลอนผะหยา" ทางเพจ Voice Online
ผลงานเพลง
ขับร้อง
ประพันธ์เนื้อร้อง และขับร้อง
- น่าอาย
- มือถือสากปากถือศีล
- สู้ทุกเมื่อเพื่อประชาธิปไตย
- ตีนโตประชาธิปไตย
ประพันธ์เนื้อร้อง
- ประชาธิปไตยของประชาชน (2552,วันชนะ เกิดดี) ขับร้อง)
- ความไม่เป็นธรรม (2552, มุกข์ เมทินี ขับร้อง และ วันชนะ เกิดดี นำมาขับร้องใหม่ในปี พ.ศ. 2557)
- คนธรรมดา (จตุพร พรหมพันธุ์ ขับร้อง)
ชีวิตส่วนตัว
รศ.พิเศษอดิศร เพียงเกษ สมรสกับ ดร.เยาวนิตย์ เพียงเกษ (สกุลเดิม: พินสำริด) ผู้มีชื่อจัดตั้งว่า "สหายการะเกด" ปัจจุบันเป็นอาจารย์ ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
ในด้านงานอดิเรกรศ.พิเศษอดิศรมีความชอบแต่งกาพย์กลอนและเป่าแคน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
เสนาบดีกระทรวงธรรมการ (พ.ศ. 2435–2475) |
---|
|
| |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ (พ.ศ. 2475–2484) |
---|
|
|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ. 2485 – ปัจจุบัน) |
---|
|
|
|
---|
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน |
---|
|
| |
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม |
---|
|
|
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี |
---|
|
|
|
|
---|
เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ (2435–2474) |
---|
|
| |
กระทรวงเกษตรพาณิชยการ (2475–2476) |
---|
|
|
กระทรวงเศรษฐการ (2476–2478) |
---|
|
|
กระทรวงเกษตราธิการ (2478–2495) |
---|
|
|
กระทรวงสหกรณ์ (2495–2506) |
---|
|
|
|
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (2515–ปัจจุบัน) |
---|
|
|