สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (อังกฤษ: Thai PBS) เป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะแห่งแรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[1] ดำเนินการโดยองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ออกอากาศแทนสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551 ก่อนแพร่ภาพอย่างเป็นทางการในอีก 1 เดือนต่อมา และเป็นฟรีทีวีแห่งแรกของประเทศไทยที่ออกอากาศโทรทัศน์ความละเอียดสูง สัดส่วนภาพ 16:9 โดยนำร่องทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ก่อนเริ่มให้บริการทางโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลในอีก 3 ปีถัดมา ทางช่องหมายเลข 3
ประวัติ
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2550 มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อลงมติแปรสภาพ 1 ใน 2 กิจการสถานีโทรทัศน์ที่กรมประชาสัมพันธ์กำกับดูแล คือสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) และสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์สาธารณะตามข้อเสนอของทางภาครัฐ ผลปรากฏว่ามติเสียงข้างมาก 106 ต่อ 44 เสียง ให้แปรสภาพทีไอทีวีเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์สาธารณะ
ดังนั้น หลังจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 กรมประชาสัมพันธ์จึงมีคำสั่งให้ทีไอทีวียุติการออกอากาศในระบบยูเอชเอฟ ช่อง 29 เมื่อเวลา 00:01 น. ของวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551 และเมื่อเวลา 00.08 น. ได้เปลี่ยนมาออกอากาศนโยบายของสถานีวิทยุโทรทัศน์สาธารณะ จากนั้นเป็นสารคดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อย่างต่อเนื่อง ในนาม สถานีโทรทัศน์ทีพีบีเอส ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551 โดยทั้งหมดส่งสัญญาณจากอาคารที่ทำการของ สทท. ถนนกำแพงเพชร 7 (ปัจจุบันเป็นอาคารที่ทำการสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์) จนถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นเวลา 16 วัน
ทีพีบีเอส: 15 มกราคม - 31 มกราคม พ.ศ. 2551
ภายหลังการออกอากาศของสถานีไม่กี่ชั่วโมง คณะรัฐมนตรีเห็นชอบคณะกรรมการนโยบายชั่วคราวของ ส.ส.ท. จำนวน 5 คน ประกอบด้วย ขวัญสรวง อติโพธิ, อภิชาต ทองอยู่, ณรงค์ ใจหาญ, นวลน้อย ตรีรัตน์ และเทพชัย หย่อง โดยให้ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคณะกรรมการนโยบายจากการสรรหาตามกฎหมาย และในวันเดียวกัน คณะกรรมการนโยบายชั่วคราวของ ส.ส.ท. ได้แถลงข่าวที่โรงแรมเรดิสัน และแต่งตั้งขวัญสรวงเป็นประธานกรรมการ และมีเทพชัยรักษาการผู้อำนวยการสถานี และเปิดตัวโลโก้ของสถานีใหม่[2]
ในวันที่ 17 มกราคม เวลา 15:30 น. ส.ส.ท. จึงเริ่มดำเนินการในนาม สถานีโทรทัศน์ทีพีบีเอส อย่างเต็มตัว โดยได้ทดลองออกอากาศรายการพิเศษ "นับหนึ่งโทรทัศน์สาธารณะไทย TPBS" จากห้องส่ง สทท. เป็นครั้งแรก และนับเป็นรายการสดที่ออกอากาศจริงทางทีพีบีเอสเป็นครั้งแรก โดยเนื้อหาของรายการเป็นการอธิบายและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปของสถานีโทรทัศน์[3] ดำเนินรายการโดย ณาตยา แวววีรคุปต์ อดีตผู้สื่อข่าวในสมัยไอทีวีชุดกบฏไอทีวี และมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย ขวัญสรวง อติโพธิ, ณรงค์ ใจหาญ, อภิชาต ทองอยู่ กรรมการนโยบายชั่วคราวของ ส.ส.ท. และอนุสรณ์ ศรีแก้ว คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต หลังจากนั้น ทีพีบีเอสก็กลับมาออกอากาศสารคดีอย่างต่อเนื่อง
ไทย PBS: 1 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน พ.ศ. 2551
การทดลองออกอากาศในระยะแรก
1 กุมภาพันธ์ ได้เปลี่ยนชื่อจากทีพีบีเอสเป็น สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส แต่ยังคงใช้ตราสัญลักษณ์เดิม เพียงเปลี่ยนชื่อด้านล่าง พร้อมทั้งประกาศผังรายการใหม่ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ เพื่อทดลองออกอากาศในระยะแรก ระหว่างวันที่ 1 - 14 กุมภาพันธ์ และกลับไปส่งสัญญาณที่ช่องความถี่โทรทัศน์เดิม (ยูเอชเอฟช่อง 29 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) อีกครั้ง จากสำนักงานเดิมของไอทีวีและทีไอทีวี คืออาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดีรังสิต
ในระยะนี้มีรายการสำคัญ คือ ร่วมคิด ร่วมสร้าง ไทยพีบีเอส ในเวลา 20.00 น. ซึ่งเป็นรายการสด จัดโดยฝ่ายข่าวและฝ่ายรายการ เพื่อรับฟังความคิดเห็นถึงทัศนคติว่าด้วยทีวีสาธารณะ และความเหมาะสมในการออกอากาศรายการประเภทต่าง ๆ ในแต่ละช่วงจากตัวแทนภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม[4] แม้ยังไม่ออกอากาศรายการข่าว แต่ได้ทดลองนำเสนอข่าวโดยส่งผู้สื่อข่าวไปสัมภาษณ์ ณ ทำเนียบรัฐบาล
การออกอากาศอย่างเป็นทางการ
15 กุมภาพันธ์ เริ่มเปิดสถานีในเวลา 05.00 น. และอีก 1 ชั่วโมงต่อมาเริ่มออกอากาศรายการข่าวรายการแรกคือ ข่าวเช้า โดยมีผู้ประกาศข่าวคู่แรกของช่อง คือภัทร จึงกานต์กุล และปิยณี เทียมอัมพร และช่วงเวลาที่เหลือเป็นการฉายสารคดีที่ฉายในช่วงทดลองออกอากาศอยู่เดิม[5]
ส่วนฝ่ายข่าว ส.ส.ท. เห็นชอบให้อดีตพนักงานฝ่ายข่าวของทีไอทีวีเดิม จำนวน 274 คน จากทั้งหมด 399 คนให้กลับเข้ามาทำงานที่สถานีอีกครั้งชั่วคราวเป็นเวลา 3 เดือน[6] รวมถึงทีมข่าวกีฬาชุดเดิมของทีไอทีวีด้วย และยังมีผู้สมัครจากภายนอกมาทำงานไปพลางก่อนในระยะเริ่มแรก ระหว่างนั้นสถานีได้ปรับผังรายการเป็นระยะ ๆ
ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ: 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 - 14 มกราคม พ.ศ. 2552
1 เมษายน ส.ส.ท. ได้จัดงานเปิดตัวอัตลักษณ์ใหม่ของสถานีฯ ตามที่ได้จัดประกวดไป[7] พร้อมเปลี่ยนชื่อสถานีอีกครั้งเป็น ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ส่วนชื่อไทยพีบีเอสใช้เป็นชื่อของ ส.ส.ท. เท่านั้น (ถึงแม้ยังจะมีชื่อ Thai PBS อยู่ในอัตลักษณ์ก็ตาม)[8] ต่อมาในวันที่ 1 พฤษภาคม ได้ปรับผังรายการให้มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงความบันเทิงเชิงสาระมากขึ้น[9] โดยตราสัญลักษณ์รูปแบบใหม่มีข้อความ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ต่อท้าย ขณะที่ปรากฏขึ้นในกราฟิกขึ้นต้นรายการ และกราฟิกของทุกช่วงข่าวด้านล่าง
ทีวีไทย: 15 มกราคม พ.ศ. 2552 - 8 เมษายน พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552 ในโอกาสครบรอบ 1 ปี จึงปรับผังรายการรวมถึงเปลี่ยนฉากและรูปแบบของอัตลักษณ์อีกครั้ง เป็นลายเส้นภาพนกเช่นเดิม แต่เปลี่ยนเป็นสีส้มอมแดง ลอยตัวอยู่เหนือตัวอักษร ทีวีไทย โดยระบุชื่อสถานีฯ ว่า สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย พร้อมทั้งปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
Thai PBS
เริ่มต้น : 9 เมษายน - 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554 ได้เปลี่ยนชื่อสถานีโทรทัศน์กลับไปเป็น ไทยพีบีเอส เหมือนกับในช่วงที่เริ่มออกอากาศ 3 เดือนแรก แต่เปลี่ยนจากคำว่า ไทย เป็น Thai และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Thai PBS และได้เตรียมการขั้นสุดท้ายก่อนย้ายที่ทำการไปยังที่ทำการถาวร โดยก่อนหน้านั้น ส.ส.ท. ได้เปลี่ยนการเรียกชื่อสถานีในรายการข่าวทุกช่วง โดยให้เรียกว่า "ไทยพีบีเอส" ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554 เริ่มตั้งแต่ช่วงทันข่าว 10.00 น. เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังได้เปลี่ยนชื่อสถานีก่อนล่วงหน้าในไตเติ้ลรายการรวมถึงในเว็บไซต์ของสถานีด้วย[10] โดยรายการสุดท้ายที่ออกอากาศ ณ ที่ทำการชั่วคราว คือ ข่าวดึก และสิ้นสุดการออกอากาศในวันที่ 21 พฤษภาคม เวลา 00.30 น.
โทรทัศน์ความละเอียดสูง : 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 - ปัจจุบัน
ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ส.ส.ท. ได้ย้ายที่ทำการไปยังที่ทำการถาวร ข้างสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต และเริ่มออกอากาศโทรทัศน์ความละเอียดสูง (HD) สัดส่วน 16:9 เป็นฟรีทีวีแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 00.30 น. ของวันดังกล่าวเป็นต้นไป ในส่วนของโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ขณะที่ในโทรทัศน์ระบบแอนะล็อกยังคงออกอากาศด้วยโทรทัศน์ความละเอียดมาตรฐาน (SD) สัดส่วน 4:3 ตามเดิม[11]
ในช่วงอุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554 ไทยพีบีเอสทำข่าวประจำวันได้ยากลำบากมาก จึงตั้งศูนย์ข่าวเฉพาะกิจ ไทยพีบีเอส-จุฬา นิวส์ เซ็นเตอร์ ที่ศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านสื่อดิจิทัล อาคารมงกุฎสมมติวงศ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้สามารถรายงานข่าวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมระบบการออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน และมีฝ่ายข่าวบางส่วนมาทำงานที่ศูนย์ข่าวเฉพาะกิจเพื่อผลิตข่าว[12] หลังออกอากาศได้ประมาณ 20 วัน สถานการณ์น้ำท่วมโดยเฉพาะหน้าสำนักงานใหญ่ดีขึ้น ไทยพีบีเอสจึงกลับมาออกอากาศที่สำนักงานใหญ่ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน[13]
ในวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมายังที่ทำการ ส.ส.ท. ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายชื่ออาคารสำนักงานใหญ่ ในโอกาสนี้ทอดพระเนตรห้องออกอากาศ ส่วนปฏิบัติงานต่าง ๆ รวมทั้งห้องออกอากาศ 1 ที่ใช้สำหรับออกอากาศข่าว จากนั้นทรงทดลองอ่านข่าวซึ่งทางกองบรรณาธิการได้ถวายบทข่าวและถวายคำแนะนำในการอ่านข่าว และวิธีการใช้อุปกรณ์สำหรับผู้ประกาศข่าว จากนั้นทอดพระเนตรห้องออาอากาศรายการต่าง ๆ และห้องควบคุมระบบการออกอากาศ 24 ชั่วโมง[14]
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557 ไทยพีบีเอสได้ปรับเปลี่ยนสัดส่วนภาพออกอากาศในระบบ SD จาก 4:3 (แบบ Center Crop ภาพจากระบบโทรทัศน์ความละเอียดสูง) เป็น 16:9 (Anamophic) เพื่อรองรับการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ซึ่งได้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ทางช่องหมายเลข 3
วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2561 ไทยพีบีเอสดำเนินกิจการครบรอบ 10 ปี รศ.ดร. วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ได้ประกาศนโยบาย 10 ข้อ เรียกว่า "10 ทิศทางกับก้าวใหม่ไทยพีบีเอส" เพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในโลกยุคดิจิทัล มุ่งหวังให้คนไทยเข้าถึงเนื้อหาของสื่อสาธารณะให้มากที่สุด[15]
การออกอากาศ
เป็นการจัดตั้งสถานีเครื่องส่งสัญญาณโทรทัศน์ในจังหวัดหรืออำเภอต่าง ๆ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยใช้คลื่นความถี่ยูเอชเอฟ ช่อง 29 (จากสถานีที่กรุงเทพมหานครซึ่งส่งจากอาคารใบหยก 2) ซึ่งเป็นช่องเดิมของไอทีวีและทีไอทีวี และใช้มาตรฐานการแพร่ภาพระบบแพล
ระบบเสียงที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสส่งออกอากาศประกอบด้วยระบบเสียงโมโน และดิจิทัลนิแคมสเตริโอ
ไทยพีบีเอสมีสถานีส่งสัญญาณภาคพื้นดินเป็นจำนวน 52 สถานี แบ่งเป็นในกรุงเทพมหานคร 2 สถานี ภาคเหนือ 14 สถานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 สถานี ภาคกลางและตะวันออก 11 สถานี และภาคใต้ 12 สถานี โดยส่งสัญญาณในระบบยูเอชเอฟ[16]
ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 ไทยพีบีเอสได้เริ่มทดลองออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล มาตรฐาน DVB-T2 ร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ซึ่งสามารถรับชมได้ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ผ่านกล่องรับสัญญาณหรือโทรทัศน์ที่รองรับระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน[17]
1 เมษายน พ.ศ. 2557 ไทยพีบีเอสได้เริ่มการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล มาตรฐาน DVB-T2 โดยใช้โครงข่ายของตัวเองที่ MUX 4 (กรุงเทพมหานคร ออกอากาศระบบยูเอชเอฟ ช่อง 44) ทางช่องหมายเลข 3 ผ่านทางกล่องรับสัญญาณหรือโทรทัศน์ที่รองรับระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน
การยุติการออกอากาศโทรทัศน์ระบบแอนะล็อก
ไทยพีบีเอสได้ทำการยุติการออกอากาศโทรทัศน์ระบบแอนะล็อก โดยมีแผน 10 ระยะ ตามที่ได้ส่งไปยัง กสทช. โดยดำเนินการแบบ "ป่าล้อมเมือง" จากสถานีระดับอำเภอไปหาสถานีระดับจังหวัด จากสถานีเสริมไปยังสถานีหลัก โดยเริ่มยุติการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบแอนะล็อกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 จากสถานีส่ง 2 แห่ง คืออำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ และทยอยยกเลิกการออกอากาศระบบแอนะล็อกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งยุติการออกอากาศใน 3 สถานีสุดท้าย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (ณ อาคารใบหยก 2) จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 00:01 น.[18]
โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม
ในการแพร่สัญญาณภาพดิจิทัลผ่านดาวเทียม ไทยพีบีเอสแพร่ภาพผ่านดาวเทียมไทยคม 5 ย่านความถี่ซีแบนด์ โดยครอบคลุมประเทศไทยทั้งประเทศ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก
ในอดีต ไทยพีบีเอสเริ่มแพร่ภาพออกอากาศมาตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551 ทางดาวเทียมไทยคม 2 ความถี่ 4145 อัตราสัญลักษณ์ 4815 แนวนอน แต่เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ไทยพีบีเอสได้ย้ายส่งสัญญาณจากดาวเทียมไทยคม 2 มาเป็นไทยคม 5 จึงปรับความถี่ใหม่เป็นที่ 3985 อัตราสัญลักษณ์ 4815 แนวตั้ง และปัจจุบัน ได้ย้ายความถี่ซีแบนด์เป็นความถี่ 4017 อัตราสัญลักษณ์ 1800 แนวตั้ง โดยความถี่เดิมได้ยกเลิกไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ไทยพีบีเอสส่งสัญญาณโทรทัศน์ความละเอียดสูง ในระบบ DVB-S2 MPEG4 AVC ผ่านดาวเทียมไทยคม 5 ย่านซีแบนด์ ที่ความถี่ 4012 อัตราสัญลักษณ์ 6400 แนวตั้ง ซึ่งสถานีออกอากาศระบบความคมชัดปกติควบคู่กันไปในความถี่เดิม[19]
ตั้งแต่เวลา 02.30 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558 - 28 เมษายน พ.ศ. 2559 ไทยพีบีเอสปรับเปลี่ยนความถี่ดาวเทียมและพารามิเตอร์ใหม่ในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ความละเอียดสูง ที่ความถี่ 3991 เมกะเฮิรตซ์ อัตราสัญลักษณ์ 15 เมกะสัญลักษณ์ต่อวินาที FEC 4/5 กระจายสัญญาณแนวตั้ง[20]
แต่หลังจากนั้นไม่นาน สัญญาณคลื่นความถี่เดิมมีปัญหารบกวน จึงทำให้ทางไทยพีบีเอสปรับเปลี่ยนความถี่ดาวเทียมและพารามิเตอร์ใหม่ในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ความละเอียดสูง ที่ความถี่ 4007 เมกะเฮิรตซ์ อัตราสัญลักษณ์ 15 เมกะสัญลักษณ์ต่อวินาที FEC 4/5 กระจายสัญญาณแนวตั้ง ตั้งแต่เวลา 02.30 น. ของวันที่ 28 เมษายน - 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
ไทยพีบีเอสได้ย้ายส่งสัญญาณจากดาวเทียมไทยคม 5 มาเป็นไทยคม 6 ปรับเปลี่ยนความถี่ดาวเทียมและพารามิเตอร์เดิมในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ความละเอียดสูงอีกครั้ง ที่ความถี่ 4007 เมกะเฮิรตซ์ อัตราสัญลักษณ์ 15 เมกะสัญลักษณ์ต่อวินาที FEC 4/5 กระจายสัญญาณแนวนอน ตั้งแต่เวลา 02.30 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 - ปัจจุบัน
ออนไลน์
ไทยพีบีเอสเคยทำการถ่ายทอดสดออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ในชื่อ ThaiPBS Web TV ผ่านทางเว็บไซต์ของไทยพีบีเอสเอง และ Youtube ThaiPBS
ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 ไทยพีบีเอสขยายการออกอากาศไปยังเฟซบุ๊กในหน้าเพจของไทยพีบีเอสเอง โดยออกอากาศรายการข่าวประจำวันและรายการต่าง ๆ คู่ขนานไปกับช่องทางปกติของไทยพีบีเอส
บุคลากร
ผู้อำนวยการสถานีฯ
รายนามผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส มีดังต่อไปนี้
ผู้ประกาศข่าวและผู้สื่อข่าว
ผู้ประกาศข่าวและผู้สื่อข่าวในปัจจุบันที่มีชื่อเสียง
- จีรชาตา เอี่ยมรัศมี (จี)
- พรวดี ลาทนาดี (หญิง)
- ผึ้งนภา คล่องพยาบาล (ผึ้ง)
- พิมพิมล ปัญญานะ (พิม)
- ชินดนัย มีชัย (ชิน)
- ธีรเดช งามเหลือ (เดียว)
- เทพชัย หย่อง
- พงศธัช สุขพงษ์ (เก้า)
- เจษฎา จี้สละ (เฟิร์ส)
- สิริมา ทรงกลิ่น (เจ้น)
- ปวีณา ฟักทอง (ฟลุ๊ค)
- อนุชา ขำดวง (โอ)
- บุศย์สิรินทร์ ยิ่งเกียรติกุล (นุ่น)
- วันวิสาข์ ทินวัฒน์ (วัน)
- ภัทรชัย ปราชญ์อุดม (พีท)
- ธิดารัตน์ อนันตรกิตติ (แป้ง)
- กริษฐา ดีมี (เค้ก)
- อรสินี อมรโมฬี (เบนซ์)
- เฌอศานต์ ศรีสัจจัง (ป้าง)
- นิติเทพ กิ่งชา (กอล์ฟ)
อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้สื่อข่าว
รายการข่าวของสถานี ฯ
รายการข่าว
|
ผู้ประกาศข่าว
|
วันใหม่ไทยพีบีเอส วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 05:00 - 07:00 น.
|
เฌอศานต์ ศรีสัจจัง สิริมา ทรงกลิ่น ภัทรชัย ปราชญ์อุดม
|
มุมการเมือง วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 07:00 - 08:00 น.
|
อุรชัย ศรแก้ว ปวีณา ฟักทอง อนุชา ขำดวง ประจักษ์ มะวงษ์สา
|
วันใหม่วาไรตี้ วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08:00 - 10:00 น.
|
อธิวัฒน์ ธีรนิธิศนันท์ ชไมพร เห็นประเสริฐ พิชญาพร โพธิ์สง่า
|
ไทยบันเทิง วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 10:00 - 10:30 น. และ 16:45 - 17:00 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 20:15 - 20:30 น.
|
เวณิกา วิชัยวัฒนา กริษฐา ดีมี อภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ อัญชลี โปสุวรรณ กวินภพ พันธุฤกษ์
|
จับตาสถานการณ์ วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 10:30 - 12:00 น.
|
จีรชาตา เอี่ยมรัศมี พรวดี ลาทนาดี
|
ตรงประเด็น วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 12:00 - 12:30 น.
|
บุศย์สิรินทร์ ยิ่งเกียรติกุล
|
จับตารอบทิศ วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 12:30 - 13:00 น.
|
เฌอศานต์ ศรีสัจจัง อรสินี อมรโมฬี
|
สถานีประชาชน วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 14:00 - 15:00 น.
|
ธีรเดช งามเหลือ ธิดารัตน์ อนันตรกิตติ
|
ทุกทิศทั่วไทย วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 15:30 - 16:00 น.
|
ชินดนัย มีชัย
|
ทันข่าว 16:00 น. วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 16:00 - 16:30 น.
|
ผึ้งนภา คล่องพยาบาล
|
Policy Watch จับตาอนาคตประเทศไทย วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 17:30 - 18:00 น.
|
วิภาพร วัฒนวิทย์ อุรชัย ศรแก้ว บุศย์สิรินทร์ ยิ่งเกียรติกุล
|
ข่าวค่ำมิติใหม่ วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 18:50 - 20:30 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 18:00 - 20:15 น.
|
เจษฎา จี้สละ วันวิสาข์ ทินวัฒน์ พิมพิมล ปัญญานะ สิริมา ทรงกลิ่น
|
ข่าวในพระราชสำนัก วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 20:00 - 20:15 น.
|
อรนิศวร์ เพชรวงศ์ศิริ ชินดนัย มีชัย วรรณชนก สังขเวช
|
ตอบโจทย์ วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 20:30 - 21:00 น.
|
อภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์
|
ทันโลก กับ Thai PBS วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 21:00 - 21:30 น.
|
พงศธัช สุขพงษ์
|
คุยนอกกรอบ กับ สุทธิชัย หยุ่น วันพฤหัสบดี เวลา 21:30 - 22:00 น.
|
สุทธิชัย หยุ่น
|
คุยให้คิด วันศุกร์ เวลา 21:30 - 22:30 น.
|
สุทธิชัย หยุ่น วิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ วีระ ธีรภัทร
|
This Week with Thai PBS World วันศุกร์ เวลา 22:30 - 23:00 น.
|
ดลยณา บุนนาค
|
ข่าวดึก วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 23:00 - 23:30 น.
|
อรสินี อมรโมฬี พิมพิมล ปัญญานะ
|
ชั่วโมงข่าว เสาร์ - อาทิตย์ วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 08:30 - 10:00 น.
|
อนุชา ขำดวง ปวีณา ฟักทอง
|
สีสันทันโลก วันเสาร์ เวลา 11:30 - 12:00 น.
|
วินิจฐา จิตร์กรี ทิพย์ตะวัน ธีรนัยพงศ์
|
ข่าวเที่ยง วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 12:00 - 13:00 น.
|
ปวีณา ฟักทอง ภัทรชัย ปราชญ์อุดม อนุชา ขำดวง อรสินี อมรโมฬี
|
สุดสัปดาห์ กีฬามันส์ วันอาทิตย์ เวลา 13:30 - 14:00 น.
|
อินทัช เพชรประสมกูล วิริยะ ตันนุกูลกิจ
|
ข่าวเจาะย่อโลก วันเสาร์ เวลา 19.20 - 19.50 น. ในข่าวค่ำมิติใหม่
|
เจษฎา จี้สละ
|
ห้องข่าว ไทยพีบีเอส Newsroom วันอาทิตย์ เวลา 19.20 - 19.50 น. ในข่าวค่ำมิติใหม่
|
ก่อเขต จันทเลิศลักษณ์
|
ทันข่าว วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 14:00 น. และ 15:00 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 06:00 น., 14:00 น., 16:00 น. และ 17:00 น.
|
ทีมข่าวไทยพีบีเอส
|
ผลการดำเนินงานของสถานีฯ
สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสได้รับรางวัลดังนี้[27]
- รางวัลสถานีส่งเสริมรายการเด็ก เยาวชน สตรี และครอบครัวดีเด่น จากงานประกาศผลครั้งที่ 25 - 30[28][29][30][31][32][33]
- รางวัลสถานีส่งเสริมรายการความรู้ และศิลปวัฒนธรรมดีเด่น จากงานประกาศผลครั้งที่ 25[28]
รางวัลเมขลามหานิยมแห่งปี
- สถานีโทรทัศน์มหานิยม ด้านอนุรักษ์วิถีไทยและส่งเสริมการแสดงออกทางความคิดของประชาชนดีเด่น[34]
- พิธีกรข่าวหญิงดีเด่นเมขลามหานิยมแห่งปี ได้แก่ ณัฏฐา โกมลวาทิน จากรายการ ที่นี่ไทยพีบีเอส
รางวัลมณีเมขลาดีเด่น
- ละครวัฒนธรรมและจริยธรรมมณีเมขลาดีเด่นยอดนิยม ได้แก่ ความรัก ความศรัทธา ปาฏิหาริย์
- พิธีกรข่าวเศรษฐกิจมณีเมขลาดีเด่นยอดนิยม ได้แก่ ดร.รุ่งทิพย์ โชติณภาลัย จากรายการชั่วโมงทำกิน
- รายการสารคดีมณีเมขลาดีเด่นยอดนิยม ได้แก่รายการ Spirit Of Asia
- รายการทอล์กโชว์มณีเมขลาดีเด่นยอดนิยม ได้แก่รายการ วิพากษ์วีรชนที่ถูกลืม
- รายการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมมณีเมขลาดีเด่นยอดนิยม ได้แก่ รายการ พันแสงรุ้ง
รางวัลพิเศษ เกียรติยศคนโทรทัศน์
- รางวัลมณีเมขลาเกียรติยศ บุคคลพิเศษผู้มีผลงานบันเทิงโดดเด่น ได้แก่ โสภณ ฉิมจินดา จากรายการ ล้อ เล่น โลก
ครั้งที่ 25
สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสได้รับ 8 รางวัล ดังต่อไปนี้
รางวัลเมขลามหานิยมแห่งปี
- สถานีโทรทัศน์เมขลามหานิยมแห่งปี ด้านส่งเสริมคุณค่าชีวิตและเปิดโลกทัศน์ประชาชน
- ละครโหมโรงได้รับรางวัลถึง 3 รางวัล ดังนี้
- ละครเมขลามหานิยมแห่งปี
- ผู้กำกับเมขลามหานิยมแห่งปี (วินัย ปฐมบูรณ์)
- องค์ประกอบศิลป์เมขลามหานิยมแห่งปี
รางวัลมณีเมขลาดีเด่น
- รางวัลละครดีเด่นยอดนิยม จากละคร 2 เรื่อง ได้แก่
- รางวัลรายการแอนิเมชั่นดีเด่นยอดนิยม จากรายการ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย โดยมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
- รางวัลดารานำหญิงดีเด่นยอดนิยม ได้แก่ สายป่าน - อภิญญา สกุลเจริญสุข จากละคร อำแดงเหมือนกับนายริด
Thailand Zocial Awards 2023
- รางวัล Best Brand Performance by LINE สาขา Best Video Performance on LINE VOOM แบรนด์ที่ทำผลงานวิดีโอยอดเยี่ยมบน LINE VOOM[35]
โครงการอนาคต
- สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสแต่ละภูมิภาค - คล้ายกับ สทท.ส่วนภูมิภาค โดยให้แต่ละศูนย์เป็นผู้ผลิตรายการที่เหมาะกับแต่ละท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบันได้เกิดขึ้นแล้ว 3 ภูมิภาค และยังได้ร่วมมือกับเครือข่ายพลเมืองและผู้ผลิตสื่อจาก 3 ภูมิภาค จัดรายการ "ภูมิภาค 3.0" ออกอากาศทุกสัปดาห์[36] มีช่วงย่อยของรายการในแต่ละภูมิภาค ได้แก่
- อยู่ดีมีแฮง (ชื่อเดิม: ทีวีจออีสาน) - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- องศาเหนือ (ชื่อเดิม: ทีวีจอเหนือ) - ภาคเหนือ
- แลต๊ะแลใต้ (ชื่อเดิม: ดีสลาตัน ณ แดนใต้) - ภาคใต้ [37]
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
บริการสาธารณะ | |
---|
บริการธุรกิจระดับชาติ | |
---|
ทดลองออกอากาศชั่วคราว | |
---|
องค์กรที่เกี่ยวข้อง | |
---|
ข้อมูลเพิ่มเติม | |
---|
หมายเหตุ : ตัวเลขในวงเล็บที่ไม่มีดอกจัน เช่น (1) คือ หมายเลขช่องภาคพื้นดินของโทรทัศน์ดิจิทัลในประเทศไทย
ส่วนตัวเลขในวงเล็บที่มีดอกจันนำหน้า เช่น ( *1) คือ หมายเลขช่องภาคพื้นดินของโทรทัศน์ดิจิทัลในประเทศไทยที่มี ความละเอียดสูง |
|
---|
สถานีโทรทัศน์ในอดีต | |
---|
องค์กรที่เกี่ยวข้อง | |
---|
ข้อมูลเพิ่มเติม | |
---|
|
---|
|
องค์กร | |
---|
ภาคพื้นดิน | |
---|
ผู้ให้บริการโทรทัศน์ บอกรับเป็นสมาชิก | |
---|
ช่องโทรทัศน์ ในระบบเคเบิล และผ่านดาวเทียม | ข่าวและการเมือง | |
---|
ปกิณกะ | |
---|
กีฬา | |
---|
บันเทิง | |
---|
การศึกษา | |
---|
รายการสำหรับเด็ก | |
---|
ภาษาต่างประเทศ | |
---|
ภาพยนตร์ | |
---|
สารคดี | |
---|
ศาสนา | |
---|
ในอดีต | |
---|
|
---|
ช่องโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต | ข่าวและการเมือง | |
---|
บันเทิง | |
---|
กีฬา | |
---|
รายการสำหรับเด็ก | |
---|
ในอดีต | |
---|
|
---|
|
---|
ประธานคณะกรรมการนโยบาย | |
---|
คณะกรรมการนโยบาย | |
---|
ผู้อำนวยการ | |
---|
รองผู้อำนวยการ | |
---|
ประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ | |
---|
หน่วยงาน | |
---|
อดีตผู้อำนวยการ | |
---|
อดีตรองผู้อำนวยการ | |
---|
ดูเพิ่มเติม | |
---|