ศาสตราจารย์พิเศษ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ (27 กรกฎาคม พ.ศ. 2452 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2536) เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ และหม่อมจำรัส จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ทรงสำเร็จการศึกษาทางด้านเกษตรศาสตร์ และเริ่มเข้ารับราชการที่กระทรวงเกษตร และเป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถพิเศษทางด้านการประพันธ์คำร้องและทำนองเพลงอีกด้วย
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ หรือ ท่านชายจักร มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ประสูติเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2452 เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ กับหม่อมจำรัส จักรพันธุ์ ณ อยุธยา
ทรงสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 3 จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2465 จากนั้นได้ทรงเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกรุ่นเดียวกับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ แต่ทรงประสบอุบัติเหตุต้องพักการเรียนไป 1 ปี หลังจากนั้นได้กลับเข้าเรียนร่วมรุ่นกับจอมพลถนอม กิตติขจร เรียนจนจบชั้น 5 (ปฐม) จากนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนส่วนพระองค์ให้ไปศึกษาต่อที่สหรัฐและประเทศฟิลิปปินส์ ทรงสำเร็จการศึกษาทางด้านการเกษตรเมื่อปี พ.ศ. 2479
หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ เสกสมรสและหย่ากับวิภา เก่งระดมยิง (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น เพียงกาญจน์ วีรเธียร) บุตรสาวของพลโท หลวงกาจสงคราม (เทียน เก่งระดมยิง) เมื่อพ.ศ. 2484 มีธิดาคือ
หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ สมรสกับหม่อมประพาล จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ท.จ.ว.(สกุลเดิม รจนานนท์) ธิดาพระยาอภิรักษ์ราชฤทธิ์ (พ้อง) มีธิดาคนเดียว คือ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ประชวรด้วยพระโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจและถุงลมโป่งพองมาเป็นเวลานานจนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2536 สิริพระชันษาได้ 84 ปี
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2536 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานน้ำสรงศพ ณ ศาลาบัณณรศภาค วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระอิสริยยศและเฉลิมพระนาม หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ขึ้นเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2537[1] เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงความจงรักภักดี ตลอดจนความชอบและความดีที่ท่านจักรได้ทรงบำเพ็ญมาตลอดพระชนม์ชีพ
มีพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2537 ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร
นอกจากทรงเป็นนักบริหารทางการเกษตรที่ประสบความสำเร็จแล้ว ยังทรงมีความสามารถพิเศษทางด้านการประพันธ์คำร้องและทำนองเพลง
ผลงานที่สำคัญที่สุดคือ การถวายงานด้านการประพันธ์เนื้อร้องประกอบทำนองเพลงพระราชนิพนธ์อันดับแรก แสงเทียน ใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ครั้งยังทรงดำรงพระยศเป็น “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช” ซึ่งท่านจักรได้ทรงเริ่มประพันธ์คำร้องถวายตั้งแต่ครั้งนั้น และยังได้ทรงประพันธ์คำร้องถวายอีก 28 เพลง เช่น ยามเย็น, สายฝน, เทวาพาคู่ฝัน, แก้วตาขวัญใจ, ลมหนาว, แสงเดือน, พรปีใหม่ ฯลฯ
นอกจากนั้นยังได้ทรงประพันธ์คำร้องและทำนองให้แก่วงดนตรีสุนทราภรณ์ไว้อีกเกือบ 100 เพลง ซึ่งล้วนได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เช่น ชะตาฟ้า, เกาะสวรรค์, กล่อมสาวงาม, จากรัก, รำวงชาวทะเล, ฝากรัก, เธอนะเธอ, เสี่ยงรัก, ร่มเกล้า, รำวงเกษตร, มาร์ชเกษตรศาสตร์, จุฬาบันเทิง, จุฬาแซมบ้า ฯลฯ
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทรงริเริ่มก่อตั้งวงดนตรี KU Band ประจำมหาวิทยาลัยวงแรกของประเทศไทยด้วย
เพลงเด่นอื่น ๆ เช่น นันทาเทวี ในอุปรากร "นันทาเทวี" ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล คณะอัศวินการละคร และ ร่มเกล้า ในภาพยนตร์ "เงิน เงิน เงิน" ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ ละโว้ภาพยนตร์ เป็นต้น
ภายหลังสิ้นพระชนม์