มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (อังกฤษ : Kasetsart University ; อักษรย่อ : มก. – KU) เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดสอนหลักสูตรทางด้านการเกษตร [ 5] ก่อตั้งขึ้นเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ แรกเริ่มเป็น โรงเรียนช่างไหม ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2447[ 6] [ 7] ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนการเพาะปลูก หลังจากนั้นรวมเข้ากับโรงเรียนแผนที่ และโรงเรียนกรมคลอง เป็น โรงเรียนเกษตราธิการ และถูกยุบรวมเข้ากับโรงเรียนข้าราชการพลเรีอนฯ ใน พ.ศ. 2456 ต่อมาได้รับการก่อตั้งอีกครั้งใน พ.ศ. 2460 ในนาม โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรม และได้รับการยกฐานะเป็น วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถัดจากนั้นมา รัฐบาลได้ปรับปรุงและรวมกิจการของวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่เกษตรกลาง บางเขน กับโรงเรียนวนศาสตร์ จังหวัดแพร่ และสถาปนาเป็น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใน พ.ศ. 2486 ระยะแรก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เปิดสอนเฉพาะด้านการเกษตรเท่านั้น แต่ต่อมาได้ขยายสาขาวิชาครอบคลุมทั้งเกษตรศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ วิศวกรรมศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ บริหารธุรกิจ และงานบริการ ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2558[ 8] ซึ่งมีสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
การประเมินของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) โดยจัดการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษา ผลปรากฏว่าในการประเมินครั้งที่ 3 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการประเมินในระดับดีมากในสาขาวิชาการจัดการศัตรูพืช (Pest Management) จากภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร[ 9] อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ จากกระทรวงศึกษาธิการ ใน พ.ศ. 2552 อีกด้วย[ 10]
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มี 3 วิทยาเขตได้แก่ วิทยาเขตกำแพงแสน วิทยาเขตศรีราชา และวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร [ 11] ทั้งยังมีสำนักงานเขตบริหารการเรียนรู้พื้นที่สุพรรณบุรี (โครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี) อีกหนึ่งแห่งด้วย[ 12] เปิดการสอน 29 คณะ 3 วิทยาลัย 3 โครงการจัดตั้งคณะ และสถาบันสมทบ 1 แห่ง มีหลักสูตร 583 หลักสูตร เป็นหลักสูตรนานาชาติ 42 หลักสูตร[ 13] นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งสถาบันวิจัยขึ้นตามจังหวัดต่าง ๆ หลายแห่งเพื่อดำเนินการวิจัยในศาสตร์ต่าง ๆ
ประวัติ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม
โรงเรียนเกษตราธิการ วังวินด์เซอร์
อนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์
ใน พ.ศ. 2447 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชวินิจฉัยให้อุดหนุนการทำไหมและทอผ้าของประเทศ[ 14] ทรงได้ว่าจ้าง ดร.คาเมทาโร่ โทยาม่า (Dr. Kametaro Toyoma) จากมหาวิทยาลัยโตเกียว [ 15] [ 16] ทดลองเลี้ยงไหม ตามแบบฉบับของญี่ปุ่น รวมทั้งสอนและฝึกอบรมนักเรียนไทยในวิชาการเลี้ยงและการทำไหม โดยมีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมช่างไหม กระทรวงเกษตราธิการในขณะนั้น ทรงจัดตั้ง "โรงเรียนช่างไหม "[ 17] ขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2447[ 18] ณ ท้องที่ตำบลทุ่งศาลาแดง กรุงเทพมหานคร ซึ่งนับว่าเป็นสถาบันการศึกษาอันเกี่ยวกับการเกษตรแห่งแรก จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อจากโรงเรียนช่างไหมเป็น "โรงเรียนวิชาการเพาะปลูก " ใน พ.ศ. 2449 เนื่องจากมีวิชาการเพาะปลูกพืชอื่น ๆ เข้ามาประกอบ
ต่อมา โรงเรียนเกษตราธิการ ได้ถือกำเนิดขึ้น ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2451 ณ วังประทุมวัน [ 19] โดยที่กระทรวงเกษตราธิการได้ทำการรวบรวมโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของกระทรวง 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนแผนที่ (จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2425) โรงเรียนกรมคลอง (จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2448) และโรงเรียนวิชาการเพาะปลูก เป็นโรงเรียนเดียวกันเพื่อผลิตคนเข้ารับราชการในกรมกองต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตราธิการ ถือได้ว่าเป็นหลักสูตรระดับอุดมศึกษาวิชาเกษตรศาสตร์ หลักสูตรแรกของประเทศไทย โดยได้เริ่มดำเนินการสอนหลักสูตรใหม่นี้ใน พ.ศ. 2452
ด้วยเหตุที่วัตถุประสงค์ของโรงเรียนกระทรวงเกษตราธิการตรงกับพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในเรื่องของการจัดตั้งโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว[ 20] ซึ่งได้ทรงจัดตั้งขึ้นในกระทรวงธรรมการ โรงเรียนกระทรวงเกษตราธิการจากเดิมที่สังกัดกระทรวงเกษตราธิการ จึงย้ายมาสังกัดกระทรวงธรรมการ ใน พ.ศ. 2456 โดยใช้วังวินด์เซอร์ เป็นสถานที่ทำการเรียนการสอนของโรงเรียนกระทรวงเกษตราธิการที่ยุบเข้ารวมกับโรงเรียนข้าราชการพลเรือนฯ [ 21]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงส่งนักเรียนไทยไปเรียนต่างประเทศจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีพระยาเทพศาสตร์สถิตย์และเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี เสนาบดีกระทรวงธรรมการ โดยทั้ง 2 ท่านได้เริ่มก่อตั้งโรงเรียนด้านการเกษตรโดยสังกัดกระทรวงเกษตราธิการขึ้นมาอีกครั้ง ในนาม "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม " ตั้งอยู่ที่ตำบลหอวัง ใน พ.ศ. 2460 ภายหลังจึงได้มีการย้ายการเรียนการสอนไปที่ตำบลพระประโทน อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ใน พ.ศ. 2461[ 22] ต่อมาใน พ.ศ. 2474 หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร อธิบดีกรมตรวจกสิกรรมในกระทรวงเกษตราธิการและเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ได้ร่วมกันขยายการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมไปสู่ระดับภูมิภาคมากขึ้น เพื่อให้งานวิจัยการเกษตรดำเนินควบคู่ไปกับการให้การศึกษาในสาขาเกษตรศาสตร์ โดยภาคกลาง อยู่ที่ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ภาคอีสาน ตั้งอยู่ที่ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ภาคเหนือ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และภาคใต้ ตั้งอยู่ที่ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อย่างไรก็ตาม โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมในภูมิภาคต่าง ๆ ได้ปิดตัวลงตามข้อบังคับของการปรับเปลี่ยนระบบราชการใน พ.ศ. 2478 จึงได้มีการยุบรวมโรงเรียนในส่วนภูมิภาคทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ พระช่วงเกษตรศิลปการ และหลวงอิงคศรีกสิการ สามบูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ [ 23] [ 24] จึงเสนอให้รักษาโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม ไว้ที่แม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพียงแห่งเดียว และเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น "โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรม " ต่อมาจึงได้มีการยกฐานะของโรงเรียนก่อตั้งเป็น "วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ " มีฐานะเป็นกองวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในกรมเกษตรและประมง และมีพระช่วงเกษตรศิลปการเป็นผู้อำนวยการคนแรก
พระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฎร ได้มีดำริให้พระยาฤทธิอัคเนย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ จัดตั้งสถานีเกษตรกลางขึ้นในท้องที่อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร ดังนั้น จึงได้ย้ายวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาตั้งอยู่ที่อำเภอบางเขนใน พ.ศ. 2482 โดยมีนายอินทรี จันทรสถิตย์ ดำเนินการจัดซื้อที่ดินย่านบางเขนและมีหลวงสุวรรณวาจกกสิกิจเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัย และเปิดสอนหลักสูตร 3 ปี ในระดับ อนุปริญญา โดยมี 3 แผนก คือแผนกเกษตรศาสตร์ แผนกวนศาสตร์ และแผนกสหกรณ์ โดยแผนกเกษตรศาสตร์และแผนกสหกรณ์เรียนที่บางเขน ยกเว้นนักศึกษาแผนกสหกรณ์ ชั้นปีที่ 3 จะเรียนที่กรมสหกรณ์ ท่าเตียน เพื่อสะดวกในการอบรมวิชาภาคปฏิบัติ ส่วนแผนกวนศาสตร์เปิดสอนที่โรงเรียนวนศาสตร์ จังหวัดแพร่ ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์ เพื่อเป็นการเตรียมนิสิตให้วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่อำเภอบางเขนต่อไป[ 25]
ใน พ.ศ. 2486 จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ยกฐานะวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสถาปนาขึ้นเป็น "มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ " มีฐานะเป็นกรมในสังกัดกระทรวงเกษตราธิการ[ 26] และให้แต่งตั้งข้าราชการประจำดำรงตำแหน่งเลขาธิการมหาวิทยาลัย หลวงสินธุสงครามชัย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนแรก โดยมีการเปิดสอนใน 4 คณะ[ 27] ได้แก่ คณะกสิกรรมและสัตวบาล คณะการประมง คณะวนศาสตร์ และคณะสหกรณ์ เป็นคณะแรกตั้ง
หม่อมหลวงชูชาติ กำภู
ในปี พ.ศ. 2509 หม่อมหลวงชูชาติ กำภู อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในขณะนั้นได้พิจารณาเห็นว่าพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่บางเขนคับแคบ ไม่สามารถจะได้ จึงได้ดำริที่จะหาพื้นที่ที่เหมาะสมที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ที่มีดินดีเหมาะต่อการเกษตรและมีโครงการชลประทาน ผ่านเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ ก่อนราคาที่ดินจะมีราคาแพง[ 28] ซึ่งต่อมาในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 รัฐบาลในสมัยจอมพล ถนอม กิตติขจร จึงได้ตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนในท้องที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เพื่อให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดตั้งวิทยาเขตกำแพงแสน [ 28] โดยทางมหาวิทยาลัยได้ทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่เดิมและก่อสร้างอาคารเรียน ที่พัก และอาคารสำนักงานซึ่งสามารถเสร็จสิ้นเมื่อกลาง พ.ศ. 2521[ 28] และเริ่มจัดการเรียนการสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522[ 29]
ต่อมามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีแนวคิดที่จะขยายโอกาสทางการศึกษาตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยจึงได้มีแนวคิดที่จะจัดตั้งวิทยาเขตศรีราชา วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร วิทยาเขตสุพรรณบุรี วิทยาเขตกระบี่ และวิทยาเขตลพบุรี [ 28] ซึ่งทางมหาวิทยาลัยสามารถจัดตั้งวิทยาเขตศรีราชาในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2542[ 30] และวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนครใน พ.ศ. 2543[ 31] ส่วนวิทยาเขตสุพรรณบุรี ปัจจุบันยังอยู่ในสถานะภาพของการเป็นโครงการจัดตั้ง[ 12] ส่วนวิทยาเขตกระบี่และวิทยาเขตลพบุรีนั้นเนื่องจากมีปัญหาในด้านงบประมาณในการดำเนินงานจึงทำให้สภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีมติยกเลิกการจัดตั้งทั้ง 2 วิทยาเขต[ 32] [ 33]
จนถึงปัจจุบันมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้มีการขยายการศึกษาเพิ่มขึ้นโดยการเปิดคณะและสาขาวิชาเพิ่มขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีที่เปิดทำการสอนแล้วทั้งหมด 29 คณะ 2 วิทยาลัยและสถาบันสมทบ อีก 2 แห่ง มีจำนวนหลักสูตรทั้งหมด 583 หลักสูตร และเป็นหลักสูตรนานาชาติ 42 หลักสูตร[ 34]
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2558[ 35] ด้วยเหตุผลเพื่อให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีความเป็นอิสระและเป็นเลิศทางวิชาการอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลทำให้มหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
สัญลักษณ์
ชื่อและความหมาย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใช้คำว่า "เกษตรศาสตร์ " เป็นชื่อภาษาไทยของมหาวิทยาลัย และใช้อักษรโรมันว่า "Kasetsart "
"เกษตรศาสตร์" มาจากคำว่า เกษตร (เขต หรือ แผ่นดิน) และ ศาสตร์ (ความรู้ หรือ การศึกษา) ซึ่งรวมกันมีความหมายโดยทั่วไปว่า การศึกษาเกี่ยวกับเขตและแผ่นดิน หรือ ศาสตร์แห่งแผ่นดิน คำนี้ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Agriculture แปลว่า การเพาะปลูกแบบรูปธรรม มีรากคำมาจากภาษาละตินคือคำว่า agrīcultūra: agrī หมายความถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรม และคำว่า cultūra หมายความถึง วัฒนธรรม สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นหรือ การเพาะปลูก
คำว่า "เกษตร " อันเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยนั้น มีที่มาจากกระทรวงเกษตราธิการต้องการจัดตั้งสถาบันการศึกษาวิชาการเกษตรอันเนื่องด้วยวิชาการผลิตและการค้าเพื่อผลิตคนเข้ารับราชการในกรมกองต่าง ๆ ของกระทรวงเป็นการเฉพาะ[ 36]
ในระหว่าง พ.ศ. 2518 ได้มีความพยายามในการเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จากบุคคลกลุ่มหนึ่ง ทำให้เกิดข้อวิพากษ์จำนวนมากต่อกรณีดังกล่าว และมีการแถลงข่าวเพื่อโต้ข้อพิพาทระหว่างฝ่ายที่อยากให้เปลี่ยนชื่อและไม่ประสงค์ให้เปลี่ยนชื่อ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้อนุญาตให้นิสิตหยุดเรียนครึ่งวันเพื่อจัดทำประชามติในเรื่องนี้ ภายหลังจึงมีการเห็นสมควรให้มีการใช้ชื่อ เกษตรศาสตร์ เป็นชื่อของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการระลึกและย้ำเตือนถึงศาสตร์อันเป็นรากฐานวัฒนธรรม ความรู้ และวิทยาการของแผ่นดินไทย[ 37] [ 38]
จนกระทั่ง พ.ศ. 2520 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชดำรัสถึงความหมายของคำว่าเกษตรศาสตร์ตามชื่อของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไว้ว่า[ 39]
คำว่าเกษตรศาสตร์ อันเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยนี้นั้น ฟังดูมีความหมายจำกัดอยู่เพียงการทำนา แต่ความจริง เกษตรศาสตร์ ตามความหมายในปัจจุบัน กินความกว้างขวางมาก คือรวมเอาวิชาหรือศาสตร์ทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจิตใจของมนุษย์เข้าไว้เกือบทั้งหมด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงสอนวิชาการสาขาต่าง ๆ มากมายหลายสาขา ทั้งฝ่ายวิทยาศาสตร์ ทั้งฝ่ายศิลปศาสตร์ เรียกได้ว่าครบถ้วนที่จะเป็นมหาวิทยาลัยในความหมายสากลอย่างสมบูรณ์
คำ "เกษตรศาสตร์" ที่เป็นวิสามานยนามอันเป็นชื่อมหาวิทยาลัยแห่งนี้ อ่านว่า "กะ-เสด-สาด"[ต้องการอ้างอิง ] แต่ในกรณีที่หมายถึงวิชาว่าด้วยการเกษตร คำนี้อ่านว่า "กะ-เสด-ตฺระ-สาด"
ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดภาพเครื่องหมายราชการตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 (ฉบับที่ 247) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เล่มที่ 126 ตอนพิเศษ 98 ง[ 40] โดยตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แบ่งเป็น 2 ภาค ได้แก่
ภาคภาษาไทย ตรามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นรูปวงกลม มีรูปพระพิรุณทรงนาคอยู่กึ่งกลาง ล้อมรอบด้วยกลีบบัวคว่ำและกลีบบัวหงาย และมีข้อความ "มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. ๒๔๘๖" ล้อมรอบเป็นชั้นนอกสุด สีตราประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แก่ สีเขียวใบไม้
ภาคภาษาอังกฤษ มีองค์ประกอบเหมือนกับภาคภาษาไทย แต่เปลี่ยนจากอักษรภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยใช้ข้อความ "KASETSART UNIVERSITY 1943"
อาคารประจำมหาวิทยาลัย
หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ไฟล์:Triangular-shaped gable.JPG สัญลักษณ์จั่วสามมุข
หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ อาคารจั่วสามมุข ทำการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2497 โดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ก่อสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2500 มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นอาคารในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย
อาคารจั่วสามมุขเป็นอาคารออกแบบด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์ตามลักษณะของสถาปัตยกรรมคณะราษฎร มีเอกลักษณ์เป็นหน้าจั่วที่แบ่งมุขออกเป็น 3 ยอดและกรอบหน้าต่างจำนวน 6 ช่อง อันสะท้อนหลัก 6 ประการของคณะราษฎร [ 41] [ 42] ภายหลังจึงกลายเป็นต้นแบบของอัตลักษณ์ทางปรัชญาเกษตรศาสตร์ มี 3 ลักษณะทางจิตวิญญาณเกษตรศาสตร์ประกอบกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้[ 43]
จั่วสามมุข เอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งหน้าจั่วนี้มีลักษณะของความโดดเด่นตรงที่มีความกว้างของส่วนฐาน ส่วนกลาง และส่วนยอดที่เท่าเทียมกัน หมายความถึงการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืนแห่งสยามประเทศ ภายในจำลักลาย บัว 3 ดอก เป็นดอกบัวที่ขึ้นพ้นเหนือน้ำ อันมีเต่าและปลาเป็นตัวแทนของสัตว์ร้ายต่าง ๆ แหวกว่ายอยู่ หมายถึงบัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาทั้ง 3 ระดับคือบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต ที่ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ นานัปการตามหลักที่ปรากฏในพุทธโอวาท และมีการประกอบสัญลักษณ์ พระอุณาโลม อันมีลักษณะพ้องกับเลข ๙ เป็นเครื่องหมายอันเป็นนิมิตหมายที่ดี หมายถึง ความรู้และความสว่างแก่โลก
ทั้งนี้สัญลักษณ์จั่วสามมุขยังปรากฏเป็นศิลปกรรมตามสถานที่ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย เช่น อาคารหอประชุมใหญ่ อาคารสารนิเทศ 50 ปี อาคารวชิรานุสรณ์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๔ รอบพระชันษาจุฬาภรณ์ (ศูนย์เรียนรวม 4) อาคารคณะบริหารธุรกิจ อาคารประจำวิทยาเขตต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งบริเวณขอบรั้วโดยรอบมหาวิทยาลัยก็ถอดแบบให้มีลักษณะเป็น "จั่วสามมุข" ด้วยเช่นกัน[ 44]
เพลงประจำมหาวิทยาลัย
เพลงพระราชนิพนธ์ เกษตรศาสตร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2509 โดยโปรดเกล้าฯ ให้ ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร แต่งคำร้องถวาย[ 45]
สีประจำมหาวิทยาลัย
สีประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คือ สีเขียวใบไม้ [ 40] ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดภาพเครื่องหมายราชการตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พุทธศักราช 2482 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552[ 40]
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
ต้นนนทรีทรงปลูกทั้ง 9 ต้น และหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2552
ต้นนนทรี เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2506 เพราะต้นนนทรีเป็นไม้ยืนต้น มีอายุยืนยาวนาน มีใบเขียวตลอดทั้งปี ลักษณะใบเป็นฝอยคล้ายใบกระถิน ดอกสีเหลืองประปรายด้วยสีขาว ช่อดอกเป็นพวงระย้า ฝักไม่ยอมทิ้งต้น ทนทานในทุกสภาพอากาศของเมืองไทย ดังนั้นที่ประชุมสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2506 จึงได้เลือกให้ต้นนนทรีเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[ 46] [ 47] และศาสตราจารย์พิเศษ อินทรี จันทรสถิตย์ อธิการบดีในขณะนั้นได้นำข้อสรุปของที่ประชุมกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร [ 48]
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินมายังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และทรงปลูกต้นนนทรี 9 ต้น ณ บริเวณหน้าหอประชุม มก. เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506[ 49] และมีพระราชดำรัสถึงบุคลากรและนิสิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในคราวนั้นว่า
ขอฝากต้นไม้นี้ให้มหาวิทยาลัยและนิสิตช่วยกันรักษาให้ดี อย่าให้หงอย ขอฝากนิสิตทั้งหลาย ขอให้ช่วยกันรักษาตัวเองให้ดี และอย่าลืมว่าตัวเองนั้นจะอยู่กันได้ก็ด้วยแผ่นดินไทย ขอให้ช่วยรักษาแผ่นดินไทยไว้ด้วย คนไทยถ้าไร้แผ่นดินก็จะหงอยกันหมด อยู่กันไม่ได้ และเราก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น[ 47]
การบริหารงาน
นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีนายกสภามหาวิทยาลัย ดังรายพระนามและรายนามต่อไปนี้[ 50]
อธิการบดี
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีอธิการบดี มาแล้ว 15 คน ดังรายพระนามและรายนามต่อไปนี้[ 51]
หน่วยงาน
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีพื้นที่จัดการเรียนการสอนใน 5 พื้นที่ ได้แก่ บางเขน กรุงเทพมหานคร วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร และโครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
ส่วนทางด้านโครงการจัดตั้งวิทยาเขตลพบุรี ได้มีมติสภามหาวิทยาลัยให้ตั้งเป็น สถานีวิจัยในสังกัดสถาบันอินทรีจันทรสถิตย์ มีการจัดการเรียนการสอนเป็นการจัดการเรียนการสอนนอกสถานที่ภายในจังหวัดลพบุรี และโครงการจัดตั้งวิทยาเขตกระบี่ ให้ตั้งเป็นศูนย์วิทยบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกระบี่ เพื่อให้บริการในลักษณะการต่อยอดด้านวิชาการต่าง ๆ [ 52]
บางเขน
บางเขน หรือ เกษตรกลาง เป็นวิทยาเขตแรกและวิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่เดิมคือสถานีเกษตรกลางซึ่งจัดตั้งโดยกระทรวงเกษตราธิการ ใน พ.ศ. 2481 ก่อนจะมีการจะย้ายวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จากแม่โจ้ มาบางเขน และสถาปนาขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใน พ.ศ. 2486 ปัจจุบัน เกษตรกลาง บางเขน มีหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอน 18 คณะ 3 วิทยาลัย และ 2 โครงการจัดตั้งคณะภายใต้โครงการอุทยานการแพทย์ โดยมีคณะสหวิทยาการจัดการและเทคโนโลยี เป็นคณะล่าสุดของมหาวิทยาลัยและวิทยาเขต (โดยมีความรับผิดชอบในการจัดการเรียน-การสอน ณ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี) สำหรับวิทยาเขตบางเขนมีรายละเอียดหน่วยงานระดับคณะเปิดทำการเรียนการสอนประกอบด้วย ดังนี้
คณะกลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
คณะกลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คณะกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ
หลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก
หลักสูตรนานาชาติ
โครงการจัดตั้งคณะ (ภายใต้โครงการอุทยานการแพทย์)
วิทยาเขตกำแพงแสน ตั้งอยู่ที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จัดตั้งขึ้นเป็นวิทยาเขตลำดับที่ 2 ตามดำริของหม่อมหลวงชูชาติ กำภู อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คนที่ 5 หลังจากที่ได้พิจารณาว่าพื้นที่เกษตรกลาง บางเขน คับแคบและไม่สามารถรองรับการขยายงานด้านการศึกษาทางเกษตร ให้กว้างขวางเพื่อรับกับภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และสังคมของชาติได้ โดยวิทยาเขตกำแพงแสนได้เริ่มจัดการเรียนการสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 ปัจจุบัน มีหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอน 6 คณะ คือ
และ 3 คณะ และ 1 วิทยาลัยที่เป็นส่วนงานของมหาวิทยาลัย อันมีที่ตั้งอยู่ในวิทยาเขตบางเขน ที่ดำเนินการจัดการเรียนการสอน 2 วิทยาเขต ประกอบด้วย
วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร จัดตั้งเป็นวิทยาเขตลำดับที่ 3 เริ่มก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2538 แรกเริ่มได้ใช้ชื่อว่า "วิทยาเขตสกลนคร (ภูพานกาญจนาภิเษก)" ต่อมาจึงได้รับพระราชทานนามใหม่จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็น "วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร" โดยการจัดตั้งวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการขยายโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาไปสู่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าวิจัย รวบรวมข้อมูลและให้บริการวิชาการต่าง ๆ พร้อมทั้งสนับสนุนและช่วยเหลือทางด้านวิชาการแก่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการศิลปาชีพ[ 54] ปัจจุบัน มีหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอน 4 คณะ และ 1 โครงการจัดตั้งคณะ มีรายละเอียดโดยสังเขปดังนี้
วิทยาเขตศรีราชา ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับพื้นที่บริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์เชิงเขาน้ำซับจากกระทรวงมหาดไทย ตั้งเป็นสถานีวิจัยศรีราชาเพื่อใช้พื้นที่วิจัยและฝึกงานของนิสิตคณะเกษตร ใน พ.ศ. 2498 โดยสถาบันวิจัยศรีราชาได้ปรับเปลี่ยนเป็นวิทยาลัยชุมชนศรีราชาใน พ.ศ. 2535 และวิทยาเขตศรีราชาใน พ.ศ. 2542 เนื่องจากความต้องการในการขยายโอกาสทางการศึกษาและรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออก โดยได้รับนิสิตเข้าศึกษารุ่นแรกในปีการศึกษา 2539[ 56] ประกอบกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ 989 ไร่ ในอำเภอบ่อทองเพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์นวัตกรรมการเกษตรบ่อทองเพื่อเติมให้วิทยาเขตศรีราชาด้วย ปัจจุบัน วิทยาเขตศรีราชามีหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอน 5 คณะ ประกอบด้วย
โครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี
โครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี ก่อตั้งขึ้นเพื่อการขยายโอกาสการศึกษาระดับอุดมศึกษาไปยังพื้นที่ภูมิภาคตะวันตก ของประเทศ โดยเริ่มดำเนินการโครงการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2541 ซึ่งทางจังหวัดสุพรรณบุรี ได้จัดหาที่สาธารณประโยชน์ในอำเภอเมืองสุพรรณบุรี และอำเภอบางปลาม้า เพื่อรองรับโครงการจัดตั้งวิทยาเขต ในปัจจุบัน ยังไม่มีการจัดตั้งคณะอย่างเป็นทางการในโครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มอบหมายให้คณะในบางเขนและวิทยาเขตกำแพงแสนรับผิดชอบ ในยุคเริมแรกได้มีการเปิดสอนในบางหลักสูตรแล้วในระยะเริ่มต้น ได้แก่
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์กีฬา อยู่ในความดูแลของคณะศึกษาศาสตร์ โดยใช้พื้นที่ของวิทยาลัยพละศึกษาสุพรรณบุรี (ชื่อในขณะนั้น) เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอน ภายหลังได้ย้ายไปเรียน ณ วิทยาเขตกำแพงแสน และยกขึ้นเป็นคณะวิทยาศาสตร์กีฬา
หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการโรงแรมและท่องเที่ยว (4 ปี) (ภาคพิเศษ) ภายหลังได้โอนไปอยู่ในความดูแลของคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ต่อมาได้ย้ายไปวิทยาเขตกำแพงแสน และได้รับการจัดตั้งเป็นคณะอุตสาหกรรมบริการ
หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต (ต่อเนื่อง) (ภาคพิเศษ) อยู่ในความดูแลคณะศึกษาศาสตร์ (ปัจจุบันได้ปิดหลักสูตรแล้ว)
หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (ภาคพิเศษ) (ปัจจุบันได้ปิดหลักสูตรแล้ว)
หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ (ภาคพิเศษ) อยู่ในความดูแลของคณะสังคมศาสตร์ (ปัจจุบันได้ปิดหลักสูตรแล้ว)
หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (บธ.บ.) สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการบริการ เป็นหลักสูตรที่ได้กลับมาเปิดการเรียนสอน ณ จังหวัดสุพรรณบุรีอีกครั้งหลังได้ย้ายหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการโรงแรมและท่องเที่ยวไปสังกัดคณะ ศวท.
หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (บธ.บ.) สาขาวิชาการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสุขภาพ เป็นหลักสูตรใหม่ที่ร่างหลักสูตรโดยโครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี (ก่อนที่จะได้รับการจัดตั้งเป็นคณะสหวิทยาการจัดการและเทคโนโลยี)
ปี 2566 สภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ประกาศจัดตั้งคณะสหวิทยาการจัดการและเทคโนโลยี ขึ้นเป็นส่วนงานสังกัดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน เพื่อมารับผิดชอบการเรียน การสอน ณ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี ทั้งนี้ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตฯ ยังไม่เป็นส่วนงานในระดับวิทยาเขต อันเนื่องจาก การจะเป็น "วิทยาเขต" จะต้องประกอบด้วย คณะวิชา 2 คณะขึ้นไปมาสังกัด) ประกอบกับมหาวิทยาลัยฯ ได้โอนบุคคลากรโครงการจัดตั้ง ฯ มาสังกัดคณะดังกล่าวเพื่อให้การดำเนินงานเกิดความคล่องตัวขึ้น และได้ปรับสถานะสำนักงานโครงการจัดตั้งฯ เป็น “สำนักงานเขตบริหารการเรียนรู้พื้นที่สุพรรณบุรี” โดยเน้นการดำเนินงานภายใต้การบูรณาการทรัพยากรจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนกลางบางเขนและวิทยาเขตกำแพงแสนเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้สำนักงานเขตบริหารการเรียนรู้พื้นที่สุพรรณบุรี ยังทำหน้าที่ในการดูแลประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช และโรงพยาบาลสมทบอื่น ๆ ในเขตสุขภาพที่ 5 กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อการผลิตบัณฑิตแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ โดยคณะแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ และคณะวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สถาบันสมทบ
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับสถาบันการศึกษาไว้ในการสมทบปริญญาขั้นสูง จำนวน 1 สถาบัน รายละเอียด ดังนี้
สถาบันการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เคยรับไว้ในการสมทบปริญญา ได้แก่
การวิจัย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณทางด้านการวิจัยมากที่สุดและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง[ 58] โดยมหาวิทยาลัยได้วางนโยบาย มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยอย่างสมบูรณ์[ 59] โดยปรับปรุงกลไกเสริมสร้างเครือข่ายงานวิจัยในภาพรวมให้เข้มแข็ง ตลอดจนประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างและพัฒนาบุคลากรของทางมหาวิทยาลัย ผลงานวิจัยของนักศึกษา ไปต่อยอดเทคโนโลยี ที่ตอบสนองตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างแท้จริง[ 60] [ 61] ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีโครงการวิจัยที่ได้รับเงินอุดหนุนวิจัยภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[ 62] โดยมีการคัดเลือกผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดแบ่งตามประเภทของหลักเกณฑ์ต่าง ๆ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนวิจัยทั่วไป ได้แก่ โครงการวิจัย 3 สาขา คือ โครงการวิจัยสาขาเกษตร โครงการวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โครงการวิจัยสาขาสังคมศาสตร์และพฤติกรรม และกลุ่มที่ 2 คือ เงินอุดหนุนวิจัยเฉพาะกิจ
นอกจากนั้นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการคัดเลือกให้เป็น มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ จากสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้จัดตั้งสถาบันวิทยาการขั้นสูงขึ้น 4 ศูนย์[ 63] คือ ศูนย์วิทยาการขั้นสูงเพื่อเกษตรและอาหาร ศูนย์วิทยาการขั้นสูงด้านทรัพยากรธรรมชาติเขตร้อน ศูนย์วิทยาการขั้นสูงด้านนาโนเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมเคมีอาหารและการเกษตร และศูนย์วิทยาการขั้นสูงด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม อันเป็นการวางโครงสร้างขนาดใหญ่เพื่อรองรับการสร้างผลงานวิจัย สร้างบุคลากรนักวิจัย และผลิตนวัตกรรมต่าง ๆ [ 64] และเป็นการระดมสมองและบูรณาการความรู้จากบุคลากรทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัย เพื่อสนับสนุนความเป็นเลิศทางวิชาการและแสดงศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทยไปสู่เวทีระดับนานาชาติ[ 65] [ 66] ทั้งนี้มหาวิทยาลัยมีหน่วยงานทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการบริหารการประสานงานด้านวิจัย และพัฒนาทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คือ สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ [ 67] ทำหน้าที่ประสานและบริหารงานวิจัย รวมถึงบริการวิชาการและงานวิจัยให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่กำหนดในพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัย อันนำไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่สมบูรณ์แบบ[ 68]
อันดับและมาตรฐานของมหาวิทยาลัย
การประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัย
ใน พ.ศ. 2549 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้ดำเนินการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทย ใน "โครงการฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย"[ 69] โดยในภาพรวมผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกลุ่มดัชนีชี้วัดด้านการวิจัยและกลุ่มดัชนีชี้วัดตามด้านการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยระดับดีเยี่ยมและเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 8 ในด้านการเรียนการสอนของประเทศไทย [ 70]
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษา ผลปรากฏว่าในการประเมินครั้งที่ 3 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการประเมินในระดับดีมากในสาขาวิชาการจัดการศัตรูพืช (Pest Management) จากภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร [ 9]
อันดับมหาวิทยาลัย
นอกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัย โดยหน่วยงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์การจัดอันดับและการให้คะแนนที่แตกต่างกัน ได้แก่
QS WU Rankings by Subject
อันดับสาขาวิชา
สาขาวิชา
อันดับ
Agriculture & Forestry (2024)
62
Environmental Sciences (2024)
301-350
Modern Languages (2024)
301-340
Engineering - Chemical (2024)
351-400
Biological Sciences (2024)
401-450
Life Sciences & Medicine (2024)
401-450
Electrical and Electronic Engineering (2024)
451-500
Engineering - Mechanical, Aeronautical & Manufacturing (2024)
501-530
Economics & Econometrics (2024)
501-550
Engineering & Technology (2024)
501-550
Natural Sciences (2024)
501-550
Chemistry (2024)
501-550
Business & Management Studies (2024)
551-600
THE WU Rankings by Subject
อันดับสาขาวิชา
สาขาวิชา
อันดับ
Agriculture & Forestry (2020)
51-100
Education (2024)
601+
Life Sciences (2024)
801-1000
Clinical and health (2024)
801-1000
Business & Economics (2024)
801+
Social Sciences (2024)
801+
Computer Science (2024)
1001+
Engineering (2024)
1001+
Physical Science (2024)
1001+
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ QS World University Rankings มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการจัดอันดับไว้ที่ 751-760 ของโลกและอันดับที่ 150 ของเอเชียในภาพรวมประจำปี ค.ศ. 2024[ 71] ซึ่งเป็นอันดับที่ 5 ของประเทศไทย ส่วนการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของ QS World University Rankings by Subject หรือการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกตามสาขาวิชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เคยได้รับการจัดอันดับไว้ทั้งหมด 4 กลุ่มสาขาวิชากับอีก 12 สาขาวิชา โดยในปี ค.ศ. 2024 มี 10 สาขาวิชาที่ติดอันดับโลก ได้แก่ สาขาวิชา Agriculture & Forestry สาขาวิชา Biological Sciences สาขาวิชา Chemistry สาขาวิชา Engineering - Chemical สาขา Electrical and Electronic Engineering สาขาวิชา Engineering - Mechanical, Aeronautical & Manufacturing สาขาวิชา Environmental Sciences สาขาวิชา Business & Management Studies สาขา Economics & Econometrics และสาขา Modern Languages และมี 3 กลุ่มสาขาวิชาที่ติดอันดับโลก ได้แก่ กลุ่มสาขาวิชา Life Sciences & Medicine กลุ่มสาขาวิชา Engineering & Technology และกลุ่มสาขาวิชา Natural Sciences โดยสาขาวิชา Agriculture & Forestry มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทยนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 57 ของโลกและติดอันดับที่ 29 ของโลกในปี ค.ศ. 2017[ 72] ในส่วนของสาขาวิชาอื่น ๆ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เคยติดอันดับโลก ได้แก่
ปี ค.ศ. 2023 สาขาวิชา Linguistics อันดับที่ 201-250 ของโลก
ปี ค.ศ. 2022 สาขาวิชา Computer Science & Information System อันดับที่ 651-670 ของโลก
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังได้รับการจัดอันดับในด้าน Graduate Employability ไว้อันดับที่ 301-500 ของโลกในปี ค.ศ. 2022
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ The Times Higher Education World University Rankings ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไว้ที่ 1001+ ของโลกและอับดับที่ 251-300 ของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Economies) ประจำปี ค.ศ. 2020[ 73] นอกจากนี้ สาขาวิชา Computer Science สาขาวิชา Life Sciences สาขาวิชา Business & Economics สาขาวิชา Social Sciences สาขาวิชา Engineering & Technology และสาขาวิชา Physical Sciences ยังได้รับการจัดอันดับให้ติดอันดับของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกตามสาขาวิชาในปี ค.ศ. 2020[ 74] โดยสาขาวิชา Computer Science มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย [ 75]
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ Best Global Universities Ranking ที่จัดทำโดย U.S. News & World Report ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้เป็นอันดับที่ 1187 ของโลก อันดับที่ 341 ของเอเชีย และเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศไทยในภาพรวมประจำปี ค.ศ. 2022[ 76] โดยสาขาวิชา Agricultural Sciences ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 174 ของโลก เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย[ 77] สาขาวิชา Plant & Animal Science เป็นอันดับที่ 228 ของโลกเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย[ 78] สาขาวิชา Chemistry ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 879 ของโลก เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศไทย[ 79] และสาขา Food Science and Technology เป็นอันดับที่ 166 ของโลกเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย[ 80]
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ Round University Ranking (RUR) ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้เป็นอันดับที่ 624 ของโลกและเป็นอันดับที่ 7 ของประเทศไทยในภาพรวมประจำปี ค.ศ. 2020 โดยได้รับการจัดอันดับที่ 708 ของโลกในด้านการสอน (Teaching) อันดับที่ 529 ของโลกในด้านการวิจัย (Research) อันดับที่ 510 ของโลกในด้านความเป็นนานาชาติ (International Diversity) อันดับที่ 615 ของโลกในด้านความยั่งยืนทางการคลัง (Financial Sustainability) อันดับที่ 393 ของโลกในด้านชื่อเสียง (Reputation) และเป็นอันดับที่ 530 ของโลกในด้านวิชาการ (Academic)[ 81]
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ Center for World University Rankings (CWUR) ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้เป็นอับดับที่ 1243 ของโลกและเป็นอับดับที่ 6 ของประเทศไทยประจำปี ค.ศ. 2020-21 โดยได้รับการจัดอันดับที่ 1505 ในด้าน Alumni Employment และอันดับที่ 1180 ในด้าน Research Performance[ 82]
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกตามสาขาวิชาของ Academic Ranking of World Universities หรือ Shanghai Ranking ประจำปี ค.ศ. 2020 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการจัดอันดับให้ติดอันดับโลกอยู่ 4 สาขาวิชา ได้แก่ อันดับที่ 101-150 ของโลกในสาขาวิชา Veterinary Sciences เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย [ 83] อันดับที่ 201-300 ของโลกในสาขาวิชา Food Science & Technology เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทยรองจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ [ 84] อันดับที่ 401-500 ของโลกในสาขาวิชา Agricultural Sciences เป็นอันดับที่ 2-3 ของประเทศไทยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย [ 85] และอันดับที่ 401-500 ของโลกในสาขาวิชา Chemical Engineering เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทยรองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย [ 86]
การจัดอันดับสถาบันวิจัยโลกของ SCImago Institutions Rankings ซึ่งจัดอันดับสถาบันวิจัยโดยอาศัยดัชนีข้อมูลบทความวารสารวิชาการ และจำนวนการอ้างอิงจากฐานข้อมูล โดยรวบรวมสถาบันวิจัยและแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ คือ กลุ่มสถาบันอุดมศึกษา (University) กลุ่มหน่วยงานภาครัฐ (Government) กลุ่มหน่วยงานสาธารณสุข (Health) กลุ่มหน่วยงานภาคเอกชน (Company) และกลุ่มองค์การไม่แสวงหาผลกำไร (Non-Profit) ในปี ค.ศ. 2022 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 628 ของโลกและเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศไทยในภาพรวมจากทุกกลุ่ม รองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกระทรวงสาธารณสุข โดยได้รับการจัดอันดับที่ 382 ของโลก อันดับที่ 5 ของประเทศไทยในด้านการวิจัย (Research) อันดับที่ 404 ของโลก อันดับที่ 15 ของประเทศไทยในด้านนวัตกรรม (Innovation) และอันดับที่ 225 ของโลก อันดับที่ 4 ของไทยในด้านสังคม (Societal) ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการจัดอันดับให้ติดอันดับโลกอยู่ 17 สาขาวิชา อาทิ อันดับที่ 385 ของโลก อันดับที่ 3 ของประเทศไทยในสาขาวิชา Agricultural and Biological Sciences อันดับที่ 599 อันดับที่ 4 ของประเทศไทยในสาขาวิชา Economics, Econometrics and Finance อันดับที่ 488 อันดับที่ 13 ของประเทศไทยในสาขาวิชา Environmental Science อันดับที่ 709 ของโลก อันดับที่ 5 ของประเทศไทยในสาขาวิชา Medicine อันดับที่ 605 ของโลก อันดับที่ 4 ของประเทศไทยในสาขาวิชา Pharmacology, Toxiology and Pharmaceutics อันดับที่ 655 ของโลก อันดับที่ 10 ของประเทศไทยในสาขาวิชา Physics and Astronomy อันดับที่ 678 ของโลก อันดับที่ 4 ของประเทศไทยในสาขาวิชา Social Sciences และอันดับที่ 87 ของโลก อันดับที่ 2 ของประเทศไทยในสาขาวิชา Veterinary[ 87]
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวของ UI Green Metric World University Ranking ที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวจากจำนวนมหาวิทยาลัยทั่วโลกที่ส่งข้อมูลเข้าร่วมการจัดอันดับรวมทั้งหมด 956 แห่งในปี ค.ศ. 2021 ซึ่งมีผลการประเมินจาก 6 ด้าน ได้แก่ สถานที่ตั้งและระบบสาธารณูปโภค (Setting & Infrastructure) การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Energy & Climate Change) การจัดการขยะ (Waste) การใช้น้ำ (Water) การจัดการระบบขนส่ง (Transportation) และการศึกษาวิจัย (Education & Research) โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 45 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดที่มหาวิทยาลัยไทยเคยได้รับการจัดอันดับ และเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทย[ 88] โดยได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ใน 1 ตัวชี้วัด ได้แก่ การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ[ 89]
พื้นที่
วิทยาเขต
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เปิดการเรียนการสอนใน 5 พื้นที่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน, วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม, วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี, วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร และเขตบริหารการเรียนรู้พื้นที่สุพรรณบุรี (โครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี) โดยมีแหล่งที่ตั้งและจำนวนพื้นที่ของแต่ละวิทยาเขต ดังนี้[ 90]
ศูนย์สถานีวิจัย
นอกเหนือจากพื้นที่วิทยาเขตของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังมีพื้นที่ในศูนย์สถานีวิจัยที่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ใช้สำหรับเพื่อจัดการศึกษาค้นคว้าวิจัยและฝึกปฏิบัติงานของนิสิตคณะเกษตร คณะประมง คณะวนศาสตร์ และคณะเกษตร กำแพงแสน โดยศูนย์สถานีวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สามารถแบ่งตามคณะที่รับผิดชอบได้ ดังนี้[ 91]
คณะเกษตร
คณะประมง
คณะวนศาสตร์
คณะเกษตร กำแพงแสน
โรงพยาบาลสัตว์
โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อยู่ในความดูแลของคณะสัตวแพทยศาสตร์ ก่อสร้างขึ้นเป็นแหล่งฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกของนิสิตตามหลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรสาขาวิชาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นหน่วยงานให้บริการทางสัตวแพทย์ หน่วยชันสูตรโรคสัตว์ และฟาร์มสัตว์เพื่อการเรียนการสอน ปัจจุบัน คณะสัตวแพทยศาสตร์มีโรงพยาบาลสัตว์ 5 แห่ง ดังนี้[ 92]
มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์
อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีนโยบายในการพัฒนามหาวิทยาลัยไปสู่มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ (e-University) [ 93] ที่สมบูรณ์แบบ จึงได้วางเครือข่ายโครงสร้างและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารในทุกหน่วยงานและทุกวิทยาเขตให้มีความพร้อมรองรับการเป็น e-University
การดำเนินงานเพื่อพัฒนาไปสู่มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ดำเนินการไปแล้วคือ การวางโครงสร้างเครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งในวิทยาเขตบางเขนและวิทยาเขตต่าง ๆ โดยได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนใน พ.ศ. 2546 รวม 34.5 ล้านบาท[ 93] และมหาวิทยาลัยได้เตรียมงบประมาณรองรับการวางโครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไว้แล้วรวมกว่า 192 ล้านบาท[ 93] ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยได้วางระบบเครือข่ายสำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation) และเริ่มใช้ระบบสำนักงานอัตโนมัติในหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ดำเนินการบริหารการประชุมโดยเริ่มระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) ในการประชุมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย เพื่อลดปริมาณการใช้เอกสาร ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพื่อความสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการวางระบบโครงสร้างเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networking System) ในคณะ สำนัก สถาบัน และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็น Wireless Campus ซึ่งได้ดำเนินการแล้วหลายหน่วยงาน เช่น สำนักบริการคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สำนักงานอธิการบดี และ สำนักหอสมุด
โดยมีโครงการที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ดำเนินการไปแล้วประกอบด้วย[ 94] โครงการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) โครงการระบบสำนักงานอัตโนมัติ (e-Office) โครงการระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (e-Learning) โครงการข่าวอิเล็กทรอนิกส์ (e-News) โครงการไวร์เลสแคมปัส (Wireless Campus) โครงการบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) โครงการจัดทำฐานข้อมูลงานวิจัย (e-Publication) โครงการห้องสมุด อิเล็กทรอนิกส์ (e-Library) โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูลเพื่อสนับสนุนงานบริหารของมหาวิทยาลัย (e-MIS) โครงการพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยให้มีความพร้อมด้านไอที (e-Personal) โครงการปรับปรุงและขยายเครือข่ายของมหาวิทยาลัย (e-Campus)
และมีแผนที่จะดำเนินงานในระยะต่อไป ดังนี้ ดำเนินการโครงการ e-MIS ให้ครอบคลุมระบบงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย พัฒนาระบบสนับสนุนการเรียนการสอนเพื่อก้าวสู่การใช้ e-Learning ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและพัฒนาโครงการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการก้าวสู่การเป็น e-University ที่สมบูรณ์แบบต่อไปดำเนินโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายฐานข้อมูลอัจฉริยะทางการเกษตร (Intelligent Agriculture System - e-Ag) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การให้บริการข้อมูลทางการเกษตร โดยระบบอัจฉริยะ (Intelligent Systems) และการสื่อสารโดยผ่านทางสถานีวิทยุของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมทั้งการให้บริการถามตอบข้อมูลผ่านทาง Agriculture Call Center ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อ
ระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้กำหนดวิธีการรับบุคคลเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีในระบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้[ 95]
สอบคัดเลือกโดยรับจากผู้จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือ เทียบเท่าผ่านระบบแอดมิชชั่น โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดสอบคัดเลือกหรือรับเข้าโดยตรง ตามโครงการต่าง ๆ ดังนี้
สอบคัดเลือกเข้าศึกษาตามโครงการส่งเสริมโอกาสศึกษาต่อใน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สำหรับนักเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนมัธยมศึกษาในท้องถิ่น (โควตาพิเศษ) โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำหนดให้นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สังกัดโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในจังหวัด นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี เพชรบูรณ์ และในเขตการศึกษาต่าง ๆ คือ
สอบคัดเลือกเข้าศึกษาตามโครงการผู้ที่มีความสามารถทางกีฬาดีเด่น ประกาศรับสมัครในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม
สอบคัดเลือกตามโครงการวิศวกรรมศาสตร์ภาคพิเศษและอุตสาหกรรมเกษตรภาคพิเศษ ประกาศรับในช่วงเดือนมีนาคม และวิทยาลัยชุมชนศรีราชาประกาศรับช่วงเดือนเมษายน
รับจากผู้จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าศึกษาในโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) และโครงการเร่งรัดผลิตครูทางคณิตศาสตร์
รับจากผู้จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าศึกษาในโครงการของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (สสวท.) เข้าศึกษาต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์ และจากผู้มีความสามารถทางการวิจัยดีเด่น เข้าศึกษาต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์
รับจากข้าราชการ ตามข้อตกลงระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องซึ่งหน่วยงาน ต้นสังกัดระดับกรม เป็นผู้เสนอชื่อขอเข้าศึกษา
รับจากผู้จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการจัดส่งนักศึกษาชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลาม เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของกระทรวงมหาดไทย
รับจากผู้จบมัธยมศึกษาตอนปลายจากต่างจังหวัด เข้าศึกษาในคณะวนศาสตร์ ซึ่งคณะวนศาสตร์จะแจ้งให้โรงเรียนทราบโดยตรง
คณะแพทยศาสตร์ รับนักเรียนและผู้สนใจเข้าศึกษาต่อใน "โครงการส่งเสริมโอกาสศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ (TCAS2)" ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนมัธยมศึกษาในท้องถิ่นในเขตสุขภาพที่ 5 (สุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และกาญจนบุรี) และเขตสุขภาพที่ 8 (สกลนคร บึงกาฬ นครพนม อุดรธานี หนองคาย เลย และหนองบัวลำภู) [ 96]
ระดับปริญญาโท
การรับเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ผู้สมัครต้องสำเร็จปริญญาตรี หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้าย และมีผลการศึกษาหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ดังนี้
ได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75.00 หรือแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.50 หรือ
ได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70.00 หรือแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.00 และได้คะแนนเฉลี่ยในวิชาเอกที่จะสมัครเข้าศึกษาระดับปริญญาโท (ไม่น้อยกว่า 5 รายวิชา) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80.00 หรือแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือ
ได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70.00 หรือแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.00 และมีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานหรือผู้บังคับบัญชา (เงื่อนไขการทำงาน 3 ปี นับจากวันที่ทำงานหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จนถึงวันที่ 1 มิถุนายน ของทุกปี สำหรับผู้สมัครในภาคต้น และวันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี สำหรับผู้สมัครในภาคปลาย)
ระดับปริญญาเอก
การรับเข้าศึกษาในระดับปริญญาเอก มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้ายในสาขาวิชาที่จะเข้าศึกษาหรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง และเคยผ่านงานวิจัยที่เป็นวิทยานิพนธ์ มาแล้ว แต่ถ้าสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทที่ไม่ผ่านการทำวิทยานิพนธ์ จะต้องมีผลงานวิจัย หรือมีประสบการณ์วิจัยในสายงานที่จะเข้าศึกษาและเป็นที่ยอมรับของสาขานั้น
นอกจากนี้การรับเข้าศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาเอก จะรับสมัครโดยโครงการต่าง ๆ ที่แต่ละคณะได้เปิดโครงการ ก็จะมีการรับสมัครโดยหน่วยงานของโครงการโดยตรง
ชีวิตในมหาวิทยาลัย
ระยะเวลาในการเรียนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในระดับปริญญาตรี นั้นโดยหลักสูตรปกติจะเป็นหลักสูตร 4 ปี[ 97] ยกเว้นบางสาขาวิชาที่ต้องมีการเรียนการสอนที่มากกว่า 4 ปี[ 98] ส่วนปริญญาโท และเอก[ 99] นั้นเป็นไปตามที่หลักสูตรกำหนด
สำหรับนิสิต ระดับปริญญาตรี นั้นนอกจากจะต้องเรียนตามที่หลักสูตรกำหนดแล้วระเบียบการศึกษาและข้อบังคับของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้กำหนดไว้ว่าผู้ที่จะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี นั้นจะต้องทำกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ให้ครบหน่วยชั่วโมงกิจกรรม โดยกิจกรรมแต่ละประเภทจะเป็นการพัฒนานิสิตในด้านจริยธรรมและคุณธรรม วิชาการและทักษะวิชาชีพ สุขภาพ โดยเป็นการพัฒนาตนเองและเป็นการทำประโยชน์แก่สังคมอีกด้วย[ 97]
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้บัญญัติข้อบังคับสำหรับการดำเนินกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและกิจกรรมมีประสิทธิภาพ สภามหาวิทยาลัยจึงมีประกาศสภามหาวิทยาลัย เรื่อง ข้อบังคับว่าด้วยธรรมนูญนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2549 ซึ่งบัญญัติไว้ว่าการดำเนินกิจกรรมนิสิตของมหาวิทยาลัยจะกระทำได้โดยองค์กรกิจกรรมนิสิต ดังต่อไปนี้[ 97]
องค์การนิสิต มีหน้าที่กำกับดูแลกิจกรรมนิสิตในภาครวมทั้ง 4 วิทยาเขต โดยมี คณะกรรมการองค์การนิสิต เป็นคณะบุคคลที่กำกับดูแล ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารและประธานสภาผู้แทนนิสิต จากทั้ง 4 วิทยาเขตรวมกัน โดยจะเลือกตัวแทนขึ้นดำรงตำแหน่ง เลขาธิการองค์การนิสิต เป็นผู้นำสูงสุด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากอธิการบดี
สภาผู้แทนนิสิต องค์การนิสิต (สภ.ก.) มีหน้าที่ออกข้อบังคับหรือกฎระเบียบในการดำเนินกิจกรรมนิสิต และตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมขององค์การบริหาร เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมเป็นไปตามนโยบายและธรรมนูญนิสิต โดยสภาผู้แทนนิสิตจะมีอยู่ทั้ง 4 วิทยาเขต
องค์การบริหาร องค์การนิสิต (อบ.ก.) มีหน้าที่บริหารงานเกี่ยวกับกิจกรรมนิสิตและเป็นตัวแทนนิสิตทั้งปวงของแต่ละวิทยาเขต สามารถดำเนินการหรือเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกกับหน่วยงานนิสิต-นักศึกษา สถาบันการศึกษา หรือองค์กรอื่นทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยก็ได้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของนิสิตเป็นที่ตั้ง ซึ่งองค์การบริหารฯ จะตั้งอยู่ในทั้ง 4 วิทยาเขต ทั้งนี้ องค์การบริหารฯ มี คณะกรรมการบริหารองค์การบริหาร ทำหน้าที่บริหารงานให้เป็นไปตามอำนาจและหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในธรรมนูญนิสิตฯ ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากนิสิตทั้งปวงของแต่ละวิทยาเขต
สโมสรนิสิต ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานที่คอยกำกับดูแลอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมให้กับนิสิตของแต่ละคณะ ในแต่ละวิทยาเขต
ชุมนุมนิสิต เป็นองค์กรกิจกรรมนิสิตที่ย่อยจากสโมสรนิสิต ที่ทำหน้าที่บริหารกิจกรรมเฉพาะด้าน เช่น ชุมนุมนิสิตภาควิชากีฏวิทยา สโมสรนิสิตคณะเกษตร กำแพงแสน ชุมนุมนิสิตสานฝันคนรักม้า สโมสรนิสิตคณะสัตวแพทยศาสตร์ ชุมนุมนิสิตวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ชุมนุมรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สโมสรนิสิตคณะสังคมศาสตร์ เป็นต้น
ชมรมนิสิต เป็นหน่วยงานนิสิตที่ดำเนินกิจกรรมในรูปแบบของชมรมต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งชมรมนิสิตได้เป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านบำเพ็ญประโยชน์ ด้านศิลปวัฒนธรรม และด้านกีฬา มีตัวอย่างชมรมในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เช่น ชมรมดนตรีสากลฯ ชมรมขับร้องประสานเสียงฯ ชมรมวงดนตรีรวมดาวกระจุย ชมรมอคูสติก ชมรมเคยู แดนซ์ คลับ ชมรมเชียร์และแปรอักษร ชมรมส่งเสริมศิลปะการพูด ชมรมส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมภาคเหนือ ชมรมพุทธศาสน์ ชมรมดาราศาสตร์ ชมรมผู้ประกอบการนิสิต ชมรมพัฒนาชนบท ชมรมรักษ์ช้างไทย ชมรมเห็ด ชมรมเทคโนโลยี ชมรมกีฬาต่าง ๆ เป็นต้น
กิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้นสามารถที่จะแบ่งได้ออกเป็นหลายลักษณะดังต่อไปนี้ กิจกรรมวิชาการ คือกิจกรรมที่ให้ความรู้แก่นิสิต อาทิ กิจกรรมก้าวแรกสู่บัณฑิตยุคใหม่ เป็นกิจกรรมแรกที่นิสิตชั้นปีที่ 1 จะต้องเข้าร่วมเป็นงานที่อธิบายประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัย วิทยาเขตต่าง ๆ [ 100]
งานเกษตรแห่งชาติ เป็นงานวิชาการด้านการเกษตรที่จัดร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งจัดในส่วนกลางที่วิทยาเขตบางเขน สลับกับในส่วนของภูมิภาคที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับมหาวิทยาลัยในภูมิภาคต่าง ๆ โดยจัดขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ. 2495 โดยใช้ชื่องานว่า "งานประจำปีเกษตรกลางบางเขน" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงานอีกด้วย [ 101] นอกจากนี้ยังมี งานเกษตรแฟร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดแสดงงานวิชาการประจำปีซึ่งมีทุกวิทยาเขต โดยจะมีการจัดในสัปดาห์ในวันก่อตั้งของแต่ละวิทยาเขต สำหรับวิทยาเขตบางเขนจะมีการจัดงานปีเว้นปีโดยสลับกับงานเกษตรแห่งชาติ สำหรับวิทยาเขตกำแพงแสนจะใช้ชื่อเรียกว่า "งานเกษตรกำแพงแสน"
กิจกรรมศิลปวัฒนธรรม อาทิ กิจกรรมคอนเสิร์ตประสานเสียงสามสถาบัน จุฬาฯ เกษตรศาสตร์ ธรรมศาสตร์ (CKT) เป็นการแสดงคอนเสิร์ตร่วมของ 3 สถาบันที่ได้รับพระราชทานเพลงจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัย คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[ 102] กิจกรรมลอยกระทง เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปีโดยองค์การบริหารองค์การนิสิตกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานและรักษาประเพณีอันดีงามของไทย พร้อมกิจกรรมการแสดงบนเวที การประกวดนางนพมาศ และงานธิดาเกษตร งานประกวดบุคคลที่มีความงามที่มีความรู้ด้านการเกษตร[ 103]
นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์และอาสาสมัคร ซึ่งก็คือการออกค่ายอาสา ซึ่งการออกค่ายอาสาสมัครของนิสิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีหลายองค์กรนิสิต เช่น ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ ชมรมโรตาแรคท์ ชมรมค่ายอาสาพัฒนา ชมรมค่ายอาสาพัฒนานนทรีทักษิณ ชมรมคนสร้างป่า ชมรมธารความรู้นนทรี ชมรมมหาลัย-ชาวบ้าน เป็นต้น
กิจกรรมระหว่างมหาวิทยาลัย
การจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย เป็นมหกรรมการแข่งขันกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย ในประเทศไทย ซึ่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรวม 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด คือ ครั้งที่ 49 โดยใช้พื้นที่ของวิทยาเขตกำแพงแสนเป็นสถานที่จัดการแข่งขันหลัก โดยมีรายละเอียดที่จัดการแข่งขัน ดังนี้
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เคยเป็นเจ้าภาพร่วม การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 5 , ครั้งที่ 6 , ครั้งที่ 7 , ครั้งที่ 9
พิธีพระราชทานปริญญาบัตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พ.ศ. 2496
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานปริญญาบัตร
มีหลักฐานจากสูจิบัตรวันพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 โดยสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในคราวนั้นคือ ห้องโถงชั้นบนตึกสัตวบาล ซึ่งเป็นสถานที่พระราชทานปริญญาบัตรระหว่าง พ.ศ. 2493 - 2495 (อาคารหอประวัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบัน) [ 104] [ 105]
ต่อมาพระราชทานปริญญาบัตรและอนุปริญญาบัตรแก่นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษา ได้ใช้อาคารห้องสมุดกลางในขณะนั้นในระหว่าง พ.ศ. 2496 ถึง 2499[ 106] และหลังจากหอประชุมใหญ่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2500 จึงได้ใช้อาคารหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ณ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขนในเวลาต่อมา
ใน พ.ศ. 2520 ได้มีการย้ายสถานที่ในการพระราชทานปริญญาบัตรจากหอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไปเป็น อาคารใหม่ สวนอัมพร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปทรงประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2519 - 2520 โดยอาคารใหม่ สวนอัมพร นี้ เป็นสถานที่พระราชทานปริญญาบัตรระหว่าง พ.ศ. 2520 - 2528[ 107]
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรประจำ พ.ศ. 2529 ได้กลับมาจัดในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกครั้ง แต่เปลี่ยนสถานที่จากหอประชุมเป็นอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ ซึ่งมีขนาดกว้างขวางกว่าและจุผู้เข้าร่วมพิธีได้มากกว่า โดยในวาระนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงประกอบพิธีเปิดอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ ซึ่งตั้งชื่อตามพระนามพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ และใช้เป็นสถานพระราชทานปริญญาบัตร ตั้งแต่ พ.ศ. 2529 จวบจนถึงปัจจุบัน[ 108]
หลังจากนั้นใน พ.ศ. 2542 - 2543 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2541 ณ อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ [ 109]
และใน พ.ศ. 2544 ถึงปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จากทุกวิทยาเขต โดยมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี[ 110] ใน พ.ศ. 2557 มหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนเวลาการเปิดการสอนภาคต้นจากเดือนพฤษภาคมเป็นเดือนสิงหาคมจึงได้เลื่อนกำหนดการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นช่วงเดือนตุลาคม
วันสำคัญ
วันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ [ 111] [ 112] ตรงกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยถือเอาการมีพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฉบับแรก เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดพิธีรำลึกและวางพวงมาลาคารวะสามบูรพาจารย์ ผู้บุกเบิกมหาวิทยาลัยและพิธีรดน้ำบูรพาจารย์อาวุโส เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครบรอบทุกปี ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
วันรำลึกถึงรัชกาลที่ 8 ทรงหว่านข้าว ณ เกษตรกลาง บางเขน [ 113] เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ทอดพระเนตรการทำนาที่อำเภอบางเขน และกิจการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงหว่านข้าวในแปลงนาหลังตึกขาว ซึ่งปัจจุบันคือตึกพืชพรรณของกรมวิชาการเกษตร เหตุการณ์ในวันนั้นจึงนับเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเกษตรของไทยและของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตลอดไป
วันหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร [ 114] เป็นวันรำลึกซึ่งหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ถึงชีพิตักษัย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2514 หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ทรงเป็นประธานคณะกรรมการข้าวระหว่างชาติ ทรงได้รับรางวัลแมกไซไซ ด้านบริการสาธารณะ และที่สำคัญทรงได้รับการยกย่องให้เป็น บิดาแห่งการเกษตรแผนใหม่ โดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้จัดพิธีรำลึกในวันที่ 22 มิถุนายน ของทุกปี ณ สถานีวิจัยสิทธิพรกฤดากร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
วันสระสุวรรณชาดพระราชทาน เป็นวันครบรอบสระสุวรรณชาดซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานสำหรับการรักษาแบบธาราบำบัดให้สุนัขที่ป่วยด้วยโรคข้อกระดูกและระบบประสาท โดยเป็นเงินพระราชทานจากรายได้การจำหน่ายเสื้อคุณทองแดง พร้อมทั้งพระราชทานชื่อสระว่ายน้ำว่า สระสุวรรณชาด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดสระสุวรรณชาด ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในครั้งนี้ด้วย
วันสืบ นาคะเสถียร เป็นวันรำลึกถึงคุณงามความดีของสืบ นาคะเสถียร นิสิตเก่าคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักอนุรักษ์และนักวิชาการด้านทรัพยากรธรรมชาติชาวไทย ผู้ซึ่งพยายามปกป้องแก่งเชี่ยวหลาน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง และได้กระทำอัตวินิบาตกรรม เพื่อเรียกร้องให้สังคมเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2533 โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมกับคณะวนศาสตร์และสโมสรนิสิตคณะวนศาสตร์ได้จัดพิธีประกาศสดุดีรำลึกถึงสืบ นาคะเสถียร พิธีวางพวงมาลา และจัดกิจกรรมนิทรรศการให้ความรู้เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ ให้นิสิตเห็นคุณค่าและความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมเป็นประจำทุกปี[ 115]
วันนนทรีทรงปลูก ดนตรีทรงโปรด วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ มาทรงปลูกต้นนนทรี จำนวน 9 ต้น ณ บริเวณด้านหน้าอาคารหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพระราชทานต้นนนทรีเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยตามคำกราบบังคมทูลของทางมหาวิทยาลัย[ 116] และหลังจากทรงปลูกต้นนนทรีแล้ว ได้ทรงดนตรีที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นครั้งแรก โดยล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จเข้าสู่หอประชุม เพื่อทรงดนตรีร่วมกับวง อ.ส. วันศุกร์ ซึ่งมี อาจารย์ นิสิต และนิสิตเก่าแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์รวมอยู่ด้วย ได้แก่ ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ว่าที่ร้อยตรี อวบ เหมะรัชตะ เป็นต้น เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นเหตุการณ์ที่นำมาสู่การเสด็จ "เยี่ยมต้นนนทรี" และ "ทรงดนตรี" อีก 9 ครั้งในปีต่อ ๆ มา
บุคคลสำคัญ
บุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
ศาสตราจารย์พิเศษ อินทรี จันทรสถิตย์
อ้างอิง
↑ การกำหนดรหัสตัวพยัญชนะประจำกระทรวงและเลขที่หนังสือออกของ กระทรวงการอดุมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เก็บถาวร 2021-12-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2564
↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ , เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๓๔, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
↑ จำนวนนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปีการศึกษา 2563. [1] . ข้อมูลล่าสุดเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564
↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดภาพเครื่องหมายราชการตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พุทธศักราช ๒๔๘๒ (ฉบับที่ ๒๔๗) (ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ประกาศเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๓ ก.ค. ๒๕๕๒ เล่ม ๑๒๖ ตอนพิเศษ ๙๘ ง หน้า ๓๔ สืบค้นเมื่อ วันที่ 30 กรกฎาคม 2566
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แนะนำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2019-11-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ หอประวัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ความเป็นมาก่อนการจัดตั้งมหาวิทยาลัย เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ หอประวัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2 กุมภาพันธ์ วันสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2558 เก็บถาวร 2015-07-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน , ราชกิจจานุเบกษา, วันที่สืบค้น 17 กรกฎาคม 2558
↑ 9.0 9.1 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย การประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย (30) เก็บถาวร 2020-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 14 เมษายน 2557
↑ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑ ใน ๙ มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ เก็บถาวร 2013-02-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-22
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต เก็บถาวร 2013-02-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-22
↑ 12.0 12.1 โครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี รายละเอียดโครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี เก็บถาวร 2012-12-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-22
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ข้อมูลหลักสูตร เก็บถาวร 2013-02-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-22
↑ Japan International Research Center for Agricultural Sciences"A Scientist and a Link of the Chain uniting Thailand and Japan" เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตารางเอกสารจดหมายเหตุมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2009-01-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หม่อนไหมสายใยแผ่นดิน เก็บถาวร 2008-05-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประวัติหน่วยงาน สถาบันหม่อนไหมแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เก็บถาวร 2009-01-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การพัฒนาการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในประเทศไทย เก็บถาวร 2009-01-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงเรียนเกษตราธิการ-เปิดยุคการศึกษาเกษตรตามแบบอย่างตะวันตก เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศตั้งโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เก็บถาวร 2007-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การศึกษา ๘ สาขาของโรงเรียนข้าราชการพลเรือน เก็บถาวร 2009-01-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การพัฒนาอาชีวเกษตรกรรม เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัย เก็บถาวร 2008-07-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ คลังเอกสารสาธารณะ วิญญาณสามบูรพาจารย์เกษตร โดย ศ.ระพี สาคริก เก็บถาวร 2009-01-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ คณะเกษตรกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประวัติการศึกษาเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2007-10-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ราชกิจจานุเบกศา พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พุทธศักราช ๒๔๘๖ เก็บถาวร 2007-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ราชกิจจานุเบกศา พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. ๒๔๘๖ เก็บถาวร 2007-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ 28.0 28.1 28.2 28.3 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประวัติมหาวิทยาลัย เก็บถาวร 2022-10-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-24
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประวัติมหาวิทยาลัยทศวรรษที่สี่ พ.ศ. 2516-2525 เก็บถาวร 2012-12-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-24
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชาประวัติวิทยาเขตศรีราชา เก็บถาวร 2013-01-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-24
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประวัติมหาวิทยาลัยทศวรรษที่หก พ.ศ. 2536-2545 เก็บถาวร 2014-08-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่2013-02-24
↑ ราชกิจจานุเบกศา กระทู้ถามเรื่องวิทยาเขตลพบุรี เรียกดูวันที่ 2013-02-24
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เอกสารประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย เรียกดูวันที่ 2013-02-24
↑ "KU | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รอบรั้วชาวนนทรี" . www.ku.ac.th . สืบค้นเมื่อ 2020-12-18 .
↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เก็บถาวร 2015-07-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน , ราชกิจจานุเบกษา, วันที่สืบค้น 17 กรกฎาคม 2558
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ "ความเป็นมาก่อนจัดตั้งมหาวิทยาลัย" เก็บถาวร 2007-02-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฝากไว้ให้ลูกหลานชาวเกษตร ศาสตราจารย์ ดร. อรรถ นาครทรรพ เก็บถาวร 2009-01-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในระหว่าง พ.ศ. 2518 ได้มีการวิ่งเต้นขอให้เปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จากบุคคลกลุ่มหนึ่ง ... เก็บถาวร 2018-05-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2008-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ 40.0 40.1 40.2 ราชกิจจานุเบกศา กำหนดภาพเครื่องหมายราชการ ตามพรบ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ลงวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เก็บถาวร 2011-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2013-03-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ บันทึกผลงาน ของ รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๙๑-๒๔๙๙ / กรมศิลปากร
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, เอกสารประกอบพิธีเปิดอาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถานที่สำคัญภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2009-05-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ โครงการอัครศิลปิน เพลงพระราชนิพนธ์ “เกษตรศาสตร์” เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ รศ. ม.ล. จารุพันธ์ ทองแถม, นนทรี-สีเขียว ไม้ยืนต้นสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
↑ 47.0 47.1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เอกสารประชาสัมพันธ์วันนนทรีทรงปลูก ดนตรีโปรด เก็บถาวร 2012-12-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2013-03-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-22
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : ต้นนนทรี เก็บถาวร 2010-12-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-2
↑ สภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำเนียบนายกสภา เรียกดูวันที่ 2020-12-18
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำเนียบอธิการบดี เก็บถาวร 2013-07-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ ศูนย์วิทยบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกระบี่ศูนย์วิทยบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกระบี่ เก็บถาวร 2005-11-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ประกาศมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อการจัดตั้งคณะเภสัชศาสตร์ และพัฒนาหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2567 https://eoffice.ku.ac.th/kuoffice/gen02/B30QyE.pdf
↑ "ประวัติความเป็นมา" . สืบค้นเมื่อ 2020-12-22 .
↑ ประกาศมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการโครงการจัดตั้งคณะศึกษาศาสตร์และวิทยาการการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ลงวันที่ 29 มีนาคม 2567 https://eoffice.ku.ac.th/kuoffice/gen05/7stTrp.pdf
↑ "มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา" . www.src.ku.ac.th . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2020-02-24. สืบค้นเมื่อ 2020-12-22 .
↑ สำนักงาน กพ., การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐ. ตามหนังสือ สำนักงาน ก.พ. ที่ นร 104/ ว.26 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 หน้าที่ 70 สืบค้นวันที่ 23 มกราคม 2567
↑ สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ งานวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2013-02-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-23
↑ ฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นโยบายวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ กระทรวงวิทยาศาสตร์ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สนับสนุนงานวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2009-01-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงนามระหว่าง มก.กับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาฯ เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการวิจัยเพื่อพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สู่การเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยรายงานฉบับสมบูรณ์ พ.ศ. 2548 เก็บถาวร 2009-02-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ม.เกษตรฯ กับความก้าวหน้าการเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ เก็บถาวร 2010-02-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบบงานวิจัยและงานสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2010-02-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ KASETSART JOURNAL เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นิทรรศการงานวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2010-01-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ฝ่ายวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2007-12-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แนะนำสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2008-06-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ สถาบันจัดอันดับแห่งประเทศไทย ฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อประเมินศักยภาพของมหาวิทยาลัยไทย เก็บถาวร 2007-08-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มติชนออนไลน์ 50 อันดับมหาวิทยาลัยไทย เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ "Kasetsart University" . Top Universities (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-01 .
↑ "Kasetsart University Rankings" . Top Universities (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-18 .
↑ "Kasetsart University" . Times Higher Education (THE) (ภาษาอังกฤษ). 2020-12-01. สืบค้นเมื่อ 2020-12-18 .
↑ "By subject" . Times Higher Education (THE) (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-18 .
↑ "World University Rankings 2021 by subject: computer science" . Times Higher Education (THE) (ภาษาอังกฤษ). 2020-10-26. สืบค้นเมื่อ 2020-12-18 .
↑ U.S. News & World Report [2] เรียกดูวันที่ 2022-04-21
↑ U.S. News & World Report [3] เรียกดูวันที่ 2022-04-21
↑ U.S. News & World Report [4] เรียกดูวันที่ 2022-04-21
↑ U.S. News & World Report [5] เรียกดูวันที่ 2022-04-21
↑ U.S. News & World Report [6] เรียกดูวันที่ 2022-04-21
↑ "Kasetsart University" . roundranking.com . สืบค้นเมื่อ 2020-12-19 .
↑ "Kasetsart University Ranking 2020-21 - Center for World University Rankings (CWUR)" . cwur.org . สืบค้นเมื่อ 2020-12-19 .
↑ "ShanghaiRanking's Global Ranking of Academic Subjects 2020 - Veterinary Sciences | Shanghai Ranking - 2020" . www.shanghairanking.com . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2017-07-01. สืบค้นเมื่อ 2020-12-19 .
↑ "ShanghaiRanking's Global Ranking of Academic Subjects 2020 - Food Science & Technology | Shanghai Ranking - 2020" . www.shanghairanking.com . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2020-01-31. สืบค้นเมื่อ 2020-12-19 .
↑ "ShanghaiRanking's Global Ranking of Academic Subjects 2020 - Agricultural Sciences | Shanghai Ranking - 2020" . www.shanghairanking.com . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-01-28. สืบค้นเมื่อ 2020-12-19 .
↑ "ShanghaiRanking's Global Ranking of Academic Subjects 2020 - Chemical Engineering | Shanghai Ranking - 2020" . www.shanghairanking.com . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2017-07-01. สืบค้นเมื่อ 2020-12-19 .
↑ "Research and Innovation Rankings - Thailand 2021" . www.scimagoir.com . สืบค้นเมื่อ 2022-04-21 .
↑ "UI Green Metric - Overall Rankings 2021" . www.greenmetric.ui.ac.id (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-04-21 .
↑ "UI Green Metric - Ranking by Country 2021 - Thailand" . www.greenmetric.ui.ac.id (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2022-06-27. สืบค้นเมื่อ 2022-04-21 .
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ตั้งวิทยาเขต เก็บถาวร 2008-07-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-2
↑ "ศูนย์สถานีวิจัย" . www.ku.ac.th . สืบค้นเมื่อ 2020-12-19 .{{cite web }}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์ )
↑ "โรงพยาบาลสัตว์" . vet.ku.ac.th . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-01-27. สืบค้นเมื่อ 2020-12-19 .
↑ 93.0 93.1 93.2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การพัฒนามหาวิทยาลัยไปสู่มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ เก็บถาวร 2008-06-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รายงานการบริหารงานที่กำลังดำเนินงานอยู่ในปัจจุบันโครงการ e-University เก็บถาวร 2008-06-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ สำนักทะเบียนและประมวลผลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักทะเบียนและประมวลผลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2008-07-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. [https://admission.ku.ac.th/media/announcements/2023/10/27/67-TCAS2-Medicine_Quota.pdf ประกาศมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่อง การรับสมัครและการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี โครงการส่งเสริมโอกาสศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประจำปีการศึกษา 2567 (TCAS รอบที่ 2 โควตา) ประกาศ ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566], กรุงเทพมหานคร, สืบค้น 25 มกราคม 2567
↑ 97.0 97.1 97.2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระเบียบการศึกษาและข้อบังคับการศึกษาปริญาตรีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-24
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระเบียบการศึกษาและข้อบังคับบางประการ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2013-02-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-24
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตวิทยาลัย เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่2013-02-24
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โครงการก้าวแรกสู่บัณฑิตยุคใหม่ ปีการศึกษา 2555 เรียกดูวันที่ 2013-02-24
↑ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แถลงข่าวงานเกษตรแห่งชาติ 2548 เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กิจกรรมชมรม/CKT5 เรียกดูวันที่2013-02-24
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เอกสารการสมัครการประกวดธิดาเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรและอนุปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2009-01-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พิธีประสาทปริญญาและอนุปริญญา ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พ.ศ. 2493 เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พิธีประสาทปริญญาและอนุปริญญา ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2499 เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร เก็บถาวร 2009-01-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2009-01-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๔๔ เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตร์ศาสตร์ วันสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครบรอบ 63 ปี เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประวัติโดยสังเขป มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บถาวร 2008-07-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตร์ศาสตร์ วันรำลึกถึงรัชกาลที่ 8 ทรงหว่านข้าว ณ เกษตรกลางบางเขน เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตร์ศาสตร์ บิดาการเกษตร เรียกดูวันที่ 2013-02-21
↑ "ขอเชิญร่วมงาน "สืบสาน วันสืบ นาคะเสถียร" ปี 2563" . www.ku.ac.th . สืบค้นเมื่อ 2020-12-18 .
↑ เดลินิวส์ ระลึก "วันนนทรี" ทรงปลูกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สืบค้น 2013-2-21
↑ Chulabhorn Research Institute. สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์กับสิ่งแวดล้อมโลก (HRH Princess Chulahorn Mahidol and World Environment) - พระประวัติด้านการศึกษาในประเทศ . เรียกดูวันที่ 2020-09-03
↑ Chulabhorn Research Institute. 1986: Einstein Gold Medal of UNESCO เก็บถาวร 2020-01-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน , เรียกดูวันที่ 2020-09-03
↑ กฤษณา ชุติมา. (2531). ที่ระลึกในพิธีเปิดอาคารสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 3 สิงหาคม 2531. ทูลกระหม่อมในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ . (น. 198 หน้า). กรุงเทพฯ: สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
↑ กฤษณา ชุติมา. (2536). สี่ปีในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ . วารสารไทย, 13(51), 13-17.
↑ rapee.org. ศาสตราจารย์ระพี สาคริก - ชีวิตเมื่อเยาว์วัยและการศึกษา เก็บถาวร 2020-10-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน . เรียกดูวันที่ 2020-09-03
↑ "20 เรื่องราวของ 'สืบ นาคะเสถียร' " . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2019-07-28. สืบค้นเมื่อ 2020-09-03 .
↑ ชีวประวัติ สืบ นาคะเสถียร
↑ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร. ลำดับชีวิต ประวัติ สืบ นาคะเสถียร . เรียกดูวันที่ 2020-09-03
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
13°50′52″N 100°34′15″E / 13.847747°N 100.57084°E / 13.847747; 100.57084
สัญลักษณ์ วิทยาเขต บางเขน กำแพงแสน เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ศรีราชา สถาบันสมทบ โรงพยาบาล องค์กรนิสิต อื่น ๆ
มหาวิทยาลัย สถาบัน วิทยาลัย
มหาวิทยาลัย สถาบัน วิทยาลัย