วัฒน์ วรรลยางกูร

วัฒน์ วรรลยางกูร
วัฒน์ วรรลยางกูร ขณะลี้ภัยในประเทศลาว ในภาพยนตร์ ไกลบ้าน (2019)
วัฒน์ วรรลยางกูร ขณะลี้ภัยในประเทศลาว ในภาพยนตร์ ไกลบ้าน (2019)
เกิด12 มกราคม พ.ศ. 2498
อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ประเทศไทย
เสียชีวิต21 มีนาคม พ.ศ. 2565 (67 ปี)
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
อาชีพนักเขียน, นักประพันธ์
สัญชาติไทย
ช่วงปีที่ทำงานพ.ศ. 2513 – 2565
คู่สมรสอัศนา วรรลยางกูร
บุตรวนะ วรรลยางกูร
วสุ วรรลยางกูร
วจนา วรรลยางกูร
บิดามารดาวิรัตน์ วรรลยางกูร (บิดา)
บุญส่ง วรรลยางกูร (มารดา)

วัฒน์ วรรลยางกูร (12 มกราคม พ.ศ. 2498 – 21 มีนาคม พ.ศ. 2565) เป็นนักเขียนชาวไทย อดีตที่ปรึกษาสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย[1] และสมาชิกสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน

ประวัติและการทำงาน

วัฒน์เมื่อปี 2019 ในที่พักขณะลี้ภัยในประเทศลาว

วัฒน์ วรรลยางกูร เกิดที่ตำบลตะลุง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เป็นบุตรชายของ นายวิรัตน์ และนางบุญส่ง วรรลยางกูร

ในด้านการประพันธ์ เนื่องจากมีโอกาสอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก เพราะใกล้ชิดคุณตาที่ชอบอ่านหนังสือมวยและมีนวนิยายอยู่มาก ส่วนบิดาอ่านนิตยสารคุณหญิงที่มีคอลัมน์ “แวดวงกวี” เมื่อเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 7 จึงเริ่มเขียนกลอนรักให้เพื่อนนักเรียนหญิง ต่อมาได้ออกหนังสือเพื่ออ่านกันในห้องเรียน เป็นหนังสือเขียนด้วยลายมือโดยเป็นผู้เขียนบทบรรณาธิการบริหาร อีกทั้งยังได้เขียนเรื่องสั้นไปลงในหนังสือโรเนียวของโรงเรียนที่ครูมีส่วนร่วมจัดทำขึ้น ใช้นามปากกา “วัฒนู บ้านทุ่ง” พร้อม ๆ กันนั้นได้ส่งผลงานทั้งกลอนและเรื่องสั้นไปยังนิตยสารชัยพฤกษ์, ฟ้าเมืองไทย ฯลฯ

แม้ระยะแรกไม่ได้ลงพิมพ์ แต่ก็ยังเขียนให้เพื่อน ๆ อ่าน จนในที่สุด เรื่องสั้นชื่อ “คนหากิน”ได้ลงพิมพ์เป็นครั้งแรกในหนังสือ ยานเกราะ เมื่อ พ.ศ. 2513 หลังจากส่งไปให้พิจารณาทั้งหมด 4 เรื่อง และแม้ว่าบรรณาธิการจะแก้ไขมากมาย แต่ก็ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น จากนั้นไม่นาน ผลงานกลอนที่ส่งไปประกวดได้ลงพิมพ์ในนิตยสาร ชัยพฤกษ์ และเรื่องสั้นชื่อ “มุมหนึ่งของเมืองไทย”ได้ลงพิมพ์ใน “เขาเริ่มต้นที่นี่”ของนิตยสาร ฟ้าเมืองไทย ที่มีอาจินต์ ปัญจพรรค์ เป็นบรรณาธิการ ขณะนั้นเป็นช่วงปิดภาคเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2

หลังจากนั้น มีผลงานกลอนและเรื่องสั้นเผยแพร่ตามนิตยสารต่าง ๆ มากขึ้น เช่น ฟ้าเมืองไทย ชาวกรุง ลลนา ฯลฯ ในนาม “วัฒน์ วรรลยางกูร” (ชื่อเดิม “วีรวัฒน์” ต่อมาเมื่อนามปากกาเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ประกอบกับมีปัญหาเรื่องการเบิกค่าเรื่องจึงแก้ไขชื่อในบัตรประชาชน) ระหว่างที่เรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้มีโอกาสคลุกคลีกับมิตรสหายในแผนกวรรณศิลป์ ได้รู้จักกับนักเขียนนักกิจกรรมหลายคน และได้รับคำแนะนำให้ไปทำหนังสือพิมพ์อธิปัตย์ ของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2517 จึงได้ฝึกฝนเขียนข่าว บทความ สารคดี เรื่องสั้นและนวนิยายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะได้เขียนคอลัมน์ประจำชื่อ “ช่อมะกอก” ใช้นามปากกา “ชื่นชอบ ชายบ่าด้าน” ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นเรื่องชุดในชื่อ “ตำบลช่อมะกอก”และกลายเป็นนวนิยายเรื่อง “ตำบลช่อมะกอก”ในที่สุด รวมทั้งมีผลงานรวมเรื่องสั้นและบทกวีพิมพ์ต่อเนื่องมาอีก 2 เล่มคือ “นกพิราบสีขาว” (พ.ศ. 2518) และ “กลั่นจากสายเลือด” (พ.ศ. 2519) ทำให้ชื่อเสียงของวัฒน์ วรรลยางกูร เป็นที่รู้จักของคนหนุ่มสาวเดือนตุลา (14 ตุลาคม 2516 - 6 ตุลาคม 2519) อย่างกว้างขวาง

เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในเหตุการณ์ 6 ตุลารุนแรงมาก นักศึกษาที่ชุมนุมอยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม วัฒน์ วรรลยางกูร ที่ร่วมชุมนุมด้วย จึงต้องหนีภัยการเมืองเข้าไปอยู่ในป่า ในช่วงนั้นได้มีโอกาสเขียนเรื่องสั้น บทกวี และนวนิยายมากมาย และมีผลงานรวมเล่มออกมา 3 เล่มคือ รวมเรื่องสั้นและบทกวี 2 เล่ม คือ “ข้าวแค้น” (พ.ศ. 2522) กับ “น้ำผึ้งไพร” (พ.ศ. 2523) ส่วนเล่มที่ 3 เป็นนวนิยายชื่อ “ด้วยรักแห่งอุดมการณ์” (พ.ศ. 2524)

วัฒน์ในปี 2019

พ.ศ. 2524 หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายลง วัฒน์ได้กลับคืนสู่เหย้ามาใช้ชีวิตนักเขียน โดยเริ่มต้นที่การประจำทำงานหนังสือพิมพ์มาตุภูมิ ไฮคลาส และถนนหนังสือ หลังจากทำได้ประมาณ 1 ปีก็ลาออกมาเป็นนักเขียนอิสระเต็มตัว เขียนนวนิยายเรื่อง “คือรักและหวัง” และ “จิ้งหรีดกับดวงดาว” ตีพิมพ์ในนิตยสารลลนา รายปักษ์ เรื่อง“บนเส้นลวด” ตีพิมพ์ในนิตยสารสตรีสารรายสัปดาห์ เรื่อง “มนต์รักทรานซิสเตอร์” ตีพิมพ์ในบางกอก เรื่อง “เทวีกองขยะ” ตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์ เป็นต้น หลังจากตีพิมพ์ในนิตยสารแล้ว เรื่องเหล่านั้นก็ยังได้รวมเล่มอีกหลายครั้งในโอกาสต่อมา นอกจากนี้ ยังมีผลงานเรื่องสั้น สารคดี และบทสัมภาษณ์ตีพิมพ์ในนิตยสารต่าง ๆ อีกมาก

พ.ศ. 2525 เรื่องสั้นชื่อ ความฝันวันประหาร ได้รับการเลือกสรรจากสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย ให้เป็นเรื่องสั้นดีเด่นประจำปี หลังจากใช้ชีวิตนักเขียนและช่วยงานนิตยสารหลายฉบับ ได้ไปทำธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างกับภรรยาที่จังหวัดกาญจนบุรีอยู่ระยะหนึ่ง และวนเวียนกลับไปทำงานนิตยสารอีกครั้งหนึ่ง เป็นคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน เป็นบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Good Life เป็นต้น และเนื่องจากเคยแต่งเพลงให้คนอื่นร้องไว้หลายเพลง จึงทดลองแต่งและเป็นนักร้องออกเทปเพลงของตนเองไว้หลายชุด แต่ก็ยังคงยึดงานประพันธ์เรื่องสั้น นวนิยาย บทกวี สารคดี ความเรียง และอื่น ๆ เป็นหลักเรื่อยมา

พ.ศ. 2550 กองทุนศรีบูรพามอบรางวัลนักเขียนรางวัลศรีบูรพาให้กับวัฒน์[2]

วัฒน์ปฏิเสธอำนาจของคณะรัฐประหาร พ.ศ. 2557 ด้วยการไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2557[3] โดยลี้ภัยไปยังยุโรป[4] เนื่องจากถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายอาญามาตรา 112

วัฒน์ ป่วยด้วยโรคเนื้องอกในตับ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเบอซ็องซง ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเวลาท้องถิ่น 21.30 น. ของวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2565 สิริอายุ 67 ปี[5]วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2565 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จรัล ดิษฐาอภิชัย เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพที่กรุงปารีส

เขาสมรสกับ นางอัศนา วรรลยางกูร มีบุตร 3 คน คือ วนะ วรรลยางกูร, วสุ วรรลยางกูร และวจนา วรรลยางกูร

การศึกษา

  • พ.ศ. 2505 เข้าเรียนชั้นประถมปีที่ 1 ที่โรงเรียนประชาบาลวัดดาวเรือง ปทุมธานี
  • พ.ศ. 2508 เข้าเรียนชั้นประถมปีที่ 5 ศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ ลพบุรี
  • พ.ศ. 2514 เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี โดยไปเป็นเด็กวัดอยู่ในเมืองลพบุรี สอบตกชั้น ม.ศ.5 เพราะกำลังเริ่มสนใจการประพันธ์อย่างจริงจัง จนต้องเรียนซ้ำชั้น แต่สอบเทียบได้จึงเลิกเรียนและเข้ากรุงเทพฯ
  • ต้นปี พ.ศ. 2517 สมัครเรียนที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่เรียนอยู่เพียง 2 เดือน ก็เลิกแล้วหันไปทำงานด้านหนังสือพิมพ์จริงจัง
  • พ.ศ. 2546 ได้รับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาภาษาไทย จากมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี

ผลงาน

รวมเรื่องสั้น

  • นกพิราบสีขาว (2518) เมื่อพิมพ์ครั้งที่สอง เปลี่ยนชื่อเป็น ความหวังเมื่อเก้านาฬิกา (2523)
  • กลั่นจากสายเลือด (2519)
  • ข้าวแค้น (2522)
  • น้ำผึ้งไพร (2523)
  • ใต้เงาปืน
  • งูกินนา (2529)
  • นครแห่งดวงดาว
  • ฝุ่นรอฝน (2526)
  • ลูกพ่อคนหนึ่ง (ถากไม้เหมือนหมาเลีย) เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ประจำปี พ.ศ. 2530
  • กลับมาเมื่อฟ้าค่ำ (2528)
  • เรื่องเล่าอันพร่าเลือน (2532)
  • รถไฟสังกะสี ขบวนหนึ่ง ๒๕๑๓-๒๕๒๓ (2532)
  • รถไฟสังกะสี ขบวนสอง ๒๕๒๔-๒๕๒๘ (2533)
  • นิยายของยาย (รวมเรื่องสั้นชุดจบในตอน 2536)
  • สู่เสรี (2539)
  • ปลาหมอตายเพราะไม่หายใจ (2549)

นวนิยาย

  • ตำบลช่อมะกอก (2519) โครงการรู้จักเพื่อนบ้านของมูลนิธิโตโยต้า คัดเลือกไปแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น
  • ด้วยรักแห่งอุดมการณ์ (2524)
  • คือรักและหวัง (2525) เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ประจำปี พ.ศ. 2528
  • บนเส้นลวด (2525)
  • มนต์รักทรานซิสเตอร์ (2524) และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ปี พ.ศ. 2544 โดยผู้กำกับเป็นเอก รัตนเรือง
  • จิ้งหรีดกับดวงดาว (2531)
  • ปลายนาฟ้าเขียว (2532) เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ประจำปี พ.ศ. 2534
  • เทวีกองขยะ (2538)
  • ฉากและชีวิต (2539) เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ประจำปี พ.ศ. 2540
  • สิงห์สาโท (2543) เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ประจำปี พ.ศ. 2543
  • The pickup ขับชีวิตสุดขอบฟ้า (2548)

บทกวี

  • ฝันให้ไกลไปให้ถึง (2523) (ใช้ชื่อ “รอยสัก” 2528)
  • เงาไม้ลายรวง (2534) เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ ประจำปี พ.ศ. 2534
  • กระท่อมเสรีภาพ (2538)
  • เสน่หาป่าเขา (2538)

เพลง

  • แรงบันดาลใจ (2537)
  • ไม่ขาย (2539)
  • ดินสอโดมธรรมศาสตร์เด่นสู้ศึก (2544)

สารคดี

  • คีตกวีลูกทุ่ง ไพบูลย์ บุตรขัน (2541)
  • ไขแสง สุกใส ลูกผู้ชายหัวใจไม่ผูกเชือก (2543)
  • ป่าเหนือเมื่อดอกไม้บาน (2543,2544)
  • หอมดินเคล้ากลิ่นไอฝน (2544)
  • นิราศ A 30 ท่องป่าเหนือสุดแดนลาวชมสาวหลวงพระบาง (2546)
  • ภูมิปัญญาที่ดื่มได้ (2546)
  • บุญเลิศ ช้างใหญ่ คนดีที่กล้าหาญ (2547)
  • ทูล ทองใจ เทพบุตรเสียงกังสดาล (2551)
  • ชีวิตเพื่อประชาธิปไตย คน 4 คุก ไข่มุกดำ (2551)

ความเรียง และสาระนิยาย

  • เสียงเต้นของหัวใจ (2537)
  • แรมทางกลางฝุ่น:สาระนิยายชีวิตและความผูกพันหลังพวงมาลัย (2539)
  • ไพร่กวี (2554)

อ้างอิง

  1. สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
  2. "วัฒน์ วรรลยางกูร นักเขียนรางวัลศรีบูรพา คนที่ ๑๙ ประจำปี ๒๕๕๐ – กองทุนศรีบูรพา" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  3. ยังอยู่ดี นักเขียนดัง ผู้ปฏิเสธคำสั่งคสช. ไปเป็น "ผู้ลี้ภัยการเมือง"
  4. "วัฒน์ วรรลยางกูร กวีไกลบ้าน กับ 5 ปีที่พลัดถิ่น". BBC News ไทย. 2 กรกฎาคม 2019.
  5. "วัฒน์ วรรลยางกูร : มิตรสหายร่วมไว้อาลัยการจากไปของวัฒน์ในฝรั่งเศส". BBC News ไทย. 22 มีนาคม 2022.

แหล่งข้อมูลอื่น


Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!