ดิเอราส์ทัวร์
ดิเอราส์ทัวร์ คอนเสิร์ตทัวร์ โดยเทย์เลอร์ สวิฟต์ ใบปิดประชาสัมพันธ์
สถานที่ที่จัดทัวร์
ยุโรป
ออสเตรเลีย
อเมริกาเหนือ
อเมริกาใต้
เอเชีย
อัลบั้ม สตูดิโออัลบั้ม ทั้งหมดของสวิฟต์[ a] วันเริ่มต้นการแสดง 17 มีนาคม ค.ศ. 2023 (2023-03-17 ) วันสิ้นสุดการแสดง 8 ธันวาคม ค.ศ. 2024 (2024-12-08 ) จำนวนรอบแสดง 149 วงเปิด ผู้เข้าร่วม 10.1 ล้าน[ 1] บ็อกซ์ออฟฟิศ 2.077 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[ 2] เว็บไซต์ tstheerastour .taylorswift .com ลำดับคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์
ดิเอราส์ทัวร์ (อังกฤษ : The Eras Tour ) เป็นคอนเสิร์ตทัวร์ ที่ 6 ของนักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เทย์เลอร์ สวิฟต์ เธออธิบายว่าเป็นการเดินทางผ่าน "ยุคดนตรี" ทั้งหมดของเธอ[ 3] ดิเอราส์ทัวร์เป็นการแสดงดนตรีจากผลงานสตูดิโออัลบั้มทั้งหมดของสวิฟต์ รวมไปถึงผลงานล่าสุด มิดไนส์ (2022) และอัลบั้มที่ยังไม่เคยได้ออกทัวร์เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 : เลิฟเวอร์ (2019) โฟล์กลอร์ (2020) และเอฟเวอร์มอร์ (2020) นับว่าเป็นการแสดงที่สนามกีฬา เป็นครั้งที่สองถัดจากเรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ ในปี 2018
โดยจะเริ่มจัดครั้งแรกในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2023 ในเกล็นเดล รัฐแอริโซนา และสิ้นสุดในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ในแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ใช้เวลาในการแสดงรวมทั้งหมดกว่าสามชั่วโมง จากรายการเพลงทั้งหมด 44 เพลง ซึ่งแบ่งออกเป็น 10 การแสดงที่แตกต่างกันโดยอิงจากแนวคิดและรูปแบบจากผลงานสตูดิโออัลบั้มของสวิฟต์ โดยการแสดงได้รับเสียงชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์ในการวางแนวคิด การผลิต ความสวยงาม และความเป็นนักดนตรี เสียงร้อง เสน่ห์ ความแข็งแกร่ง และความเก่งกาจของสวิฟต์ในฐานะผู้ให้ความบันเทิง
ปรากฏการณ์ความต้องการตั๋วอย่างไม่เคยเป็นที่ไหนมาก่อนของดิเอราส์ทัวร์ พบว่ามีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 3.5 ล้านคน บนโปรแกรมการขายตั๋วล่วงหน้าของทิกเก็ตมาสเตอร์ ในสหรัฐ แม้ว่าเว็บไซต์ของแพลตฟอร์มจะล่มทันทีหลังจากเปิดขายล่วงหน้าในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022 แต่ตั๋วทัวร์คอนเสิร์ตขายได้มากกว่า 2.4 ล้านใบในวันนั้น ทำลายสถิติบัตรคอนเสิร์ตที่ศิลปินขายมากที่สุดในวันเดียว อย่างไรก็ตามทิกเก็ตมาสเตอร์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาการจำหน่ายและการผูกขาด ภายในธุรกิจการแสดงคอนเสิร์ต จนนำไปสู่การพิจารณาทางการเมือง นักข่าวได้อธิบายถึงปรากฏการณ์นี้ว่าเป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงผลวัฒนธรรมประชานิยม สื่อสังคมและเศรษฐกิจของสวิฟต์
สวิฟต์ได้ประกาศและออกผลงานต่าง ๆ ในระหว่างการทัวร์ ได้แก่ อัลบั้มที่บันทึกเสียงใหม่ สปีกนาว (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) และ 1989 (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอสำหรับ "คาร์มา " และ "ไอแคนซียู " อัลบั้ม มิดไนส์ เวอร์ชันขยาย และสตูดิโอที่สิบเอ็ดอัลบั้ม เดอะทอร์เชอด์โพอิตส์ดีพาร์ตเมนต์ (2024) และการประกาศให้เพลง "ครูเอลซัมเมอร์ " เป็นซิงเกิล ภาพยนตร์คอนเสิร์ต เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2023 ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และกลายเป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์
เบื้องหลัง
เทย์เลอร์ สวิฟต์ขณะทำการแสดงในเรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ (2018) คอนเสิร์ตทัวร์ในอเมริกาเหนือที่ทำรายได้สูงสุด
เทย์เลอร์ สวิฟต์เริ่มทัวร์เรพิวเทชันสเตเดียมทัวร์ ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตทัวร์ครั้งที่ 5 ของเธอในปี 2018 เพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 6 เรพิวเทชัน (2017) โดยทำลายสถิติการทัวร์ในอเมริกาที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์[ 4] การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2020 ส่งผลให้สวิฟต์ต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 6 ของเธอในชื่อเลิฟเวอร์เฟสต์ เพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 7 เลิฟเวอร์ (2019)[ 5] [ 6] ในช่วงเวลานั้นเธอได้ออกสตูดิโออัลบั้มสามชุด ได้แก่ โฟล์กลอร์ (2020), เอฟเวอร์มอร์ (2020) และ มิดไนส์ (2022); และสองอัลบั้มที่บันทึกเสียงใหม่ ได้แก่ เฟียร์เลส (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) และ เรด (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) ในปี 2021[ 7]
การจำหน่ายบัตร
การจำหน่ายบัตรเข้าชมของคอนเสิร์ตดิเอราส์ทัวร์ได้รับการจัดการโดยตัวแทนจำหน่ายบัตรต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น ทิกเก็ตมาสเตอร์ในหลายวันรอบการแสดง ซึ่งเกิดความต้องการที่สร้างสถิติใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน บัตรเข้าชมทุกสถานที่จำหน่ายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง[ 8] [ 9] ฝ่ายการขายเผชิญกับข้อผิดพลาดทางเทคนิคในหลายประเทศ มีการรายงานว่ามีการซื้อบัตรเข้าชมจำนวนมากโดยนักเก็งกำไรและบอต ในสถานที่หลายแห่ง ส่งผลให้บัตรเข้าชมถูกแสดงบนแพลตฟอร์มการจำหน่ายต่อด้วยราคาที่สูงเกินไป[ 10] [ 11] สตับฮับได้ตั้งข้อสังเกตว่ายอดการจำหน่ายบัตรของดิเอราส์ทัวร์ "กำลังถูกติดตามว่าเป็นศิลปินที่ขายดีที่สุดที่ [พวกเขา] เคยเห็น"[ 12]
การผลิต
ดิเอราส์ทัวร์ผลิตโดยเทย์เลอร์สวิฟต์ทัวริง ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตทัวร์ภายในของสวิฟต์เอง[ 13] หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า ทัวร์นี้เป็นหนึ่งในผลงานที่มีราคาแพงที่สุดและ "มีความทะเยอทะยานทางเทคนิคมากที่สุด" ของศตวรรษที่ 21[ 14] นิตยสารการออกแบบภายใน อาคิเทคเชอร์แรลไดเกสต์ ยกย่องการออกแบบฉากของทัวร์สวิฟต์ว่า "มีความทะเยอทะยานที่สุด" และยกย่องด้านการสร้างโลก[ 15]
ภาพยนตร์
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2023 สวิฟต์ได้เปิดตัวภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ผลิตเองเรื่อง เทย์เลอร์ สวิฟต์: ดิเอราส์ทัวร์ กำกับโดยแซม เวนช์ ออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก[ 16] สวิฟต์ได้ร่วมมือกับโรงภาพยนตร์ โดยตรงในการเคลื่อนไหวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อจัดจำหน่ายและจัดแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ แทนที่จะเป็นสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์รายใหญ่ กลายเป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล[ 17] [ 18]
รางวัล
รายการเพลง
มีนาคม 2023 ถึงมีนาคม 2024
รายการต่อไปนี้มาจากคอนเสิร์ตในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2023 ในเกลนเดล รัฐแอริโซนา ; ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อแสดงถึงการแสดงทั้งหมดของทัวร์[ 31]
การเปลี่ยนแปลง
เพลง "The 1 " แทนที่เพลง "Invisible String" โดยเริ่มจากการแสดงในเมืองอาร์ลิงตัน[ 32] ยกเว้นในการแสดงที่แนชวิลล์ในครั้งที่สอง ซึ่งสวิฟต์แสดงเพลง "Invisible String" เพื่อเป็นเกียรติแก่ม้านั่งที่สวนเซ็นเทนเนียลพาร์กซึ่งทำขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเธอ[ 33]
มีการเพิ่มเพลง "Nothing New" ก่อนเพลง "All Too Well (10 Minute Version)" ในรายการที่เปิดโดยฟีบี บริดเจอรส์ ซึ่งแสดงเพลงร่วมกับสวิฟต์[ 34] [ 35]
มีการเพิ่มเพลง "Long Live " หลังจากแสดงเพลง "Enchanted" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงในอัลบั้ม สปีกนาว หลังจากการเปิดตัวอัลบั้ม สปีกนาว (เทย์เลอร์เวอร์ชัน) โดยเริ่มจากการแสดงในแคนซัสซิตี[ 36] [ 32]
เพลง "No Body, No Crime " แทนที่เพลง "'Tis the Damn Season" ในการแสดงที่เปิดโดยไฮม์ ซึ่งแสดงเพลงนี้ร่วมกับสวิฟต์[ 37]
พฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป
รายการต่อไปนี้มาจากการแสดงครั้งแรกของทัวร์หลังจากการปรับเปลี่ยนในรายการแสดง (วันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 ในนองแตร์) เพื่อรองรับสตูดิโออัลบั้มที่เพิ่งออกใหม่ของสวิฟต์ เดอะทอร์เชอด์โพอิตส์ดีพาร์ตเมนต์ [ 38] [ 39] [ 40]
องก์ที่ 1 – เลิฟเวอร์
"Miss Americana & the Heartbreak Prince"
"Cruel Summer"
"The Man"
"You Need to Calm Down"
"Lover"
องก์ที่ 2 – เฟียร์เลส
"Fearless"
"You Belong with Me"
"Love Story"
องก์ที่ 3 – เรด
"22"
"We Are Never Ever Getting Back Together"
"I Knew You Were Trouble"
"All Too Well (10 Minute Version)"
องก์ที่ 4 – สปีกนาว
"Enchanted"
องก์ที่ 5 – เรพิวเทชัน
"...Ready for It?"
"Delicate"
"Don't Blame Me"
"Look What You Made Me Do"
องก์ที่ 6 – โฟล์กลอร์ และ เอฟเวอร์มอร์
"Cardigan"
"Betty"
"Champagne Problems"
"August"
"Illicit Affairs"
"My Tears Ricochet"
"Marjorie"
"Willow"
องก์ที่ 7 – 1989
"Style"
"Blank Space"
"Shake It Off"
"Wildest Dreams"
"Bad Blood"
องก์ที่ 8 – เดอะทอร์เชอด์โพอิตส์ดีพาร์ตเมนต์
"But Daddy I Love Him"
"So High School"
"Who's Afraid of Little Old Me?"
"Down Bad"
"Fortnight "
"The Smallest Man Who Ever Lived"
"I Can Do It with a Broken Heart "
องก์ที่ 9 – การแสดงอะคูสติก
เพลงเซอร์ไพรส์กีตาร์
เพลงเซอร์ไพรส์เปียโน
องก์ที่ 10 – มิดไนส์
"Lavender Haze"
"Anti-Hero"
"Midnight Rain"
"Vigilante Shit"
"Bejeweled"
"Mastermind"
"Karma"
การเปลี่ยนแปลง
ในรอบการแสดงที่ 8 ของคอนเสิร์ตที่ลอนดอน วันอังคารที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2024 สวิฟต์แสดงเพลง "Florida!!!" ร่วมกับ ฟลอเรนซ์ เวลช์ จาก ฟลอเรนซ์แอนด์เดอะแมชชีน หลังแสดงเพลง "So High School" จบ[ 41]
เพลงเซอร์ไพรส์
สวิฟต์ทำการแสดงสองเพลงจากรายชื่อผลงานของเธอในแต่ละการแสดงเป็น "เพลงเซอร์ไพรส์" ซึ่งอยู่ในองก์ที่เก้า โดยเพลงแรกเล่นด้วยกีตาร์อะคูสติก และเพลงที่สองเล่นโดยเปียโน[ 42] [ 43] [ 44]
2023
17 มีนาคม – เกลนเดล: "Mirrorball" และ "Tim McGraw "
18 มีนาคม – เกลนเดล: "This Is Me Trying" and "State of Grace"
24 มีนาคม – ลาสเวกัส: "Our Song " และ "Snow on the Beach "
25 มีนาคม – ลาสเวกัส: "Cowboy like Me" (ร่วมกับมาร์คัส มัมฟอร์ด) และ "White Horse "
31 มีนาคม – อาร์ลิงตัน: "Sad Beautiful Tragic" และ "Ours "
1 เมษายน – อาร์ลิงตัน: "Death by a Thousand Cuts" และ "Clean"
2 เมษายน – อาร์ลิงตัน: "Jump then Fall" และ "The Lucky One"
13 เมษายน – แทมปา: "Speak Now " และ "Treacherous"
14 เมษายน – แทมปา: "The Great War" (ร่วมกับแอรอน เดสเนอร์ ) และ "You're on Your Own, Kid"
15 เมษายน – แทมปา: "Mad Woman" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "Mean "
21 เมษายน – ฮิวสตัน: "Wonderland" และ "You're Not Sorry"
22 เมษายน – ฮิวสตัน: "A Place in This World" และ "Today Was a Fairytale "
23 เมษายน – ฮิวสตัน: "Begin Again " และ "Cold as You"
28 เมษายน – แอตแลนตา: "The Other Side of the Door" และ "Coney Island "
29 เมษายน – แอตแลนตา: "High Infidelity" และ "Gorgeous "
30 เมษายน – แอตแลนตา: "I Bet You Think About Me " และ "How You Get the Girl"
5 พฤษภาคม – แนชวิลล์: "Sparks Fly " และ "Teardrops on My Guitar "
6 พฤษภาคม – แนชวิลล์: "Out of the Woods " และ "Fifteen "
7 พฤษภาคม – แนชวิลล์: "Would've, Could've, Should've" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "Mine "
12 พฤษภาคม – ฟิลาเดลเฟีย: "Gold Rush" และ "Come Back... Be Here"
13 พฤษภาคม – ฟิลาเดลเฟีย: "Forever & Always" และ "This Love"
14 พฤษภาคม – ฟิลาเดลเฟีย: "Hey Stephen" และ "The Best Day"
19 พฤษภาคม – ฟอกซ์โบโร: "Should've Said No " และ "Better Man"
20 พฤษภาคม – ฟอกซ์โบโร: "Question...?" และ "Invisible"
21 พฤษภาคม – ฟอกซ์โบโร: "I Think He Knows" และ "Red "
26 พฤษภาคม – อีสต์รัทเธอร์ฟอร์ด: "Getaway Car " (ร่วมกับแจ็ก แอนโตนอฟฟ์ ) และ "Maroon"
27 พฤษภาคม – อีสต์รัทเธอร์ฟอร์ด: "Holy Ground" และ "False God"
28 พฤษภาคม – อีสต์รัทเธอร์ฟอร์ด: "Welcome to New York " และ "Clean"
2 มิถุนายน – ชิคาโก: "I Wish You Would" และ "The Lakes "
3 มิถุนายน – ชิคาโก: "You All Over Me" (ร่วมกับมาเรน มอร์ริส) และ "I Don't Wanna Live Forever "
4 มิถุนายน – ชิคาโก: "Hits Different" และ "The Moment I Knew"
9 มิถุนายน – ดีทรอยต์: "Haunted" และ "I Almost Do"
10 มิถุนายน – ดีทรอยต์: "All You Had to Do Was Stay" และ "Breathe"
16 มิถุนายน – พิตต์สเบิร์ก: "Mr. Perfectly Fine " และ "The Last Time "
17 มิถุนายน – พิตต์สเบิร์ก: "Seven" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "The Story of Us "
23 มิถุนายน – มินนีแอโพลิส: "Paper Rings" และ "If This Was a Movie"
24 มิถุนายน – มินนีแอโพลิส: "Dear John" และ "Daylight"
30 มิถุนายน – ซินซินแนติ: "I'm Only Me When I'm with You" และ "Evermore"
1 กรกฎาคม – ซินซินแนติ: "Ivy" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "Call It What You Want "
7 กรกฎาคม – แคนซัสซิตี: "Never Grow Up" และ "When Emma Falls in Love"
8 กรกฎาคม – แคนซัสซิตี: "Last Kiss" และ "Dorothea"
14 กรกฎาคม – เดนเวอร์: "Picture to Burn " และ "Timeless"
15 กรกฎาคม – เดนเวอร์: "Starlight" และ "Back to December "
22 กรกฎาคม – ซีแอตเทิล: "This Is Why We Can't Have Nice Things" และ "Everything Has Changed "
23 กรกฎาคม – ซีแอตเทิล: "Message in a Bottle " และ "Tied Together with a Smile"
28 กรกฎาคม – ซานตาคลารา: "Right Where You Left Me" (ร่วมกับเดสเนอร์) และ "Castles Crumbling"
29 กรกฎาคม – ซานตาคลารา: "Stay Stay Stay" และ "All of the Girls You Loved Before "
3 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "I Can See You " และ "Maroon"
4 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "Our Song" และ "You Are in Love"
5 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "Death by a Thousand Cuts" และ "You're on Your Own, Kid"
7 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "Dress" และ "Exile "
8 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "I Know Places" และ "King of My Heart"
9 สิงหาคม – ลอสแอนเจลิส: "New Romantics " และ "New Year's Day "
24 สิงหาคม – เม็กซิโกซิตี: "I Forgot That You Existed" และ "Sweet Nothing"
25 สิงหาคม – เม็กซิโกซิตี: "Tell Me Why" และ "Snow on the Beach"
26 สิงหาคม – เม็กซิโกซิตี: "Cornelia Street" และ "You're on Your Own, Kid"
27 สิงหาคม – เม็กซิโกซิตี: "Afterglow" และ "Maroon"
9 พฤศจิกายน – บัวโนสไอเรส: "The Very First Night" และ "Labyrinth"
11 พฤศจิกายน – บัวโนสไอเรส: "Is It Over Now? " / "Out of the Woods" และ "End Game "
12 พฤศจิกายน – บัวโนสไอเรส: "Better than Revenge" และ "Slut! "
17 พฤศจิกายน – รีโอเดจาเนโร: "Stay Beautiful" และ "Suburban Legends"
19 พฤศจิกายน – รีโอเดจาเนโร: "Dancing with Our Hands Tied" และ "Bigger Than the Whole Sky"
20 พฤศจิกายน – รีโอเดจาเนโร: "Me! " และ "So It Goes…"
24 พฤศจิกายน – เซาเปาลู: "Now That We Don't Talk" และ "Innocent"
25 พฤศจิกายน – เซาเปาลู: "Safe & Sound " และ "Untouchable"
26 พฤศจิกายน – เซาเปาลู: "Say Don't Go" และ "It's Time to Go"
2024
7 กุมภาพันธ์ – โตเกียว: "Dear Reader" และ "Holy Ground"
8 กุมภาพันธ์ – โตเกียว: "Eyes Open " และ "Electric Touch"
9 กุมภาพันธ์ – โตเกียว: "Superman" และ "The Outside"
10 กุมภาพันธ์ – โตเกียว: "Come In with the Rain" และ "You're on Your Own, Kid"
16 กุมภาพันธ์ – เมลเบิร์น: "Red" และ "You're Losing Me"
17 กุมภาพันธ์ – เมลเบิร์น: "Getaway Car" / "August" / "The Other Side of the Door" และ "This Is Me Trying"
18 กุมภาพันธ์ – เมลเบิร์น: "Come Back... Be Here" / "Daylight" และ "Teardrops on My Guitar"
23 กุมภาพันธ์ – ซิดนีย์: "How You Get The Girl" และ "White Horse" / "Coney Island" (ร่วมกับ ซาบรินา คาร์เพนเทอร์ )
24 กุมภาพันธ์ – ซิดนีย์: "Should've Said No" / "You're Not Sorry" และ "New Year's Day" / "Peace"
25 กุมภาพันธ์ – ซิดนีย์: "Is It Over Now?" / "I Wish You Would" and "Haunted" / "Exile"
26 กุมภาพันธ์ – ซิดนีย์: "Would've, Could've, Should've" / "Ivy" and "Forever & Always" / "Maroon"
2 มีนาคม – สิงคโปร์: "Mine" / "Starlight" และ "I Don't Wanna Live Forever" / "Dress"
3 มีนาคม – สิงคโปร์: "Long Story Short" / "The Story of Us" and "Clean" / "Evermore"
4 มีนาคม – สิงคโปร์: "Foolish One" / "Tell Me Why" และ "This Love" / "Call It What You Want"
7 มีนาคม – สิงคโปร์: "Death By A Thousand Cuts" / "Babe" และ "Fifteen" / "You're on Your Own, Kid"
8 มีนาคม – สิงคโปร์: "Sparks Fly" / "Gold Rush" และ "False God" / "Slut!"
9 มีนาคม – สิงคโปร์: "Tim McGraw" / "Cowboy Like Me" และ "Mirrorball" / "Epiphany"
9 พฤษภาคม – ปารีส: "Paris" และ "Loml"
10 พฤษภาคม – ปารีส: "Is It Over Now?" / "Out of the Woods" และ "My Boy Only Breaks His Favorite Toys"
11 พฤษภาคม – ปารีส: "Hey Stephen" และ "Maroon"
12 พฤษภาคม – ปารีส: "The Alchemy" / "Treacherous" and "Begin Again" / "Paris"
17 พฤษภาคม – สต็อกโฮล์ม: "I Think He Knows" / "Gorgeous" and "Peter"
18 พฤษภาคม – สต็อกโฮล์ม: "Guilty as Sin?" and "Say Don't Go" / "Welcome to New York" / "Clean"
19 พฤษภาคม – สต็อกโฮล์ม: "Message in a Bottle" / "How You Get the Girl" / "New Romantics" and "How Did It End?"
24 พฤษภาคม – ลิสบอน: "Come Back... Be Here" / "The Way I Loved You" / "The Other Side of the Door" and "Fresh Out the Slammer" / "High Infidelity"
25 พฤษภาคม – ลิสบอน: "The Tortured Poets Department" / "Now That We Don't Talk" and "You're on Your Own, Kid" / "Long Live"
29 พฤษภาคม – มาดริด: "Sparks Fly" / "I Can Fix Him (No Really I Can)" and "I Look in People's Windows" / "Snow on the Beach"
30 พฤษภาคม – มาดริด: "Our Song" / "Jump then Fall" and "King of My Heart"
2 มิถุนายน – ลียง: "The Prophecy" / "Long Story Short" and "Fifteen" / "You're on Your Own, Kid"
3 มิถุนายน – ลียง: "Glitch" / "Everything Has Changed" and "Chloe or Sam or Sophia or Marcus"
7 มิถุนายน – เอดินบะระ: "Would've, Could've, Should've" / "I Know Places" and "' Tis the Damn Season" / "Daylight"
8 มิถุนายน – เอดินบะระ: "The Bolter" / "Getaway Car" and "All of the Girls You Loved Before" / "Crazier "
9 มิถุนายน – เอดินบะระ: "It's Nice to Have a Friend" / "Dorothea" and "Haunted" / "Exile"
13 มิถุนายน – ลิเวอร์พูล: "I Can See You" / "Mine" and "Cornelia Street" / "Maroon"
14 มิถุนายน – ลิเวอร์พูล: "This Is What You Came For" / "Gold Rush" and "The Great War" / "You're Losing Me"
15 มิถุนายน – ลิเวอร์พูล: "Carolina" / "No Body, No Crime" and "The Manuscript" / "Red"
18 มิถุนายน – คาร์ดิฟฟ์: "I Forgot That You Existed" / "This Is Why We Can't Have Nice Things" and "I Hate It Here" / "The Lakes"
21 มิถุนายน – ลอนดอน: "Hits Different" / "Death by a Thousand Cuts" and "The Black Dog" / "Come Back... Be Here" / "Maroon"
การแสดง
หมายเหตุ
อ้างอิง
↑ Sisario, Ben (December 9, 2024). "Taylor Swift's Eras Tour Grand Total: A Record $2 Billion" . The New York Times . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 9, 2024. สืบค้นเมื่อ December 9, 2024 .
↑ Dellatto, Marisa (October 15, 2023). "The Top-Earning Summer Concert Tours Of 2023" . Forbes . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ October 15, 2023. สืบค้นเมื่อ October 15, 2023 .
↑ Bernabe, Angeline Jane; McCarthy, Kelly (November 1, 2022). "Taylor Swift announces 'Eras' tour: 'It's a journey through all of my musical eras of my career' " . KTRK-TV . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2022. สืบค้นเมื่อ June 5, 2023 .
↑ Frankenberg, Eric (November 30, 2018). "Taylor Swift's Reputation Stadium Tour Breaks Record for Highest-Grossing U.S. Tour" . Billboard . ISSN 0006-2510 . OCLC 1532948 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2023. สืบค้นเมื่อ December 8, 2022 .
↑ Willman, Chris (February 27, 2021). "Taylor Swift Makes It Official: 'Lover Fest' Shows Won't Be Rescheduled" . Variety . ISSN 0042-2738 . OCLC 810134503 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ April 1, 2023. สืบค้นเมื่อ April 3, 2023 .
↑ Atkinson, Katie (February 26, 2021). "Taylor Swift Officially Cancels Lover Fest Concerts" . Billboard . ISSN 0006-2510 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ April 4, 2023. สืบค้นเมื่อ April 23, 2023 .
↑ Willman, Chris (November 1, 2022). "Taylor Swift Announces 2023 'Eras Tour' of U.S. Stadiums" . Variety . ISSN 0042-2738 . OCLC 810134503 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 4, 2022. สืบค้นเมื่อ November 1, 2022 .
↑ "Taylor-Swift-Tickets in 30 Minuten weg – jetzt werden sie weiterverkauft" [Taylor Swift tickets gone in 30 minutes - now resale]. 20 Minuten (ภาษาเยอรมัน). July 13, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 13, 2023. สืบค้นเมื่อ July 13, 2023 .
↑ Ong, Shynn; Wee, Gladys (July 8, 2023). "Taylor Swift's Singapore concert tickets sell out in 8 hours; fans hit by sale glitches call for better systems" . Today . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 8, 2023. สืบค้นเมื่อ July 8, 2023 .
↑ Roeloffs, Mary Whitfill. "Eras Tour Headaches Take U.K.: Taylor Swift Fans Complain About Website Malfunctions, Scalpers As Tickets Released" . Forbes . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 12, 2023. สืบค้นเมื่อ July 13, 2023 .
↑ "Taylor Swift: What Asian fans did for her concert tickets" . BBC News. July 7, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 8, 2023. สืบค้นเมื่อ July 8, 2023 .
↑ Rodriguez, Gloria (July 21, 2023). "Hotels are pretty much booked up for upcoming Taylor Swift concerts in Santa Clara" . KGO-TV. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 22, 2023. สืบค้นเมื่อ July 22, 2023 .
↑ Lipshutz, Jason (November 1, 2022). "Taylor Swift Announces U.S. Dates for 2023 Eras Tour" . Billboard . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2022. สืบค้นเมื่อ August 4, 2023 .
↑ Shah, Neil (June 26, 2023). "Will Taylor Swift's 'Eras Tour' Become the First $1 Billion Dollar Tour?" . The Wall Street Journal . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2023. สืบค้นเมื่อ June 26, 2023 .
↑ McLaughlin, Katherine (March 24, 2023). "The Eras Tour: The Intricate World-Building Behind Taylor Swift's Most Ambitious Sets Ever" . Architectural Digest . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ March 24, 2023. สืบค้นเมื่อ March 25, 2023 .
↑ Snapes, Laura (September 26, 2023). "Taylor Swift: Eras tour concert film to get global release in October" . The Guardian . ISSN 0261-3077 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2023. สืบค้นเมื่อ September 26, 2023 .
↑ "Taylor Swift tour film tops $100m in advance ticket sales" . BBC News. October 6, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2023. สืบค้นเมื่อ October 7, 2023 .
↑ Moreau, Jordan; Lang, Brent (October 13, 2023). "Box Office: 'Taylor Swift: Eras Tour' Kicks Off With $2.8 Million in Previews" . Variety . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2023. สืบค้นเมื่อ October 14, 2023 .
↑ Stenzel, Wesley (September 13, 2023). "2023 VMAs winners: See the full list" . Entertainment Weekly . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ September 13, 2023. สืบค้นเมื่อ September 13, 2023 .
↑ "Highest-grossing music tour" . Guinness World Records . November 12, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023 .
↑ "Highest-grossing music tour by a female artist" . Guinness World Records . November 12, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023 .
↑ "Highest-grossing music tour" . Guinness World Records . November 12, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023 .
↑ "Highest-grossing music tour by a female artist (current year)" . Guinness World Records . November 12, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023 .
↑ "Highest-grossing music tour by a solo artist" . Guinness World Records . November 12, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023. สืบค้นเมื่อ December 12, 2023 .
↑ "Highest-grossing music tour per concert by a female artist" . Guinness World Records . November 12, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2023.
↑ "2024 People's Choice Awards: Complete List of Nominees" . E! . January 11, 2024. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ January 11, 2024. สืบค้นเมื่อ 11 January 2024 .
↑ 27.0 27.1 27.2 "Nominations Announced for 35th Annual Pollstar Awards, Voting Open Now" . Pollstar . November 10, 2023. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ November 10, 2023. สืบค้นเมื่อ November 10, 2023 .
↑ Areliz, Oscar (February 7, 2024). "Taylor Swift, P!NK Win 2024 Pollstar Awards; Lars Ulrich, Dave Chappelle Surprise Crowd" . Pollstar . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ February 8, 2024. สืบค้นเมื่อ February 8, 2024 .
↑ Fields, Taylor (January 18, 2024). "2024 iHeartRadio Music Awards Nominees Revealed" . iHeartRadio . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2024. สืบค้นเมื่อ January 18, 2024 .
↑ Fields, Taylor (January 18, 2024). "2024 iHeartRadio Music Awards Nominees Revealed" . iHeartRadio . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ January 18, 2024. สืบค้นเมื่อ January 18, 2024 .
↑ Shafer, Ellise (2023-03-18). "Taylor Swift Eras Tour: The Full Setlist From Opening Night (Updating Live)" . Variety (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-03-18 .
↑ 32.0 32.1 Gularte, Alejandra (July 8, 2023). "You Missed These Easter Eggs on Taylor Swift's Eras Tour" . Vulture . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 18, 2023. สืบค้นเมื่อ July 18, 2023 .
↑ Leimkuehler, Matthew (May 7, 2023). "Taylor Swift in Nashville: What surprise songs did she sing on night two of 'Eras'?" . The Tennessean . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ August 9, 2023. สืบค้นเมื่อ May 7, 2023 .
↑ Armstrong, Megan (May 6, 2023). "Taylor Swift And Phoebe Bridgers Performed 'Nothing New' In Nashville" . Uproxx . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 6, 2023. สืบค้นเมื่อ May 7, 2023 .
↑ Kickham, Dylan (May 7, 2023). "Taylor's Eras Tour Set List Gets An Extra Song When Phoebe Bridgers Is The Opener" . Elite Daily . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 7, 2023. สืบค้นเมื่อ May 7, 2023 .
↑ Zellers, Ashley (July 8, 2023). "Taylor Swift played 4 surprise songs in first KC Eras concert. What will she pick tonight?" . The Kansas City Star . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 8, 2023. สืบค้นเมื่อ July 8, 2023 .
↑ Iasimone, Ashley (July 29, 2023). "Haim Joins Taylor Swift on Stage Dressed Up as 'Bejeweled' Stepsisters for 'No Body, No Crime' " . Billboard . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 31, 2023. สืบค้นเมื่อ July 31, 2023 .
↑ Bayer, Lili (May 9, 2024). "Taylor Swift Eras tour adds Tortured Poets Department and combines Folklore and Evermore eras – live in Paris" . The Guardian . สืบค้นเมื่อ May 9, 2024 .
↑ Bohannon, Molly. "Taylor Swift Added These The Tortured Poets Department Songs To Her Eras Tour" . Forbes . สืบค้นเมื่อ May 9, 2024 .
↑ Shafer, Ellise (May 9, 2024). "Taylor Swift Plays The Tortured Poets Department Songs Live for the First Time at Paris Eras Tour Show" . Variety . สืบค้นเมื่อ May 10, 2024 .
↑ West, Bryan (August 20, 2024). "Florence Welch joins Taylor Swift on stage in Wembley" . USA Today . สืบค้นเมื่อ August 20, 2024 .
↑ Iasimone, Ashley (August 28, 2023). "All the Surprise Songs Taylor Swift Has Performed on The Eras Tour (So Far)" . Billboard . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ September 1, 2023. สืบค้นเมื่อ September 8, 2023 .
↑ Shafer, Ellise (November 27, 2023). "Taylor Swift's Eras Tour: Every Surprise Song She's Played So Far" . Variety . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 28, 2023. สืบค้นเมื่อ December 29, 2023 .
↑ Ellis, Maddie (March 1, 2024). "Every surprise song Taylor Swift has performed on the 'Eras Tour' so far" . Today.com . สืบค้นเมื่อ May 11, 2024 . {{cite web }}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์ )
↑ Sisario, Ben (2023-08-05). "How Taylor Swift's Eras Tour Conquered the World" . The New York Times (ภาษาอังกฤษ). เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ August 5, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-08-05 .
↑ Willman, Chris (November 11, 2022). "Taylor Swift Adds 17 More Stadium Shows to 'Eras Tour,' Which Will Include a Five-Night Stand in L.A., Making It Her Biggest U.S. Tour to Date" . Variety . ISSN 0042-2738 . OCLC 810134503 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 8, 2022. สืบค้นเมื่อ November 11, 2022 .
↑ Richards, Will (November 4, 2022). "Taylor Swift adds extra dates to US 'The Eras Tour' " . NME . ISSN 0028-6362 . OCLC 60624023 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ November 5, 2022. สืบค้นเมื่อ November 5, 2022 .
↑ 48.0 48.1 "Events International – Taylor Swift" . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 6, 2023. สืบค้นเมื่อ July 9, 2023 .
↑ Willman, Chris (June 27, 2023). "Taylor Swift Adds a Sixth Night to Her Run at SoFi Stadium in August" . Variety . สืบค้นเมื่อ June 27, 2023 .
↑ Iasimone, Ashley (May 7, 2023). "Taylor Swift's Sunday Night Show in Nashville Goes On Following Two-Hour Storm Delay" . Billboard . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 8, 2023. สืบค้นเมื่อ May 7, 2023 .
↑ Dailey, Hannah (June 20, 2023). "Taylor Swift Announces International Eras Tour Dates in Europe, Asia & Australia" . Billboard . สืบค้นเมื่อ June 20, 2023 .
↑ Kreps, Daniel (August 3, 2023). "Taylor Swift's Eras Tour Returning to North America for Additional Shows in 2024" . Rolling Stone . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ August 3, 2023. สืบค้นเมื่อ August 3, 2023 .
↑ "Taylor Swift Sets All-Time Touring Record With $1 Billion Gross" . Pollstar . December 16, 2023. สืบค้นเมื่อ April 17, 2024 .
แหล่งข้อมูลอื่น
สตูดิโออัลบั้ม บันทึกเสียงใหม่ อีพี อัลบั้มบันทึกการแสดงสด คอนเสิร์ตทัวร์ ภาพยนตร์ ครอบครัว มรดก บทความที่เกี่ยวข้อง