ชิคาโก
นคร
ธง
ตรา
สมญา: นครแห่งแรงลม (The Windy City), The Second City, Chi-Town, Hog Butcher for the World, City of Broad Shoulders, Chi City, The City That Works
คำขวัญ: ละติน :
Urbs in Horto (
อังกฤษ :
City in a Garden ), Make No Small Plans, I Will
[ 1] ที่ตั้งของตัวเมืองชิคาโกในรัฐอิลลินอย
พิกัด: 41°52′55″N 87°37′40″W / 41.88194°N 87.62778°W / 41.88194; -87.62778 ประเทศ สหรัฐอเมริกา รัฐ อิลลินอย เคาน์ตี้ คุกเคาน์ตี้ , ดูเพจเคาน์ตี้ ก่อตั้ง 1770s เข้าร่วม 4 มีนาคม พ.ศ. 2380 การปกครอง • ประเภท Mayor-council government • นายกเทศมนตรี Richard M. Daley (Democrat) พื้นที่ • นคร 606.2 ตร.กม. (237.0 ตร.ไมล์) • พื้นดิน 588.3 ตร.กม. (227.2 ตร.ไมล์) • พื้นน้ำ 17.9 ตร.กม. (6.9 ตร.ไมล์) 3.0% • เขตเมือง 5,498.1 ตร.กม. (2,122.8 ตร.ไมล์) • รวมปริมณฑล 28,163 ตร.กม. (10,874 ตร.ไมล์) ความสูง 179 เมตร (586 ฟุต) ประชากร (2007)
• นคร 2,836,659 (อันดับที่ 3) คน • ความหนาแน่น 4,816 คน/ตร.กม. (12,649 คน/ตร.ไมล์) • เขตเมือง 8,711,000 คน • รวมปริมณฑล 9,785,747 คน • Demonym Chicagoan เขตเวลา UTC-6 (CST) • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง ) UTC-5 (CDT)รหัสพื้นที่ 312, 773 เว็บไซต์ www.cityofchicago.org
ชิคาโก (อังกฤษ : Chicago , ออกเสียง: /ʃɪˈkɑːɡoʊ/ ) เป็นเมืองตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอย สหรัฐอเมริกา รู้จักกันในชื่อ "นครแห่งแรงลม " (Windy City) ชื่อเล่นนี้ มีที่มาจากการที่นักข่าวเขียนล้อเลียนนักการเมืองของ ชิคาโกใน ศตวรรษที่ 19 เกี่ยวกับการพูดจากลับกลอกไปมา บางคนเชื่อว่ามีที่มาจากการที่เป็นเมืองที่มีลมพัดแรงตลอดเวลาแต่ไม่ได้มีหลักฐานใด ๆ เขียนสนับสนุนทฤษฎีนี้ ชิคาโกเป็นเมืองใหญ่อันดับสามในสหรัฐอเมริกา เทียบตามจำนวนประชากร รองจากเมืองนิวยอร์ก และลอสแอนเจลิส เมืองชิคาโกตั้งอยู่ในเคาน์ตีคุก รัฐอิลลินอย เขตมิดเวสต์ ของสหรัฐอเมริกา เมื่อรวมเคาน์ตี รอบ ๆ ชิคาโกทั้ง 8 เคาน์ตีจะเรียกเขตว่า ชิคาโกแลนด์ ซึ่งมีประชากรประมาณ 9 ล้านคน
ชิคาโกพัฒนาจากเมืองทุ่งนาจากปี พ.ศ. 2376 (ค.ศ. 1833) กลายมาเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งหนึ่งของโลก และในปัจจุบันนับเป็น 1 ใน 10 เมืองสำคัญของโลกทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ชิคาโกยังคงเป็นศูนย์กลางทางด้านความเจริญ การเงิน การคมนาคม และวัฒนธรรมที่สำคัญของเขตมิดเวสต์ ในชิคาโกมีสนามบินอยู่ 3 แห่ง โดยสนามบินโอ'แฮร์ เป็นสนามบินนานาชาติที่มีการจราจรทางอากาศมากที่สุดเป็นหนึ่งในสามของสหรัฐอเมริกา
ประชากรในชิคาโกประกอบด้วยหนึ่งในสามเป็นคนขาว และอีกหนึ่งในสามเป็นคนดำ และที่เหลือเป็นคนกลุ่มอื่น โดยในเมืองชิคาโกแบ่งออกเป็น 77 ชุมชนแยกตามกลุ่มประชากรที่อยู่อาศัย
ประวัติ
เกรตชิคาโกไฟร์
ภาพวาดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในชิคาโก
ในปี พ.ศ. 2414 (ค.ศ. 1871) เมืองชิคาโกถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ในเหตุการณ์เกรตชิคาโกไฟร์ (Great Chicago Fire) โดยตึก มากกว่า 18,000 หลังเสียหาย ผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน และประชากรมากกว่า 100,000 คน ไม่มีที่อยู่ เนื่องจากเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบมิชิแกน ทำให้ลมโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงทำให้ไฟไหม้ลุกลามได้เร็วภายในเพียงคืนเดียว และไหม้ติดต่อกันไม่หยุดหนึ่งวัน ภายหลังจากความเสียหายในชิคาโก สถาปนิก และวิศวกร จากทั่วสหรัฐอเมริกาได้ระดมมาอยู่รวมกันที่เมืองชิคาโก ช่วยกันสร้างและออกแบบอาคารใหม่ ด้วยเนื่องในโอกาสนี้ ชิคาโกจึงได้วางผังเมืองใหม่รวมถึง ได้นำเทคโนโลยีการสร้างตึกแบบใหม่มารวมกันที่ชิคาโก ตึกระฟ้า ได้มีการสร้างมากมายภายในตัวเมือง รวมถึงศูนย์กลางการเดินทางและสื่อสารในชิคาโก
สถานที่ท่องเที่ยว
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเชดด์ (Shedd Aquarium)
น้ำพุคราวน์ ในบริเวณสวนสาธารณะมิลเลนเนี่ยม นครชิคาโก
ในปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) เมืองชิคาโกได้เปิดมิวเซียมแคมปัส (Museum Campus) ในเนื้อที่ 10 เอเคอร์ เป็นแหล่งรวมพิพิธภัณฑ์ของชิคาโกบริเวณริมทะเลสาบมิชิแกนตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแกรนต์ปาร์ก (Grant Park) พิพิธภัณฑ์ฟิลด์ พิพิธภัณฑ์ที่มีฟอสซิล ของไดโนเสาร์สมบูรณ์ที่สุดในโลกที่รู้จักในชื่อว่า "ที.เร็กซ์ ซู" (T.Rex Sue) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเชดด์ (Shedd Aquarium) และ หอดูดาวแอดเลอร์ (Adler Planetarium) และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของชิคาโก ในเขตแกรนต์ปาร์กมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงชื่อว่าสถาบันศิลปะชิคาโก หรือ "อาร์ตอินสติตูตออฟชิคาโก" (Art Institute of Chicago) ที่ตั้งอยู่บนถนนมิชิแกน ในศูนย์กลางเมืองชิคาโก หรือที่เรียกว่าดาวน์ทาวน์ จะมีวิลลิสทาวเวอร์ (Willis Tower) ตึกที่ได้ชื่อว่าเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกในช่วง ปี พ.ศ. 2517-2546 และตึกจอห์นแฮนค็อก (John Hancock Tower) และ วอเตอร์ทาวเวอร์ สิ่งก่อสร้างชิ้นเดียวที่รอดจากไฟไหม้ใหญ่ของชิคาโก นอกจากนี้ในดาวน์ทาวน์ยังมีห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารต่างๆ
สิ่งที่ขึ้นชื่อในเมืองชิคาโกอีกอย่างคือ ละครเวที ดนตรีแจ๊ส และดนตรีบลูส์ จะเห็นได้ว่าในตัวเมืองชิคาโกนั้นก็มีโรงละครที่เก่าแก่และโด่งดังอยู่หลายที่ โดยโรงละครที่มีชื่อเสียงที่สุดคือหอประชุมโรงละครแห่งมหาวิทยาลัยรูสเวล์ท (The Auditorium Theatre of Roosevelt University) ซึ่งถูกออกแบบโดย แดนค์มาร์ แอดเลอร์ และ หลุยส์ ซุลลิแวน สถาปนิกชื่อดัง ปัจจุบันตึกที่เป็นที่ตั้งของโรงละครแห่งนี้ได้ถูกบรรจุให้เป็น National Historic Landmark building ของประเทศสหรัฐอเมริกาและมีการแสดงที่หลากหลาย เช่น โอเปร่า , บัลเลท์ เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี
เนื่องจากผู้ว่าการนครชิคาโก ริชาร์ด ดาร์ลี่ จูเนียร์ (Richard M. Daley) ได้บริหารเมืองชิคาโกต่อจากบิดาของเขามาเป็นเวลานาน ตั้งแต่ปี 1989ทำให้เมืองชิคาโก เป็นเมืองหนึ่งที่มีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ และมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เป็นเมืองใหญ่ที่น่าอยู่เมืองหนึ่งของสหรัฐอเมริกา จุดท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ น้ำพุบัคกิ้งแฮม ริมทะเลสาบมิชิแกน, น้ำพุคราวน์ในบริเวณสวนสาธารณะมิลเลเนี่ยมปาร์ค (Crown Fountain, Millennium Park) ซึ่งได้รับรางวัลทางด้านการออกแบบหลายรางวัล, ฟิลด์มิวเซียมและโซลเยอร์ฟิล์ด, ลูปเทรนทัวร์สถาปัตยกรรม, อาคารที่ว่าการรัฐอิลลินอยที่เป็นห้างสรรพสินค้าผสมผสานอยู่ในสถานที่ราชการ ตัวอาคารออกแบบโดยสถาปนิกดัง เฮลมุท จาห์น
นอกจากนี้ชิคาโกยังเป็นเมืองแห่งสถาปัตยกรรม นอกจากอาคารสถาปัตยกรรมในยุคใหม่ที่สำคัญๆแล้ว ชิคาโกยังอยู่ติดกับโอคพาร์ค (Oak Park) ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านและสำนักงานของสถาปนิกชื่อดังในยุคโมเดิร์น ชื่อ แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ สามารถติดต่อที่สถาบันสถาปนิกในเมืองเพื่อซื้อทัวร์เดินทางไปทัศนศึกษาที่บริเวณดังกล่าวได้
เทศบาลเมืองชิคาโกมักจะจัดให้มีกิจกรรมตลอดปี [ 2] ได้แก่ งานเทศกาลอาหาร (The Taste of Chicago ), งานเทศกาลดนตรี, งานฮาโลวีน , งานจุดไฟต้นคริสต์มาสประจำปี (Tree Lighting Ceremony) เป็นต้น งานจะจัดในพื้นที่ในเมืองไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะมิลเลเนี่ยมปาร์ค พื้นที่ริมทะเลสาบ และลานดาร์ลี่ใจกลางเมือง
การศึกษา
โรงเรียนเอกชนในชิคาโกมีมากกว่า 600 แห่ง มีนักเรียนมากกว่า 400,000 คนเข้าเรียน
การศึกษาระดับอุดมศึกษา
มหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกาตั้งอยู่ในชิคาโก อาทิ มหาวิทยาลัยคาทอลิคที่มีชื่อเสียงคือ มหาวิทยาลัยเดอโปล (DePaul University) และ มหาวิทยาลัยโลโยลา (Loyola University) นอกจากนี้ยังมี มหาวิทยาลัยชิคาโก (The University of Chicago) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงทางด้านวิชาการทั่วๆ ไป ส่วน มหาวิทยาลัยอิลลินอย ชิคาโก มีชื่อเสียงด้านแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีอิลลินอย มีชื่อเสียงในด้านวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ และโรงเรียนสถาบันศิลปะชิคาโก (School of the Art Institute of Chicago) ที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะอันดับต้นของประเทศ
กีฬา
ทีมกีฬาที่สำคัญของชิคาโก ได้แก่ ทีมบาสเกตบอล ชิคาโก บูลส์ ทีมเบสบอล ชิคาโก ไวต์ซอกซ์ และ ชิคาโก คับส์ ทีมอเมริกันฟุตบอล ชิคาโก แบร์ ทีมฟุตบอล ชิคาโก ไฟร์ และ ทีมฮอกกี้ ชิคาโก แบล็กฮอกส์
ประชากร
ในช่วง ค.ศ. 1840-1950 ชิคาโกมีแนวโน้มการเพิ่มขี้นของประชากรในระดับค่อนข้างสูง แต่ชะลอลงในช่วง ค.ศ. 1960 จนถึงปัจจุบัน
ประชากร
สำมะโนประชากร
Pop.
%±
1840 4,470 — 1850 29,963 570.3% 1860 112,172 274.4% 1870 298,977 166.5% 1880 503,185 68.3% 1890 1,099,850 118.6% 1900 1,698,575 54.4% 1910 2,185,283 28.7% 1920 2,701,705 23.6% 1930 3,376,438 25.0% 1940 3,396,808 0.6% 1950 3,620,962 6.6% 1960 3,550,404 −1.9% 1970 3,366,957 −5.2% 1980 3,005,072 −10.7% 1990 2,783,726 −7.4% 2000 2,896,016 4.0% 2010 2,695,598 −6.9% Est. 2018 2,705,994 [ 3] 0.4% U.S. Decennial Census [ 4]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น