พรรคพลังสังคมใหม่ (อังกฤษ: PLUNG SUNGKOM MAI) เป็นพรรคการเมืองในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 โดยมีนายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ เป็นหัวหน้าพรรค และได้รับเลือกตั้งในสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26 เป็นครั้งแรก
ประวัติ
พรรคพลังสังคมใหม่ ได้มีการประชุมใหญ่จัดตั้งพรรคขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2563 ณ ห้องประชุมน้ำทองแกรนด์ โรงแรมน้ำทองน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน[2] และได้ยื่นจดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 โดยมีนายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ เป็นผู้ก่อตั้งพรรคและเป็นหัวหน้าพรรค และมีนายจารุพงษ์สกุล จิณะโชฒิกุล เป็นเลขาธิการพรรคคนแรก
ต่อมานายเชาวฤทธิ์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคกลางที่ประชุมใหญ่สามัญของพรรคเมื่อวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2564 ทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคที่เหลือต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ จากนั้นจึงได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จำนวน 17 คนพร้อมกับเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือกนายเชาวฤทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคสมัยที่ 2 ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคตกเป็นของนายสุโท สร้างคำ ส่วนนายจารุพงษ์สกุล อดีตเลขาธิการพรรคขยับขึ้นไปเป็นรองหัวหน้าพรรคลำดับที่ 1[3]
จากนั้นในวันอังคารที่ 16 สิงหาคม 2565 นายสุโทได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคทำให้พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค พร้อมกับนายอนุมัติ ศาสนูปถัมภ์ รองหัวหน้าพรรค[4] ในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 นายวัชรินทร์ ชัยภัทร์ชนก ลาออกจากตำแหน่งโฆษกพรรคทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคที่เหลืออยู่ 8 คนต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะเพราะเหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่งตามข้อบังคับพรรค[5]
ในวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2565 พรรคพลังสังคมใหม่ได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2/2565 เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคและเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จำนวน 17 คน ซึ่งที่ประชุมก็มีมติเลือกนายเชาวฤทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคสมัยที่ 3 ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคตกเป็นของนายลำโขง ธารธนศักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค[6] ต่อมานายลำโขงได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเมื่อเสาร์วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค[7] และได้มีการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค และเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคแทนตำแหน่งที่ว่าง 4 คนและเลือกตั้งกรรมการบริหารเพิ่มเติม 1 คนซึ่งที่ประชุมมีมติเลือกนายอังกูร ไผ่แก้ว อดีตรองหัวหน้าพรรคและอดีตเลขาธิการพรรคร่วมพัฒนาชาติไทย (พรรคที่เป็นรากฐานของพรรคก้าวไกล) เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่[8]
การเลือกตั้ง
พรรคพลังสังคมใหม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งครั้งแรกคือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำปาง เขต 4 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. 2565 โดยส่งนายพลพงศ์ พงษ์สุพัฒน์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ปรากฎว่าไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 พรรคพลังสังคมใหม่ได้รับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 1 ที่นั่ง
พรรคพลังสังคมใหม่ได้ตอบรับให้การสนับสนนการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล[9] แต่ท้ายที่สุดพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จึงได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย[10]
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567 นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อ ถูกขับออกจากพรรค และในวันถัดมา ได้เข้าสมัครสมาชิกพรรคกล้าธรรม เนื่องจากพรรคเดิมไม่สามารถนำนโยบายพรรคมาปฏิบัติต่อประชาชนได้ มีอุปสรรคในการแก้ปัญหา ส่วนเหตุผลที่เลือกพรรคกล้าธรรม เพราะเป็นพรรคที่ว่างอยู่ และได้พิจารณาแนวทาง นโยบายแล้วเชื่อว่าแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ โดยการเลือกตั้ง สส.รอบหน้า จะส่งผู้สมัครที่ จังหวัดน่าน เขต 1 ด้วย[11]
บุคลากร
รายชื่อหัวหน้าพรรค
ลำดับ
|
ชื่อ
|
เริ่มวาระ
|
สิ้นสุดวาระ
|
หมายเหตุ
|
1
|
เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ
|
17 มีนาคม พ.ศ. 2564
|
6 ตุลาคม พ.ศ. 2567 (3 ปี 203 วัน)
|
พรรคมีมติขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
|
รายชื่อเลขาธิการพรรค
ลำดับ
|
ชื่อ
|
เริ่มวาระ
|
สิ้นสุดวาระ
|
หมายเหตุ
|
1
|
จารุพงษ์สกุล จิณะโชฒิกุล
|
17 มีนาคม พ.ศ. 2564
|
5 ธันวาคม พ.ศ. 2564
|
|
2
|
สุโท สร้างคำ
|
5 ธันวาคม พ.ศ. 2564
|
16 สิงหาคม พ.ศ. 2565
|
[12][13]
|
3
|
ลำโขง ธารธนศักดิ์
|
8 ตุลาคม พ.ศ. 2565
|
4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
|
[14]
|
4
|
อังกูร ไผ่แก้ว
|
22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
|
"อยู่ในวาระ"
|
[15]
|
ผลการเลือกตั้ง
ผลการเลือกตั้งทั่วไป
ผลการเลือกตั้ง
|
จำนวนที่นั่ง
|
คะแนนเสียงทั้งหมด
|
สัดส่วนคะแนนเสียง
|
ที่นั่งเปลี่ยน
|
สถานภาพพรรค
|
ผู้นำเลือกตั้ง
|
2566
|
|
175,764
|
-
|
-
|
ร่วมรัฐบาล
|
เชาว์ฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ
|
ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
การเลือกตั้ง
|
ผู้สมัคร
|
คะแนนเสียงทั้งหมด
|
สัดส่วนคะแนนเสียง
|
ผลการเลือกตั้ง
|
2565
|
ไกรเดช บุนนาค
|
636
|
0.02%
|
พ่ายแพ้
|
อ้างอิง