พลเรือโท พระยาชลยุทธโยธินทร์ หรือชื่อเกิดคือ อ็องเดร ดูว์ แปลซี เดอ รีเชอลีเยอ (ฝรั่งเศส: André du Plessis de Richelieu)) เป็นผู้บัญชาการกรมทหารเรือสยาม เป็นรองผู้บัญชาการการรบของสยามในวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 และเป็นผู้ออกแบบป้อมพระจุลจอมเกล้า
ในเอกสารของฝ่ายไทยมีการสะกดชื่อของท่านไว้หลายแบบ เช่น ริเชลิว ริชลิว ริเชอลิเออ เป็นต้น
กัปตันรีเชอลีเยอ เป็นชาวเดนมาร์กเชื้อสายฝรั่งเศส โดยสืบเชื้อสายมาจากพระคาร์ดินัล ดยุกแห่งรีเชอลีเยอ (Armand Jean du Plessis de Richelieu) มุขมนตรีในพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส กัปตันรีเชอลีเยอเข้ามารับราชการทหารเรือสยามตั้งแต่ปี พ.ศ. 2418 เป็นผู้บังคับกองเรือพิทยัมรณยุทธ (Regent) ที่ภูเก็ต กระทั่งวันอังคาร เดือนห้า ขึ้นสามค่ำ ปีมะแม เบญจศก จุลศักราช 1245 ตรงกับปี พ.ศ. 2426 กัปตันรีเชอลีเยอขณะมีบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงชลยุทธโยธินทร์" ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "พระชลยุทธโยธินทร์" ถือศักดินา 800[1]
ในปี พ.ศ. 2428 กัปตันรีเชอลีเยอเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างป้อมพระจุลจอมเกล้าบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ใช้ป้อมปืนแบบทันสมัยล่าสุดจากประเทศอังกฤษ ที่มีชื่อว่า "ปืนเสือหมอบ" ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2436 ทำการทดลองยิงครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2436 ก่อนวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 เพียงเดือนเศษ
ในปี พ.ศ. 2430 กัปตันรีเชอลีเยอ ร่วมหุ้นกับ กัปตันอัลเฟรด จอห์น ลอฟตัส หรือ พระนิเทศชลธี[2]เปิดบริษัททำการเดินรถราง เป็นครั้งแรก เส้นทางจากตำบลบางคอแหลม ผ่านถนนเจริญกรุง ไปสิ้นสุดที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นรถรางสายแรกในเอเชีย ต่อมาในปี พ.ศ. 2437 ได้พัฒนาเป็นรถรางเดินด้วยไฟฟ้า เริ่มเดินรถครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2437 ก่อตั้งบริษัทไฟฟ้าสยาม ทำการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ท่านยังก่อตั้งบริษัทรถไฟปากน้ำซึ่งเปิดดำเนินการ รถไฟ สาย กรุงเทพ-สมุทรปราการ (ทางรถไฟสายปากน้ำ) ขนส่งผู้โดยสารและสินค้า ระยะทาง 21 กิโลเมตร เป็นสายแรก เมื่อ พ.ศ. 2436
ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 กัปตันรีเชอลีเยอ เป็นผู้นำทหารเรือชาวเดนมาร์กเข้าร่วมรบต่อสู้กับกองเรือฝรั่งเศสที่ปากน้ำ ทั้งที่กงสุลเดนมาร์กมีคำสั่งไม่ให้ชาวเดนมาร์กเข้ายุ่งเกี่ยวในการศึกครั้งนี้ ขณะนั้นท่านมียศเป็นพลเรือจัตวา ตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารเรือ ภายหลังการรบท่านได้รับพระราชทานยศเป็น พลเรือตรี พระยาชลยุทธโยธินทร์ และต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2443 - 29 มกราคม พ.ศ. 2444[3] กราบบังคมทูลลาออกจากราชการ เพื่อเดินทางกลับประเทศเดนมาร์ก[4] นับเป็นผู้บัญชาการทหารเรือคนแรกและคนเดียวที่เป็นชาวต่างประเทศ
อีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับมอบหมาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้มีการหล่อพระพุทธชินราช (จำลอง) ขึ้นที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก โปรดเกล้าให้พระยาชลยุทธโยธินทร์ อัญเชิญนำขึ้นแพ ล่องเรือมาคุมองค์และแต่งที่กรมทหารเรือ โดยเป็นผู้ควบคุมการแต่งองค์พระ เสร็จแล้วเชิญลงเรือมณฑปแห่ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปีเดียวกัน
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป พระยาชลยุทธโยธินทร์รับหน้าที่กัปตันเรือพระที่นั่งทุกครั้ง
พระยาชลยุทธโยธินทร์ สมรสกับนางสาวดัคมาร์ เลิช (Dagmar Lousie Lerche) ธิดานายเอฟ. เลิช ผู้พิพากษาชาวเดนมาร์ก มีบุตรธิดา 3 คน คือ[5]