|
บทความนี้มีอักษรในตระกูลอักษรพราหมีปรากฏอยู่ คุณอาจเห็นสัญลักษณ์อื่นแทนตัวอักษร หรือมองเห็นสระวางผิดตำแหน่ง หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่สามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้อง
|
อักษรเขมร (เขมร: អក្សរខ្មែរ) คือรูปอักษรที่ดัดแปลงมาจากอักษรหลังปัลลวะ (ราว พ.ศ. 1200-1400) ซึ่งเป็นอักษรที่พัฒนามาจากอักษรปัลลวะ (ราว พ.ศ. 1100-1200) อีกต่อหนึ่ง อักษรปัลลวะนี้ เป็นอักษรที่มาจากอินเดียตอนใต้ ซึ่งเป็นชุดอักษรที่มีกำเนิดมาจากอักษรพราหมี ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (ราว พุทธศตวรรษที่ 3) จารึกอักษรเขมรเก่าสุด พบที่ปราสาทโบเร็ย จังหวัดตาแก้ว ทางใต้ของพนมเปญ อายุราว พ.ศ. 1154 รูปแบบโบราณของอักษรเขมร ที่เรียกอักษรขอม เป็นแม่แบบของ อักษรไทย อักษรลาว อักษรเขมรใช้เขียนภาษาเขมร และมนต์คาถา
ต้นกำเนิด
อักษรเขมรดัดแปลงมาจากอักษรปัลลวะที่ใช้งานในอินเดียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 6[3] ซึ่งสืบทอดจากอักษรทมิฬ-พราหมี[4] จารึกภาษาเขมรที่เก่าแก่ที่สุดพบในอำเภออ็องกอร์โบะเร็ย จังหวัดตาแก้ว ทางใต้ของพนมเปญ โดยมีอายุถึง ค.ศ. 611[5] ศิลาจารึกสมัยก่อนพระนครถึงสมัยพระนครที่มีอักษรเขมรพบได้ทั่วบริเวณอดีตจักรวรรดิเขมร ตั้งแต่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงจนถึงบริเวณที่ปัจจุบันคือลาวใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางของไทย[6] จารึกอักษรเขมรที่เขียนภาษาสันสกฤตและภาษาเขมรมีคสวามแตกต่างเพียงเล็กน้อย ระบบการเขียนที่ต่างกันสองแบบได้พัฒนาไปเป็นอักษรเขมรแบบอักษรมูลและอักษรเชฺรียงสมัยใหม่ อักษรแบบแรกใช้ในเชิงศาสนา ส่วนอักษรแบบหลังใช้ในงานเขียนทั่วไป[7] อักษรเชฺรียงเป็นแบบเขียนของอักษรมูลที่ดัดแปลงให้เข้ากับภาษาเขมร[8]
อักษรเขมรสมัยใหม่มีรูปเขียนที่ค่อนข้างแตกต่างจากอักษรเขมรที่พบบนจารึกในซากเมืองพระนคร อักษรไทยและอักษรลาวเป็นอักษรที่สืบทอดจากอักษรเขมรแบบตัวเขียนที่เก่ากว่า ผ่านอักษรสุโขทัย
เมื่อ พ.ศ. 2430 รัชกาลที่ 4 ตรงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนโรดม (นักองค์ราชาวดี) อักษรเขมรแบบใหม่ถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ เรียกว่า อักษรขอมเชรียง (เจรียง)[9][10] เป็นอักษรเขมรแบบหนึ่งมีลักษณะเอนทางขวาเล็กน้อย[11] โดยสมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน ปญฺญาสีโล) สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกาย วัดปทุมวดีราชวราราม กรุงพนมเปญ ได้นำอักษรขอมหวัด (ตัวเกษียน) สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นไปปรับใช้เป็นอักษรเขมรแบบใหม่ซึ่งเป็นอักษรเขมรสำหรับใช้พิมพ์ และเขียนภาษาเขมรในปัจจุบัน ลักษณะเส้นบนหยักลูกเหมือนอักษรขอมบรรจงส่วนตัวเขียนใช้เส้นผมเหยียดยาวเหมือนอักษรขอมหวัดทั้งหมด[12][13] จึงปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าอักษรเขมรน่าจะรับอิทธิพลจากอักษรขอมไทย คือ กลุ่มอักษรขอมบรรจงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเนื่องจากมีความแตกต่างกับอักษรมูลที่วิวัฒนาการจากอักษรเขมรสมัยหลังเมืองพระนคร[10]
อักษร
ยูนิโคดไม่ถือว่าอักษรแต่ละแบบเป็นอักษรคนละชนิด แต่เป็นเพียงอักษรต่างรูป ดังนั้นอักษรมูลจะแสดงผลด้วยไทป์เฟซ MoolBoran[14] และอักษรเชฺรียง-ฌรจะแสดงผลด้วยไทป์เฟซ DaunPenh[15] ซึ่งมีในวินโดวส์วิสตาเป็นต้นไป เพิ่มขนาดเพื่อให้เห็นรายละเอียดรูปร่างชัดเจน
พยัญชนะ
อักษรเขมรมีพยัญชนะ 35 ตัว เลิกใช้ไป 2 ตัว พยัญชนะแบ่งเป็น 2 ชุดคือ พยัญชนะเสียงไม่ก้อง (อโฆษะ) พื้นเสียงเป็น ออ-อา /ɑ/ พยัญชนะเสียงก้อง (โฆษะ) พื้นเสียงเป็น ออ-โอ /ɔ/ เมื่อประสมสระ พยัญชนะต่างชุดกันออกเสียงต่างกัน อักษรเขมรมีทั้งพยัญชนะธรรมดา และพยัญชนะซ้อนที่ใส่ไว้ใต้พยัญชนะตัวอื่น พยัญชนะซ้อนจะใช้เมื่อต้องการตัดพื้นเสียงของพยัญชนะตัวก่อนหน้า อักษรไทยที่กำกับไว้คือการปริวรรตอักษรเขมรมาเป็นอักษรไทย [16] ส่วนเสียงอ่านจะแสดงด้วยสัทอักษรสากล
อักษรมูล
|
วรรค
|
เสียงไม่ก้อง (อโฆษะ)
|
เสียงก้อง (โฆษะ)
|
เสียงเบา
|
เสียงหนัก
|
เสียงเบา
|
เสียงหนัก
|
เสียงนาสิก
|
วรรค กะ
|
ក |
្ក
|
ខ |
្ខ
|
គ |
្គ
|
ឃ |
្ឃ
|
ង |
្ង
|
ก /kɑ/ [กอ]
|
ข /kʰɑ/ [คอ]
|
ค /kɔ/ [โก]
|
ฆ /kʰɔ/ [โค]
|
ง /ŋɔ/ [โง]
|
วรรค จะ
|
ច |
្ច
|
ឆ |
្ឆ
|
ជ |
្ជ
|
ឈ |
្ឈ
|
ញ |
្ញ
|
จ /cɑ/ [จอ]
|
ฉ /cʰɑ/ [ชอ]
|
ช /cɔ/ [โจ]
|
ฌ /cʰɔ/ [โช]
|
ญ /ɲɔ/ [โญ]
|
วรรค ฏะ
|
ដ |
្ដ
|
ឋ |
្ឋ
|
ឌ |
្ឌ
|
ឍ |
្ឍ
|
ណ |
្ណ
|
ฎ /ɗɑ/ [ดอ]
|
ฐ /tʰɑ/ [ทอ]
|
ฑ /ɗɔ/ [โด]
|
ฒ /tʰɔ/ [โท]
|
ณ /nɑ/ [ณอ]
|
วรรค ตะ
|
ត |
្ត
|
ថ |
្ថ
|
ទ |
្ទ
|
ធ |
្ធ
|
ន |
្ន
|
ต /tɑ/ [ตอ]
|
ถ /tʰɑ/ [ทอ]
|
ท /tɔ/ [โต]
|
ธ /tʰɔ/ [โท]
|
น /nɔ/ [โน]
|
วรรค ปะ
|
ប |
្ប
|
ផ |
្ផ
|
ព |
្ព
|
ភ |
្ភ
|
ម |
្ម
|
บ /ɓɔ/ [บอ]
|
ผ /pʰɑ/ [พอ]
|
พ /pɔ/ [โป]
|
ภ /pʰɔ/ [โพ]
|
ม /mɔ/ [โม]
|
|
ไม่จัดกลุ่มเสียง
|
เศษ วรรค
|
យ |
្យ
|
រ |
្រ
|
ល |
្ល
|
វ |
្វ
|
ឝ |
្ឝ
|
ย /jɔ/ [โย]
|
ร /rɔ/ [โร]
|
ล /lɔ/ [โล]
|
ว /vɔ/ [โว]
|
ศ
|
ឞ |
្ឞ
|
ស |
្ស
|
ហ |
្ហ
|
ឡ |
្ឡ
|
អ |
្អ
|
ษ
|
ส /sɑ/ [ซอ]
|
ห /hɑ/ [ฮอ]
|
ฬ /lɑ/ [ลอ]
|
อ /ʔɑ/ [ออ]
|
|
อักษรเชฺรียง-ฌร
|
วรรค
|
เสียงไม่ก้อง (อโฆษะ)
|
เสียงก้อง (โฆษะ)
|
เสียงเบา
|
เสียงหนัก
|
เสียงเบา
|
เสียงหนัก
|
เสียงนาสิก
|
วรรค กะ
|
ក |
្ក
|
ខ |
្ខ
|
គ |
្គ
|
ឃ |
្ឃ
|
ង |
្ង
|
ก /kɑ/ [กอ]
|
ข /kʰɑ/ [คอ]
|
ค /kɔ/ [โก]
|
ฆ /kʰɔ/ [โค]
|
ง /ŋɔ/ [โง]
|
วรรค จะ
|
ច |
្ច
|
ឆ |
្ឆ
|
ជ |
្ជ
|
ឈ |
្ឈ
|
ញ |
្ញ
|
จ /cɑ/ [จอ]
|
ฉ /cʰɑ/ [ชอ]
|
ช /cɔ/ [โจ]
|
ฌ /cʰɔ/ [โช]
|
ญ /ɲɔ/ [โญ]
|
วรรค ฏะ
|
ដ |
្ដ
|
ឋ |
្ឋ
|
ឌ |
្ឌ
|
ឍ |
្ឍ
|
ណ |
្ណ
|
ฎ /ɗɑ/ [ดอ]
|
ฐ /tʰɑ/ [ทอ]
|
ฑ /ɗɔ/ [โด]
|
ฒ /tʰɔ/ [โท]
|
ณ /nɑ/ [ณอ]
|
วรรค ตะ
|
ត |
្ត
|
ថ |
្ថ
|
ទ |
្ទ
|
ធ |
្ធ
|
ន |
្ន
|
ต /tɑ/ [ตอ]
|
ถ /tʰɑ/ [ทอ]
|
ท /tɔ/ [โต]
|
ธ /tʰɔ/ [โท]
|
น /nɔ/ [โน]
|
วรรค ปะ
|
ប |
្ប
|
ផ |
្ផ
|
ព |
្ព
|
ភ |
្ភ
|
ម |
្ម
|
บ /ɓɔ/ [บอ]
|
ผ /pʰɑ/ [พอ]
|
พ /pɔ/ [โป]
|
ภ /pʰɔ/ [โพ]
|
ม /mɔ/ [โม]
|
|
ไม่จัดกลุ่มเสียง
|
เศษ วรรค
|
យ |
្យ
|
រ |
្រ
|
ល |
្ល
|
វ |
្វ
|
ឝ |
្ឝ
|
ย /jɔ/ [โย]
|
ร /rɔ/ [โร]
|
ล /lɔ/ [โล]
|
ว /vɔ/ [โว]
|
ศ
|
ឞ |
្ឞ
|
ស |
្ស
|
ហ |
្ហ
|
ឡ |
្ឡ
|
អ |
្អ
|
ษ
|
ส /sɑ/ [ซอ]
|
ห /hɑ/ [ฮอ]
|
ฬ /lɑ/ [ลอ]
|
อ /ʔɑ/ [ออ]
|
|
- ឝ (ศ) และ ឞ (ษ) เป็นอักษรที่เลิกใช้แล้ว
- พยัญชนะซ้อนของ ឡ (ฬ) ไม่มีในอักษรเขมรปัจจุบัน แต่มีให้แสดงผลได้ในยูนิโคด
นอกจากนี้ยังมีพยัญชนะพิเศษซึ่งประดิษฐ์ขึ้นเพื่อแทนเสียงคำยืมหรือคำทับศัพท์จากภาษาอื่น เช่นภาษาไทยหรือภาษาฝรั่งเศส ส่วนใหญ่สร้างโดยการซ้อนพยัญชนะไว้ใต้ ហ (ห)
อักษรมูล
|
พยัญชนะ พิเศษ
|
ហ្គ
|
ហ្គ៊
|
ហ្ន
|
ប៉
|
ហ្ម
|
ហ្ល
|
ก /gɑ/ [กอ]
|
ก /gɔ/ [โก]
|
น /nɑ/ [นอ]
|
ป /pɑ/ [ปอ]
|
ม /mɑ/ [มอ]
|
ล /lɑ/ [ลอ]
|
พยัญชนะ พิเศษ
|
ហ្វ
|
ហ្វ៊
|
ហ្ស
|
ហ្ស៊
|
|
|
ฟ /fɑ/ ว /wɑ/ [ฟอ, วอ]
|
ฟ /fɔ/ ว /wɔ/ [โฟ, โว]
|
ช /ʒɑ/ [ชอ]
|
ช /ʒɔ/ [โช]
|
|
|
|
อักษรเชฺรียง-ฌร
|
พยัญชนะ พิเศษ
|
ហ្គ
|
ហ្គ៊
|
ហ្ន
|
ប៉
|
ហ្ម
|
ហ្ល
|
ก /gɑ/ [กอ]
|
ก /gɔ/ [โก]
|
น /nɑ/ [นอ]
|
ป /pɑ/ [ปอ]
|
ม /mɑ/ [มอ]
|
ล /lɑ/ [ลอ]
|
พยัญชนะ พิเศษ
|
ហ្វ
|
ហ្វ៊
|
ហ្ស
|
ហ្ស៊
|
|
|
ฟ /fɑ/ ว /wɑ/ [ฟอ, วอ]
|
ฟ /fɔ/ ว /wɔ/ [โฟ, โว]
|
ช /ʒɑ/ [ชอ]
|
ช /ʒɔ/ [โช]
|
|
|
|
สระ
สระในอักษรเขมรมีสองแบบคือ สระลอยและสระจม สระลอยใช้เขียนเมื่อมิได้ผสมกับพยัญชนะ (เปรียบเหมือนขึ้นต้นด้วย อ) ส่วนสระจมใช้ประกอบกับพยัญชนะอื่น พยัญชนะที่ไม่มีสระกำกับจะออกเสียงตามเสียงเดิมของพยัญชนะดังที่กล่าวไว้ด้านบน (เทียบได้กับ ออ) เสียงสระจะแตกต่างจากอักษรไทย และขึ้นอยู่กับว่าพยัญชนะเป็นอโฆษะหรือโฆษะด้วย ต่อไปนี้เป็นสระลอย
อักษรมูล
|
สระลอย
|
ឣ
|
ឤ
|
ឥ
|
ឦ
|
ឧ
|
ឨ
|
ឩ
|
ឪ
|
อ /ʔɑʔ/ [ออ]
|
อา /ʔa/ [อา]
|
อิ /ʔe/ [เอะ]
|
อี /ʔəj/ [เอ็ย]
|
อุ /ʔ/ [โอะ]
|
อุก
|
อู /ʔu/ [โอ]
|
โอว /ʔɨw/ [โอว]
|
สระลอย
|
ឫ
|
ឬ
|
ឭ
|
ឮ
|
ឯ
|
ឰ
|
ឱ/ឲ
|
ឳ
|
ฤ /ʔrɨ/ [รึ]
|
ฤๅ /ʔrɨː/ [รือ]
|
ฦ /ʔlɨ/ [ลึ]
|
ฦๅ /ʔlɨː/ [ลือ]
|
เอ /ʔeː/ [แอ]
|
ไอ /ʔaj/ [ไอ]
|
โอ /ʔaːo/ [โอ]
|
เอา /ʔaw/ [เอา]
|
|
อักษรเชฺรียง-ฌร
|
สระลอย
|
ឣ
|
ឤ
|
ឥ
|
ឦ
|
ឧ
|
ឨ
|
ឩ
|
ឪ
|
อ /ʔɑʔ/ [ออ]
|
อา /ʔa/ [อา]
|
อิ /ʔe/ [เอะ]
|
อี /ʔəj/ [เอ็ย]
|
อุ /ʔ/ [โอะ]
|
อุก
|
อู /ʔu/ [โอ]
|
โอว /ʔɨw/ [โอว]
|
สระลอย
|
ឫ
|
ឬ
|
ឭ
|
ឮ
|
ឯ
|
ឰ
|
ឱ/ឲ
|
ឳ
|
ฤ /ʔrɨ/ [รึ]
|
ฤๅ /ʔrɨː/ [รือ]
|
ฦ /ʔlɨ/ [ลึ]
|
ฦๅ /ʔlɨː/ [ลือ]
|
เอ /ʔeː/ [แอ]
|
ไอ /ʔaj/ [ไอ]
|
โอ /ʔaːo/ [โอ]
|
เอา /ʔaw/ [เอา]
|
|
- ឣ (อ) (U+17A3), ឤ (อา) (U+17A4), ឨ (U+17A8) เป็นอักขระที่ยูนิโคดไม่แนะนำให้ใช้ เนื่องจากสามารถประสมขึ้นได้จากพยัญชนะ สระ หรือเครื่องหมายอื่นโดยแยกกัน แต่ยังคงมีไว้เพื่อรองรับระบบการเขียนในคอมพิวเตอร์แบบเก่า
ต่อไปนี้คือสระจม บรรทัดแรกคือการปริวรรต บรรทัดที่สองหมายถึงเสียงสระเมื่อผสมกับพยัญชนะอโฆษะ และบรรทัดที่สามหมายถึงเสียงสระเมื่อผสมกับพยัญชนะโฆษะ
อักษรมูล
|
สระจม
|
ា
|
ិ
|
ី
|
ឹ
|
ឺ
|
อา /aː/ [อา] /iːə/ [เอีย]
|
อิ /e/ [เอะ] /ɨ/ [อิ]
|
อี /əj/ [เอ็ย] /iː/ [อี]
|
อึ /ə/ [เออะ] /ɨ/ [อึ]
|
อื /əːɨ/ [เออ] /ɨː/ [อื]
|
สระจม
|
ុ
|
ូ
|
ួ
|
ើ
|
ឿ
|
อุ /o/ [โอะ] /u/ [อุ]
|
อู /oːu/ [โอ] /uː/ [อู]
|
อัว /uːə/ [อัว] /uːə/ [อัว]
|
เอี /aːə/ [เออ] /əː/ [เออ]
|
เอือ /ɨːə/ [เอือ] /ɨːə/ [เอือ]
|
สระจม
|
ៀ
|
េ
|
ែ
|
ៃ
|
ោ
|
เอีย /iːə/ [เอีย] /iːə/ [เอีย]
|
เอ /eːi/ [เอ] /eː/ [เอ]
|
แอ /aːe/ [แอ] /ɛː/ [แอ]
|
ไอ /aj/ [ไอ] /ɨj/ [อึย]
|
โอ /aːo/ [โอ] /oː/ [โอ]
|
สระจม
|
ៅ
|
ុំ
|
ំ
|
ាំ
|
ះ
|
เอา /aw/ [เอา] /ɨw/ [อึว]
|
อุ /om/ [อม] /um/ [อุม]
|
อํ /ɑm/ [อ็อม] /um/ [อ็วม]
|
อำ /am/ [อำ] /oəm/ [เอือม]
|
อะ /aʰ/ [อะห์] /eəʰ/ [เอียห์]
|
|
อักษรเชฺรียง-ฌร
|
สระจม
|
ា
|
ិ
|
ី
|
ឹ
|
ឺ
|
อา /aː/ [อา] /iːə/ [เอีย]
|
อิ /e/ [เอะ] /ɨ/ [อิ]
|
อี /əj/ [เอ็ย] /iː/ [อี]
|
อึ /ə/ [เออะ] /ɨ/ [อึ]
|
อื /əːɨ/ [เออ] /ɨː/ [อื]
|
สระจม
|
ុ
|
ូ
|
ួ
|
ើ
|
ឿ
|
อุ /o/ [โอะ] /u/ [อุ]
|
อู /oːu/ [โอ] /uː/ [อู]
|
อัว /uːə/ [อัว] /uːə/ [อัว]
|
เอี /aːə/ [เออ] /əː/ [เออ]
|
เอือ /ɨːə/ [เอือ] /ɨːə/ [เอือ]
|
สระจม
|
ៀ
|
េ
|
ែ
|
ៃ
|
ោ
|
เอีย /iːə/ [เอีย] /iːə/ [เอีย]
|
เอ /eːi/ [เอ] /eː/ [เอ]
|
แอ /aːe/ [แอ] /ɛː/ [แอ]
|
ไอ /aj/ [ไอ] /ɨj/ [อึย]
|
โอ /aːo/ [โอ] /oː/ [โอ]
|
สระจม
|
ៅ
|
ុំ
|
ំ
|
ាំ
|
ះ
|
เอา /aw/ [เอา] /ɨw/ [อึว]
|
อุ /om/ [อม] /um/ [อุม]
|
อํ /ɑm/ [อ็อม] /um/ [อ็วม]
|
อำ /am/ [อำ] /oəm/ [เอือม]
|
อะ /aʰ/ [อะห์] /eəʰ/ [เอียห์]
|
|
*คำอ่านสระที่เป็นภาษาไทยในตารางข้างต้น เป็นเพียงการเลียนเสียงเป็นภาษาไทยให้ใกล้เคียงที่สุดเท่านั้น หากต้องการออกเสียงให้ตรงกับเสียงภาษาเขมรจริงๆ ควรดูวิธีอ่านจากสัทอักษรสากล(IPA)
- ះ (อะ) สามารถผสมกับสระอื่นได้โดยนำไปต่อท้าย ซึ่งจะให้เสียง [ʰ] และปริวรรตด้วยวิสรรชนีย์ (ะ)
- ុំ (อุ) และ ាំ (อำ) เมื่อผสมกับพยัญชนะ นิคหิต ំ (อํ) จะอยู่เหนือพยัญชนะหรือสระตัวสุดท้ายของคำ
เครื่องหมายเสริมอักษร
เครื่องหมาย
|
ชื่อเขมร
|
การใช้งาน
|
ំ
|
និគ្គហិត (นิคฺคหิต)
|
(นิคหิต) เพิ่มเสียงนาสิกลงท้ายเสียงสระ มาจาก อนุสวาร
|
ះ
|
រះមុខ (ระมุข) វិសជ៌នី (วิสรฺชนี)
|
(วิสรรชนีย์) เพิ่มเสียงหายใจ [ʰ] ลงท้ายเสียงสระ มักจะถูกละไว้ (ต่างกับการใช้ในภาษาไทย)
|
ៈ
|
យុគលពិន្ទុ (ยุคลพินฺทุ)
|
เพิ่มเสียงกัก เส้นเสียง /ʔ/ ลงท้ายเสียงสระ มักจะถูกละไว้
|
៉
|
មូសិកទន្ត (มูสิกทนฺต) ធ្មេញកណ្ដុរ (เธฺมญ-กณฺฎุร)
|
(มูสิกทันต์) เปลี่ยนพยัญชนะที่มีพื้นเสียง /ɔ/ ให้เป็น /ɑ/
|
៊
|
ត្រីស័ព្ទ (ตฺรีสพฺท)
|
เปลี่ยนพยัญชนะที่มีพื้นเสียง /ɑ/ ให้เป็น /ɔ/
|
ុ
|
ក្បៀសក្រោម (เกฺบียสโกฺรม) បុកជើង (บุกเชีง)
|
เหมือนกับ มูสิกทนฺต และ ตฺรีสพฺท ใช้ในกรณีที่มีสระบนอยู่แล้ว
|
់
|
បន្តក់ (บนฺฎก่) រស្សសញ្ញា (รสฺสสญฺญา)
|
ทำให้เสียงสระบางชนิดสั้นลง ใส่ไว้ที่พยัญชนะสะกด
|
៌
|
របាទ (รบาท) រេផៈ (เรผะ)
|
เดิมคือการเติม รฺ (ร หัน) ก่อนพยัญชนะ ใช้ในคำบาลีสันสกฤต ปัจจุบันใช้งานเหมือนทัณฑฆาต
|
៍
|
ទណ្ឌឃាដ (ทณฺฑฆาฎ) បដិសេធ (บฎิเสธ)
|
(ทัณฑฆาต) ใช้กำกับอักษรบางตัวที่ไม่ออกเสียง
|
៎
|
កាកបាទ (กากบาท)
|
แสดงการเพิ่มน้ำเสียงสำหรับคำอุทาน
|
៏
|
អស្តា (อสฺฎา)
|
(ไม้ไต่คู้) แสดงการเพิ่มน้ำเสียงสำหรับคำที่มีพยัญชนะเพียงตัวเดียว [17]
|
័
|
សំយោគសញ្ញា (สํโยคสญฺญา)
|
ใช้แสดงสระเสียงสั้นในคำบาลีสันสกฤต มักจะถูกละไว้
|
៑
|
វិរាម (วิราม)
|
สัญลักษณ์ใช้แทน วิราม (virāma) ในอักษรตระกูลพราหมี
|
្
|
ជើង (เชีง)
|
สัญลักษณ์ที่สร้างโดยยูนิโคดเพื่อป้อนพยัญชนะซ้อนด้านล่าง ลักษณะปรากฏอาจแตกต่างกันไปตามฟอนต์
|
៓
|
Bathamasat
|
เดิมใช้ประกอบกับเลข ๘ เพื่อแสดงเดือนแปดแรกทางจันทรคติ ៨៓ เมื่อมีเดือนแปดสองหน [18] แต่ขณะนี้มีสัญลักษณ์ใช้แทนแล้วคือ ᧠ (U+19E0)
|
៝
|
Atthacan
|
|
เครื่องหมายอื่น ๆ
เครื่องหมาย
|
ชื่อเขมร
|
การใช้งาน
|
។
|
ខណ្ឌ (ขณฺฑ) ខណ្ឌសញ្ញា (ขณฺฑสญฺญา)
|
(ไปยาลน้อย, อังคั่นเดี่ยว) ใช้คั่นข้อความเมื่อจบประโยค (ต่างกับการใช้ในภาษาไทย)
|
៕
|
ខណ្ឌចប់ (ขณฺฑจบ่)
|
(อังคั่นคู่) ใช้คั่นข้อความเมื่อจบตอน
|
៖
|
ទ្វិពិន្ទុលេខ (ทฺวิพินฺทุเลข) ចំណុចពីរគូស (จํณุจพีรคูส)
|
(ทวิภาค, วิภัชภาค) ข้อความต่อจากนี้คือรายชื่อหรือรายการเป็นข้อ ๆ
|
ៗ
|
លេខទោ (เลขโท)
|
(ไม้ยมก) ซ้ำคำที่อยู่ข้างหน้า
|
៘
|
បេយ្យាលៈ (เบยฺยาละ) លៈ (ละ)
|
(ไปยาลใหญ่) ยังมีสิ่งอื่นอีกนอกเหนือจากที่ยกมา
|
៙
|
កុក្កុដនេត្រ (กุกฺกุฎเนตฺร) ភ្នែកមាន់ (แภฺนกมาน่)
|
(ฟองมัน) ใช้ขึ้นต้นข้อความขนาดยาว
|
៚
|
ខណ្ឌបរិយោសាន (ขณฺฑบริโยสาน) គោមូត្រ (โคมูตฺร)
|
(โคมูตร) ใช้ลงท้ายเมื่อจบเรื่อง สามารถใช้คู่กับ ขณฺฑ หรือ ขณฺฑจบ่ ได้
|
៛
|
រៀល (เรียล)
|
เครื่องหมายสกุลเงิน เรียลกัมพูชา
|
ៜ
|
Avakrahasanya
|
|
ตัวเลข
ตัวเลขในอักษรเขมรมีลักษณะคล้ายเลขไทยมากเพราะไทยได้รับอิทธิพลมาจากเขมรมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นอักษรแบบใด ได้แก่
- ០ ១ ២ ៣ ៤ ៥ ៦ ៧ ៨ ៩
วิธีใช้เหมือนกับเลขฮินดูอารบิกทั่วไป มีเครื่องหมายคั่นหลักพันเป็นจุลภาค และมีจุดทศนิยมเป็นมหัพภาค
นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์อีกแบบหนึ่งสำหรับแทนตัวเลข
- ៰ ៱ ៲ ៳ ៴ ៵ ៶ ៷ ៸ ៹
ลักษณะ
อักษรเขมรมีลักษณะที่แตกต่างกันหลายชนิด ซึ่งใช้ในจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน
- อักษรเชฺรียง (อ่านว่า เจฺรียง) (เขมร: អក្សរជ្រៀង) หรือ อักษรเฉียง เป็นอักษรในลักษณะตัวเอน ไม่ได้ใช้เพื่อการเน้นคำในภาษา แต่จะนำไปใช้เขียนเนื้อหาทั้งหมด เช่นนิยายและการตีพิมพ์อื่น ๆ ที่สามารถใช้อักษรเชฺรียงได้
- อักษรฌร (อ่านว่า โช) (เขมร: អក្សរឈរ) หรือ อักษรตรง (เขมร: អក្សរត្រង់) เป็นอักษรในลักษณะตัวตรง การใช้อักษรตัวตรงไม่เป็นที่นิยมเท่าอักษรเชฺรียง แต่ปัจจุบัน แบบอักษรในคอมพิวเตอร์ได้เลือกใช้อักษรตัวตรงเพื่อให้อ่านข้อความได้ง่าย ซึ่งสามารถปรับให้เป็นตัวเอนได้
- อักษรมูล (อ่านว่า โมล) (เขมร: អក្សរមូល) เป็นอักษรในลักษณะตัวโค้งมน ใช้สำหรับขึ้นต้นหัวเรื่องในเอกสาร หนังสือ ป้ายประกาศ ป้ายร้านค้า โทรทัศน์ และการเขียนบทสวดมนต์ทางศาสนา บางครั้งใช้เขียนพระนามของพระบรมวงศานุวงศ์ในขณะที่ข้อความรอบข้างใช้ตัวหนังสือธรรมดา (อักษรเชฺรียง-ฌร) พยัญชนะโดดและพยัญชนะซ้อนหลายตัวของอักษรแบบนี้ จะมีรูปแบบที่ต่างออกไปจากอักขรวิธีมาตรฐาน
- อักษรขอม (เขมร: អក្សរខម หรือ អក្សរខំ) เป็นลักษณะที่ต่างจากอักษรมูลเล็กน้อย ดูเพิ่มที่ อักษรขอม
-
อักษรเชฺรียง
-
อักษรฌร
-
อักษรขอม
-
อักษรมูล
ยูนิโคด
ในยูนิโคด อักษรเขมรมีช่วงหลักที่ U+1780–U+17FF และมีสัญลักษณ์เกี่ยวกับวันที่ทางจันทรคติในช่วง U+19E0–U+19FF
อ้างอิง
- ↑ Herbert, Patricia; Anthony Crothers Milner (1989). South-East Asia: languages and literatures : a select guide. University of Hawaii Press. pp. 51–52. ISBN 0-8248-1267-0.
- ↑ "Constitution of the Kingdom of Cambodia". Office of the Council of Ministers. អង្គភាពព័ត៌មាន និងប្រតិកម្មរហ័ស. สืบค้นเมื่อ 26 September 2020.
- ↑ Punnee Soonthornpoct: From Freedom to Hell: A History of Foreign Interventions in Cambodian Politics And Wars. Page 29. Vantage Press.
- ↑ Handbook of Literacy in Akshara Orthography, R. Malatesha Joshi, Catherine McBride(2019), p.28
- ↑ Russell R. Ross: Cambodia: A Country Study. Page 112. Library of Congress, USA, Federal Research Division, 1990.
- ↑ Lowman, Ian Nathaniel (2011). The Descendants of Kambu: The Political Imagination of Angkorian Cambodia (วิทยานิพนธ์). UC Berkeley.
- ↑ Angkor: A Living Museum, 2002, p. 39
- ↑ Jensen, Hans (1970). Sign, symbol and script: an account of man's efforts to write. p. 392.
- ↑ วิโรจน์ ผดุงสุนทรารักษ์. (2547). อักษรไทยและอักษรขอมไทย THAI SCRIPTS & KHMER SCRIPTS FL348. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง. หน้า 137. ISBN 974-9676-23-8
- ↑ 10.0 10.1 ศานติ ภักดีคำ. (2562). "อักษรขอมกับเอกสารตัวเขียนสมัยรัตนโกสินทร์," แลหลังคำเขมร-ไทย. กรุงเทพฯ: มติชน. หน้า 125–126. ISBN 978-974-02-1687-2
- "เขมรได้รับเอาอักษรขอมหวัด (ตัวเกษียน) สมัย รัตนโกสินทร์ตอนต้นไปปรับใช้เป็นอักษรเขมรแบบใหม่ที่เรียกว่า อักษรเชรียง (คืออักษรเขมรปัจจุบัน) แต่ว่ามีรูปพยัญชนะแปลก ไปจากอักษรขอมอื่น ๔ ตัว คือ ง ท น ฬ และใช้อักษร อ เป็น ทุ่นแทนสระลอยในบางคำ"
- "อักษรเชรียงนี้สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปัญญาสีโล ปาน) สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายธรรมยุติกนิกาย วัดปทุมวดี กรุงพนมเปญ เป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ ราว พ.ศ. ๒๔๓๐ ในรัชกาลสมเด็จพระนโรดม เพื่อใช้พิมพ์และเขียนภาษาเขมร"
- ↑ ศานติ ภักดีคำ. (2545). เขมรรบไทย. กรุงเทพฯ: มติชน. หน้า 33 เชิงอถรรถ ๑๙. ISBN 978-974-02-0810-5
- ↑ ประยูร ทรงศิลป์. (2526). การเปลี่ยนแปลงของภาษา: คำยืมในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: วิทยาลัยครูธนบุรี. หน้า 129.
- ↑ กตัญญู ชูชื่น. (2525). ภาษาเขมรในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพาณิช. หน้า 17. ISBN 978-974-0-75178-6
- ↑ "MoolBoran font family". Microsoft Corp. 20 October 2017.
- ↑ "DaunPenh font family". Microsoft Corp. 20 October 2017.
- ↑ วิไลศักดิ์ กิ่งคำ (2007). ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ISBN 978-974-9934-31-9.
- ↑ "Unicode Character 'KHMER SIGN AHSDA' (U+17CF)". Fileformat.info.
- ↑ "Unicode Character 'KHMER SIGN BATHAMASAT' (U+17D3)". Fileformat.info.
แหล่งข้อมูลอื่น