อักษรขอมไทย เป็นอักษรพราหมีรูปแบบหนึ่งที่ใช้เขียนในประเทศไทยและลาว[2] ซึ่งใช้เขียนภาษาบาลี, สันสกฤต และไทย อักษรดังกล่าวนี้สามารถพบได้ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ตำรายา ตำราคาถาอาคม รูปยันต์ต่าง ๆ โดยมากปรากฏในแถบภาคกลาง และอาจพบได้บ้างในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ในอดีต อักษรนี้มีชื่อว่า อักษรขอม[3] คำว่า ขอม มีหลายความหมาย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้ความหมายว่า เขมรโบราณ[4]
พยัญชนะมีทั้งหมด 35 ตัว โดยแต่ละตัวมีทั้งรูปตัวเต็มกับตัวเชิงหรือพยัญชนะซ้อน มีการจัดแบ่งเป็นวรรคตามระบบภาษาสันสกฤต
รูปพยัญชนะอักษรขอมไทยน้อยกว่าอักษรไทย 9 ตัว โดยรูปพยัญชนะที่ขาดไป 9 ตัว คือ ฃ ฅ ซ ฎ ด บ ฝ ฟ และ ฮ ซึ่งการเขียนคำที่มีพยัญชนะที่ขาดไปเป็นดังนี้
พยัญชนะทุกตัวใช้เป็นพยัญชนะต้นได้ทั้งหมด ในกรณีของอักษรนำและตัวควบกล้ำ ตัวแรกใช้รูปตัวเต็ม ตัวต่อไปใช้รูปตัวเชิง
นิยมเขียนด้วยรูปตัวเชิงใต้พยัญชนะต้นหรือสระ เว้นแต่พยัญชนะมีรูปสระหรือตัวควบกล้ำอยู่ข้างล่างอยู่แล้วจึงใช้รูปตัวเต็ม
แบ่งเป็นสระลอยกับสระจม รูปสระลอยใช้เขียนคำที่มีเสียง อ มีทั้งหมด 8 ตัว ได้แก่
รูปสระจมหรือประสมคล้ายกับอักษรไทยปัจจุบัน ที่ต่างไปมีดังนี้
รูปวรรณยุกต์ของอักษรขอมไทยมีความคล้ายกับวรรณยุกต์ของอักษรไทย[5] โดยมีการใช้งานไม่แน่นอนมีทั้งที่ไม่เติมวรรณยุกต์ ใช้รูปวรรณยุกต์ต่างจากปัจจุบัน หรือใช้เหมือนกัน
มีทั้งเขียนบนพยัญชนะต้นและตัวสะกด บางครั้งไม่ใช้ไม้หันอากาศแต่เพิ่มตัวสะกดเป็น 2 ตัวแทน เช่น วนฺน = วัน, ทงั = ทั้ง
อักษรขอมไทยยังไม่ได้รับการบรรจุลงในยูนิโคด แต่สามารถใช้อักษรไทยแสดงรูปอักษรขอมไทยได้
ฟาริดา วิรุฬหผลได้ออกแบบฟอนต์อักษรขอมไทยสามแบบเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอน ฟอนต์เหล่านี้สามารถทำให้ผู้พิมพ์อักษรไทยคุ้นเคยกับอักษรขอมไทยเร็วขึ้น[6]
{{cite journal}}
|journal=
พื้นฐานจากพยางค์: อักษรในอานาโตเลีย (คาเรีย · ลิเชีย · ลิเดีย · ลูเวีย) · รูปลิ่ม (ซูเมอร์ · แอกแคด · อีลาไมต์) · ตงปา · ตังกุต · มายา · อี้ พื้นฐานจากอักษรจีน: คันจิ · คีตัน · อักษรจีน (ตัวเต็ม · ตัวย่อ) · จื๋อโนม · จูร์เชน · น่าซี · สือดิบผู้จ่อง · ฮันจา
Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!