ร่างกายมนุษย์ เป็นโครงสร้างทั้งหมดของมนุษย์ ประกอบด้วยเซลล์ หลายชนิดที่รวมกันเป็นเนื้อเยื่อ ซึ่งรวมกันเป็นระบบอวัยวะ สิ่งเหล่านี้คงภาวะธำรงดุล และความอยู่รอด ของร่างกายมนุษย์ ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยศีรษะ , คอ , ลำตัว (ซึ่งรวมถึงอก และท้อง ), แขน และมือ , ขา และเท้า
การศึกษาร่างกายมนุษย์เชื่อมโยงกับกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา มิญชวิทยา และคัพภวิทยา ร่างกายมีความแตกต่างทางกายวิภาคแบบต่าง ๆ สรีรวิทยามุ่งไปที่ระบบและอวัยวะของมนุษย์และการทำงานของอวัยวะ หลายระบบและกลไกมีปฏิกิริยาต่อกันเพื่อคงภาวะธำรงดุล โดยมีระดับที่ปลอดภัยของสารต่าง ๆ เช่น น้ำตาลและออกซิเจนในเลือด
องค์ประกอบ
ธาติต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์โดยมวล จุลธาตุ ทั้งหมดมีจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 1 โดยแต่ละอย่างมีจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 0.1
ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยธาตุ ต่าง ๆ เช่น ไฮโดรเจน ออกซิเจน คาร์บอน แคลเซียม และฟอสฟอรัส [ 1] ธาตุเหล่านี้อยู่ในเซลล์นับล้านล้านและส่วนประกอบที่ไม่ใช่เซลล์ในร่างกายมนุษย์
ประมาณร้อยละ 60 ของร่างกายชายโตเต็มวัยเป็นน้ำ คิดเป็นปริมาณประมาณ 42 ลิตร ในจำนวนนี้ 19 ลิตรเป็นน้ำภายนอกเซลล์รวมถึงน้ำเลือด ปริมาณ 3.2 ลิตร และสารน้ำแทรก ปริมาณ 8.4 ลิตร และส่วนที่เหลือเป็นน้ำภายในเซลล์จำนวน 23 ลิตร[ 2] ส่วนประกอบและความเป็นกรดของน้ำทั้งในและนอกเซลล์ถูกรักษาไว้อย่างดี อิเล็กโทรไลต์ หลักของน้ำภายนอกเซลล์ในร่างกายได้แก่ โซเดียม และคลอไรด์ ส่วนสำหรับน้ำภายในเซลล์ได้แก่โพแทสเซียม และฟอสเฟต อื่น
เซลล์
ร่างกายประกอบด้วยเซลล์นับล้านล้านซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต[ 4] ขณะโตเต็มวัย มนุษย์มีเซลล์ประมาณ 30[ 5] –37[ 6] ล้านล้าน เซลล์ในร่างกาย ปริมาณจากจำนวนเซลล์ทั้งหมดในอวัยวะ ต่าง ๆ และเซลล์ประเภทต่าง ๆ นอกจากนี้ร่างกายยังเป็นที่อาศัยของเซลล์ที่ไม่ใช่มนุษย์จำนวนเท่า ๆ กัน[ 5] รวมถึงสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ซึ่งอาศัยในทางเดินอาหาร และบนผิวหนัง[ 7] ร่างกายไม่ได้ประกอบไปด้วยเซลล์เพียงอย่างเดียว เซลล์ตั้งอยู่ในสารเคลือบเซลล์ ที่ประกอบด้วยโปรตีน เช่น คอลลาเจน ล้อมรอบด้วยน้ำภายนอกเซลล์ มนุษย์ที่น้ำหนัก 70 กิโลกรัมมีเซลล์ที่ไม่ใช่เซลล์มนุษย์และวัสดุที่ไม่ใช่เซลล์ เช่น กระดูกและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน น้ำหนักเกือบ 25 กิโลกรัม[ 5]
เซลล์ในร่างกายทำงานได้ด้วยดีเอ็นเอ ซึ่งอยู่ในนิวเคลียส ของเซลล์ ข้างในนิวเคลียส ส่วนของดีเอ็นเอถูกคัดลอกและส่งไปยังตัวของเซลล์ในรูปแบบของอาร์เอ็นเอ จากนั้นอาร์เอ็นเอถูกใช้เพื่อสร้างโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานสำหรับเซลล์ กิจกรรมของเซลล์ และผลิตภัณฑ์ของเซลล์ โปรตีนเป็นตัวกำหนดหน้าของเซลล์และการแสดงออกของยีน เซลล์สามารถควบคุมตัวเองได้จากปริมาณโปรตีนที่ผลิต[ 9] อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกเซลล์ที่จะมีดีเอ็นเอ เซลล์บางชนิด เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดง สูญเสียนิวเคลียสเมื่อโตเต็มที่
เนื้อเยื่อ
ร่างกายประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อหลายแบบ โดยเนื้อเยื่อถูกให้ความหมายว่าคือกลุ่มเซลล์ที่มีหน้าที่เฉพาะ[ 10] การศึกษาเกี่ยวกับเนื้อเยื่อเรียกว่ามิญชวิทยา และมักศึกษาผ่านกล้องจุลทรรศน์ ร่างกายประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อสี่ชนิดหลัก คือ เนื้อเยื่อบุผิว เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้อเยื่อประสาท และเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ
เซลล์ที่ตั้งอยู่บนพื้นผิวที่พบกับโลกภายนอกหรือในทางเดินอาหาร (เนื้อเยื่อบุผิว ) หรือเนื้อเยื่อบุโพรง (endothelium) มีหลายรูปแบบและรูปร่าง ตั้งแต่เซลล์แบนชั้นเดียว ไปจนถึงเซลล์ในปอดที่มีซีเลีย คล้ายเส้นผม ไปจนถึงเซลล์แท่งทรงกระบอกที่บุกระเพาะอาหาร เซลล์เนื้อเยื่อบุโพรงเป็นเซลล์ที่บุช่องภายในรวมทั้งเส้นเลือดและต่อมต่าง ๆ เซลล์บุควบคุมว่าสิ่งไหนสามารถผ่านหรือไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ปกป้องโครงสร้างภายใน และทำหน้าที่เป็นพื้นผิวรับความรู้สึก
อวัยวะ
อวัยวะ เป็นกลุ่มเซลล์ที่มีโครงสร้างและหน้าที่เฉพาะ[ 12] ซึ่งตั้งอยู่ภายในร่างกาย ตัวอย่างเช่น หัวใจ ปอด และตับ อวัยวะหลายอย่างอยู่ในช่องว่างภายในร่างกายรวมถึงช่องว่างในลำตัวและโพรงเยื่อหุ้มปอด
ระบบ
ระบบไหลเวียน
ระบบไหลเวียน ประกอบด้วยหัวใจ หลอดเลือด (หลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ และหลอดเลือดฝอย ) หัวใจทำหน้าที่ขับเคลื่อนการไหลเวียนของเลือด โดยเลือดเป็นดั่ง "ระบบขนส่ง" ในการขนย้ายออกซิเจน เชื้อเพลิง สารอาหาร ของเสีย เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน และตัวนำส่งสารเคมี (เช่น ฮอร์โมน) จากส่วนหนึ่งของร่างกายไปยังอีกส่วน เลือดประกอบด้วยน้ำที่ขนส่งเซลล์ในระบบไหลเวียน รวมถึงบางเซลล์ที่เดินทางจากเนื้อเยื่อไปกลับหลอดเลือด รวมทั้งไปยังและจากม้าม และไขกระดูก [ 13] [ 14] [ 15]
ระบบย่อยอาหาร
ระบบย่อยอาหาร ประกอบด้วยปาก รวมถึงลิ้น และฟัน , หลอดอาหาร , กระเพาะอาหาร , ทางเดินอาหาร , ลำไส้เล็ก และใหญ่ รวมถึงไส้ตรง รวมถึงตับ , ตับอ่อน , ถุงน้ำดี และต่อมน้ำลาย ทำหน้าที่เปลี่ยนอาหารเป็นโมเลกุล ที่เล็ก มีคุณค่าทางอาหาร และไม่เป็นพิษ เพื่อให้สามารถกระจายและดูดซึมได้ในร่างกาย[ 16]
ระบบต่อมไร้ท่อ
ระบบต่อมไร้ท่อ ประกอบด้วยต่อมไร้ท่อหลัก รวมถึง ต่อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต ตับอ่อน ต่อมพาราไทรอยด์ และต่อมบ่งเพศ ทว่าอวัยวะและเนื้อเยื่อเกือบทั้งหมดผลิตฮอร์โมนต่อมไร้ท่อเฉพาะเช่นกัน ฮอร์โมน ต่อมไร้ท่อทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณจากระบบร่างกายหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่งเพื่อบอกถึงสถานะต่าง ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงาน[ 17]
ระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกันประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวและแดงทำงานปกติ ต่อมไทมัส ต่อมน้ำเหลือง และทางเดินน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบน้ำเหลือง ระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายสามารถแยกแยะเซลล์และเนื้อเยื่อตนเองออกจากเซลล์และสิ่งภายนอก เพื่อต่อต้านหรือทำลายเซลล์หรือสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกโดยใช้โปรตีนเฉพาะและ เช่น แอนติบอดี ไซโตไคน์ , toll-like receptors และอื่น ๆ
ระบบผิวหนัง
ระบบผิวหนัง ประกอบด้วยผิวหนังที่ปกคลุมร่างกาย รวมถึง เส้นผม และเล็บ รวมถึงโครงสร้างอื่น ๆ ที่มีหน้าที่สำคัญ เช่น ต่อมเหงื่อ และต่อมไขมัน ผิวหนังทำหน้าที่ห่อหุ่ม เป็นโครงสร้าง และป้องกันอวัยวะอื่น และยังเป็นตัวรับรู้ถึงโลกภายนอก[ 18] [ 19]
ระบบน้ำเหลือง
ระบบน้ำเหลือง สกัด ขนส่ง และเปลี่ยนแปลงน้ำเหลือง หรือน้ำที่อยู่ระหว่างเซลล์ ระบบน้ำเหลืองคล้ายกับระบบไหลเวียนทั้งในเชิงโครงสร้างและหน้าที่พื้นฐานซึ่งคือการขนส่งน้ำในร่างกาย[ 20]
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูกประกอบด้วยโครงกระดูกมนุษย์ (รวมถึงกระดูก เอ็นยึด เอ็นกล้ามเนื้อ และกระดูกอ่อน ) และกล้ามเนื้อ ที่ยึดติด ระบบนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของร่างกายและเป็นตัวให้ความสามารถในการขยับ นอกจากจะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างแล้ว กระดูกชิ้นใหญ่ในร่างกายยังบรรจุไขกระดูก ซึ่งเป็นที่ผลิตเซลล์เม็ดเลือด นอกจากนี้ กระดูกทุกชิ้นยังเป็นที่เก็บสะสมหลักของแคลเซียม และฟอสเฟต ระบบนี้สามารถแบ่งออกเป็นระบบกล้ามเนื้อ และระบบกระดูก [ 21]
ระบบประสาท
ระบบประสาท ประกอบด้วยระบบประสาทกลาง (สมอง และไขสันหลัง ) และระบบประสาทนอกส่วนกลาง ประกอบด้วยเส้นประสาทและปมประสาท นอกสมองและไขสันหลัง สมองเป็นอวัยวะแห่งความคิด อารมณ์ ความทรงจำ และการประมวนทางประสาทสัมผัส และทำหน้าที่ในหลายมุมมองของการสื่อสารและควบคุมระบบและหน้าที่ต่าง ๆ ความรู้สึกพิเศษประกอบด้วย การมองเห็น การได้ยิน การรับรู้รส และการดมกลิ่น ซึ่ง ตา,หู, ลิ้น, และจมูกรวบรวมข้อมูลจากสิ่งรอบตัว[ 22]
ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ ประกอบด้วยต่อมบ่งเพศ และอวัยวะเพศทั้งภายในและภายนอก ระบบสืบพันธุ์ผลิตเซลล์สืบพันธุ์ ในแต่ละเพศ, ให้กลไกสำหรับการรวมกันของเซลล์สืบพันธุ์, และสำหรับเพศหญิงยังให้สิ่งแวดล้อมในการพัฒนาทารกในเก้าเดือนแรก[ 23]
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ ประกอบด้วยจมูก คอหอย หลอดลม และปอด อวัยวะเหล่านี้นำออกซิเจน จากอากาศและขับคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำกลับไปยังอากาศ[ 24]
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ระบบทางเดินปัสสาวะ ประกอบด้วยไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ โดยทำหน้าที่ขับสิ่งเป็นพิษออกจากเลือดเพื่อผลิตปัสสาวะซึ่งขนส่งโมเลกุลของเสียและไอออน ส่วนเกินและน้ำออกจากร่างกาย[ 25]
อ้างอิง
↑ "Chemical Composition of the Human Body" . About education. สืบค้นเมื่อ 2 September 2016 .
↑ "Fluid Physiology" . Anaesthesiamcq . สืบค้นเมื่อ 2 September 2016 .
↑ "The Cells in Your Body" . Science Netlinks. สืบค้นเมื่อ 2 September 2016 .
↑ 5.0 5.1 5.2 Ron Sender; Shai Fuchs; Ron Milo (2016). "Revised estimates for the number of human and bacteria cells in the body" . PLOS Biology . 14 (8): e1002533. bioRxiv 036103 . doi :10.1371/journal.pbio.1002533 . PMC 4991899 . PMID 27541692 .
↑ Bianconi, E; Piovesan, A; Facchin, F; Beraudi, A; Casadei, R; Frabetti, F; Vitale, L; Pelleri, MC; Tassani, S; Piva, F; Perez-Amodio, S; Strippoli, P; Canaider, S (5 July 2013). "An estimation of the number of cells in the human body". Annals of Human Biology . 40 (6): 463–71. doi :10.3109/03014460.2013.807878 . PMID 23829164 .
↑ David N., Fredricks (2001). "Microbial Ecology of Human Skin in Health and Disease" . Journal of Investigative Dermatology Symposium Proceedings . 6 : 167–169. doi :10.1046/j.0022-202x.2001.00039.x . สืบค้นเมื่อ 7 February 2017 .
↑ "Gene Expression | Learn Science at Scitable" . www.nature.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2017-07-29 .
↑ "tissue – definition of tissue in English" . Oxford Dictionaries | English . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2016-10-05. สืบค้นเมื่อ 2016-09-17 .
↑ "organ | Definition, meaning & more | Collins Dictionary" . www.collinsdictionary.com . สืบค้นเมื่อ 2016-09-17 .
↑ "Cardiovascular System" . U.S. National Cancer Institute. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2 February 2007. สืบค้นเมื่อ 2008-09-16 .
↑ Human Biology and Health . Upper Saddle River, NJ: Pearson Prentice Hall. 1993. ISBN 0-13-981176-1 .
↑ "The Cardiovascular System" . SUNY Downstate Medical Center. 8 March 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2016-06-11. สืบค้นเมื่อ 2018-04-16 .
↑ "Your Digestive System and How It Works" . NIH. สืบค้นเมื่อ 4 September 2016 .
↑ "Hormonal (endocrine) system" . Victoria State Government. สืบค้นเมื่อ 4 September 2016 .
↑ Integumentary System ในหอสมุดแพทยศาสตร์แห่งชาติอเมริกัน สำหรับหัวข้อเนื้อหาทางการแพทย์ (MeSH)
↑ Marieb, Elaine; Hoehn, Katja (2007). Human Anatomy & Physiology (7th ed.). Pearson Benjamin Cummings. p. 142 .
↑ Zimmerman, Kim Anne. "Lymphatic System: Facts, Functions & Diseases" . LiveScience. สืบค้นเมื่อ 4 September 2016 .
↑ Moore, Keith L.; Dalley, Arthur F.; Agur Anne M. R. (2010). Moore's Clinically Oriented Anatomy . Phildadelphia: Lippincott Williams & Wilkins. pp. 2–3. ISBN 978-1-60547-652-0 .
↑ "Nervous System". Columbia Encyclopedia (6th ed.). Columbia University Press. 2001. ISBN 978-0-787-65015-5 .
↑ "Introduction to the Reproductive System" . Epidemiology and End Results (SEER) Program. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2 January 2007.
↑ Maton, Anthea; Hopkins, Jean Susan; Johnson, Charles William; McLaughlin, Maryanna Quon; Warner, David; LaHart Wright, Jill (2010). Human Biology and Health . Prentice Hall. pp. 108–118. ISBN 0-134-23435-9 .
↑ Zimmerman, Kim Ann. "Urinary System: Facts, Functions & Diseases" . LiveScience. สืบค้นเมื่อ 4 September 2016 .
หนังสือ
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิพจนานุกรม มีความหมายของคำว่า
body