| เนื้อหาในบทความนี้ ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดู หน้าอภิปรายประกอบ |
คุรุสภา (อังกฤษ: The Teachers' Council of Thailand) เป็นสภาสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในประเทศไทย จัดตั้งขึ้นพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 มีบทบาทในการกำหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กำกับ ดูแล การปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ รวมทั้งการพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งเป็นการยกระดับวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง โดยมีสำนักเลขานุการคือ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
คุรุสภา มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐ ประเภทองค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะ[4]
ประวัติ
เมื่อปี พ.ศ. 2488 รัฐบาลของนายควง อภัยวงศ์ โดยนายทวี บุณยเกตุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาวิกฤติในวิชาชีพครู เนื่องจากคนดี คนเก่ง ไม่อยากเรียนครู และครูเก่ง ครูดีจำนวนไม่น้อยไปประกอบอาชีพอื่น จึงได้มีการตรา พระราชบัญญัติครู พ.ศ. 2488 ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติวิชาชีพครู โดยให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการ มีฐานะเป็นนิติบุคคล เรียกว่า คุรุสภา ให้มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไป ควบคุมจรรยาและวินัยของครู รักษาผลประโยชน์ และส่งเสริมฐานะครู และครอบครัวให้ได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู ตลอดจนทำหน้าที่แทนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ในเรื่องการบริหารงานบุคคล โดยกำหนดให้ครูทุกคนต้องเป็นสมาชิกคุรุสภา[5]
ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 รัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีปองพล อดิเรกสาร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตรา พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ทำให้คุรุสภาเปลี่ยนสถานะเป็นสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
วัตถุประสงค์
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 มาตรา 8 ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของคุรุสภาไว้ ดังนี้
- กำหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออกและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กำกับ ดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพ รวมทั้งการพัฒนาวิชาชีพ
- กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาวิชาชีพ
- ประสาน ส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
คณะกรรมการ
คณะกรรมการคุรุสภา
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการคุรุสภา ประกอบด้วย
หมายเหตุ : หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ หลักเณฑ์และวิธีการเลือกผู้แทนสถาบันอุดมศึกษา และหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นไปตามข้อบังคับของคุรุสภา
ในปัจจุบัน คณะกรรมการคุรุสภา แต่งตั้งโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 17/2560[6]
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ประกอบด้วย
อำนาจหน้าที่
คณะกรรมการคุรุสภา
- บริหารและดำเนินการตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของคุรุสภาซึ่งกำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
- ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
- พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามมาตรา 54
- เร่งรัดพนักงานเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ หรือคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
- แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกระทำการใดๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
- กำหนดนโยบายการบริหารงาน และให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
- ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา
- พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย
- ควบคุม ดูแล การดำเนินงาน และการบริหารงานทั่วไป ตลอดจนออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ในเรื่องดังต่อไปนี้
- การจัดแบ่งส่วนงานของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาและขอบเขตหน้าที่ของส่วนงานดังกล่าว
- การกำหนดตำแหน่ง คุณสมบัติเฉพาะ อัตราเงินเดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนอื่นของพนักงานเจ้าหน้าที่คุรุสภา
- การคัดเลือก การบรรจุ การแต่งตั้ง การถอดถอน วินัยและการลงโทษของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งวิธีการ เงื่อนไข ในการจ้างพนักงานเจ้าหน้าที่ของคุรุสภา
- การบริหารและจัดการการเงิน การพัสดุ และทรัพย์สินของคุรุสภา
- กำหนดอำนาจหน้าที่และระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจสอบภายใน
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
- พิจารณาการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และการพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต
- กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
- ส่งเสริม พัฒนา และเสนอแนะคณะกรรมการคุรุสภากำหนดมาตรฐานและจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ
- ส่งเสริม ยกย่อง และพัฒนาวิชาชีพไปสู่ความเป็นเลิศในสาขาต่าง ๆ ตามที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
- แต่งตั้งที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ หรือมอบหมายกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อกระทำการใดๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
- ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
- พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรี หรือคณะกรรมการคุรุสภามอบหมาย
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
ในการดำเนินงานของคุรุสภามี สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เป็นหน่วยเลขานุการและธุรการ รับผิดชอบงานตามที่คุรุสภามอบหมาย โดยมีเลขาธิการคุรุสภาเป็นผู้บริหารกิจการของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ปัจจุบันแบ่งส่วนงานออกเป็น 7 สำนัก 1 สถาบัน 1 กลุ่ม 1 หน่วย[7] ดังนี้
- สำนักมาตรฐานวิชาชีพ
- สำนักทะเบียนและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
- สำนักจรรยาบรรณวิชาชีพและนิติการ
- สำนักพัฒนาและส่งเสริมวิชาชีพ
- สำนักนโยบายและแผน
- สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- สำนักอำนวยการ
- สถาบันคุรุพัฒนา
- กลุ่มพัฒนาระบบงาน
- หน่วยตรวจสอบภายใน
สถาบันคุรุพัฒนา
สถาบันคุรุพัฒนา เป็นหน่วยงานภายในของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 ตามระเบียบคณะกรรมการคุรุสภาว่าด้วยการจัดตั้งถาบันคุรุพัฒนา พ.ศ. 2560 และระเบียบคณะกรรมการคุรุสภาว่าด้วยการจัดตั้งสถาบันคุรุพัฒนา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 โดยกำหนดให้สถาบันคุรุพัฒนาเป็นสถาบันวิชาการชั้นสูง ในกำกับของคุรุสภา เป็นส่วนงานหนึ่งของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ตามระเบียบคุรุสภา ว่าด้วยการจัดแบ่งส่วนงานและขอบเขตหน้าที่ของส่วนงานในสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา พ.ศ. 2560 มีสถานะเทียบเท่าสำนัก ใช้คำย่อว่า “สคพ.” และให้มี ชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า “Teacher Professional Development Institute” ใช้คำย่อว่า “TPDI”
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
การเมือง | ระบอบการปกครอง | |
---|
อุดมการณ์ | |
---|
อื่น ๆ | |
---|
| |
---|
ศิลปะ-วัฒธรรม | |
---|
สถานที่ และสิ่งปลูกสร้าง | อนุสาวรีย์ | |
---|
ผังเมือง | |
---|
การศึกษา-กีฬา | |
---|
ศูนย์ราชการ | |
---|
การทหาร | |
---|
สาธารณสุข | |
---|
คมนาคม | |
---|
ศาสนสถาน | |
---|
เศรษฐกิจ | |
---|
|
---|
อื่น ๆ | |
---|
- (✗) = ไม่ปรากฏแล้ว, ถูกรื้อถอน, สูญหาย, ยกเลิก
- (∇) = เปลี่ยนชื่อ, เปลี่ยนแปลงความหมาย
|