บทความนี้เกี่ยวกับบทบาทและความสำคัญของมุฮัมมัดในศาสนาอิสลาม สำหรับภาพรวมทั่วไป ดูที่
มุฮัมมัด
ในศาสนาอิสลาม มุฮัมมัด (อาหรับ : مُحَمَّد ) ได้รับการยกย่องเป็นตราประทับของศาสดา และอันนูร ผู้ถ่ายทอดพระวจนะนิรันดร์ของอัลลอฮ์ (กุรอาน ) จากทูตสวรรค์ ญิบรีล แก่มนุษยชาติและญิน [ 1] มุสลิมเชื่อว่าอัลกุรอาน คัมภีร์ ของศาสนาอิสลาม ได้รับการเปิดเผยแก่มุฮัมมัดโดยพระผู้เป็นเจ้า และมุฮัมมัดถูกส่งมาเพื่อชี้นำผู้คนสู่อิสลาม ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้เป็นศาสนาใหม่ แต่เป็นความเชื่อดั้งเดิมของมนุษยชาติ (ฟิฏเราะฮ์ ) ที่ไม่ถูกบิดเบือน และศาสดาก่อนหน้า อย่างอาดัม อิบรอฮีม มูซา และอีซา ก็นับถือความเชื่อเดียวกัน[ 2] [ 3] [ 4] [ 5] หลักศาสนา สังคม และการเมืองที่มุฮัมมัดกำหนดไว้ด้วยอัลกุรอานกลายเป็นรากฐานของศาสนาอิสลามและโลกมุสลิม [ 6]
ตามธรรมเนียมมุสลิม มุฮัมมัดได้รับวะฮ์ยูครั้งแรกตอนอายุ 40 ปีในถ้ำฮิรออ์ ที่มักกะฮ์ หลังจากนั้น ท่านจึงเริ่มสั่งสอนความเป็นเอกะของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อล้มล้างความงมงาย ในอาระเบียก่อนอิสลาม [ 7] [ 8] สิ่งนี้นำให้ชาวมักกะฮ์เริ่มต่อต้าน โดยมีอะบูละฮับ กับอะบูญะฮล์ เป็นศัตรูของมุฮัมมัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในธรรมเนียมอิสลาม นำไปสู่การกดขี่มุฮัมมัด และผู้ที่เป็นมุสลิมอพยพไปยังมะดีนะฮ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้รู้จักกันในชื่อฮิจเราะห์ [ 9] [ 10] จนกระทั่งมุฮัมมัดเริ่มสู้กลับพวกบูชารูปเคารพแห่งมักกะฮ์ในยุทธการที่บัดร์ กึ่งตำนาน ซึ่งธรรมเนียมอิสลามระบุว่าไม่เพียงแต่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างชาวมุสลิมกับผู้นับถือพระเจ้าหลายองค์ในยุคก่อนอิสลามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระหว่างทูตสวรรค์ฝ่ายมุฮัมมัดกับเหล่าเทพเจ้าและญินที่เข้าข้างพวกมักกะฮ์ด้วย หลังได้รับชัยชนะ เชื่อกันว่ามุฮัมมัดได้ชำระล้างอาระเบียจากการนับถือพระเจ้าหลายองค์ และแนะนำให้ผู้ติดตามของเขาละทิ้งการบูชารูปเคารพเพื่อความเป็นเอกภาพของพระเจ้า
มุฮัมมัดในฐานะผู้แสดงให้เห็นถึงการนำทางของพระผู้เป็นเจ้าและแบบอย่างของการละทิ้งการบูชารูปเคารพ ได้รับความเข้าใจว่าเป็นตัวอย่างที่เป็นแบบอย่างในเรื่องคุณธรรม จิตวิญญาณ และความเป็นเลิศทางศีลธรรม[ 11] มีการแสดงออกทางจิตวิญญาณของท่านในการเดินทางสู่ชั้นฟ้าทั้ง 7 (เมียะอ์รอจญ์ ) พฤติกรรมและคำแนะนำของท่านกลายเป็นที่รู้จักในนามซุนนะฮ์ ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้จริงตามคำสอนของมุฮัมมัด นอกจากนี้ มุฮัมมัดได้รับการยกย่องด้วยตำแหน่งและชื่อหลายแบบ เพื่อเป็นการให้เกียรติและกล่าวทัก มุฮัมมัดจะเรียกชื่อมุฮัมมัดพร้อมคำให้พรภาษาอาหรับว่า "ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม" ("ขอให้พระองค์อัลลอฮฺทรงอำนวยพรและทรงประทานความสันติแก่ท่าน")[ 12] บางครั้งย่อเป็น "ศ็อลฯ" มุสลิมมักเรียกมุฮัมมัดเป็น "ศาสดามุฮัมมัด" หรือแค่ "ท่านศาสดา" และถือว่าเป็นคนที่ดีเยี่ยมที่สุดในบรรดาศาสนทูตทั้งหมด[ 2] [ 13] [ 14] [ 15]
ในอัลกุรอาน
ความเคารพ
มุสลิมให้ความเคารพแก่มุฮัมมัดเป็นอย่างสูง[ 16] และบางคนถือว่าเป็นผู้ที่ดีที่สุดในบรรดาศาสนทูตทั้งหมด[ 2] [ 13] [ 14]
เมื่อพูดถึงท่าน มุสลิมจะเพิ่มตำแหน่ง "ศาสดา" หรือ "นบี" ข้างหน้ามุฮัมมัด และตามด้วยคำสรรเสริญ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (صَلّى الله عليه وسلّم , "ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่าน") เสมอ[ 12] บางครั้งเขียนในรูปย่อเป็น ﷺ
มุสลิมไม่สักการะมุฮัมมัด เนื่องจากการสักการะในศาสนาอิสลามเป็นของพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น[ 14] [ 17] [ 18]
สัตว์
การแสดงภาพ
แม้ว่าศาสนาอิสลามประณามการแสดงภาพความเป็นพระเจ้าอย่างชัดแจ้งเท่านั้น ข้อห้ามดังกล่าวยังได้ขยายไปถึงศาสนทูตและนักบุญ และสำหรับชาวอาหรับนิกายซุนนี ครอบคลุมไปถึงสิ่งมีชีวิตใด ๆ ก็ตาม[ 19] แม้ว่าทั้งสำนักกฎหมายซุนนีและนิติศาสตร์ชีอะฮ์จะห้ามมิให้พรรณนาภาพมุฮัมมัดเป็นรูปเป็นร่างเหมือนกัน[ 20] การวาดภาพมุฮัมมัดปรากฏในตำราอาหรับและตุรกีออตโตมัน และรุ่งเรื่องเป็นการเฉพาะในสมัยจักรวรรดิข่านอิล (1256–1353), เตมือร์ (1370–1506) และซาฟาวิด (1501–1722) เนื่องจากมุฮัมมัดได้รับการอธิบายว่ามีใบหน้าสว่างดั่งแสง ใบหน้าของมุฮัมมัดในภาพวาดมักถูกแสงบัง หรือถ้าไม่มีแสงก็จะคลุมใบหน้าแทน[ 21]
แต่นอกจากข้อยกเว้นที่สำคัญและในอิหร่านสมัยใหม่[ 22] การวาดภาพมุฮัมมัดเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบเห็น แต่ถ้ามีการวาด ส่วนใหญ่ก็จะคลุมใบหน้า[ 23] [ 24]
หมายเหตุ
อ้างอิง
↑ Theuma, Edmund. "Qur'anic exegesis: Muhammad & the Jinn." (1996).
↑ 2.0 2.1 2.2 Esposito, John (1998). Islam: The Straight Path . Oxford University Press. p. 12 . ISBN 978-0-19-511233-7 .
↑ Esposito (2002b), pp. 4–5.
↑ Peters, F.E. (2003). Islam: A Guide for Jews and Christians . Princeton University Press. p. 9 . ISBN 978-0-691-11553-5 .
↑ Esposito, John (1998). Islam: The Straight Path (3rd ed.) . Oxford University Press. pp. 9, 12 . ISBN 978-0-19-511234-4 .
↑ "Muhammad (prophet)". Microsoft® Student 2008 [DVD] (Encarta Encyclopedia) . Redmond, WA: Microsoft Corporation. 2007.
↑ Muir, William (1861). Life of Mahomet . Vol. 2. London: Smith, Elder, & Co. p. 55.
↑ Shibli Nomani . Sirat-un-Nabi . Vol 1 Lahore .
↑ Hitti, Philip Khuri (1946). History of the Arabs . London: Macmillan and Co. p. 116.
↑ "Muhammad" . Encyclopædia Britannica Online . Encyclopædia Britannica, Inc. 2013. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 27 January 2013. สืบค้นเมื่อ 27 January 2013 .
↑ Matt Stefon, บ.ก. (2010). Islamic Beliefs and Practices . New York City: Britannica Educational Publishing . p. 58 . ISBN 978-1-61530-060-0 .
↑ 12.0 12.1 Matt Stefon (2010). Islamic Beliefs and Practices , p. 18
↑ 13.0 13.1 Morgan, Garry R (2012). Understanding World Religions in 15 Minutes a Day . Baker Books. p. 77. ISBN 978-1-4412-5988-2 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 June 2016. สืบค้นเมื่อ 29 September 2015 .
↑ 14.0 14.1 14.2 Mead, Jean (2008). Why Is Muhammad Important to Muslims . Evans Brothers. p. 5. ISBN 978-0-237-53409-7 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 June 2016. สืบค้นเมื่อ 29 September 2015 .
↑ Riedling, Ann Marlow (2014). Is Your God My God . WestBow Press. p. 38. ISBN 978-1-4908-4038-3 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 14 May 2016. สืบค้นเมื่อ 29 September 2015 .
↑ Rippin, Andrew (2005). Muslims: Their Religious Beliefs and Practices . Routledge . p. 200. ISBN 978-0-415-34888-1 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-29.
↑ Morgan, Diane (2010). Essential Islam: A Comprehensive Guide to Belief and Practice . ABC-CLIO. p. 101 . ISBN 978-0-313-36025-1 .
↑ Khan, Arshad (2003). Islam, Muslims, and America: Understanding the Basis of Their Conflict . New York City: Algora Publishing. ISBN 978-0-87586-194-4 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-27.
↑ Titus Burckhardt The Void in Islamic Art Studies in Comparative Religion, Vol. 16, No. 1 & 2 (Winter-Spring, 1984 p. 2
↑ Arnold, T. W. (June 1919). "An Indian Picture of Muhammad and His Companions". The Burlington Magazine for Connoisseurs . The Burlington Magazine for Connoisseurs, No. 195. 34 (195): 249–252. JSTOR 860736 .
↑ Gruber, Christiane. "Between logos (Kalima) and light (Nūr): representations of the Prophet Muhammad in Islamic painting." Muqarnas, Volume 26. Brill, 2009. 229-262.
↑ Christiane Gruber: Images of the Prophet In and Out of Modernity: The Curious Case of a 2008 Mural in Tehran , in Christiane Gruber; Sune Haugbolle (17 July 2013). Visual Culture in the Modern Middle East: Rhetoric of the Image . Indiana University Press. pp. 3–31. ISBN 978-0-253-00894-7 .
↑ Arnold, Thomas W. (2002–2011) [First published in 1928]. Painting in Islam, a Study of the Place of Pictorial Art in Muslim Culture . Gorgias Press LLC. pp. 91–9. ISBN 978-1-931956-91-8 .
↑ Dirk van der Plas (1987). Effigies dei: essays on the history of religions . BRILL. p. 124. ISBN 978-90-04-08655-5 . สืบค้นเมื่อ 14 November 2011 .
บรรณานุกรม
Ali, Muhammad (2011). Introduction to the Study of The Holy Qur'an . Ahmadiyya Anjuman Ishaat Islam Lahore USA. ISBN 978-1-934271-21-6 .
Bennett, Clinton (1998). In search of Muhammad . London: Continuum International Publishing Group. ISBN 978-0-304-70401-9 .
Esposito, John (1998). Islam: The Straight Path . Oxford: Oxford University Press. ISBN 978-0-19-511233-7 .
Guillaume (1955). The Life of Muhammad: A Translation of Ibn Isḥāq's sīrat . London. ISBN 978-0-19-577828-1 .
Ghali, Muhammad M (2004). The History of Muhammad: The Prophet and Messenger (PDF) . Cairo : Al-Falah Foundation. alternate URL
Hitti, Philip Khuri (1946). History of the Arabs . London: Macmillan and Co.
Khan, Majid Ali (1998). Muhammad the Final Messenger . India: Islamic Book Service. ISBN 978-81-85738-25-3 .
Khan, Muhammad Zafrullah (1980). Muhammad: Seal of the Prophets . Routledge & Kegan Paul. ISBN 978-0-7100-0610-3 .
Matt Stefon, บ.ก. (2010). Islamic Beliefs and Practices . New York: Britannica Educational Publishing. p. 58 . ISBN 978-1-61530-060-0 .
Nigosian, S. A. (2004). Islam: Its History, Teaching, and Practices . Indiana : Indiana University Press . p. 17 . ISBN 978-0-253-21627-4 .
Ramadan, Tariq (2007). In the Footsteps of the Prophet: Lessons from the Life of Muhammad . New York: Oxford University Press . ISBN 978-0-19-530880-8 .
Al Mubarakpuri, Safi ur Rahman (2002). Ar-Raheeq Al-Makhtum (The Sealed Nectar) .
Muir, William (1892). The Caliphate: Its Rise, Decline and Fall, from Original Sources . University of Michigan; Religious Tract Society. ISBN 9781417948895 .
Shibli Nomani . Sirat-un-Nabi . Lahore .
Watt, William Montgomery (1956). Muhammad at Medina . Oxford University Press. ISBN 978-0-19-577307-1 .