พระเจ้าสักรินทรฤทธิ์ มีพระนามเดิมว่า เจ้าคำสุก เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 12 แห่งราชอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง เสด็จพระราชสมภพ ณ นครหลวงพระบาง เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2383
พระราชประวัติ
เป็นพระราชโอรสในพระเจ้ามหินทรเทพนิภาธรและพระนางคำมูน ทรงครองราชย์ตั้งแต่ พ.ศ. 2438 จนกระทั่งเสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2447
ใน พ.ศ. 2431 พระมหากษัตริย์แห่งสยามได้แต่งตั้งพระองค์ให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระเจ้ามหินทรเทพนิภาธรพระราชบิดาของพระองค์ซึ่งเสด็จสวรรคต พระองค์ทรงราชาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งล้านช้างหลวงพระบางเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2438 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นเจ้าประเทศราชนามว่า "เจ้าศักรินทรฤทธิธำรง จำนงสุทธิธรรมสัตยา มหาประเทศาธิบดี ศรีสัตนาคนหุต วุฒิเกษตราธิฐาน ประชานุบาลมลาวพงษ์ ดำรงนครหลวงพระบางราชธานี เจ้าผู้ครองนครหลวงพระบาง"[1] ต่อมาเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2439 พระองค์ถูกบีบบังคับจากฝรั่งเศสให้ยอมเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส
พระเจ้าสักรินทรฤทธิ์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2447 ด้วยพระอาการ พระโลหิตออกในสมอง เจ้าฟ้าชายศรีสว่างวงศ์พระโอรส จึงได้ครองราชย์ในเวลาต่อมา
ชีวิตช่วงแรก
พระเจ้าสักรินทรฤทธิ์ มีพระนามเดิมว่า เจ้าคำสุก เสด็จพระราชสมภพ ณ หลวงพระบาง พระองค์ร่ำเรียนที่หลวงพระบางโดยจ้างครูมาสอนส่วนตัวตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ซึ่งคนลาวสมัยนั้นถือว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวย พระองค์อภิเษกสมรสมี มเหสี 7 พระองค์
รวมถึงพระมเหสีที่มีพระนามว่า ทองสี ซึ่งพระชนมายุน้อยที่สุดในบรรดามเหสี พระองค์จึงยกให้ เจ้าศรีสว่างวงศ์(ภายหลังเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์) พระราชโอรส พระนางทองสี จึงเปลี่ยนพระนามไปเป็น คำแพน
พระองค์มีพระโอรส 10 พระองค์ พระธิดา 4 พระองค์
พระกรณียกิจ
ในปี พ.ศ. 2417 พระองค์นำกองทัพหลวงลาว ตั้งทัพต่อต้านการรุกรานของ กบฏฮ่อ (ชาวจีนจะเรียกว่ากบฏไท่ผิง) ภายหลัง พระองค์จึงลี้ภัยมาที่ กรุงเทพ หลังจาก กองทัพฮ่อปล้นสะดม หลวงพระบาง เมื่อปี พ.ศ 2430
ดูเพิ่ม
อ้างอิง