ศาลาเฉลิมกรุง หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า โรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลิมกรุง หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เฉลิมกรุง เป็นโรงมหรสพหลวง ตั้งอยู่ริมถนนเจริญกรุง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ติดกับห้าง ดิโอลด์สยามพลาซ่า เดิมเป็นโรงภาพยนตร์ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ศาลาเฉลิมกรุงได้วางศิลาฤกษ์โดย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2473 และเปิดฉายภาพยนตร์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2476 โดยมี มหาภัยใต้ทะเล เป็นภาพยนตร์ปฐมทัศน์
ภายหลังสร้างเสร็จ ศาลาเฉลิมกรุงได้ชื่อว่าเป็นโรงมหรสพแห่งแรกในเอเชียที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งทันสมัยในยุคนั้น เครื่องปรับอากาศที่นำมาใช้เป็นเครื่องปรับอากาศระบบ Chilled Water System ซึ่งเป็นระบบไอน้ำรุ่นแรกจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการใช้พัดลมทั่วไป[ 3]
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2485-2488 (รัชกาลที่ 8) ใช้เป็นที่แสดงละครเวที และดนตรี เนื่องจากไม่มีภาพยนตร์ฉาย ต่อมามีการปรับปรุงใหญ่โดย บริษัทเฉลิมกรุงมณีทัศน์ สามารถใช้ได้ทั้งฉายภาพยนตร์และการแสดงบนเวทีขนาดกว้างขวางกว่าเดิม ตั้งแต่ พ.ศ. 2536 ในนาม เฉลิมกรุงรอยัลเธียเตอร์ และการแสดงโขนจินตนฤมิตร [ 4]
ประวัติ
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ภาพยนตร์ เป็นมหรสพและ การสื่อสารมวลชนที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง สามารถเทียบได้กับการโทรทัศน์ในปัจจุบัน โรงภาพยนตร์ในสยามสมัยนั้นมีประมาณ 20 โรง กระจายอยู่ทั่วเขตพระนครและธนบุรี จัดฉายภาพยนตร์นำเข้าจากต่างประเทศ (มากกว่าครึ่งเป็นภาพยนตร์จากสหรัฐ หรือจาก ฮอลลีวู้ด )
สภาพโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีขนาดเล็กคล้ายโรงไม้ หลังคามุงสังกะสี จนกระทั่ง วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2473 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างโรงภาพยนตร์ถาวรแห่งใหม่ที่โอ่อ่าทันสมัยเพื่อเป็นที่ระลึกการเฉลิมฉลองพระนครที่จะมีอายุครบ 150 ปี ใน พ.ศ. 2475 ขนาดจุผู้ชมได้มากกว่า 1,000 ที่นั่ง และเป็นโรงมหรสพแห่งแรกในเอเชียมีเครื่องปรับอากาศระบบไอน้ำ (chilled water system)
ตัวอาคารรูปสี่เหลี่ยมสูงแบบสมัยใหม่ ตั้งอยู่บริเวณหัวถนนเจริญกรุง ตัดกับถนนตรีเพชร ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างโดยหม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร และ นารถ โพธิปราสาท เป็นวิศวกร สร้างโดยบริษัทบางกอก ภายในออกแบบตกแต่งเรียบง่าย ระหว่างตะวันตกผสมผสานกับไทย และได้รับพระราชทานนามว่า "ศาลาเฉลิมกรุง " เปิดฉายปฐมฤกษ์ด้วยหนังฝรั่งเสียงในฟิล์ม เรื่อง "มหาภัยใต้ทะเล" [ 5] เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2476 มีรายงานว่าคนดูล้นหลามออกมาถีงถนนหน้าโรงจนรถรางยวดยานต่าง ๆ ติดขัดหยุดชะงักชั่วคราว [ 6]
นอกจากฉายหนังฝรั่งตามปกติ หนังพูดของบริษัทภาพยนตร์เสียงศรีกรุง และ บริษัทไทยฟิล์ม (นำโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล และคณะ) เป็นโปรแกรมหนังไทยที่ได้รับความนิยมทุกเรื่อง
ช่วงสงครามมหาเอเซียบูรพา เปลี่ยนเป็นโรงละครเวที จนสงครามสงบแล้วระยะหนึ่ง จึงกลับมาฉายภาพยนตร์อีกครั้ง เริ่มด้วย "สุภาพบุรุษเสือไทย " หนังไทย 16 มม. พากย์สด เมื่อปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2492 ทำรายได้มากกว่า 3 แสนบาท สูงสุดกว่าเรื่องใด ๆ ในเวลานั้น
บุคคลที่มีบทบาทสำคัญเป็นที่รู้จักทั่วไป คือ กายสิทธิ์ ตันติเวชกุล ผู้จัดการในช่วง พ.ศ. 2486 - 2515 รวมเวลานานถึง 29 ปี [ 7]
ปัจจุบัน ยังคงเปิดดำเนินการในชื่อ "เฉลิมกรุงรอยัลเธียเตอร์ " ด้วยการบริหารของบริษัทเฉลิมกรุงมณีทัศน์ จำกัด โดย มานิตย์ รัตนสุวรรณ และ นฤนล ล้อมทอง (ผู้จัดการ) ทำการปรับปรุงครั้งใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2535 โดยขยายเวทีพร้อมติดตั้งระบบไฮโดรลิกเลื่อนขึ้นลงได้และปรับที่นั่งเหลือราว 600 ที่ [ 8] ยกระดับให้เป็นโรงมหรสพแห่งชาติ ระยะแรกจัดแสดงนาฏศิลป์ชั้นสูง "โขน " ผสมผสานเทคนิคทันสมัย รายการอื่น ๆ เช่น ละครเวที เรื่องแรกคือ "ศรอนงค์ " (ซึ่งเคยแสดง ณ ที่แห่งนี้ โดยคณะละครของพระนางเธอลักษมีลาวัณ พระมเหสีในรัชกาลที่ 6 ) โดย อารีย์ นักดนตรี , "ศาลาเพลง" โดย นันทวัน สุวรรณปิยะศิริ , งานของมูลนิธิหนังไทย ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ , งานรำลึกถึงมิตร ชัยบัญชา โดย ชมรมคนรักมิตร ฯลฯ [ 9] ตลอดจนฉายภาพยนตร์และการแสดงมหรสพสำคัญในบางโอกาส ได้แก่ การฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์โลกเรื่อง สุริโยไท ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2544 และในปี พ.ศ. 2554 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี ทั้งสองเรื่องเป็นผลงานกำกับของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
ศ.ดร.สุรพล วิรุฬห์รักษ์, นาฎยศิลป์รัชกาลที่ 9 , สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , 2549.
บรรณานุกรม
แหล่งข้อมูลอื่น
13°44′48″N 100°30′0″E / 13.74667°N 100.50000°E / 13.74667; 100.50000
แขวง ประวัติศาสตร์
ภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ
ย่าน คมนาคม
การท่องเที่ยว ธุรกิจ
สังคม
การศึกษา
สถานศึกษา พิพิธภัณฑ์ หอสมุด
วัฒนธรรม
ราชการ