สาธารณรัฐชิลี
República de Chile (สเปน)
คำขวัญ : "ไม่ด้วยเหตุผลก็ด้วยกำลัง"
(
สเปน :
Por la razón o la fuerza )
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด
ซันติอาโก a 33°26′S 70°40′W / 33.433°S 70.667°W / -33.433; -70.667 ภาษาราชการ สเปน ภาษาพูดอื่น ๆ อังกฤษ , เยอรมัน , อิตาลี , มาปูเช , ไอมารา , เกชัว , อื่น ๆ กลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนา การปกครอง รัฐเดี่ยว สาธารณรัฐ ระบบประธานาธิบดี กาบริเอล โบริช José García Ruminot Karol Cariola ฆวน ฟูเอนเตส เบลมาร์
สภานิติบัญญัติ สภาแห่งชาติ วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร เอกราช จากสเปน
18 กันยายน ค.ศ. 1810 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1818 • ได้รับการรับรอง
25 เมษายน ค.ศ. 1844 11 กันยายน ค.ศ. 1980
พื้นที่ • รวม
756,096.3[ 3] ตารางกิโลเมตร (291,930.4 ตารางไมล์) (อันดับที่ 37 ) 2.1 (ใน ค.ศ. 2015)[ 4] ประชากร • ค.ศ. 2022 ประมาณ
18,430,408[ 5] (อันดับที่ 66 ) • สำมะโนประชากร ค.ศ. 2017
17,574,003[ 6] (อันดับที่ 64 ) 24 ต่อตารางกิโลเมตร (62.2 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 198 ) จีดีพี (อำนาจซื้อ ) ค.ศ. 2022 (ประมาณ) • รวม
568.319 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[ 7] (อันดับที่ 45 ) 28,526 ดอลลาร์สหรัฐ[ 7] (อันดับที่ 64 )จีดีพี (ราคาตลาด) ค.ศ. 2022 (ประมาณ) • รวม
317.594 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[ 7] (อันดับที่ 45 ) 15,941 ดอลลาร์สหรัฐ[ 7] (อันดับที่ 62 )จีนี (ค.ศ. 2021) 46[ 8] สูง เอชดีไอ (ค.ศ. 2021) 0.855[ 9] สูงมาก · อันดับที่ 42 สกุลเงิน เปโซชิลี (CLP )เขตเวลา UTC −4 ถึง−6 (CLT และ EAST c )UTC -3 ถึง−5เมษายนถึงกันยายน รูปแบบวันที่ วว/ดด/ปปปป ขับรถด้าน ขวามือ รหัสโทรศัพท์ +56 โดเมนบนสุด .cl
รัฐสภา ตั้งอยู่ที่เมืองบัลปาราอิโซ รวมเกาะอีสเตอร์และเกาะซาลัสอีโกเมซ ; แต่ไม่นับรวมพื้นที่ 1,250,000 ตารางกิโลเมตร (480,000 ตารางไมล์) ของดินแดนที่ชิลีอ้างสิทธิ์ในทวีปแอนตาร์กติกา
ชิลี [ 10] หรือ ชิเล [ 10] (อังกฤษ และสเปน : Chile , เสียงอ่านภาษาสเปน: [ˈtʃile] ) มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐชิลี หรือ สาธารณรัฐชิเล (อังกฤษ : Republic of Chile ; สเปน : República de Chile ) เป็นประเทศทางส่วนตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมดินแดนยาวและแคบซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาแอนดีส ทางทิศตะวันออกกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทางทิศตะวันตก ชิลีมีเนื้อที่ 756,096 ตารางกิโลเมตร (291,930 ตารางไมล์) และมีประชากร 17.5 ล้านคนใน ค.ศ. 2017[ 6] ชิลีเป็นประเทศที่อยู่ทางใต้สุดของโลก อยู่ใกล้ทวีปแอนตาร์กติกา มากที่สุด และมีอาณาเขตจรดประเทศเปรู ทางทิศเหนือ จรดประเทศโบลิเวีย ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จรดประเทศอาร์เจนตินา ทางทิศตะวันออก และจรดช่องแคบเดรก ทางทิศใต้สุด ชิลียังควบคุมหมู่เกาะฆวนเฟร์นันเดซ เกาะซาลัสอีโกเมซ หมู่เกาะเดสเบนตูราดัส และเกาะอีสเตอร์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกจากนี้ยังอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ประมาณ 1,250,000 ตารางกิโลเมตร (480,000 ตารางไมล์) ของทวีปแอนตาร์กติกาในนามชิเลียนแอนตาร์กติกเทร์ริทอรี เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศคือกรุงซันติอาโก และภาษาประจำชาติคือภาษาสเปน
จักรวรรดิสเปน เข้าพิชิตดินแดนและตั้งอาณานิคมในภูมิภาคนี้แทนที่จักรวรรดิอินคา ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 แต่ไม่สามารถเอาชนะชาวมาปูเช ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองอิสระในบริเวณตอนกลาง-ใต้ของชิลีในปัจจุบันได้ ใน ค.ศ. 1818 หลังจากประกาศเอกราชจากสเปน ชิลีก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1830 ในฐานะสาธารณรัฐอำนาจนิยม ที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ชิลีมีการเติบโตทางเศรษฐกิจและดินแดนอย่างมีนัยสำคัญ โดยยุติการต่อต้านของชาวมาปูเชในคริสต์ทศวรรษ 1880 และได้รับดินแดนทางเหนือเพิ่มเติมหลังจากเอาชนะเปรูและโบลิเวียในสงครามมหาสมุทรแปซิฟิก (ค.ศ. 1879–1826) เมื่อล่วงเข้าคริสต์ศตวรรษที่ 20 มาจนถึงคริสต์ทศวรรษ 1970 ชิลีมีกระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตย [ 11] [ 12] การเพิ่มประชากรและการขยายตัวของเมือง อย่างรวดเร็ว[ 13] และการพึ่งพิงการส่งออกจากการทำเหมืองทองแดง เพื่อเศรษฐกิจมากขึ้น[ 14] [ 15] ในคริสต์ทศวรรษ 1960 และ 1970 ประเทศประสบปัญหาการแบ่งขั้ว และความวุ่นวายทางการเมืองอย่างหนัก สถานการณ์นี้ลงเอยด้วยรัฐประหารใน ค.ศ. 1973 ซึ่งโค่นล้มรัฐบาลฝ่ายซ้ายที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของซัลบาดอร์ อาเยนเด และสถาปนาระบอบเผด็จการทหารฝ่ายขวา ของเอากุสโต ปิโนเช ซึ่งกินเวลานาน 16 ปี และทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายมากกว่า 3,000 คน[ 16] ระบอบปิโนเชสิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1990 ซึ่งเป็นผลจากการลงประชามติใน ค.ศ. 1988 กลุ่มพันธมิตรการเมืองสายกลาง-ซ้าย ปกครองประเทศต่อมาจนถึง ค.ศ. 2010
ชิลีเป็นประเทศกำลังพัฒนา [ 17] ที่มีเศรษฐกิจรายได้สูงและติดอันดับสูงมากในดัชนีการพัฒนามนุษย์ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมมากที่สุดในอเมริกาใต้ โดยเป็นผู้นำของลาตินอเมริกา ในการจัดอันดับด้านความสามารถในการแข่งขัน รายได้ต่อหัว โลกาภิวัตน์ สถานะสันติภาพ เสรีภาพทางเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์คอร์รัปชัน ต่ำ[ 18] ชิลียังติดอันดับสูงในระดับภูมิภาคในด้านความยั่งยืนของรัฐ การพัฒนาประชาธิปไตย[ 19] และมีอัตราฆาตกรรมต่ำที่สุดในทวีปอเมริกา รองจากประเทศแคนาดา ประเทศนี้ยังเป็นสมาชิกก่อตั้งของสหประชาชาติ ประชาคมรัฐลาตินอเมริกาและแคริบเบียน และพันธมิตรแปซิฟิก และเข้าร่วมองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ใน ค.ศ. 2010
ประวัติศาสตร์
บริเวณประเทศชิลีมีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่เมื่อ 10,000 ปีที่แล้ว[ 20] โดยผู้ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานคือชาวมาปูเช ซึ่งตั้งถิ่นฐานในบริเวณชายฝั่งและบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณมอนเตเบร์เด (Monte Verde) และกูเอบาเดลมิโลดอน (Cueva Del Milodon)
ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 สเปน ภายใต้การนำของเปโดร เด บัลดิเบีย หนึ่งในกองกิสตาดอร์ เข้ามาพิชิตชิลี แม้ว่าจะได้รับการต่อต้านจากชาวมาปูเชแต่ก็สามารถยึดชิลีได้เป็นผลสำเร็จและนำชิลีรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิสเปน อย่างไรก็ตามชัยชนะของสเปนในครั้งนี้ทำให้สเปนสามารถยึดได้เฉพาะดินแดนแถบเมืองซันติอาโก และบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น เพราะบริเวณอื่นกองทัพสเปนยังไม่สามารถเอาชนะกองทัพของชาวมาปูเชที่เหลือได้ ซึ่งสเปนพยายามปราบปรามหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จนในที่สุดต้องใช้แม่น้ำบิโอบิโอเป็นตัวแบ่งเขตแดน
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 โฆเซ มิเกล การ์เรรา ได้ประกาศให้ชิลีเป็นเอกราชจากสเปน แม้ว่าสเปนจะพยายามเข้ามาปราบปรามและยึดครองชิลีอีกครั้ง แต่การยึดครองก็เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น จนในที่สุดชิลีสามารถขับไล่อิทธิพลของสเปนและได้เอกราชจากสเปนโดยสมบูรณ์ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1818 หลังจากได้เอกราชจากสเปนแล้ว รัฐบาลชิลีใช้ความพยายามอย่างสูงในการยึดครองดินแดนของชาวมาปูเชจนสามารถยึดดินแดนได้โดยเด็ดขาดใน ค.ศ. 1871 และขยายอาณาเขตทางทิศใต้จนครอบคลุมถึงบริเวณช่องแคบมาเจลลัน นอกจากนี้แล้ว รัฐบาลชิลีได้ทำสงครามมหาสมุทรแปซิฟิก กับประเทศโบลิเวียและเปรูจนได้รับชัยชนะ ทำให้สามารถขยายดินแดนทางตอนเหนือ ดินแดนที่ได้มาจากทั้งสองเหตุการณ์กลายเป็นดินแดนของประเทศชิลีในปัจจุบัน[ 21]
การเมืองการปกครอง
ชิลีปกครองในรูปแบบสาธารณรัฐ แบบประธานาธิบดี มีประธานาธิบดี เป็นประมุขแห่งรัฐ และหัวหน้ารัฐบาล รัฐบาลเป็นผู้ใช้อำนาจบริหาร รัฐธรรมนูญของชิลีฉบับปัจจุบันผ่านการลงประชามติใน ค.ศ. 1980 สมัยรัฐบาลทหารของเอากุสโต ปิโนเช และเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1981 จากนั้นได้ผ่านการแก้ไขหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นใน ค.ศ. 2010
ฝ่ายบริหาร
ประธานาธิบดีเป็นทั้งประมุขของรัฐและหัวหน้าคณะรัฐบาล รวมถึงเป็นผู้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งในระบบคะแนนนิยม วาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี (ไม่กำหนดวาระ สามารถดำรงตำแหน่งได้หากได้รับการเลือกตั้งต่อไป)
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ความสัมพันธ์กับประเทศไทย
ชิลีกับไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1962 โดยชิลีมีสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยที่กรุงเทพมหานคร และไทยมีสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศชิลี ณ กรุงซันติอาโก โดยประเทศไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของชิลีในกลุ่มประเทศอาเซียน และประเทศชิลีเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกา [ 22]
ใน ค.ศ. 2018 มีนักท่องเที่ยวชาวชิลีเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 23,033 คน[ 23]
การแบ่งเขตการปกครอง
ชิลีแบ่งเขตการปกครองออกเป็นแคว้น (región ) 15 แคว้น แต่ละแคว้นมีผู้ว่าการแคว้น (intendente ) ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี
แคว้นต่าง ๆ มีชื่อทางการทั้งเป็นชื่อเรียกและตัวเลขโรมัน (เช่น IV - เขตที่ 4) ลำดับตัวเลขเรียงตามที่ตั้งของแคว้นต่าง ๆ ตั้งแต่ทางตอนเหนือลงมาทางตอนใต้ ซึ่งโดยทั่วไป ตัวเลขโรมันจะถูกใช้มากกว่าชื่อของแคว้น ยกเว้นแคว้นอันเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงซึ่งเรียกว่า แคว้นมหานครซันติอาโก (Región Metropolitana de Santiago หรือ RM )
แต่ละแคว้นแบ่งออกเป็นจังหวัด (provincia ) รวม 51 จังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัด (gobernador ) เป็นหัวหน้า โดยแต่ละจังหวัดก็ยังแบ่งพื้นที่ย่อยลงไปอีกเป็นเทศบาล (comuna ) แต่ละแห่งมีนายกเทศมนตรี (alcalde ) เป็นของตนเอง ผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี ขณะที่นายกเทศมนตรีได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน
แคว้นของประเทศชิลี
อันดับ
ชื่อ
แคว้น
ประชากร
ซันติอาโก กอนเซปซิออน
1
ซันติอาโก
แคว้นมหานครซันติอาโก
6,026,797
บัลปาราอิโซ ลาเซเรนา
2
กอนเซปซิออน
แคว้นบิโอ-บิโอ
945,544
3
บัลปาราอิโซ
แคว้นบัลปาราอิโซ
930,220
4
ลาเซเรนา
แคว้นโกกิมโบ
412,586
5
อันโตฟากัสตา
แคว้นอันโตฟากัสตา
346,126
6
เตมูโก
แคว้นอาเรากานิอา
339,750
7
อิกิเก
แคว้นตาราปากา
278,250
8
รังกากัว
แคว้นโอฆิกินส์
276,532
9
ปูเอร์โตมอนต์
แคว้นโลสลาโกส
228,118
10
อาริกา
แคว้นอาริกาและปารินาโกตา
210,920
อ้างอิง
↑ Central Intelligence Agency (2016). "Chile" . The World Factbook . Langley, Virginia: Central Intelligence Agency. สืบค้นเมื่อ 29 January 2017 .
↑ "Estudio Monitoreo Post Plebiscito 2020 - 25 Octubre 2020" (PDF) . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2021-08-14. สืบค้นเมื่อ 3 November 2020 .
↑ Instituto Nacional de Estadísticas (October 2006). "Compendio estadístico 2006" (PDF) . สืบค้นเมื่อ 29 November 2007 .
↑ "Surface water and surface water change" . Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD). สืบค้นเมื่อ 11 October 2020 .
↑ "Chile" . The World Factbook (2024 ed.). Central Intelligence Agency . สืบค้นเมื่อ 24 September 2022 . (Archived 2022 edition)
↑ 6.0 6.1 "RESULTADOS CENSO 2017" (PDF) . RESULTADOS DEFINITIVOS CENSO 2017 . National Statistics Institute. 1 January 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2017-12-23. สืบค้นเมื่อ 18 January 2017 .
↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 "Chile" . World Economic Outlook Database, April 2022 . International Monetary Fund. สืบค้นเมื่อ 1 May 2022 .
↑ "Inequality - Income inequality" . OECD . สืบค้นเมื่อ 25 July 2021 .
↑ "Human Development Report 2021/2022" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). United Nations Development Programme . 8 September 2022. เก็บ (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-09. สืบค้นเมื่อ 8 September 2022 .
↑ 10.0 10.1 "ประกาศสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เรื่อง กำหนดชื่อประเทศ ดินแดน เขตการปกครอง และเมืองหลวง" (PDF) . ราชกิจจานุเบกษา . 139 (พิเศษ 205 ง). 1 กันยายน 2565.
↑ "Elecciones, sufragio y democracia en Chile (1810-2012)" . Memoria Chilena (ภาษาสเปน). National Library of Chile. สืบค้นเมื่อ 20 June 2021 .
↑ "Sufragio femenino universal" . Memoria Chilena (ภาษาสเปน). National Library of Chile. สืบค้นเมื่อ 20 June 2021 .
↑ "Desarrollo y dinámica de la población en el siglo XX" . Memoria Chilena (ภาษาสเปน). National Library of Chile. สืบค้นเมื่อ 20 June 2021 .
↑ Salazar, Gabriel; Pinto, Julio (2002). Historia contemporánea de Chile III. La economía: mercados empresarios y trabajadores. LOM Ediciones. ISBN 956-282-172-2 . Pages 124-125.
↑ Villalobos, Sergio; Silva, Osvaldo; Silva, Fernando; Estelle, Patricio (1974). Historia De Chile (14th ed.). Editorial Universitaria. ISBN 956-11-1163-2 . Pages 773-775.
↑ "Country profile: Chile" . BBC News . 16 December 2009. สืบค้นเมื่อ 31 December 2009 .
↑ "International Organizations and Groups" . The World Factbook (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 October 2021 .
↑ "Human and income poverty: developing countries" . UNDP . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 12 February 2009.
↑ "World Development Indicators" . World Bank. 17 April 2012. สืบค้นเมื่อ 12 May 2012 .
↑ Brian Bell, Insight Guides : Chile, (New York : Langenscheidt Publishing, 2002), 24.
↑ Appletons' annual cyclopaedia and register of important events of the year: 1900 . New York: Appletons. p. 87.
↑ "ข้อมูลความสัมพันธ์ทวิภาคี : ไทย - ชิลี" . กระทรวงการต่างประเทศ. 16 พฤษภาคม 2560. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-04-24. สืบค้นเมื่อ 2021-09-24 .
↑ "ความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐชิลี" . กระทรวงการต่างประเทศ. 25 กุมภาพันธ์ 2562. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-04-24. สืบค้นเมื่อ 2021-09-24 .
แหล่งข้อมูลอื่น
รัฐบาล
การศึกษา
ด้านการท่องเที่ยว
ประเทศสมาชิก การประชุม อื่น ๆ
เขตการค้าเสรีแห่งลาตินอเมริกา (ลาฟตา)