ดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม

ดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม
ธีมพาร์ก
ทรีออฟไลฟ์ไอคอนของดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม
ที่ตั้งวอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต, เบย์เลก, รัฐฟลอริดา, สหรัฐ
พิกัด28°21′29″N 81°35′24″W / 28.358°N 81.59°W / 28.358; -81.59
สถานะเปิดบริการ
เปิดกิจการ22 เมษายน 1998; 26 ปีก่อน (1998-04-22)[1]
เจ้าของดิสนีย์เอ็กซ์พีเรียนส์
(เดอะวอลต์ดิสนีย์)
ผู้ดำเนินการวอลต์ดิสนีย์เวิลด์
รูปแบบสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และการอนุรักษ์สัตว์
ฤดูกาลดำเนินงานรอบปี

ดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม (อังกฤษ: Disney's Animal Kingdom) เป็นสวนสนุกสัตว์ที่วอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ตในเบย์เลก รัฐฟลอริดา เป็นเจ้าของและดำเนินการโดยบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ผ่านบริษัทดิสนีย์เอ็กซ์พีเรียนส์ ซึ่งเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโลกครอบคลุมพื่นที่กว่า 580 เอเคอร์ (2,347,177 ตารางเมตร)[2][3][4][5] สวนสนุกเปิดให้บริการครั้งแรกในวันคุ้มครองโลก เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2541 เป็นสวนสนุกที่สร้างขึ้นแห่งที่ 4 ของวอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต โดยเป็นสวนสนุกในรูปแบบของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและการอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งเป็นปรัชญาที่คิดขึ้นโดย วอลต์ ดิสนีย์เอง[6]

สถานที่และสัญลักษณ์ที่สำคัญของดิสนีย์แอนิมอลคิงดอมคือ ทรีออฟไลฟ์ เป็นต้นไม้จำลองที่มีความสูง 145 ฟุต (44 เมตร) กว้าง 50 ฟุต (15 เมตร)

แผนผังสวนสนุกและเครื่องเล่น

ดิสนีย์แอนิมอลคิงดอมแบ่งออกเป็น 7 ธีมต่าง ๆ แม่น้ำดิสคัฟเวอรีของสวนสนุกจะแยกเกาะดิสคัฟเวอรีออกจากดินแดนอื่น ๆ สวนสนุกแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ประมาณ 2,000 ตัวจากประมาณ 200 สายพันธุ์[7]

โอเอซิส

โอเอซิส (Oasis) เป็นศูนย์โลจิสติกส์ของสวนสนุกคล้ายกับกับเมนสตรีท ยูเอสเอ และเปลี่ยนจากทางเข้าสวนสนุกไปสู่โลกแห่งสัตว์ต่าง ๆ ทางเดินหลักมีการจัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ รวมถึงพืชพรรณและต้นไม้หนาแน่นที่ทอดลึกเข้าไปในสวนสนุกแล้วต่อไปยังเกาะดิสคัฟเวอรี ระหว่างลานจอดรถและโอเอซิสมีเรนฟอเรสต์คาเฟ่ ซึ่งสามารถเข้าได้ทั้งจากภายในและภายนอกบริเวณที่จำหน่ายตั๋ว[8]

ดิสคัฟเวอรีไอแลนด์

ดิสคัฟเวอรีไอแลนด์ (Discovery Island) ตั้งอยู่ที่ใจกลางสวนสนุกและเป็นเกาะภายในทางน้ำแม่น้ำดิสคัฟเวอรีของสวนสนุก ทำหน้าที่เป็น "ศูนย์กลาง" ที่เชื่อมส่วนอื่น ๆ ของสวนสนุกด้วยสะพาน ยกเว้นราฟิกิส์แพลนเน็ตวอตช์ เดิมเรียกว่าซาฟารีวิลเลจ เนื่องจากดิสคัฟเวอรีไอแลนด์เป็นชื่อของสวนสัตว์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเบย์เลกของวอลต์ดิสนีย์เวิลด์ และได้เปลี่ยนชื่อตามพื้นที่นั้น ซึ่งปิดใน ค.ศ. 1999

ทรีออฟไลฟ์ หรือต้นไม้แห่งชีวิตซึ่งเป็นต้นเบาบับที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยแกะสลักไว้ในสวนสนุก ตั้งอยู่ในส่วนนี้ และล้อมรอบด้วยทางเดินและกรงสำหรับสัตว์ ภายในโรงละครทรีออฟไลฟ์ คือ It's Tough to Be a Bug! ซึ่งเป็นภาพยนตร์ 4 มิติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์และพิกซาร์จากเรื่อง ตัวบั๊กส์ หัวใจไม่บั๊กส์ ในปี ค.ศ. 1998 ร้านขายของที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในสวนสนุกและร้านอาหารหลักสองแห่งก็ตั้งอยู่บนดิสคัฟเวอรีไอแลนด์[9]

แพนดอรา – เดอะเวิลด์ออฟอวตาร

แพนดอรา – เดอะเวิลด์ออฟอวตาร (Pandora – The World of Avatar) มีรูปแบบมาจากดวงจันทร์ที่สามารถอาศัยได้ แพนดอรา จากภาพยนตร์เรื่อง อวตาร ของเจมส์ แคเมรอน และเป็นการทุ่มเทให้กับสัตว์และพืชต่างดาวมากมายที่อาศัยอยู่ในนั้น เครื่องเล่นที่สำคัญคือ อวตารไฟต์ออฟพาสเซจ (Avatar Flight of Passage) ซึ่งเป็นเครื่องจำลองการบินสามมิติที่น่าตื่นเต้นที่ให้ผู้เล่นได้บินบนแบนชีข้ามภูมิประเทศแพนดอรัน[10] เครื่องเล่นอีกแห่งหนึ่งคือ นาวีริเวอร์จอร์นีย์ (Na'vi River Journey) โดยให้ผู้เล่นนั่งเรือดาร์กไรด์ผ่านป่าฝนที่เรืองแสงของแพนดอรา[11][12] พื้นที่เปิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2017[13][14]

แอฟริกา

นักแสดงหญิงใน เฟสติวัลออฟเดอะไลออนคิง

แอฟริกา (Africa) เป็นหนึ่งในพื้นที่ดั้งเดิมของสวนสนุก บริเวณนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านท่าเรือฮารัมเบของแอฟริกาตะวันออก ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการสัตว์ต่าง ๆ ตัวอย่างบางส่วนจากแอฟริกาที่จินตวิศวกรรมของดิสนีย์ทำ ได้แก่ ป้อมปราการที่พบในแซนซิบาร์ และอาคารเก่าที่พังทลายโดยน้ำซึ่งพบในเคนยา ฮารัมเบประกอบด้วย "โรงแรม" ร้านอาหาร บาร์กลางแจ้งพร้อมความบันเทิงสด และตลาดต่าง ๆ

หมู่บ้านนี้เป็นชื่อเดียวกับเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าฮารัมเบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวหลักของพื้นที่ นั่นคือ คิลิมันจาโรซาฟารี ผู้เล่นจะปีนขึ้นไปบนรถซาฟารีแบบเปิดเพื่อสำรวจสัตว์สายพันธุ์แอฟริกันในพื้นที่ปิดล้อมขนาดใหญ่หลายแห่ง จำลองแบบของทุ่งหญ้าสะวันนา แม่น้ำ และเนินหินของแอฟริกา ซาฟารีประกอบด้วยโอคาพี กูดูใหญ่ นกกระสาปากอานม้า บองโก แรดดำและขาว ฮิปโปโปเตมัส นกกระทุงหลังสีชมพู จระเข้แม่น้ำไนล์ ยีราฟมาไซ วิลเดอบีสต์เคราขาว สปริงบ็อก วัวแองโกล อีแลนด์ธรรมดา ละมั่งเซเบิล และช้างพุ่มไม้แอฟริกา

บนเส้นทางสำรวจน้ำตกกอริลลาที่อยู่ติดกัน นักท่องเที่ยวจะเดินเข้าไปในป่าเพื่อดูสัตว์ต่าง ๆ เช่น กอริลลาที่ราบลุ่มตะวันตก ลิงโคโลบัสขาวดำ โอคาพี เกรินุก ดุยเกอร์หลังเหลือง ฮิปโปโปเตมัสแคระ ม้าลายเกรวี เมียร์แคตแอฟริกาใต้ งูเหลือมทรายเคนยา โคริอีแรต ตุ่นหนูไร้ขน ทารันทูล่า และกรงนกขนาดใหญ่[15] ทางฝั่งตะวันตกของพื้นที่แอฟริกาคือโรงละครฮารัมเบ ซึ่งเป็นที่แสดงของเฟสติวัลออฟเดอะไลออนคิง (Festival of the Lion King) การแสดงสดบนเวทีที่สร้างจากภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์ในปี ค.ศ. 1994 เรื่อง เดอะไลอ้อนคิง

ราฟิกิส์แพลนเน็ตวอตช์

ราฟิกิส์แพลนเน็ตวอตช์ (Rafiki's Planet Watch) เป็นเพียงส่วนเดียวของสวนสนุกที่ไม่เชื่อมต่อกับดิสคัฟเวอรีไอแลนด์; โดยจะเชื่อมต่อกับแอฟริกาเท่านั้น นักท่องเที่ยวจะได้ขึ้นรถไฟไวด์ไลฟ์เอ็กซ์เพรส ขนาด 3 ฟุต (914 มม.) สำหรับการเดินทางระยะสั้นไปและกลับจากพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ย่อย 3 แห่ง

นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ Habitat Habit! เป็นครั้งแรก ซึ่งมีตัวคอตตอนทอปทามารินด้วย

สถานีอนุรักษ์จัดแสดงความพยายามในการอนุรักษ์ต่าง ๆ ที่สนับสนุนโดยบริษัทวอลต์ดิสนีย์ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเบื้องหลังศูนย์ดูแลสัตว์ของดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม รวมถึงห้องตรวจสัตวแพทย์พร้อมระบบสื่อสารสองทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์สามารถตอบคำถามของนักท่องเที่ยวได้

ภายนอก ส่วน แอฟเฟกชันเซสชัน เป็นสวนสัตว์ที่สามารถจับได้ซึ่งจะมีแพะ แกะ วัว หมูบ้าน ลา และอัลปากา

พื้นที่นี้ยังรวมถึงสถานีอนุรักษ์ประสบการณ์แอนิเมชั่นด้วย[16][17]

เอเชีย

ป้ายทางเข้า
มังกรโกโมโดในเอเชีย

เอเชีย (Asia) เป็นพื้นที่ขยายแห่งแรกที่ถูกเพิ่มเข้าไปในดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม เปิดในปี ค.ศ. 1999 พื้นที่นี้ตั้งอยู่ในอาณาจักรสมมุติ 'อนันดาพูร์' ซึ่งแปลว่า "สถานที่แห่งความรื่นรมย์มากมาย" ในภาษาสันสกฤต อนันดาพูร์ทำให้นึกถึงคุณลักษณะของประเทศกัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย มองโกเลีย เนปาล และไทย ตามประวัติศาสตร์ของดิสนีย์ อนันดาพูร์ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเขตอนุรักษ์ล่าสัตว์ของราชวงศ์ในปี ค.ศ. 1544 ในเอเชียมีทั้งหมู่บ้านริมแม่น้ำอนันดาพูร์และเซอร์กาซอง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาหิมาลัย

จุดโฟกัสที่มองเห็นได้ของเอเชียคือ เอ็กซ์เพนดิชันเอเวอเรสต์ (Expedition Everest) รถไฟเหาะตีลังกาที่ทำจากเหล็ก บริเวณใกล้กับแม่น้ำมีเครื่องเล่น แก่งแม่น้ำกาลี (Kali River Rapids) เป็นการล่องแก่งในแม่น้ำ เส้นทางเดินป่ามหาราชา (Maharajah Jungle Trek) นำนักท่องเที่ยวสำรวจผ่านป่าและซากปรักหักพังนอกหมู่บ้าน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาพันธุ์ เช่น วัวแดง ห่านหัวลาย เสือโคร่งสุมาตรา นกแบล็กบักอินเดีย อุรังอุตังสุมาตรา ละองละมั่ง ชะนีมือขาว ค้างคาวผลไม้อินเดีย มังกรโกโมโด และนกมากกว่า 50 สายพันธุ์[18] เฟตเธอร์เฟรนด์อินไฟต์ (Feathered Friends in Flight) เป็นการแสดงสดของนกสายพันธ์ต่าง ๆ เช่น นกกระเรียนมงกุฎดำ และอินทรีหัวขาว

ไดโนแลนด์ ยูเอสเอ

ไดโนแลนด์ ยูเอสเอ (DinoLand U.S.A.) มีรูปแบบเกี่ยวกับไดโนเสาร์และสิ่งมีชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของสถาบันไดโน เป็นสถานที่จำลองเกี่ยวกับบรรพชีวินวิทยา ซึ่งเป็นที่ตั้งของไดโนเสาร์ เครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์แอนิเมชันในชื่อเดียวกันของดิสนีย์ปี ค.ศ. 2000 เป็นการเดินทางข้ามเวลาไปสู่ยุคครีเทเชียสตอนปลาย ด้านนอกสถาบันมี "ไดโน-ซู" เป็นการหล่อซากดึกดำบรรพ์ไทแรนโนซอรัสเร็กซ์ที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่พบมา ที่โบนยาร์ดในบริเวณใกล้เคียง มีพื้นที่สนามเด็กเล่นซึ่งมีฟอสซิลแมมมอธโคลัมเบียและโครงกระดูกหล่อของแบรคิโอซอรัส

ติดกับสถาบันและสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบคือ เชสเตอร์แอนด์เฮสเตอร์ไดโน-รามา ชวนให้นึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวริมถนนหลายแห่งที่ครั้งหนึ่งเคยกระจัดกระจายไปทั่วสหรัฐ พื้นที่นี้มีเครื่องเล่นม้าหมุนทางอากาศ ไทรเซร่าท็อปสปิน เกมงานรื่นเริง และร้านขายของที่ระลึก ที่ชายขอบด้านตะวันออกของไดโนแลนด์ ยูเอสเอ คือโรงละครในป่า เป็นที่จัดแสดง ฟายดิงนีโม: เดอะบิกบลูแอนด์บียอนด์ (Finding Nemo: The Big Blue...and Beyond!) การแสดงดนตรีบนเวทีที่สร้างจากเรื่องราวของภาพยนตร์แอนิเมชันของดิสนีย์และพิกซาร์ปี ค.ศ. 2003 เรื่อง นีโม...ปลาเล็ก หัวใจโต๊...โต

เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของดิสนีย์แอนิมอลคิงดอม มีสัตว์ต่าง ๆ จัดแสดงอยู่ เช่น จระเข้อเมริกา ซีรีมาขาแดง นกกระสาอับดิม และเต่าน้ำตาลเอเชีย มีความเชื่อมโยงทางวิวัฒนาการกับยุคของไดโนเสาร์ เป็นสัตว์สายพันธุ์ที่มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์และสามารถพบได้ตามเส้นทางครีเทเชียสพร้อมกับกลุ่มพืชมีโซโซอิก

นักท่องเที่ยว

ปี จำนวนผู้เข้าชม
2013 10,198,000[19]
2014 10,402,000 [20]
2015 10,922,000[21]
2016 10,844,000 [22]
2017 12,500,000[23]
2018 13,750,000[24]
2019 13,888,000[25]
2020 4,166,000[26]
2021 7,194,000[27]

ใน ค.ศ. 2019 ดิสนีย์แอนิมอลคิงดอมเป็นสวนสนุกที่มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับ 6 ของโลก[25]

อ้างอิง

  1. "Disney's Animal Kingdom". wdwinfo.com. Werner Technologies, LLC. สืบค้นเมื่อ November 8, 2011.
  2. Eades, Mark (2017-08-30). "A former Disney Imagineer's guide to Disney's Animal Kingdom". OC Register. สืบค้นเมื่อ 2017-09-04.
  3. Kurt Snibbe (June 11, 2016). "A close-up look at Shanghai Disneyland: the newest Disney Park". Orange County Register. สืบค้นเมื่อ March 31, 2017.
  4. Kowalczik, Christopher; Kowalczik, Carol (2008). Simply Disney: Vacation Planning Made Easy 2008. Lulu Publishing. p. 107. ISBN 9781435710054. สืบค้นเมื่อ March 22, 2016.
  5. Robert Niles (May 26, 2013). "Disney's Animal Kingdom at Walt Disney World". สืบค้นเมื่อ March 22, 2016.
  6. "Environmentality: Disney and the Environment". The Walt Disney Company. สืบค้นเมื่อ October 25, 2008.
  7. Beach, Lisa (June 15, 2020). "How Walt Disney World Is Caring for Its 10,000 Animals While Parks Are Closed". Conde Naste Traveller.
  8. "Rainforest Cafe® at Disney's Animal Kingdom". Disney.go.com. สืบค้นเมื่อ March 2, 2017.
  9. The Imagineers (May 22, 2007). The Imagineering Field Guide to Disney's Animal Kingdom at Walt Disney World. Disney Editions. ISBN 978-1-4231-0320-2.
  10. Graser, Marc (December 10, 2014). "'Avatar' Ride Coming to Life at Disney's Animal Kingdom". Variety. สืบค้นเมื่อ August 14, 2015.
  11. Martens, Todd (August 15, 2015). "Disney reveals plans for 'Toy Story Land' and 'Avatar' and more 'Star Wars'". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ August 16, 2015.
  12. Graser, Marc (February 26, 2015). "Disney 'Pushing Boundaries' with 'Avatar' Land at Animal Kingdom Theme Park". Variety. สืบค้นเมื่อ August 14, 2015.
  13. Smith, Thomas (February 7, 2017). "Just Announced: Pandora – The World of Avatar Will Open May 27 at Disney's Animal Kingdom". Disney Parks Blog. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-10. สืบค้นเมื่อ February 7, 2017.
  14. "Pandora – The World of Avatar to Open May 27, Star Wars Lands Coming in 2019 - The Walt Disney Company". The Walt Disney Company. February 7, 2017. สืบค้นเมื่อ February 8, 2017.
  15. "Gorilla Falls Exploration Trail". Walt Disney World. สืบค้นเมื่อ 25 April 2020.
  16. Bevil, Dewayne. "Disney's Animal Kingdom: Rafiki's Planet Watch is reprieved". Orlando Sentiel.
  17. Terrell, Scott (19 March 2019). "Rafiki's Planet Watch Reopens this Summer at Disney's Animal Kingdom". Disney Parks Blog. Disney. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-10-01. สืบค้นเมื่อ 19 June 2019.
  18. "Maharajah Jungle Trek". www.disneyworld.eu (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-03-14.
  19. "TEA/AECOM 2013 Global Attractions Report" (PDF). Themed Entertainment Association. 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ June 6, 2014. สืบค้นเมื่อ June 6, 2014.
  20. Rubin, Judith; Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Beth; Cheu, Linda; Elsea, Daniel; LaClair, Kathleen; Lock, Jodie; Linford, Sarah; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Pincus, Jeff; Robinett, John; Sands, Brian; Selby, Will; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris. "TEA/AECOM 2014 Theme Index & Museum Index: The Global Attractions Attendance Report" (PDF). aecom.com. Themed Entertainment Association (TEA). สืบค้นเมื่อ June 4, 2015.
  21. "TEA/AECOM 2015 Global Attractions Attendance Report Report" (PDF). Themed Entertainment Association. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-06-18. สืบค้นเมื่อ June 3, 2016.
  22. Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Bet; Chen, Bryan; Cheu, Linda; Fischer, Lucia; Hoffman, Marina; Kondaurova, Olga; LaClair, Kathleen; Li, Shaojin; Linford, Sarah; Marling, George; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Robinett, John; Rubin, Judith; Sands, Brian; Selby, William; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris (June 1, 2017). "TEA/AECOM 2016 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). aecom.com. Themed Entertainment Association. สืบค้นเมื่อ July 26, 2017.
  23. Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Bet; Chen, Bryan; Cheu, Linda; Fischer, Lucia; Hoffman, Marina; Kondaurova, Olga; LaClair, Kathleen; Li, Shaojin; Linford, Sarah; Marling, George; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Robinett, John; Rubin, Judith; Sands, Brian; Selby, William; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris (May 17, 2018). "TEA/AECOM 2017 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). teaconnect.org. Themed Entertainment Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-06-02. สืบค้นเมื่อ May 17, 2018.
  24. Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Bet; Chen, Bryan; Cheu, Linda; Fischer, Lucia; Hoffman, Marina; Kondaurova, Olga; LaClair, Kathleen; Li, Shaojin; Linford, Sarah; Marling, George; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Robinett, John; Rubin, Judith; Sands, Brian; Selby, William; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris (May 22, 2019). "TEA/AECOM 2018 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). teaconnect.org. Themed Entertainment Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ May 23, 2019. สืบค้นเมื่อ May 24, 2019.
  25. 25.0 25.1 Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Bet; Chen, Bryan; Cheu, Linda; Fischer, Lucia; Hoffman, Marina; Kondaurova, Olga; LaClair, Kathleen; Li, Shaojin; Linford, Sarah; Marling, George; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Robinett, John; Rubin, Judith; Sands, Brian; Selby, William; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris (July 16, 2020). "TEA/AECOM 2019 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). teaconnect.org. Themed Entertainment Association. สืบค้นเมื่อ July 19, 2020.
  26. "TEA/AECOM 2020 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). teaconnect.org. Themed Entertainment Association. May 2022. สืบค้นเมื่อ May 30, 2022.
  27. "THEA Attendance Report" (PDF). March 14, 2023. สืบค้นเมื่อ March 14, 2023.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!