ดิสนีย์ฮอลลีวูดสตูดิโอส์

ดิสนีย์ฮอลลีวูดสตูดิโอส์
ชื่อเดิม ดิสนีย์-เอ็มจีเอ็มสตูดิโอส์ (1989–2008)
เดอะฮอลลีวูดทาวเวอร์ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางภาพของดิสนีย์ฮอลลีวูดสตูดิโอส์[1]
ที่ตั้งวอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ต, เบย์เลก รัฐฟลอริดา, สหรัฐ
พิกัด28°21′25″N 81°33′22″W / 28.357°N 81.5561°W / 28.357; -81.5561
สถานะเปิดบริการ
เปิดกิจการ1 พฤษภาคม 1989; 35 ปีก่อน (1989-05-01)
เจ้าของดิสนีย์เอ็กซ์พีเรียนส์ (เดอะวอลต์ดิสนีย์)
รูปแบบ
  • ยุคทองของฮอลลีวูด
  • โลกแห่งจินตนาการของภาพยนตร์[2]
ฤดูกาลดำเนินงานรอบปี

ดิสนีย์ฮอลลีวูดสตูดิโอส์ (อังกฤษ: Disney's Hollywood Studios) เป็นสวนสนุกที่วอลต์ดิสนีย์เวิลด์ในเบย์เลก รัฐฟลอริดา มีเจ้าของและดำเนินการโดยบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ ผ่านบริษัทดิสนีย์เอ็กซ์พีเรียนส์ สร้างโดยบนพื้นฐานความคิดของมาร์ตี้ สคลาร์ และไมเคิล ไอส์เนอร์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2532 ในชื่อ ดิสนีย์-เอ็มจีเอ็มสตูดิโอส์ธีมพาร์ก เป็นสวนสนุกแห่งที่สามของวอลต์ดิสนีย์เวิลด์ ในแนวความคิดของโลกแห่งภาพยนตร์ โทรทัศน์ เพลง และโรงละคร แรงบันดาลใจจากยุคทองของฮอลลีวูด[3]

คำกล่าว

โลกที่คุณเข้าไปนั้นถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ และอุทิศให้กับฮอลลีวูด ไม่ใช่สถานที่บนแผนที่ แต่เป็นสภาวะของจิตใจที่มีอยู่ในทุกที่ที่ผู้คนใฝ่ฝัน สงสัย และจินตนาการ สถานที่ที่ภาพลวงตาและความเป็นจริงหลอมรวมด้วยเทคโนโลยี มายากล เรายินดีต้อนรับคุณสู่ฮอลลีวูดที่ไม่เคยมีมาก่อน และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

— ไมเคิล ไอส์เนอร์ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1989[4][5]

แผนผังสวนสนุกและเครื่องเล่น

ดิสนีย์ฮอลลีวูดสตูดิโอส์แบ่งออกเป็นเจ็ดพื้นที่ตามธีมต่าง ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการทำซ้ำสถานที่ในจินตนาการของฮอลลีวูดและลอสแอนเจลิส หรือโลกจินตนาการจากเรื่องราวของฮอลลีวูด รูปแบบเดิมของสวนสนุกจะมีรูปมิกกี้ซ่อนตัวขนาดใหญ่ ซึ่งมองเห็นได้ในภาพถ่ายทางอากาศของสวนสนุกและในแผนที่นำเที่ยวในยุคแรก ๆ ของสวนสนุก แม้ว่าการก่อสร้างและการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ของสวนสนุกจะตัดภาพนี้ไปมากก็ตาม[6]

ฮอลลีวูดบูเลอวาร์ด

ฮอลลีวูดบูเลอวาร์ด

ฮอลลีวูดบูเลอวาร์ด (Hollywood Boulevard) ได้รับแรงบันดาลใจจากถนนชื่อเดียวกันที่มีอยู่จริง ทำหน้าที่เป็นทางเข้าหลักของสวนสนุกและดำเนินการในแนวเดียวกับเมนสตรีท ยูเอสเอ ที่แมจิกคิงดอม เรียงรายไปด้วยส่วนหน้าของถนนที่มีรูปแบบต่าง ๆ และสถานที่จำหน่ายสินค้าของดิสนีย์และบริการต่าง ๆ ของสวนสนุก นักท่องเที่ยวจะเข้ามาทางประตูทางเข้าหลัก ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหอประชุมแพนแปซิฟิก ใกล้ประตูสวนสนุกมีการสร้างหอคอยครอสโรดส์ออฟเดอะเวิลด์ขึ้นมาใหม่ ความบันเทิงริมถนนแบบสด ๆ และขบวนพาเหรดตามฤดูกาลจะเดินทางไปตามถนนสายหลักตลอดทั้งวัน ที่สุดของฮอลลีวูดบูเลอวาร์ดมีแบบจำลองของโรงละครแกรมแมนส์ไชนิส ซึ่งเป็นที่ตั้งของมิกกีแอนด์มินนีรันนาเวย์เรลเวย์ (Mickey & Minnie's Runaway Railway) ซึ่งเป็นเครื่องเล่นดาร์กไรด์ที่มีรูปแบบเป็นโลกของการ์ตูนสั้นของมิกกี้ เมาส์ ใกล้กับทางเข้าของแอนิเมชันคอร์ตยาร์ด มีร้านอาหารฮอลลีวูดบราวน์ดาร์บี (The Hollywood Brown Derby) ซึ่งจำลองธีมของร้านอาหารบราวน์ดาร์บีดั้งเดิมในฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย

เอคโคเลก

เอคโคเลก

เอคโคเลก (Echo Lake) ได้รับแรงบันดาลใจจากย่านที่มีชื่อคล้ายกันในลอสแอนเจลิส โดยได้รับการออกแบบให้เลียนแบบสถาปัตยกรรมชานเมือง "แคลิฟอร์เนียเครซี" จากยุคทองของฮอลลีวูด และทอดสมออยู่รอบ ๆ ทะเลสาบที่มีชื่อเดียวกันของพื้นที่

เอคโคเลกมีเครื่องเล่นหลักสามแห่ง สร้างจากตัวละครและภาพยนตร์ที่สร้างโดยจอร์จ ลูคัส และอำนวยการสร้างโดยลูคัสฟิล์ม คือ สตาร์ทัวร์ - ดิแอนเวนเจอส์คอนตินิว (Star Tours – The Adventures Continue) คือเครื่องเล่นจำลองการเคลื่อนไหว 3 มิติที่มีฉากอยู่ในจักรวาลสตาร์ วอร์ส เดอะเจไดเทรนนิง: ไตรเอิลส์ออฟเดอะเทมเพิล (The Jedi Training: Trials of the Temple) การแสดงบนเวทีโดยนักแสดง เชิญชวนเด็ก ๆ มาเป็น "ผู้เรียนพาดาวัน" และรับการฝึกกระบี่แสงจากปรมาจารย์เจได การแสดงผาดโผนสุดอลังการของอินเดียนาโจนส์อีพิกสตันต์สเพกแทกคิวลาร์ (Indiana Jones Epic Stunt Spectacular!) จำลองฉากต่าง ๆ จาก ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า ของสตีเวน สปีลเบิร์ก

แกรนด์อเวนิว

แกรนด์อเวนิว

แกรนด์อเวนิว (Grand Avenue) มีรูปแบบเป็นย่านประวัติศาสตร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยได้รับแรงบันดาลใจจากที่ตั้งจริงที่มีชื่อเดียวกันในตัวเมืองลอสแอนเจลิส บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ มัพพิตวีชันทรีดี (Muppet*Vision 3D) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ 4 มิติที่นำแสดงโดยเดอะมัพพิตส์ จากเดอะมัพพิตโชว์ ของจิม เฮนสัน ซึ่งจัดแสดงที่โรงละครแกรนด์อาร์ตภายในแกรนด์พาร์กของอเวนิว โดยตัวสถานที่เองยังได้รับแรงบันดาลใจจากสวนสาธารณะที่มีชื่อเดียวกันอีกด้วย นอกจากนี้แกรนด์อเวนิวยังเป็นที่ตั้งของพิซซาริซโซ[7] ซึ่งเป็นร้านพิซซ่าสไตล์บรุกลินที่ริซโซเดอะแรตเป็นเจ้าของ ได้แก่ ร้านอาหารอิตาเลียนมาม่าเมลโรส[8] และเบสไลน์แท็ปเฮาส์ ผับสไตล์แคลิฟอร์เนียสมัยใหม่[9] ถนนสายหลักของแกรนด์อเวนิวนำไปสู่การจำลองอุโมงค์ฟิเกโรอาสตรีทซึ่งเชื่อมต่อกับสตาร์ วอร์ส: กาแล็กซีส์เอดจ์[10]

เดิมแกรนด์อเวนิวได้รับการวางแผนให้เป็นพื้นที่รูปแบบที่เรียกว่ามัพพิตสตูดิโอส์ หลังจากที่ดิสนีย์เข้าซื้อกิจการบริษัทจิมเฮนสัน นอกจากมัพพิตวีชันทรีดีแล้ว พื้นที่นี้ยังรวมถึงร้านอาหารที่มีรูปแบบและเครื่องเล่นดาร์กไรด์ล้อเลียนในชื่อเดอะเกรตมูฟวีไรด์ (The Great Movie Ride)[11][12] ข้อตกลงล้มเหลวหลังจากการเสียชีวิตของเฮนสัน และมีเพียงเครื่องเล่นมัพพิตวีชันทรีดีเท่านั้นที่ได้รับการพัฒนา

สตาร์ วอร์ส: กาแล็กซีส์เอดจ์

สตาร์ วอร์ส: กาแล็กซีส์เอดจ์

สตาร์ วอร์ส: กาแล็กซีส์เอดจ์ (Star Wars: Galaxy's Edge) มีเรื่องราวเกิดขึ้นภายในจักรวาลสตาร์ วอร์ส ที่หมู่บ้านแบล็คสไปร์เอาต์โพสต์บนดาวเคราะห์ชายแดนอันห่างไกลอย่างบาตู มีเครื่องเล่น ได้แก่ สตาร์ วอร์ส: ไรส์ออฟเดอะรีซิสเตนซ์ (Star Wars: Rise of the Resistance) เครื่องเล่นดาร์กไรด์ที่จะพาผู้ชมไปสู่การต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่างกลุ่มปฐมภาคี และพันธมิตรฟื้นฟูสาธารณรัฐ; และมิลเลนเนียม ฟาลคอน: สมักเกอส์รัน (Millennium Falcon: Smugglers Run) ซึ่งเป็นเครื่องเล่นจำลองการบินที่ให้แขกได้ขับยานมิลเลนเนี่ยม ฟาลค่อน ผ่านภารกิจลับที่ได้รับการปรับแต่งในนามของฮอนโด โอนากา และชิวแบคคา ร้านอาหารและร้านค้า ได้แก่ โอกาส์คันตินา, ซาวีเวิร์กช็อป และดรอยด์ ดีพอต พื้นที่นี้เปิดใน ค.ศ. 2019 แทนที่ส่วนสตรีทออฟอเมริกาของสวนสนุก[13] มีพื้นที่ 14 เอเคอร์ (5.7 เฮกตาร์) มีราคาประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์[14]

ทอย สตอรี่แลนด์

ทอย สตอรี่แลนด์ (Toy Story Land) ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟรนไชส์ ทอย สตอรี่ ของพิกซาร์ มีพื้นที่ 11 เอเคอร์ (4.5 เฮกตาร์) ตกแต่งในรูปแบบสวนหลังบ้านของแอนดี้ โดยมีเครื่องเล่น 3 แห่ง แต่ละแห่งมีตัวละครจากซีรีส์นี้[15] เครื่องเล่น ได้แก่ ทอยสตอรีมาเนีย (Toy Story Mania!) ซึ่งเป็นเครื่องเล่นแบบอินเทอร์แอคทีฟ 4 มิติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมคาร์นิวัลกลางคันสุดคลาสสิก สลิงกีด็อกแดช (Slinky Dog Dash) รถไฟเหาะกลางแจ้ง และจานรองหมุนของมนุษย์ต่างดาว (Alien Swirling Saucers) เครื่องเล่นนั่งถ้วยชาแบบหมุนได้[15][16] พื้นที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2018[16]

ทอยสตอรีมาเนีย! เดิมทีเป็นเครื่องเล่นแบบสแตนด์อโลนภายในพิกซ่าร์เพลส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อุทิศให้กับภาพยนตร์และตัวละครที่สร้างโดยพิกซาร์ โดยมีลักษณะคล้ายกับที่เอเมอรีวิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนียของสตูดิโอแอนิเมชัน พิกซาร์เพลสยังเป็นที่ตั้งของลักโซ จูเนียร์ ซึ่งเป็นมาสคอตโคมไฟตั้งโต๊ะของพิกซาร์ที่มีความสูงหกฟุต[17] ตัวละครที่เคลื่อนไหวได้แสดงเป็นระยะตลอดทั้งวันและช่วงเย็นตรงข้ามกับทอยสตอรีมิดเวย์มาเนีย[17]

แอนิเมชันคอร์ตยาร์ด

แอนิเมชันคอร์ตยาร์ด

แอนิเมชันคอร์ตยาร์ด (Animation Courtyard) เป็นที่ตั้งของเครื่องเล่นที่สร้างจากภาพยนตร์และตัวละครที่โดยวอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์ ทางเข้ามี "ซุ้มสตูดิโอ" เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนนี้ของสวนสนุกแต่เดิมเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับสตูดิโอแบ็กล็อตทัวร์

อาคารแมจิกออฟดิสนีย์แอนิเมชัน ในอดีตเป็นที่จัดแสดงสตาร์ วอร์ส ลันช์เบย์ ซึ่งเป็นนิทรรศการสตาร์ วอร์ส ที่มีอุปกรณ์ประกอบฉากเบื้องหลังและการพบปะกับตัวละครกับดาร์ธ เวเดอร์, ชิวแบคคา และบีบีเอท มิกกีอเวนิวก็เป็นพื้นที่ส่วนย่อยของแอนิเมชันคอร์ตยาร์ด เป็นที่ตั้งของนิทรรศการเดินชมวอลต์ดิสนีย์พรีเซนส์ (Walt Disney Presents) ซึ่งสำรวจชีวิตและมรดกของวอล์ต ดิสนีย์ ผ่านภาพถ่าย แบบจำลอง สิ่งประดิษฐ์ และภาพยนตร์ชีวประวัติขนาดสั้นที่บรรยายโดยจูลี แอนดรูส์ ส่วนลานภายในยังมีการแสดงสดสองรายการด้วย ดิสนีย์จูเนียร์แดนซ์ปาร์ตี! ให้ความบันเทิงแก่แขกด้วยตัวละครจากซีรีส์ดิสนีย์จูเนียร์ เช่น มิกกีแอนด์เดอะโรดสเตอร์เรซเซอส์, แวมพิรินา, ด็อก แมกสตัฟฟินส์ และ เดอะไลออนการ์ด

ซันเซ็ตบูเลอวาร์ด

ซันเซ็ตบูเลอวาร์ด

ซันเซ็ตบูเลอวาร์ด (Sunset Boulevard) ได้รับแรงบันดาลใจจากทางสัญจรจริงในชื่อเดียวกันและภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน เป็นส่วนขยายแรกของสวนสนุก ซึ่งเปิดในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1994 จุดโฟกัสของซันเซ็ตบูเลอวาร์ดคือ หอคอยแดนสนธยาแห่งความหวาดกลัว (The Twilight Zone Tower of Terror) เครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่สร้างจากละครเรื่อง แดนสนธยา (The Twilight Zone) ของร็อด เซอร์ลิง ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันคือ ร็อกแอนด์โรลเลอร์โคสสเตอร์สตาริงแอโรสมิธ (Rock 'n' Roller Coaster Starring Aerosmith) รถไฟเหาะในร่มสีเข้มที่มีรูปแบบตามเสียงเพลงของแอโรสมิธ โดยมีการกลับด้านสามครั้งและการปล่อยด้วยความเร็วสูง

ซันเซ็ตบูเลอวาร์ดมีอัฒจันทร์กลางแจ้ง 2 แห่ง และโรงละครในร่ม 1 แห่ง เธียเตอร์ออฟสตาร์ โรงละครในร่มมีการแสดงเรื่องบิวตีแอนด์เดอะบีสต์ไลฟ์ออนสเตจ ซึ่งเป็นการแสดงบนเวทีที่มีไฮไลต์จากภาพยนตร์แอนิเมชัน ฮอลลีวูดฮิลส์แอมพิเธียเตอร์ เป็นอัฒจันทร์แบบเปิดโล่งขนาดใหญ่เป็นที่ตั้งของการแสดงแฟนตาสมิก (Fantasmic!) การแสดงยามค่ำคืนที่มีมิกกี้เมาส์และตัวละครดิสนีย์อื่น ๆ อีกมากมายในเรื่องราวที่มีดอกไม้ไฟ เลเซอร์ และเอฟเฟกต์น้ำ ซันเซ็ตชว์เคสในร่มที่สมบูรณ์แบบเป็นที่จัดสถาบันการแข่งรถของไลต์นิง แม็คควีน และนำเสนอตัวละครไลต์นิง แม็คควีน และตัวละครจากคารส์อื่น ๆ ที่สอน "นักแข่งหน้าใหม่" เกี่ยวกับบทเรียนที่พวกเขาได้เรียนรู้เมื่อแข่งรถ[18]

นักท่องเที่ยว

2011 2012 2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 2020 อันดับโลก
9,699,000[19] 9,912,000[20] 10,110,000[21] 10,312,000[22] 10,828,000[23] 10,776,000[24] 10,772,000[25] 11,258,000[26] 11,483,000[27] 3,675,000[27] 9

อ้างอิง

  1. Niles, Robert (พฤศจิกายน 25, 2014). "Turner Classic Movies Steps in to Sponsor Disney World's Great Movie Ride". Theme Park Insider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มกราคม 19, 2016. สืบค้นเมื่อ มกราคม 20, 2016.
  2. Bevil, Dewayne (February 7, 2018). "Disney: Park is Hollywood Studios for 'foreseeable future'". Orlando Sentinel. สืบค้นเมื่อ February 8, 2018.
  3. Bevil, Dewayne (February 7, 2018). "Disney: Park is Hollywood Studios for 'foreseeable future'". Orlando Sentinel. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-04-14. สืบค้นเมื่อ February 8, 2018.
  4. Burke, Bill (May 5, 2009). Mousejunkies! Tips, Tales, and Tricks for a DISNEY WORLD Fix: All You Need to Know for a Perfect Vacation. Travelers' Tales. ISBN 9781932361759. สืบค้นเมื่อ April 9, 2016.
  5. Moyer, Justin Wm. "Bill Cosby statue comes down at Disney park after drug revelations". The Washington Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ ตุลาคม 8, 2015. สืบค้นเมื่อ เมษายน 9, 2016.
  6. Rasmussen, Nate (มิถุนายน 9, 2011). "Vintage Walt Disney World: Sunset Boulevard Emerges". Disney Parks Blog. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ เมษายน 17, 2016. สืบค้นเมื่อ เมษายน 9, 2016.
  7. Delgado, Lauren (กรกฎาคม 15, 2016). "PizzeRizzo opening this fall in Disney's Hollywood Studios". Orlando Sentinel. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 20, 2016. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 15, 2016.
  8. Bevil, Dewayne (พฤศจิกายน 7, 2016). "Latest look: Changes underway at Disney's Hollywood Studios". Orlando Sentinel. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ พฤศจิกายน 18, 2016. สืบค้นเมื่อ พฤศจิกายน 18, 2016.
  9. Peabody, Joan (กรกฎาคม 26, 2017). "New BaseLine Tap House Part of New Grand Avenue Area at Disney's Hollywood Studios". Disney Parks Blog (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 26, 2017. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 26, 2017.
  10. Bevil, Dewayne (April 30, 2019). "Get a sneak peek of the emerging landscape of Star Wars: Galaxy's Edge at Disney World". Orlando Sentinel. สืบค้นเมื่อ 6 May 2019.
  11. Korkis, Jim. "Walt Disney World Chronicles: The Muppet Studios". allears.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ เมษายน 16, 2016. สืบค้นเมื่อ เมษายน 4, 2016.
  12. Hill, Jim. "You will believe that a Pig can fly. (Frogs too!)". jimhillmedia.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ เมษายน 13, 2016. สืบค้นเมื่อ เมษายน 4, 2016.
  13. Vlessing, Etan; Parker, Ryan (March 7, 2019). "Star Wars: Galaxy's Edge Sets Opening Dates". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ March 7, 2019.
  14. Barnes, Brooks (กรกฎาคม 15, 2017). "Disney Vows to Give Epcot a Magical, Long-Overdue Makeover". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 15, 2017. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 16, 2017.
  15. 15.0 15.1 Martens, Todd (สิงหาคม 15, 2015). "Disney reveals plans for 'Toy Story Land' and 'Avatar' and more 'Star Wars'". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ สิงหาคม 16, 2015. สืบค้นเมื่อ สิงหาคม 16, 2015.
  16. 16.0 16.1 Brucculieri, Julia (สิงหาคม 16, 2015). "'Toy Story' Land Is Coming To Disney's Hollywood Studios". The Huffington Post. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ สิงหาคม 17, 2015. สืบค้นเมื่อ สิงหาคม 16, 2015.
  17. 17.0 17.1 Jason Garcia and Sara K. Clarke (มิถุนายน 8, 2009). "Wait may be more fun at Disney's Space Mountain". Orlando Sentinel. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มิถุนายน 10, 2009. สืบค้นเมื่อ มิถุนายน 8, 2009.
  18. "New Show Lightning McQueen's Racing Academy Opens at Disney's Hollywood Studios in Early 2019". Disney Parks Blog (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-22. สืบค้นเมื่อ 2019-01-21.
  19. "TEA/AECOM 2011 Global Attractions Report" (PDF). Themed Entertainment Association. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ October 18, 2015. สืบค้นเมื่อ November 20, 2012.
  20. "TEA/AECOM 2012 Global Attractions Report" (PDF). Themed Entertainment Association. 2012. สืบค้นเมื่อ June 7, 2013.
  21. "TEA/AECOM 2013 Global Attractions Report" (PDF). Themed Entertainment Association. 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ June 6, 2014. สืบค้นเมื่อ June 6, 2014.
  22. Rubin, Judith; Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Beth; Cheu, Linda; Elsea, Daniel; LaClair, Kathleen; Lock, Jodie; Linford, Sarah; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Pincus, Jeff; Robinett, John; Sands, Brian; Selby, Will; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris. "TEA/AECOM 2014 Theme Index & Museum Index: The Global Attractions Attendance Report" (PDF). aecom.com. Themed Entertainment Association (TEA). สืบค้นเมื่อ June 4, 2015.
  23. "TEA/AECOM 2015 Global Attractions Attendance Report" (PDF). Themed Entertainment Association. 2015. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ กรกฎาคม 3, 2016. สืบค้นเมื่อ พฤษภาคม 25, 2016.
  24. Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Bet; Chen, Bryan; Cheu, Linda; Fischer, Lucia; Hoffman, Marina; Kondaurova, Olga; LaClair, Kathleen; Li, Shaojin; Linford, Sarah; Marling, George; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Robinett, John; Rubin, Judith; Sands, Brian; Selby, William; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris (June 1, 2017). "TEA/AECOM 2016 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). aecom.com. Themed Entertainment Association. สืบค้นเมื่อ July 26, 2017.
  25. Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Bet; Chen, Bryan; Cheu, Linda; Fischer, Lucia; Hoffman, Marina; Kondaurova, Olga; LaClair, Kathleen; Li, Shaojin; Linford, Sarah; Marling, George; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Robinett, John; Rubin, Judith; Sands, Brian; Selby, William; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris (May 17, 2018). "TEA/AECOM 2017 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). teaconnect.org. Themed Entertainment Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ June 2, 2017. สืบค้นเมื่อ May 17, 2018.
  26. Au, Tsz Yin (Gigi); Chang, Bet; Chen, Bryan; Cheu, Linda; Fischer, Lucia; Hoffman, Marina; Kondaurova, Olga; LaClair, Kathleen; Li, Shaojin; Linford, Sarah; Marling, George; Miller, Erik; Nevin, Jennie; Papamichael, Margreet; Robinett, John; Rubin, Judith; Sands, Brian; Selby, William; Timmins, Matt; Ventura, Feliz; Yoshii, Chris (May 21, 2019). "TEA/AECOM 2018 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). teaconnect.org. Themed Entertainment Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ May 23, 2019. สืบค้นเมื่อ May 24, 2019.
  27. 27.0 27.1 "TEA/AECOM 2020 Theme Index & Museum Index: Global Attractions Attendance Report" (PDF). teaconnect.org. Themed Entertainment Association. May 2022. สืบค้นเมื่อ May 30, 2022.

แหล่งข้อมูลอื่น

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!