ดาบิด เด เฆอา

ดาบิด เด เฆอา
เด เฆอากับสเปนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ดาบิด เด เฆอา กินตานา[1]
วันเกิด (1990-11-07) 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1990 (34 ปี)
สถานที่เกิด มาดริด สเปน
ส่วนสูง 1.90 เมตร (6 ฟุต 3 นิ้ว)[2]
ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
ฟีออเรนตีนา
หมายเลข 43
สโมสรเยาวชน
2003–2008 อัตเลติโกเดมาดริด
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2008–2009 อัตเลติโกเดมาดริด เบ 35 (0)
2009–2011 อัตเลติโกเดมาดริด 57 (0)
2011–2023 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 415 (0)
2024– ฟีออเรนตีนา 6 (0)
ทีมชาติ
2004 สเปน อายุไม่เกิน 15 ปี 12 (0)
2007 สเปน อายุไม่เกิน 17 ปี 15 (0)
2007–2009 สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี 15 (0)
2009 สเปน อายุไม่เกิน 20 ปี 1 (0)
2009–2013 สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี 27 (0)
2012 สเปน อายุไม่เกิน 23 ปี 5 (0)
2014–2020 สเปน 45 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2023
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2018

ดาบิด เด เฆอา กินตานา (สเปน: David de Gea Quintana; เกิดวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1990) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับฟีออเรนตีนา ในเซเรียอา

ประวัติ

เด เฆอา เกิดในกรุงมาดริด เริ่มอาชีพนักฟุตบอลตั้งแต่อายุ 10 ปี กับอัตเลติโกเดมาดริดผ่านระบบเยาวชน ก่อนที่จะก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ เปิดตัวในปี ค.ศ. 2009 หลังจากที่เขาเป็นตัวเลือกแรกของอัตเลติโก เขาก็ได้ช่วยให้ทีมชนะทั้งในยูฟ่ายูโรปาลีกและยูฟ่าซูเปอร์คัพ จากผลงานนี้เองทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดสนใจ เขาได้ร่วมกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2011 และเขายังเป็นกัปตันทีมฟุตบอลทีมชาติสเปนรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี

จากการเป็นคนรูปร่างสูง มีความเป็นนักกีฬา และมีความมั่นใจเมื่อมีบอลอยู่กับเท้า เด เฆอา ได้พัฒนาตัวเองในทีมเยาวชนของอัตเลติโกเดมาดริดอย่างรวดเร็ว และได้ลงเล่นฟุตบอลอาชีพนัดแรกด้วยอายุเพียง 18 ปีในฤดูกาล 2008/09 กับทีมเยาวชนของอัตเลติโกเดมาดริดในดิวิชันบี และด้วยความสามารถที่โดดเด่น ในฤดูกาลถัดมาเขาก็ได้มีชื่อติดทีมชุดใหญ่ และได้ลงเล่นนัดแรกให้ทีมชุดใหญ่ในวันที่ 30 กันยายน 2009 ในฐานะตัวสำรองซึ่งได้ลงเล่นแทนผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมอย่างโรเบร์โต ในเกมที่ทีมไปเยือนโปร์ตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม และจากอาการบาดเจ็บของโรเบร์โต ก็ทำให้เด เฆอา ได้ลงเล่นในลาลิกา สเปน ครั้งแรกในอีก 3 วันถัดมาที่ทีมพบกับเรอัลซาราโกซา และช่วยให้ทีมเอาชนะมาได้ 2 - 1

จากนั้น ในฤดูกาล 2009/10 เขาก็ยึดตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม เขาได้รับเลือกเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ 2 นัดในปีนี้ คือนัดที่พบกับอัตเลติกเดบิลบาโอและบาเลนเซีย และเขาก็มีส่วนสำคัญในการช่วยทีมคว้าแชมป์ยูโรปาลีกในปีนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นแชมป์ยุโรปครั้งแรกในรอบ 50 ปีของอัตเลติโกเดมาดริด เลยทีเดียว

ในปีถัดมา ชื่อเสียงของเด เฆอา ก็เป็นที่เลื่องลือมากขึ้นทั้งจากฟอร์มการเล่นในลาลิกา และจากข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับการได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หลังจากที่สื่อได้พบกับ อีริค สตีล โค้ชผู้รักษาประตูของทีมปีศาจแดงไปป้วนเปี้ยนดูฟอร์มการเล่นของผู้รักษาประตูชาวสเปนผู้นี้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2010

จากนั้นในช่วงปลายฤดูกาล 2010/11 เด เฆอา ก็ยิ่งได้รับความสนใจจากสื่อมากขึ้นหลังจากที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่เพื่อมาแทนที่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ข่าวก็เงียบไปพักใหญ่ในช่วงที่เด เฆอา ต้องร่วมทีมชาติสเปนชุดอายุไม่เกิน 21 ปีเพื่อสู้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2011 ที่ประเทศเดนมาร์ก และเขาก็สามารถช่วยทีมชาติคว้าแชมป์นี้มาครองได้สำเร็จ

เด เฆอาถือเป็นผู้รักษาประตูคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ และเป็นผู้รักษาประตูอายุน้อยที่มีอนาคตไกล เขาเซ็นสัญญามาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงฤดูร้อนปี 2011 ในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 20 ปี แต่ก็ได้รับการคาดหวังว่าจะมาแทนที่อดีตผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมอย่างเอ็ดวิน ฟัน เดอร์ ซาร์

ในฤดูกาล 2014–15 เด เฆอา เล่นได้อย่างโดดเด่นมาก ทำให้เป็นที่ต้องการตัวของหลายสโมสร โดยเฉพาะกับเรอัลมาดริด และในนัดแรกของฤดูกาล 2015–16 ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพบกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เด เฆอา ก็ได้ถูกดร็อป และเป็น เซร์คีโอ โรเมโร ผู้รักษาประตูชาวอาร์เจตินาที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เป็นตัวจริงแทน> เนื่องจากเด เฆอา ตกเป็นข่าวมาตลอดว่า รีลมาดริด ต้องการขอซื้อไปในราคาที่สูง และเจ้าตัวเองก็ย้ายสโมสร โดยจะแถม เกย์ลอร์ นาบัส แลกเปลี่ยนตัวกันอีกด้วย จนท้ายที่สุด เด เฆอา ก็ไม่ได้ย้ายไป เนื่องจากทั้งสองสโมสรยื่นเอกสารไม่ทันการซื้อขายผู้เล่นในยุโรปปิดลง ทำให้เด เฆอา ต้องอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปอย่างน้อยจนถึงต้นปีหน้า [3]

ต่อมาทางสโมสรได้ประกาศว่า เด เฆอาได้ต่อสัญญาไปอีก 4 ปี จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 2019 และอาจขยายระยะเวลาไปอีก 1 ปีด้วย[4] และกลับมาเป็นผู้รักษาประตูอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน ในศึกแดงเดือด ซึ่งเป็นพรีเมียร์ลีกนัดที่ 5 ของฤดูกาล ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พบกับ ลิเวอร์พูล ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายชนะไปได้ 3-1 [5]

สถิติอาชีพ

สโมสร

ณ วันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2023
สโมสร ฤดูกาล ลีก ถ้วยระดับชาติ[a] ถ้วยลีกคัพ[b] ยุโรป อื่น ๆ ทั้งหมด
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
อัตเลติโกมาดริด เบ 2008–09[6] เซกุนดาดิบิซิออน 35 0 35 0
อัตเลติโกมาดริด 2009–10[7] ลาลิกา 19 0 7 0 9[c] 0 35 0
2010–11[8] ลาลิกา 38 0 5 0 5[d] 0 1[e] 0 49 0
ทั้งหมด 57 0 12 0 14 0 1 0 84 0
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2011–12[9] พรีเมียร์ลีก 29 0 1 0 0 0 8[f] 0 1[g] 0 39 0
2012–13[10] พรีเมียร์ลีก 28 0 5 0 1 0 7[h] 0 41 0
2013–14[11] พรีเมียร์ลีก 37 0 0 0 4 0 10[h] 0 1[g] 0 52 0
2014–15[12] พรีเมียร์ลีก 37 0 5 0 1 0 43 0
2015–16[13] พรีเมียร์ลีก 34 0 6 0 1 0 8[i] 0 49 0
2016–17[14] พรีเมียร์ลีก 35 0 1 0 5 0 3[d] 0 1[g] 0 45 0
2017–18[15] พรีเมียร์ลีก 37 0 2 0 0 0 6[h] 0 1[e] 0 46 0
2018–19[16] พรีเมียร์ลีก 38 0 0 0 0 0 9[h] 0 47 0
2019–20[17] พรีเมียร์ลีก 38 0 1 0 2 0 2[d] 0 43 0
2020–21[18] พรีเมียร์ลีก 26 0 0 0 0 0 10[j] 0 36 0
2021–22[19] พรีเมียร์ลีก 38 0 1 0 0 0 7 0 46 0
2022–23[20] พรีเมียร์ลีก 17 0 1 0 0 0 6 0 24 0
ทั้งหมด 394 0 23 0 14 0 76 0 4 0 511 0
ทั้งหมด 486 0 35 0 14 0 90 0 5 0 630 0


  1. รวม โกปาเดลเรย์, เอฟเอคัพ
  2. รวม ลีกคัพ/อีเอฟแอลคัพ
  3. ลงเล่น 1 นัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ 8 นัดในยูฟ่ายูโรปาลีก
  4. 4.0 4.1 4.2 ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก
  5. 5.0 5.1 ลงเล่นในยูฟ่าซูเปอร์คัพ
  6. ลงเล่น 4 นัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ 4 นัดในยูฟ่ายูโรปาลีก
  7. 7.0 7.1 7.2 ลงเล่นในเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์
  8. 8.0 8.1 8.2 8.3 ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
  9. ลงเล่น 6 นัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ 2 นัดในยูฟ่ายูโรปาลีก
  10. ลงเล่น 5 นัดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ 5 นัดในยูฟ่ายูโรปาลีก

ทีมชาติ

ณ วันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 2020[21]
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
สเปน 2014 3 0
2015 4 0
2016 11 0
2017 7 0
2018 13 0
2019 3 0
2020 4 0
ทั้งหมด 40 0

เกียรติประวัติ

สโมสร

อัตเลติโกมาดริด

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

ทีมชาติ

สเปน อายุไม่เกิน 17 ปี

  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี: 2007[32]

สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี

รางวัลส่วนตัว

  • UEFA European Under-21 Championship Team of the Tournament: 2011, 2013[33]
  • PFA Team of the Year: 2012–13 Premier League,[34] 2014–15 Premier League,[35] 2015–16 Premier League,[36] 2016–17 Premier League,[37] 2017–18 Premier League[38]
  • PFA Fans' Premier League Player of the Month: พฤศจิกายน 2014[39]
  • Sir Matt Busby Player of the Year: 2013–14, 2014–15, 2015–16, 2017–18[40][41]
  • Manchester United Players' Player of the Year: 2013–14, 2014–15, 2017–18[42][43]
  • UEFA Europa League Squad of the Season: 2015–16[44]
  • Match of the Day Save of the Season: 2012–13, 2013–14, 2014–15, 2015–16, 2017–18[45][46]
  • EA Sports FIFA Team of the Year: 2017,[47] 2018[48]
  • Ballon d'Or: 2017 (อันดับที่ 20)[49]
  • FIFA FIFPro World XI: 2018[50]
  • FIFA FIFPro World XI 2nd team: 2015[51]
  • FIFA FIFPro World XI 3rd team: 2016, 2017[52][53]
  • Premier League Golden Glove: 2017–18[24], 2022–23

อ้างอิง

  1. "Squads for 2017/18 Premier League confirmed". Premier League. 1 September 2017. สืบค้นเมื่อ 25 November 2017.
  2. "2018 FIFA World Cup: List of players" (PDF). FIFA. 18 June 2018. p. 28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-12-02. สืบค้นเมื่อ 2018-08-12.
  3. "ส่งเอกสารไม่ทัน!เดเฆอาชวดย้ายซบชุดขาว". เดลินิวส์. 1 September 2015. สืบค้นเมื่อ 3 September 2015.
  4. หน้า 19 ต่อจากหน้า 17 กีฬา, 'ผีแดง'สมหวัง เฆอาต่อสัญญา เฝ้าเสาไปอีก4ปี. เดลินิวส์ฉบับที่ 24,075: วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558 แรม 14 ค่ำ เดือน 9 ปีมะแม
  5. ""มาร์กซิยาล" ซัดตอกฝาโลง ผีเด็ดปีกหงส์ 3-1". ผู้จัดการออนไลน์. 13 September 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 13 September 2015.
  6. "De Gea: David De Gea Quintana: Matches: 2008–09". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 11 August 2018.
  7. "De Gea: David De Gea Quintana: Matches: 2009–10". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 11 August 2018.
  8. "De Gea: David De Gea Quintana: Matches: 2010–11". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 11 August 2018.
  9. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2011/2012". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 10 September 2016.
  10. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2012/2013". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 10 September 2016.
  11. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2013/2014". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 10 September 2016.
  12. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2014/2015". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 10 September 2016.
  13. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2015/2016". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 10 September 2016.
  14. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2016/2017". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 25 November 2017.
  15. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2017/2018". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 11 August 2018.
  16. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2018/2019". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 5 May 2019.
  17. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2019/2020". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 16 August 2020.
  18. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2020/2021". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 26 May 2021.
  19. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2021/2022". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 22 May 2022.
  20. "Games played by ดาบิด เด เฆอา in 2022/2023". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 6 January 2023.
  21. "De Gea, David". National Football Teams. Benjamin Strack-Zimmermann. สืบค้นเมื่อ 13 April 2019.
  22. McNulty, Phil (12 May 2010). "Atletico Madrid 2–1 Fulham". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 24 April 2019.
  23. "Slick Atlético seal Super Cup success". UEFA. 27 August 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 October 2018.
  24. 24.0 24.1 "David de Gea: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 24 April 2019.
  25. McNulty, Phil (21 May 2016). "Crystal Palace 1–2 Manchester United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 24 April 2019.
  26. McNulty, Phil (26 February 2017). "Manchester United 3–2 Southampton". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 24 April 2019.
  27. McNulty, Phil (26 February 2023). "Manchester United 2–0 Newcastle United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 26 February 2023.
  28. Bevan, Chris (7 August 2011). "Manchester City 2–3 Manchester United". BBC Sport. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 October 2013.
  29. Rostance, Tom (11 August 2013). "Man Utd 2–0 Wigan". BBC Sport. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 January 2016.
  30. Bevan, Chris (7 August 2016). "Leicester City 1–2 Manchester United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 24 April 2019.
  31. McNulty, Phil (24 May 2017). "Ajax 0–2 Manchester United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 24 April 2019.
  32. 32.0 32.1 "David de Gea – UEFA". UEFA. 29 July 2013. สืบค้นเมื่อ 21 June 2016.
  33. "Thiago leads all-star squad dominated by Spain". UEFA. สืบค้นเมื่อ 21 June 2013.
  34. "Gareth Bale wins PFA Player of Year and Young Player awards". BBC Sport. 28 April 2013. สืบค้นเมื่อ 25 April 2018.
  35. "Chelsea's Eden Hazard named PFA Player of the Year". BBC Sport. 26 April 2015. สืบค้นเมื่อ 25 April 2018.
  36. "PFA awards: Leicester and Spurs dominate Premier League team". BBC Sport. 21 April 2016. สืบค้นเมื่อ 25 April 2018.
  37. "PFA teams of the year: Chelsea and Tottenham dominate Premier League XI". BBC Sport. 20 April 2017. สืบค้นเมื่อ 25 April 2018.
  38. "Manchester City players dominate PFA team of the year". BBC Sport. 18 April 2018. สืบค้นเมื่อ 25 April 2018.
  39. "Man Utd's David De Gea wins PFA Fans' Player of the Month for November". Daily Express. London. สืบค้นเมื่อ 1 December 2014.
  40. Grant, Ryan; Thomas, Nathan (2 May 2016). "David de Gea wins third successive Player of the Year award". Manchester United F.C. สืบค้นเมื่อ 3 May 2016.
  41. Higgins, Adam (1 May 2018). "De Gea wins Player of the Year award". Manchester United F.C. สืบค้นเมื่อ 1 May 2018.
  42. Froggatt, Mark (19 May 2015). "David De Gea wins Players' Player of the Year prize". Manchester United F.C. สืบค้นเมื่อ 2 May 2016.
  43. Ganley, Joe (1 May 2018). "De Gea voted star man by United players". Manchester United F.C. สืบค้นเมื่อ 1 May 2018.
  44. "UEFA Europa League Squad of the Season". UEFA. 20 May 2016.
  45. "Man Utd's De Gea has won save of the season every year since it began". Metro. London. 28 May 2016. สืบค้นเมื่อ 14 December 2016.
  46. "De Gea: Spain are in great shape". FIFA. 4 May 2018. สืบค้นเมื่อ 27 May 2018.
  47. "FIFA 18 Team of the Year". EA Sports. 16 January 2018. สืบค้นเมื่อ 19 January 2018.
  48. Arts, Electronic (2018-08-23). "EA SPORTS FIFA TEAM OF THE YEAR —FIFA 19 — Official Site". Electronic Arts Inc. (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-01-07.
  49. "Le classement complet du Ballon d'Or 2017". Francefootball.fr. 7 December 2017. สืบค้นเมื่อ 7 December 2017.
  50. "De Gea, Kante and Mbappe in World 11". FIFPro. 24 September 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-11. สืบค้นเมื่อ 25 September 2018.
  51. "2015 World XI: the Reserve Teams — FIFPro World Players' Union". FIFPro. 11 January 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-09. สืบค้นเมื่อ 13 October 2017.
  52. "2016 World 11: the reserve teams – FIFPro World Players' Union". FIFPro. 9 January 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-09. สืบค้นเมื่อ 13 October 2017.
  53. "2016–2017 World 11: the Reserve Teams – FIFPro World Players' Union". FIFPro. 23 October 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-06. สืบค้นเมื่อ 23 October 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!