บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัดตราสัญลักษณ์ของบริษัท |
อู่ต่อเรือของบริษัท อู่กรุงเทพ บนถนนเจริญกรุง |
ชื่อท้องถิ่น | The Bangkok Dock Company (1957) Limited |
---|
ประเภท | รัฐวิสาหกิจ |
---|
อุตสาหกรรม | |
---|
ก่อนหน้า | บริษัท บางกอกด๊อก จำกัด |
---|
ก่อตั้ง | 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500; 67 ปีก่อน (2500-11-15) |
---|
ผู้ก่อตั้ง | จอห์น บุช |
---|
สำนักงานใหญ่ | , |
---|
จำนวนที่ตั้ง | 2 แห่ง (พ.ศ. 2555) |
---|
พื้นที่ให้บริการ | ประเทศไทย |
---|
บุคลากรหลัก | พลเรือเอก วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง (ประธานกรรมการ) นาวาเอก ปริศฎางค์ กาศขุนทด (กรรมการผู้จัดการ) |
---|
ผลิตภัณฑ์ | |
---|
บริการ | |
---|
รายได้สุทธิ | 67.01 ล้านบาท (พ.ศ. 2564)[1] |
---|
สินทรัพย์ | 134.70 ล้านบาท (พ.ศ. 2564)[1] |
---|
ส่วนของผู้ถือหุ้น | 101.79 ล้านบาท (พ.ศ. 2564)[1] |
---|
เจ้าของ | |
---|
บริษัทแม่ | กองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม |
---|
บริษัทในเครือ | สำนักงานธุรกิจสัตหีบ |
---|
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของบริษัท |
---|
บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด (อังกฤษ: The Bangkok Dock Company (1957) Limited) เป็นรัฐวิสาหกิจในประเทศไทย สังกัด กองทัพเรือ กระทรวงกลาโหม ประกอบกิจการอู่เรือ สร้าง ซ่อมเครื่องจักร เครื่องกลเรือ และอุตสาหกรรมพาณิชย์นาวีของกองทัพไทย
ประวัติ
บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ดำเนินกิจการต่อเนื่องมาจากบริษัท บางกอกด๊อก จำกัด ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2408 โดยกัปตันจอห์น บุช นักลงทุนชาวอังกฤษ และราชนาวีไทยต้องเข้ามาควบคุมกิจการในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และส่งคืนให้แก่ประเทศอังกฤษหลังเสร็จสิ้นสงคราม แต่ บางกอกด๊อก ต้องเลิกกิจการในปี พ.ศ. 2494 และขายกิจการกลับมาเป็นของบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2495 และได้มีการโอนกิจการโดยสมบูรณ์ให้กองทัพเรือ ในปี พ.ศ. 2500 พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษของบริษัทจาก Bangkok Dock Co., Ltd. มาเป็น Bangkok Dock company (1957) Limited. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 ต่อมาในปี พ.ศ. 2521 กองทัพเรือจึงโอนหุ้นทั้งหมดให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงการคลัง มอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ควบคุมนโยบาย และในปี พ.ศ. 2526 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้อู่กรุงเทพ มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ประเภทยุทธปัจจัย อยู่ในความควบคุมของกองทัพเรือ[2]
บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ระหว่างสะพานกรุงเทพ และสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน มีพื้นที่ 20 ไร่ 1 งาน 82 ตารางวา เป็นพื้นที่อู่จำนวน 2 อู่ สามารถซ่อมเรือขนาดระวางบรรทุก 3,000 - 4,000 ตัน ได้ 3 ลำในเวลาเดียวกัน และยังมีสำนักงานธุรกิจตั้งอยู่ที่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี อีกแห่งหนึ่ง มีพื้นที่ 44 ไร่ 2 งาน เป็นลักษณะอู่ลอย
การดำเนินงาน
บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด มีผลกำไรสุทธิ ในปี พ.ศ. 2553 จำนวน 13,266,419.67 บาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 13.27 บาท[3]
ผลงานของบริษัท
บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด มีผลงานการต่อเรือสำคัญ อาทิ โครงการเรือน้ำมันกองทัพเรือ เรือตรวจการไกลฝั่ง เรือระบายพลประจำเรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสุรินทร์ เรือหลวงทองหลาง เรือหลวงวังนอก เรือหลวงทองแก้ว เรือหลวงวังใน เรือหลวงศุกร์ เรือหลวงสุริยะ เรือหลวงถลาง เรือเวรด่วนทางธุรการ[4]
นอกจากนั้นยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการสำคัญ อาทิ พิพิธภัณฑ์เรือหลวงท่าจีน การกู้เรือหลวงกระบุรีออกจากการเกยตื้นภายหลังเหตุการณ์สึนามิ ณ ฐานทัพเรือพังงา จังหวัดพังงา โครงการเรือออมสิน โครงการยานวิจัยใต้น้ำขนาดเล็ก
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
พลังงาน | | |
---|
ขนส่ง | |
---|
สื่อสาร | |
---|
สาธารณูปการ | |
---|
อุตสาหกรรม | |
---|
เกษตรและ ทรัพยากรธรรมชาติ | |
---|
พาณิชย์และบริการ | |
---|
สังคมและเทคโนโลยี | |
---|
สถาบันการเงิน | |
---|
อดีตรัฐวิสาหกิจ | |
---|
อดีตรัฐวิสาหกิจ ประเภทอื่น ๆ* | |
---|
* หมายเหตุ: เป็นองค์กรที่กองทุน FIDF เคยถือหุ้น หรือถือหุ้นอยู่เกินกว่าร้อยละห้าสิบ ซึ่งภายหลังในปี 2563 มีการตีความว่ากองทุนฯ ไม่ใช่หน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ส่งผลให้องค์กรที่กองทุนฯ ถือหุ้นเกินร้อยละห้าสิบ (ธนาคารกรุงไทย) สิ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ |