อำเภอแหลมสิงห์ |
---|
|
การถอดเสียงอักษรโรมัน |
---|
• อักษรโรมัน | Amphoe Laem Sing |
---|
คำขวัญ: เล่นน้ำตกพลิ้ว ชมวิวชายทะเล เที่ยวเตร่ตึกแดง โชว์แสดงโลมา กุ้งปูปลาผลไม้มากมี เสื่อดีบางสระเก้า เกาะนมสาวอ่างกระทิง แหลมสิงห์จันทบูร |
แผนที่จังหวัดจันทบุรี เน้นอำเภอแหลมสิงห์ |
พิกัด: 12°28′54″N 102°4′25″E / 12.48167°N 102.07361°E / 12.48167; 102.07361 |
ประเทศ | ไทย |
---|
จังหวัด | จันทบุรี |
---|
พื้นที่ |
---|
• ทั้งหมด | 190.8 ตร.กม. (73.7 ตร.ไมล์) |
---|
ประชากร (2566) |
---|
• ทั้งหมด | 29,428 คน |
---|
• ความหนาแน่น | 154.24 คน/ตร.กม. (399.5 คน/ตร.ไมล์) |
---|
รหัสไปรษณีย์ | 22130 |
---|
รหัสภูมิศาสตร์ | 2206 |
---|
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอแหลมสิงห์ เลขที่ 12 หมู่ที่ 2 ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี 22130 |
---|
|
แหลมสิงห์ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอแหลมสิงห์ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
ที่มาของชื่อ
ที่มาของชื่อ "แหลมสิงห์" มาจากหินธรรมชาติที่มีรูปลักษณะคล้ายกับสิงโตหมอบ 2 ตัวที่ปากอ่าวแหลมสิงห์ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงตัวเพราะถูกทำลายไปในเหตุวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112[1]
ตำนานสิงโตที่แหลมสิงห์
คำโบราณปรัมปราเล่าว่าเมื่อก่อนนี้ไม่มีสิงโตคู่นี้ แต่กล่าวกันว่าบนเขาแหลมสิงห์มีสิงโตจริง ๆ อยู่คู่หนึ่ง (ซึ่งอาจจะนำเข้ามาจากอินเดีย หรือ แอฟริกา) สิงโตตัวผู้ตัวเมียคู่นี้ไปไหนด้วยกันเสมอและลงมาอาบน้ำทะเลด้วยกันทุกวัน
ต่อมาฝรั่งเศสพวกหนึ่งคอยดักทำร้ายสิงโตคู่นี้ โดยใช้วัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง สิงโตตัวหนึ่งถึงแก่ความตาย อีกตัวหนึ่งวิ่งหนีลงทะเลทัน ตัวที่หนีลงทะเลไปนั้น เมื่อตายในน้ำแล้วก็มากลายรูปเป็นสิงโตศิลายืนหยัดอยู่ริมทะเล ส่วนตัวที่ถูกยิงตายอยู่ที่ริมฝั่งทะเล ส่วนตัวที่ถูกยิงตายอยู่ที่ริมฝั่งทะเล เหลือเพียงแต่ซากหินปรักหักพังยืนข้างศิลาตัวใหญ่ พอจะจับสังเกตเป็นเค้าโครงได้ มีแววเป็นรูปสิงโตได้บ้าง (คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุฯ 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542. ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น: ความเป็นมาของอำเภอสำคัญในประวัติศาสตร์ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. หน้า 58-59)
- นอกจากนี้ยังมีอีกตำนานอีกสำนวนหนึ่งเล่าว่า แหลมสิงห์เป็นชื่อของภูเขาลูกหนึ่งที่มีบางส่วนยื่นออกไปในทะเลเป็นแหลม ตรงปลายแหลมมีหินซ้อนกันเป็นกลุ่มก้อน เมื่อมองจากทะเลจะเห็นคล้ายสิงโตยืนอยู่ 2 ตัว ชาวบ้านจึงเรียกแหลมนี้ว่า แหลมสิงห์ ในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ายึดครองจันทบุรี ได้ใช้หินก้อนหนึ่งที่ดูคล้ายสิงโตนั้นเป็นเป้าทดลองปืนจนหินส่วนนั้นแตกสลาย ที่เหลืออีกก้อนหนึ่งนั้นคือส่วนที่คล้ายหัวสิงโตก็หักหลุดตกน้ำไป (สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคกลาง. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพานิชย์, 2542. หน้า 7241)
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอแหลมสิงห์แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 7 ตำบล 65 หมู่บ้าน ได้แก่
ลำดับ
|
อักษรไทย
|
อักษรโรมัน
|
จำนวนหมู่บ้าน
|
จำนวนประชากร (ธันวาคม 2565)[2]
|
1.
|
ปากน้ำแหลมสิงห์
|
Pak Nam Laem Sing
|
16
|
8,644
|
2.
|
เกาะเปริด [เกาะ-เปฺริด]
|
Ko Proet
|
7
|
3,030
|
3.
|
หนองชิ่ม
|
Nong Chim
|
10
|
5,092
|
4.
|
พลิ้ว
|
Phlio
|
12
|
5,461
|
5.
|
คลองน้ำเค็ม
|
Khlong Nam Khem
|
6
|
1,533
|
6.
|
บางสระเก้า
|
Bang Sa Kao
|
5
|
2,134
|
7.
|
บางกะไชย
|
Bang Kachai
|
9
|
3,784
|
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอแหลมสิงห์ประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลพลิ้ว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพลิ้วและตำบลคลองน้ำเค็มทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเปริด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเกาะเปริดทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองชิ่ม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองชิ่มทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบางสระเก้า ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางสระเก้าทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบางกะไชย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางกะไชยทั้งตำบล
สถานที่ท่องเที่ยว
คุกขี้ไก่
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) อยู่บริเวณแหลมสิงห์ ก่อนถึงท่าเทียบเรือ 1 กิโลเมตร เมื่อฝรั่งเศสได้เข้ายึดจันทบุรีในกรณีพิพาทกันด้วยเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ระหว่างนั้นฝรั่งเศสได้ยกกองทหารเข้าสู่เมืองจันทบุรีประมาณ 600 คน แยกกันอยู่สองแห่ง แห่งแรกตั้งอยู่ที่เมืองจันทบุรีบริเวณที่เป็นค่ายทหารในปัจจุบัน อีกแห่งตั้งอยู่ที่ปากน้ำแหลมสิงห์ ฝรั่งเศสได้สร้างคุกขี้ไก่เพื่อใช้กักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยม หลังคาโปร่ง เล่ากันว่าเป็นคุกที่ทรมานมาก เพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ ซึ่งจะถ่ายมูลราดศีรษะนักโทษที่ถูกคุมขัง
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
ตั้งอยู่ในเขตเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ ระยะทาง 17 กิโลเมตรจากตัวเมือง มีเนื้อที่ทั้งหมด 84,063 ไร่ สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าดิบชื้น มี 3 ชั้น จากทางขึ้นไป 200 เมตร มีอลงกรณ์เจดีย์ทางขวามือ เป็นเจดีย์ศิลาแลง รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้พระยาจันทบุรีเป็นแม่กองสร้างเมื่อ พ.ศ. 2419 นอกจากนี้แล้วบริเวณใกล้ ๆ กัน ยังมีพีระมิดอีกแห่งหนึ่ง ชื่อ "ปิรามิดพระนางเรือล่ม" หรือ "สถูปพระนางเรือล่ม" เป็นที่บรรจุพระอังคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (พระนางเรือล่ม) ซึ่งเคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วเมื่อ พ.ศ. 2417 และที่อุทยานแห่งชาตินี้ยังมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อีกมากมาย
โอเอซีส ซีเวิลด์
ฟาร์มเลี้ยงโลมาและสถานที่จัดแสดงโลมาที่มีชื่อเสียงของอำเภอแหลมสิงห์และเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากคนทั่วประเทศ
อ้างอิง
|
---|
อำเภอ | | |
---|
ประวัติศาสตร์ | |
---|
ภูมิศาสตร์ | |
---|
เศรษฐกิจ | |
---|
สังคม | การศึกษา | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
กีฬา | |
---|
การเมือง | |
---|
|
---|
|