ดีร์ก เกอวต์ (ดัตช์: Dirk Kuijt, ออกเสียง: [ˈdɪrk ˈkœyt] ( ฟังเสียง)) เกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1980 ที่เมืองกัตไวก์อานเซ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เล่นในตำแหน่งกองหน้าและปีกขวาให้กับสโมสรฟุตบอลเฟแนร์บาห์เชในปัจจุบัน
ประวัติ
เกอวต์เกิดที่เมืองแห่งชายทะเลคือเมืองกัตไวก์อานเซ ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีคุณพ่อทำอาชีพชาวประมง เกอวต์ชื่นชอบฟุตบอลตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นกีฬาที่ง่ายและกำลังมีความนิยมในสมัยนั้น โดยคุณพ่อของเขาก็สนับสนุนให้เกอวต์เล่นฟุตบอลเพื่อความสุขของลูกและเพื่ออนาคตของตนและลูก เกอวต์จึงเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ปี และได้เข้ามาเล่นในสโมสรฟุตบอลเยาวชนของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลควิกบอยส์และผ่านมา 13 ปี ในปี ค.ศ. 1998 เกอวต์ทำประตูไปได้ 3 ประตู ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจครั้งแรกของเขาในเล่นฟุตบอล
เยาวชนหลังจากนั้น เกอวต์ได้เข้าสู่วงการฟุตบอลยุโรปแบบเต็มตัวตั้งแต่ อายุ 18 ปี
นักฟุตบอลมืออาชีพ
ยูเทรกต์
เกอวต์ได้มาเล่นสโมสรฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับ สโมสรฟุตบอลยูเทรกต์ในประเทศเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ฤดูกาล 1998-2003 และในฤดูกาล 2002-2003 โดยเกอวต์ทำประตูไปได้ 66 จาก 184 และยังพาทีมยูเทรกต์คว้าแชมป์ดัตช์คัพด้วยการทำแฮตทริกของเขา 3 ลูก โดยชนะอายักซ์อัมสเตอร์ดัมไป 4-1 ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสถิติแรกที่เขาภาคภูมิใจในการมาเล่นสโมสรอาชีพเป็นครั้งแรก และเกอวต์ขอย้ายไปเล่นกับสโมสรฟุตบอลไฟเยอโนร์ดในเวลาต่อมา
ไฟเยอโนร์ด
ในปี ค.ศ. 2003 เกอวต์ได้ย้ายมาอยู่สโมสรฟุตบอลไฟเยอโนร์ด เมืองโรตเตอร์ดัม และได้เป็นกัปตันทีมอีกด้วย เกอวต์อยู่กับเฟเออโนร์ดจนถึงปี ค.ศ. 2006 เล่นไป 122 นัด ยิงไป 83 ประตู และยังได้รับรางวัลดีเด่นจากราชสมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ด้วยการเป็น "กัปตันทีมดีเด่น" ในฤดูกาล 2003-2004 และ 2005-2006 จึงทำให้เป็นความสนใจของราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล และซื้อเกอวต์ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ มาอยู่กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล
ฤดูกาล 2006-2007
เกอวต์ได้ย้ายมาสู่แอนฟีลด์ในปี ค.ศ. 2006 ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2006 เกอวต์ได้ลงเล่นนัดแรกให้กับลิเวอร์พูล โดยลงสนามเป็นตัวสำรองในนัดที่เจอกับ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ต่อมา เกอวต์ได้ทำประตูแรกให้กับลิเวอร์พูลในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ด โดยลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0[3] ต่อมาลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับทอตนัมฮอตสเปอร์ และเกอวต์ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก โดยลิเวอร์พูลชนะไป 3-0 ต่อมา เกอวต์ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-1 ต่อมา เกอวต์ได้เล่นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการใหญ่คือ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ปี 2006-2007 ระหว่างลิเวอร์พูลกับเอซี มิลาน ซึ่งก่อนหน้านั้น 2 ปี ลิเวอร์พูลได้ชิงรายการเดิมกับเอซี มิลาน โดยนัดนั้นลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ แชมป์ครั้งนั้นทำให้ลิเวอร์พูลได้แชมป์เป็นสมัยที่ 5 และนัดนี้ ดีร์ก เกอวต์ กองหน้าคนใหม่ก็ต้องผิดหวังเมื่อแพ้เอซีมิลานที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ 2-1 ถึงแม้เกอวต์จะตีไข่แตกในนาทีที่ 87 แต่ก็ตามไม่ทัน ทำให้ลิเวอร์พูลพลาดแชมป์ที่จะได้เท่ากับเอซีมิลาน คือ 6 สมัย เกอวต์ย้ายเข้ามาในแอนฟีลด์ และถูกเปลี่ยนบทบาทจากกองหน้ากลายมาเป็นปีกขวา เกอวต์เป็นนักฟุตบอลที่ขยัน ทำให้เขายึดตัวจริงในถิ่นแอนฟีลด์และเป็นตัวหลักในชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลไปโดยปริยาย
ฤดูกาล 2007-2008
เกอวต์ทำประตูแรกในฤดูกาล 2007-2008 ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะตูลูสจากฝรั่งเศส 4-0 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือก ต่อมา ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2007 เกอวต์ได้ยิง 2 จุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะคู่ปรับร่วมเมือง เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสันพาร์ก 2-1 ต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน 2007 เกอวต์ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ดที่เซนต์เจมส์ปาร์ก 3-0
ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เกอวต์ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อินเตอร์มิลาน 2-0 จบฤดูกาล เกอวต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 3 ประตูเท่านั้น
ฤดูกาล 2008-2009
ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2008-2009 รอบคัดเลือก เกอวต์ทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ Standard Liège 1-0 ต่อมา ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ลิเวอร์พูลบุกไปเยือนแมนเชสเตอร์ซิตีที่ซิตีออฟแมนเชสเตอร์ โดยครึ่งแรก ลิเวอร์พูลตามหลัง 0-2 แต่ในครึ่งหลัง เฟร์นันโด ตอร์เรส ยิง 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูลตามตีเสมอ 2-2 และในช่วงนาทีสุดท้าย เกอวต์ได้ยิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3-2 ต่อมา ในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับวีกันแอทเลติก โดยเกอวต์ได้ยิงประตูตีเสมอ 1-1 แต่ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลตามหลัง 1-2 แต่ในครึ่งหลังเกอวต์ ได้ยิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไป 3-2 ซึ่งจบฤดูกาล เกอวต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 12 ประตูจาก 38 นัด
ฤดูกาล 2009-2010
เกอวต์ทำประตูแรกในฤดูกาล 2009-2010 ในนัดที่ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะสโตกซิตี 4-0 ต่อมา เกอวต์ทำประตูชัยในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2009-2010 รอบแบ่งกลุ่ม ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ Debrecen 1-0 ต่อมา เกอวต์ได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูลเอาชนะคู่ปรับร่วมเมือง เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสันพาร์ก 2-1 ต่อมา เกอวต์ได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่แพ้ อาร์เซนอล 1-2 ที่แอนฟีลด์
ฤดูกาล 2010-2011
เกอวต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลตีเสมอเอฟเวอร์ตัน 2-2 ต่อมา เกอวต์ได้ทำแฮตทริกครั้งแรกให้กับลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่แอนฟีลด์ โดยลิเวอร์พูลชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1 พร้อมกับคว้าลูกบอลกลับบ้านไปครอง[4] ต่อมา เกอวต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะซันเดอร์แลนด์ที่สเตเดียมออฟไลต์ 2-0 ต่อมาได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3-0 ต่อมาเกอวต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลตีเสมออาร์เซนอลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 1-1, ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะเบอร์มิงแฮมซิตี 5-0, ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลถล่มนิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-0 และได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะฟูลัม 5-2 ซึ่งจบฤดูกาล เกอวต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 13 ประตูจาก 33 นัด
ฤดูกาล 2011-2012
เกอวต์ได้มีโอกาสลงเล่นมากขึ้นโดยทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงต้นปี 2012 ด้วยการยิงประตูชัยในนาที 88 ในเอฟเอคัพรอบ 4 ที่ แอนฟีลด์ นัดที่ลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยทำสกอร์ให้ลิเวอร์พูลชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไป 2-1 ต่อมา ในรอบชิงชนะเลิศถ้วยลีกคัพ ลิเวอร์พูลเจอกับคาร์ดิฟฟ์ซิตี เกอวต์ลงมาเป็นตัวสำรองและสามารถทำประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่สุดท้ายจบด้วยผลเสมอ 2-2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเกอวต์ยิงจุดโทษได้ด้วยและผลคือทำให้ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษ 3-2 และสามารถคว้าลีกคัพมาได้ พอจบฤดูกาล 2011-12 ลิเวอร์พูลจบในอันดับที่ 8 โดยไม่ได้ไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกถึง 3 ครั้ง ซึ่งจบฤดูกาล เกอวต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 2 ประตู เท่านั้น และเกอวต์ก็ไม่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงทั้งหมด จึงทำให้เกอวต์ต้องย้ายออกจากสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลไปอยู่สโมสรฟุตบอลเฟแนร์บาห์เชในวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2012
เฟแนร์บาห์เช
ปี 2012 เฟแนร์บาห์แชสปอร์คูลือบือ (ฟุตบอล)ได้ประกาศบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่าเคาท์ได้เซ็นสัญญากับสโมสรเป็นเวลา 3 ปี เขายิงประตูแรกให้กับเฟแนร์บาห์แชสปอร์คูลือบือ (ฟุตบอล) ในรายการ Champions League รอบคัดเลือกกับทีมโรมาเนียนวาส ชนะ 4-1 โดยทำการยิงไป 2 ประตู เคาท์ยังทำแต้มในการเดบิวต์ในลีกกับเอลาซิกสปอร์ กาเซียนเท็ปสปอร์ เคาท์ทำประตูที่ 250 ในอาชีพของเขา รวมทั้งประตูระดับนานาชาติด้วย
กลับสู่ ไฟเยอโนร์ด
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2015 เคาท์เซ็นสัญญาหนึ่งปีเพื่อกลับไปร่วมทีมไฟเยอโนร์ด ในฤดูกาล 2015–16 ในฤดูกาล 2016–17 Kuyt นำทีมของเขาเลื่อนชั้นสู่ Eredivisie เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1999 ในวันสุดท้ายของฤดูกาล เขาทำแฮตทริกเพื่อคว้าแชมป์ ในเวลาต่อมา วันที่ 17 พ.ค. 2018 เคาท์ประกาศอำลาวงการฟุตบอล
สถิติในการทำประตู
- ณ วันที่ 16 เมษายน 2015.[5][6][7][8][9]
สถิติการทำประตู (สโมสรเยาวชน)
Club performance
|
League
|
Cup
|
League Cup
|
Continental
|
Other[11]
|
Total
|
Season
|
Club
|
League
|
ลงเล่น
|
ประตู
|
Apps
|
Goals
|
Apps
|
Goals
|
Apps
|
Goals
|
Apps
|
Goals
|
Apps
|
Goals
|
Netherlands
|
League
|
KNVB Cup
|
—
|
Europe
|
Other
|
Total
|
1997–98
|
ควิกบอยส์
|
Zaterdag Hoofdklasse A
|
6 |
3 |
— |
— |
— |
— |
6 |
3
|
เกียรติประวัติ
สโมสร
ยูเทรกต์
ไฟเยอโนร์ด
ลิเวอร์พูล
รางวัลส่วนตัว
- Eredivisie Top Scorer: 2005
- Dutch Golden Shoe: 2003
- Dutch Footballer of the Year: 2006
- Malta Supporters Club Player of the Season: 2012
- Standard Chartered Liverpool Player of the Month Award (1): เมษายน 2011
- LDSA Player of the Season: 2010–11[12]
อ้างอิง