โก ซึล-กี (เกาหลี: 고슬기; เกิด 21 เมษายน พ.ศ. 2529) เป็นนักฟุตบอลชาวเกาหลีใต้ ล่าสุดเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับจันทบุรี ในไทยลีก 2 เขามีจุดเด่นคือการยิงไกลทั้งเท้าขวาและซ้าย
โก ซึล-กี เริ่มต้นอาชีพฟุตบอลกับโปฮังสตีลเลอส์ ทีมยักษ์ใหญ่ในเคลีก ก่อนได้รับการอนุญาตให้กวางจู ซังมู ยืมตัว เขาลงเล่นให้แก่ กวางจู ซังมู ทั้งหมด 52 นัด ยิงได้ 5 ประตู ก่อนที่โปฮังสตีลเลอส์จะดึงกลับไปในช่วงสั้น ๆ โดยเขาได้ลงสนามในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกใน พ.ศ. 2551 และย้ายไปอยู่กับอุลซันฮุนไดใน พ.ศ. 2553 และสามารถพัฒนาฝีเท้าตนเองขึ้นมาอย่างเด่นชัดจนกลายเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์เคลีกได้ใน พ.ศ. 2554 และพาทีมคว้าแชมป์เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกใน พ.ศ. 2555 ได้สำเร็จ[1]
ผลงานที่ยอดเยี่ยมในเอซีแอลปีนั้นทำให้ใน พ.ศ. 2556 เอล ญาอิช ในกาตาร์ ทุ่มเงินถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 30 ล้านบาทคว้าตัว โก ซึล-กี ไปร่วมทีมด้วยสัญญา 2 ปี ซึ่งเขาก็ช่วยพาทีมคว้าแชมป์บอลถ้วย และรองแชมป์ลีกได้หลายรายการ ก่อนที่จะหมดสัญญาเมื่อ พ.ศ. 2558 และได้ย้ายมาอยู่กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และสามารถพาทีมสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกในเอเชียที่คว้าแชมป์ฟุตบอลในไทยได้ถึง 5 รายการ ได้แก่ ฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก., โตโยต้า ลีกคัพ ซึ่งเขาเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ทีม, ไทยพรีเมียร์ลีก, แม่โขงคลับแชมเปียนชิพ และช้าง เอฟเอคัพ ซึ่งเขาเป็นผู้ยิงลูกที่ 2 ให้ทีม
สโมสร
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 2558
ในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม F ซึล-กี ยิงประตูแรกในนามสโมสร ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ กวางโจว อาร์แอนด์เอฟ 2–1[2] ต่อมาในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึล-กี ทำประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2558 ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ ราชนาวี ไปได้ 3–0[3] ต่อมาในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ซึล-กี ทำประตูที่ 2 ในลีก ในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปได้ 6–1[4] ต่อมาในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึล-กี ยิงหนึ่งประตู ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ นครราชสีมา มาสด้า ไปได้ 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ[5] ต่อมาในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ซึล-กี ทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ ชลบุรี ที่ชลบุรีสเตเดียม 2–1[6] ต่อมาในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558 ซึล-กี ทำประตูที่ 4 ในลีก ในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล ไปได้ 7–0[7] ต่อมาในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ซึล-กี ทำประตูที่ 5 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่สนามกองทัพบก 4–1[8] ต่อมาในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 โตโยต้า ลีกคัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ เจอกับ ศรีสะเกษ ที่สนามศุภชลาศัยในกรุงเทพมหานคร ซึล-กี ยิงประตูชัย ช่วยให้ บุรีรัมย์ เอาชนะ ศรีสะเกษ ไปได้ 1–0 ทำให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[9] ต่อมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ซึล-กี ทำประตูที่ 6 ในลีก ในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ นครราชสีมา มาสด้า ไปได้ 4–0[10] ต่อมาในวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ซึล-กี ยิงประตูที่ 7 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ บางกอกกล๊าส ที่ลีโอสเตเดียม 3–1 ทำให้บุรีรัมย์การันตีแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ ต่อมาในวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ซึล-กี ยิงประตูที่ 8 ในลีก ในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ สระบุรี 6–0 ซึ่งหลังจบเกมนี้ ได้มีพิธีมอบถ้วยรางวัล และฉลองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก สมัยที่ 4[11] ต่อมาในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ช้าง เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ เจอกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัยในกรุงเทพมหานคร ซึล-กี ยิงหนึ่งประตู ช่วยให้ บุรีรัมย์ เอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ไปได้ 3–1 ทำให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ สมัยที่ 4 และคว้าแชมป์รายการที่ 5 ของฤดูกาล ได้สำเร็จ[12]
ฤดูกาล 2559
ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 โตโยต้า พรีเมียร์คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามไอ-โมบาย ซึล-กี ทำ 2 ประตูช่วยให้บุรีรัมย์แซงเอาชนะอัลบิเร็กซ์ นีงาตะ สโมสรจากญี่ปุ่น ไปได้ 2–1 ทำให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์แรกของฤดูกาลได้สำเร็จ[13] ต่อมาในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559 ซึล-กี ทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2559 ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนามธรรมศาสตร์รังสิต 5–3[14] ต่อมาในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ซึล-กี ทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะบางกอกกล๊าสที่ลีโอสเตเดียม 2–0[15] ต่อมาในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ซึล-กี ทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะนครราชสีมาไปได้ 1–0[16] ต่อมาในช่วงเดือนมิถุนายน ซึล-กี เจอไข้หวัดใหญ่และบาดเจ็บที่หลังเท้าระหว่างฝึกซ้อม ทำให้เขาต้องพักฟื้นร่างกายเป็นเวลา 2 เดือน[17]
ฤดูกาล 2560
ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560 แม่โขงคลับแชมเปียนชิพ รอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง บุรีรัมย์เปิดสนามธรรมศาสตร์ พบกับ ล้านช้าง ยูไนเต็ด จากลาว ในนัดนี้ บุรีรัมย์ต้องชนะอย่างน้อยสองลูกขึ้นไป จึงจะสามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ (ในนัดแรก บุรีรัมย์บุกไปแพ้ก่อน 0–1) ซึล-กี ยิงหนึ่งประตู ช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะล้านช้างไปได้ 2–0 ผลประตูรวม 2–1 ทำให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์แม่โขง สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ[18] ต่อมาในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560 ซึล-กี ยิงประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2560 ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ สิงห์ สเตเดียม 2–1[19] ต่อมาในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ซึล-กี ทำประตูที่ 2 ในลีก ในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสุพรรณบุรี 3–0[20] ต่อมาในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึล-กี ยิงหนึ่งประตู ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะ พิษณุโลก ไปได้ 5–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ[21] ต่อมาในวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ซึล-กี ทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ ที่สนาม กกท.บางพลี 7–0[22]
อินช็อนยูไนเต็ด (ยืมตัว)
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ซึล-กี ได้กลับไปเล่นในประเทศบ้านเกิดของเขากับอินช็อนยูไนเต็ดแบบยืมตัว[23]
การท่าเรือ (ยืมตัว)
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 ซึล-กี ได้ย้ายกลับไปเล่นในไทยลีกอีกครั้งกับการท่าเรือ โดยยังถือเป็นการยืมตัวจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด[24]
เกียรติประวัติ
- โปฮังสตีลเลอส์
- Korean League Cup (1): 2552
- อุลซันฮุนได
- เอล ญาอิช
- Qatar Crown Prince Cup (1): 2557
- Qatari Stars Cup (1): 2555-56
- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
- การท่าเรือ
- รางวัลส่วนตัว
อ้างอิง