สโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เป็นสโมสรฟุตบอล ในประเทศไทย จากจังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันแข่งขันอยู่ในไทยลีก 2
ประวัติสโมสร
สโมสรฟุตบอลจังหวัดสุพรรณบุรี เริ่มต้นมาจากการต่อยอดให้นักเตะเยาวชนจากจังหวัดสุพรรณบุรี ที่สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 12 (พ.ศ. 2539) ที่จังหวัดกำแพงเพชร ที่ประกอบด้วยผู้เล่นชาวสุพรรณบุรีโดยกำเนิด อาทิ คำภีร์ ปิ่นฑะกูล, กฤษณะ ภูผา และสถาพร วาจาขำ ทำให้บรรหาร ศิลปอาชา ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี มอบหมายให้เกรียง นักพาณิชย์ ก่อตั้งสโมสรขึ้นในปี 2540 เพื่อให้นักเตะชุดนี้ได้ลงทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง. โดยใช้สิทธิ์ของสมาคมกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรีลงทำการแข่งขัน และใช้ชื่อทีมว่า “สโมสรฟุตบอลจังหวัดสุพรรณบุรี” มีสัญลักษณ์เป็นรูปประตูเมือง ตรงกลางเป็นรูปลูกบอลและมีแผนที่จังหวัดสุพรรณบุรีอยู่ด้านใน สีประจำทีมคือ สีส้มและสีกรมท่า และได้รับฉายานามว่า "ทีมขุนแผนสุพรรณฯ" ซึ่งในขณะนั้น ชนะ ยอดปรางค์ เป็นผู้ฝึกสอนของทีม
ต่อมาในปี 2542 สโมสรฟุตบอลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เข้าร่วมโปรวินเชียลลีก ของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย โดยผลงานในลีกฤดูกาลแรก สุพรรณบุรีจบฤดูกาลในฐานะรองแชมป์ ต่อมาในปี 2545 สุพรรณบุรีคว้าแชมป์โปรลีกได้สำเร็จ ต่อมาในโปรลีก 2546 สโมสรได้เปลี่ยนชื่อทีมเป็น "สุพรรณบุรี วอร์ริเออร์" และจบฤดูกาลในฐานะรองแชมป์ และสามารถคว้าแชมป์ได้ในปี 2547 และรองแชมป์ในปี 2548 ทำให้ได้สิทธิ์ลงเล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2549 โดยสถิติการลงเล่นในโปรวินเชียลลีกนั้น ชนะเลิศถึง 2 ครั้ง และรองชนะเลิศ 4 ครั้ง
ในลีกสูงสุดฤดูกาลแรก สุพรรณบุรี วอร์ริเออร์ ได้เปลี่ยนชื่อทีมเป็น “สุพรรณบุรี เอฟซี” และมีฉายาว่า “ช้างศึกยุทธหัตถี” ต่อมาในฤดูกาล 2554 บรรหาร ศิลปอาชา ได้เข้ามาทำทีมในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของสโมสร และมอบหมายให้วราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายของเขา เป็นประธานสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี โดยมีบุญชู จันทร์สุวรรณ เป็นประธานสโมสรกิตติมศักดิ์ และใช้สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นสนามเหย้า แทนที่สนามเดิมคือโรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรีในฤดูกาล 2559
ในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2558 สุพรรณบุรีจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สาม ทำให้ได้สิทธิ์ไปแข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือก ในฤดูกาล 2559 อย่างไรก็ตาม สนามเหย้าของสโมสรไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานของเอเอฟซี ส่งผลให้ชลบุรี ซึ่งจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันแทน
ในไทยลีก ฤดูกาล 2562 ซึ่งมีสโมสรเข้าร่วมแข่งขัน 16 สโมสร สุพรรณบุรีจบอันดับที่ 14 ของตาราง โดยปกตินั้นจะต้องตกชั้นลงไปเล่นในไทยลีก 2 ฤดูกาล 2563 แต่เนื่องจากสโมสรฟุตบอลพีทีที ระยอง ได้ประกาศขอพักทีมในฤดูกาล 2563 และตามกฎระเบียบของการแข่งขันไทยลีก ระบุเอาไว้ว่าหากมีสโมสรใดสโมสรหนึ่งตัดสินใจไม่ส่งทีมเข้าแข่งขันก็จะทำให้จำนวนทีมตกชั้นลดลงไป ดังนั้นทำให้จากเดิมที่จะตกชั้น 3 ทีม ก็จะเหลือแค่ 2 ทีมเท่านั้น[ 1] สโมสรสุพรรณบุรีจึงไม่ต้องตกชั้นและยังคงได้ลงเล่นบนลีกสูงสุดต่อไป
ในไทยลีก ฤดูกาล 2563–64 สุพรรณบุรีรอดพ้นจากการตกชั้นอย่างหวุดหวิดด้วยการเปิดบ้านเอาชนะสุโขทัย ในนัดปิดฤดูกาล แต่ในไทยลีก ฤดูกาล 2564–65 สุพรรณบุรีจบอันดับที่ 14 ของตาราง ทำให้ต้องตกชั้นสู่ไทยลีก 2 ในรอบ 10 ปี
ประวัติสัญลักษณ์ของสโมสร
(2546-2547)
(2548-2553)
(2556-2557)
(2558-)
ผู้เล่น
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
ผู้เล่นชุดรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
เจ้าหน้าที่ทีมสตาฟ์ประจำสโมสร
ตำแหน่ง
ชื่อ
ประธานสโมสร
วันธรรมนูญ จันทร์สุวรรณ
ผู้จัดการทีม
เกรียงไกร วุฒิพานิช
หัวหน้าผู้ฝึกสอน
อิสระ ศรีทะโร
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน
เถลิงศักดิ์ ศิริประภา
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู
ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์
รายชื่อหัวหน้าผู้ฝึกสอน
รายชื่อหัวหน้าผู้ฝึกสอน (พ.ศ. 2555–ปัจจุบัน)
เกียรติประวัติ
ผลงานของสโมสรในแต่ละฤดูกาล
ชนะเลิศ
รองชนะเลิศ
อันดับที่สาม
เลื่อนชั้น
ตกชั้น
หมายเหตุ
↑ เพลย์ออฟชนะสระบุรี 3-2(2-1,1-1) ได้อยู่ไทยลีก ดีวิชั่น 1 ต่อ
↑ แม้ว่าจะจบอันดับ 3 ซึ่งได้สิทธิ์ไปเพลย์ออฟ AFC Champions League ฤดูกาล 2016 แต่สละสิทธิ์ให้สโมสรชลบุรี เอฟซีที่จบอันดับ 5 ไปเล่นแทน เนื่องจาก ไม่ได้ส่งเอกสารคลับไลเซนซึ่งได้ทันตามกำหนด
↑ พีทีที ระยอง ได้ประกาศขอพักทีมในฤดูกาล 2563 และตามกฎระเบียบของการแข่งขันไทยลีก ระบุเอาไว้ว่าหากมีสโมสรใดสโมสรหนึ่งตัดสินใจไม่ส่งทีมเข้าแข่งขันก็จะทำให้จำนวนทีมตกชั้นลดลงไป สโมสรสุพรรณบุรีจึงไม่ต้องตกชั้นและยังคงได้ลงเล่นบนลีกสูงสุดต่อไป
สโมสรพันธมิตร
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
อำเภอ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ
สังคม
การศึกษา สาธารณสุข กีฬา วัฒนธรรม การเมือง