แอปเปิล (อังกฤษ : apple ; ชื่อวิทยาศาสตร์ : Malus domestica ) เป็นต้นไม้ ผลัดใบ ในวงศ์กุหลาบ มีผลรสหวานเรียกว่า ผลแอปเปิล แอปเปิลมีปลูก อยู่ทั่วโลกในลักษณะของไม้ผล และสายพันธุ์ที่ถูกปลูกมากที่สุดคือสกุล Malus ต้นแอปเปิลมีต้นกำเนิดในเอเชียกลาง ซึ่งบรรพบุรุษคือ Malus sieversii ยังคงพบได้ในปัจจุบัน แอปเปิลมีปลูกเป็นเวลาหลายพันปีในเอเชียและยุโรป และกลุ่มอาณานิคมชาวยุโรปนำมาปลูกที่อเมริกาเหนือ แอปเปิลมีความสำคัญทางศาสนา และเทพปกรณัม ในหลายวัฒนธรรม รวมถึงนอร์ส กรีก และประเพณีต่าง ๆ ของคริสต์ศาสนิกชนของชาวยุโรป
ต้นแอปเปิลจะมีขนาดใหญ่หากเติบโตจากเมล็ด แต่จะมีขนาดเล็กถ้าถูกตัดต่อเนื้อเยื่อเข้ากับราก ปัจจุบันมีแอปเปิลที่พันธุ์ปลูกมากกว่า 7,500 ชนิด ทำให้แอปเปิลมีลักษณะพิเศษหลากหลาย พันธุ์ปลูกแต่ละพันธุ์จะมีรสชาติแตกต่างกัน และการนำไปใช้ต่างกันด้วย เช่น นำไปประกอบอาหาร กินดิบ ๆ หรือนำไปผลิตไซเดอร์ ปกติแอปเปิลจะแพร่พันธุ์ด้วยการตัดต่อเนื้อเยื่อ แต่แอปเปิลป่าจะเติบโตได้เองจากเมล็ด ต้นแอปเปิลและผลแอปเปิลอาจประสบปัญหาจากจากเห็ดรา แบคทีเรีย และศัตรูพืชต่าง ๆ ซึ่งอาจควบคุมได้ด้วยวิธีการทางเกษตรอินทรีย์ และอนินทรีย์หลายวิธี ใน ค.ศ. 2010 มีการถอดรหัสจีโนม ของแอปเปิล เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยควบคุมโรคและการคัดเลือกผสมพันธุ์ในการผลิตแอปเปิล
ใน ค.ศ. 2013 มีการปลูกแอปเปิลประมาณ 80 ล้านตันขึ้นทั่วโลก ประเทศจีน ผลิตได้จำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว[ 3] สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ผลิตแอปเปิลมากที่เป็นอันดับที่สอง ด้วยการผลิตมากกว่า 6% ประเทศตุรกี เป็นที่สาม ตามด้วยประเทศอิตาลี อินเดีย และโปแลนด์ แอปเปิลมักนิยมกินดิบ แต่สามารถพบได้ในอาหารที่เตรียมขึ้น (โดยเฉพาะของหวาน) และเครื่องดื่ม มีความคิดว่าแอปเปิลส่งผลดีต่อสุขภาพมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม โปรตีนในแอปเปิลอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
อนุกรมวิธาน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ดอก ผล และใบของต้นแอปเปิล (Malus domestica )
แอปเปิลเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ผลัดใบ สูง 3 - 12 เมตร เรือนยอดกว้าง กิ่งหนาแน่น
ใบ รูปไข่เรียงสลับ ยาว 5 - 12 ซม. กว้าง 3 - 6 ซม. ก้านใบยาว 2 - 5 ซม. ปลายใบแหลม ขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย ใต้ใบปกคลุมด้วยขนนุ่มเล็กน้อย ดอกเกิดขึ้นพร้อมการแตกใบใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกมีสีขาวแต้มสีชมพู และเข้มขึ้นเมื่อดอกใกล้โรย มีกลีบดอกห้ากลีบ เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 - 3.5 ซม. ผลสุกในฤดูใบไม้ร่วง โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 - 9 ซม. กลางผลมีคาร์เพล (carpel) ห้าโพรงเรียงตัวในรูปดาวห้าแฉก แต่ละโพรงบรรจุไปด้วยเมล็ดหนึ่งถึงสามเมล็ด
บรรพบุรุษ
บรรพบุรุษ ดั้งเดิมของแอปเปิล (Malus domestica ) คือ Malus sieversii ซึ่งพบเจริญเติบโตตามธรรมชาติในแถบภูเขาของเอเชียกลางในตอนใต้ของประเทศคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน , และเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน การเพาะปลูกพืชชนิดนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในป่าแถบไหล่เขาของเทือกเขาเทียนชาน วิวัฒนาการมาเป็นเวลานาน และเกิดกระบวนการอินโทรเกรสชัน (introgression คือการที่ชิ้นส่วนของโครโมโซมจากพืชชนิดหนึ่งถูกถ่ายทอดไปอยู่ในพืชอีกชนิดหนึ่ง โดยการผสมพันธุ์ข้ามชนิดหรือผสมข้ามสกุล) ของยีนจากพืชชนิดอื่นในเมล็ดพันธุ์จากการผสมเปิด เช่น การแลกเปลี่ยนกับแคร็บแอปเปิล (Malus sylvestris ) ส่งผลให้ประชากรของแอปเปิลในปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับแคร็บแอปเปิลมากกว่าต้นตระกูล Malus sieversii. ที่มีโครงสร้างคล้ายกัน ในบรรดาสายพันธุ์ที่ไม่ได้มาจากการผสมสายพันธุ์ สายพันธุ์ Malus sieversii เป็นที่นิยมมากกว่า[ 4] [ 5]
ประวัติศาสตร์
สกุล Malus มีศูนย์กลางความหลากหลายอยู่ที่ภาคตะวันออกของประเทศตุรกี เป็นไปได้ว่าต้นแอปเปิลเป็นต้นไม้ชนิดแรกสุดที่ถูกปลูกขึ้น[ 6] และผลแอปเปิลได้รับการปรับปรุงผ่านการคัดเลือกเป็นเวลาหลายพันปี อเล็กซานเดอร์มหาราช ได้ชื่อว่าค้นพบผลแอปเปิลแคระในประเทศคาซัคสถาน เมื่อ 328 ปีก่อนคริสต์ศักราช ผลแอปเปิลแคระที่เขานำกลับไปที่มาซิโดเนียอาจเป็นต้นตระกูลของรากแอปเปิลพันธุ์แคระก็ได้ แอปเปิลฤดูหนาวที่ถูกเก็บในปลายฤดูใบไม้ร่วงและป้องกันความเย็นไว้ เป็นอาหารที่สำคัญในเอเชียและยุโรปมาเป็นเวลาพันปีแล้ว[ 6]
กลุ่มอาณานิคมนำแอปเปิลเข้ามาในอเมริกาเหนือในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และสวนแอปเปิลแห่งแรกในทวีปอเมริกาเหนือ เกิดขึ้นในบอสตัน โดยบาทหลวงวิลเลียม แบร็กซ์ตัน เมื่อ ค.ศ. 1625[ 7] แอปเปิลเพียงชนิดเดียวที่มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาเหนือคือ แคร็บแอปเปิล (crab apple) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเรียกว่า "common apple"[ 8] แอปเปิลหลากหลายสายพันธุ์ที่นำเข้าจากยุโรปในรูปของเมล็ดแพร่หลายตามเส้นทางการค้าของชาวอเมริกันดั้งเดิม และถูกนำไปปลูกที่สวนของกลุ่มอาณานิคม รายการแอปเปิลที่ได้รับการดูแลอย่างดีในสหรัฐอเมริกาเมื่อ ค.ศ. 1845 ขายสายพันธุ์ที่ "ดีที่สุด" ได้ 350 สายพันธุ์ แสดงให้เห็นว่าแอปเปิลสายพันธุ์จากอเมริกาเหนือเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วภายในคริสต์ศตวรรษที่ 19[ 8] ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 โครงการชลประทานหลายโครงการในวอชิงตันตะวันออก ได้ริเริ่มขึ้นและมีการพัฒนาอุตสาหกรรมผลไม้ระดับหลายพันล้าน โดยมีแอปเปิลเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำ
จนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 ชาวไร่เก็บแอปเปิลไว้ในห้องเก็บป้องกันความเย็นตลอดฤดูหนาวสำหรับใช้และสำหรับขาย ต่อมาการคมนาคมขนส่งแอปเปิลที่พัฒนาขึ้นได้เข้ามาแทนที่ ทำให้การเก็บรักษาไม่จำเป็นอีกต่อไป[ 9] [ 10] ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 การเก็บรักษาแอปเปิลในระยะยาวกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เนื่องจากมีสาธารณูปโภคที่ "ควบคุมบรรยากาศได้" สามารถเก็บแอปเปิลได้นานถึงปี สาธารณูปโภคดังกล่าวใช้ความชื้นสูง ออกซิเจนต่ำ และควบคุมระดับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อรักษาความสดของแอปเปิล[ 11] [ 12]
การใช้ประโยชน์และความเชื่อ
อาดัมกับอีฟและผลแอปเปิล โดย Albrecht Dürer ค.ศ. 1507
แอปเปิลใช้รับประทานเป็นผลไม้สด ผลแอปเปิ้ลแต่ละสีก็จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป และใช้ปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น สลัด ซอสแอปเปิล แยม พาย หรืออบแห้ง ในไทยใช้ผลแอปเปิลเปรี้ยวมาทำอาหาร เช่น ใส่ในยำ น้ำพริก ทางยามีสรรพคุณลดกรดในกระเพาะอาหาร ละลายเสมหะ ลดความดันโลหิต ลดไขมันสะสม ช่วยขับเกลือโซเดียม ส่วนเกินออกจากร่างกาย มีฤทธิ์เป็นยาระบาย และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ชาวกรีกและโรมันเชื่อว่าแอปเปิลเป็นผลไม้แห่งความรักและความสวยงาม ในไบเบิล กล่าวถึงแอปเปิลว่าเป็นผลไม้ต้องห้ามในสวนอีเดน เป็นตัวแทนของบาป ในตำนานกรีก แอปเปิลเป็นผลไม้ต้องห้ามของ Hesperides [ 13] [ 14] [ 15]
[ 16]
อ้างอิง
↑ Dickson, Elizabeth E. (2014). "Malus pumila " . ใน Flora of North America Editorial Committee (บ.ก.). Flora of North America North of Mexico (FNA) . Vol. 9. New York and Oxford – โดยทาง eFloras.org, Missouri Botanical Garden , St. Louis, MO & Harvard University Herbaria , Cambridge, MA.
↑ Wilson, Karen L. (2017), "Report of the Nomenclature Committee for Vascular Plants: 66: (1933). To conserve Malus domestica Borkh. against M. pumila Miller", Taxon , 66 (3): 742–744, doi :10.12705/663.15
↑ "FAO production data" . FAO. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2016-10-19. สืบค้นเมื่อ 2 July 2015 .
↑ Amandine Cornille; และคณะ (2012). Mauricio, Rodney (บ.ก.). "New Insight into the History of Domesticated Apple: Secondary Contribution of the European Wild Apple to the Genome of Cultivated Varieties" . PLOS Genetics . 8 (5): e1002703. doi :10.1371/journal.pgen.1002703 . PMC 3349737 . PMID 22589740 .
↑ Sam Kean (17 May 2012). "ScienceShot: The Secret History of the Domesticated Apple" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2013-04-29. สืบค้นเมื่อ 2012-10-11 .
↑ 6.0 6.1 "An apple a day keeps the doctor away" . vegparadise.com. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2008. สืบค้นเมื่อ 27 January 2008 .
↑ Smith, Archibald William (1997). A Gardener's Handbook of Plant Names: Their Meanings and Origins . Dover Publications. p. 39. ISBN 0-486-29715-2 .
↑ 8.0 8.1 Lawrence, James (1980). The Harrowsmith Reader, Volume II . Camden House Publishing Ltd. p. 122. ISBN 0-920656-10-2 .
↑ James M. Van Valen (2010). History of Bergen county, New Jersey . Nabu Press . p. 744. ISBN 1-177-72589-4 .
↑ Brox, Jane (2000). Five Thousand Days Like This One: An American Family History . Beacon Press. ISBN 978-0-8070-2107-1 .
↑ "Controlled Atmosphere Storage" . Washington Apple Commission. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-03-14. สืบค้นเมื่อ 3 April 2012 .
↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF) . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2016-03-06. สืบค้นเมื่อ 2016-01-16 .
↑ Wasson, R. Gordon (1968). Soma: Divine Mushroom of Immortality . Harcourt Brace Jovanovich. p. 128 . ISBN 0-15-683800-1 .
↑ Ruck, Carl (2001). The Apples of Apollo, Pagan and Christian Mysteries of the Eucharist . Durham: Carolina Academic Press. pp. 64–70. ISBN 0-89089-924-X .
↑ Heinrich, Clark (2002). Magic Mushrooms in Religion and Alchemy . Rochester: Park Street Press. pp. 64 –70. ISBN 0-89281-997-9 .
↑ แอปเปิ้ล ไม้มงคลที่ปลูกไว้เพื่อความสงบสุข สืบค้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2564
อ่านเพิ่ม
หนังสือ
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Apples
Malus pumila Malus domestica