แผ่นแอฟริกา (อังกฤษ : African Plate ) เป็นแผ่นธรณีแปรสัณฐาน ขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยทวีป แอฟริกา (ยกเว้นส่วนตะวันออกสุด ) และเปลือกสมุทรที่อยู่ติดกันในทางตะวันตกและใต้ แผ่นแอฟริกาถูกโอบล้อมทางตะวันตกด้วยแผ่นอเมริกาเหนือ และแผ่นอเมริกาใต้ (โดยคั่นด้วยเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก ) ทางตะวันออกติดกับแผ่นอาหรับ และแผ่นโซมาเลีย ทางเหนือติดกับแผ่นยูเรเชีย แผ่นทะเลอีเจียน และแผ่นอานาโตเลีย และทางใต้ติดกับแผ่นแอนตาร์กติก
ช่วงระหว่าง 60 ถึง 10 ล้านปีก่อน แผ่นโซมาเลีย เริ่มแตกออก จากแผ่นแอฟริกาไปตามการแยกแอฟริกาตะวันออก [ 2] ทั้งนี้ เนื่องจากทวีปแอฟริกานั้นตั้งอยู่บนทั้งแผ่นแอฟริกาและแผ่นโซมาเลีย ดังนั้นวรรณกรรมบางเล่มจึงเรียกแผ่นแอฟริกาว่า แผ่นนิวเบีย (อังกฤษ : Nubian Plate ) เพื่อให้ต่างจากชื่อที่อาจหมายถึงทั้งทวีปได้[ 3]
ขอบเขต
ขอบด้านตะวันตกของแผ่นแอฟริกาเป็นแนวแผ่นเปลือกโลกแยกตัว ร่วมกับแผ่นอเมริกาเหนือ ในด้านเหนือและแผ่นอเมริกาใต้ ในด้านใต้ ซึ่งก่อตัวขึ้นเป็นส่วนกลางและใต้ของเทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก ขอบด้านตะวันออกเฉียงเหนือติดกับแผ่นอาหรับ ขอบด้านตะวันออกเฉียงใต้ติดกับแผ่นโซมาเลีย ขอบด้านเหนือติดกับแผ่นยูเรเชีย แผ่นทะเลอีเจียน และแผ่นอานาโตเลีย และขอบด้านใต้ติดกับแผ่นแอนตาร์กติกา ทั้งหมดนี้นั้นเป็นแนวแผ่นเปลือกโลกแยกตัวที่มีการแยกตัวออกของแผ่นเปลือกโลก เว้นแต่ขอบด้านเหนือและส่วนสั้น ๆ ใกล้กับอะโซร์ส ที่เรียกว่าการแยกตือร์ไซรา
ส่วนประกอบ
แผ่นแอฟริกาประกอบด้วยหินฐานธรณี จำนวนมาก เช่น บล็อกเสถียร (stable blocks) ของแผ่นเปลือกโลกเก่าที่ฝังตัวลึกอยู่ในเนื้อดาวของธรณีภาคอนุทวีป และศิลาภูมิประเทศ (terranes) ที่มีความเสถียรน้อยกว่าซึ่งรวมตัวกันขึ้นเป็นทวีปแอฟริกาในช่วงการรวมตัวของมหาทวีป แพนเจีย เมื่อประมาณ 250 ล้านปีที่แล้ว โดยหินฐานธรณีไล่เรียงจากใต้ขึ้นเหนือ ได้แก่ หินฐานธรณีคาลาฮารี หินฐานธรณีคองโก หินฐานธรณีแทนซาเนีย และหินฐานธรณีแอฟริกาตะวันตก ในอดีตหินฐานธรณีเหล่านี้แยกออกจากกันอย่างกว้าง แต่ได้เกิดรวมตัวกันขึ้นในช่วงการก่อเทือกเขาแพนแอฟริกา และได้รวมอยู่ด้วยกันเมื่อมหาทวีปกอนด์วานาแยกตัวออก หินฐานธรณีเหล่านี้มีการเชื่อมต่อกันด้วยแนวการก่อเทือกเขา ซึ่งเป็นบริเวณของหินที่มีการผิดรูปอย่างมากจากการแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค โดยมีมหาหินฐานธรณีสะฮารา ที่ถูกระบุว่าเป็นส่วนที่หลงเหลืออย่างไม่เป็นทางการของหินฐานธรณีที่แยกออกจากชั้นเนื้อดาวของธรณีภาคอนุทวีป แต่ในอีกทางหนึ่งอาจประกอบด้วยกลุ่มของเศษเปลือกโลกที่ไม่เกี่ยวข้องกับแต่ถูกพามารวมกันในช่วงการก่อเทือกเขาแพนแอฟริกา
ในบางพื้นที่ หินฐานธรณีถูกปกคลุมด้วยแอ่งตกตะกอน เช่น แอ่งทินดูฟ แอ่งตาอูเดนี และแอ่งคองโก ซึ่งมีเปลือกโลกโบราณถูกทับด้วยชั้นตะกอนนีโอโพรเทอโรโซอิก ที่ใหม่กว่า นอกจากนี้ยังมีเขตเฉือน (shear zone) เช่น เขตเฉือนแอฟริกากลาง (CASZ) ซึ่งในอดีตเป็นแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นที่เคลื่อนตัวในทิศทางตรงกันข้าม และมีการแยก (rift) เช่น ร่องแอนซา (Anza trough) ซึ่งเป็นบริเวณที่เปลือกโลกถูกดึงแยกออกจากกัน ทำให้เกิดแอ่งที่ถูกตะกอนที่ใหม่กว่าลงมาเติมในภายหลัง
การเคลื่อนตัวสมัยใหม่
ทุกวันนี้ แผ่นแอฟริกามีการเคลื่อนที่ไปบนพื้นผิวโลกด้วยความเร็ว 0.292° ± 0.007° ต่อล้านปีเทียบกับความเร็วเชิงมุมของเปลือกโลก "เฉลี่ย" ของโลก (ดูที่ NNR-MORVEL56 )
แผนที่บริเวณแอฟริกาตะวันออกแสดงให้เห็นภูเขาไฟมีกำลังในอดีต (สามเหลี่ยมสีแดง) และสามเหลี่ยมอาฟาร์ (บริเวณแรเงากลางภาพ) ซึ่งเป็นสามแยก (triple junction) ที่แผ่นเปลือกโลกทั้งสามนั้นแยกตัวออกจากกัน ในสามเหลี่ยมนี้คือแผ่นอาหรับ แผ่นแอฟริกา และแผ่นโซมาเลีย (USGS)
แผ่นแอฟริกานั้นกำลังแยกออกในบริเวณด้านตะวันออกของทวีปแอฟริกาในตามแนวการแยกแอฟริกาตะวันออก เขตการแยกนี้ได้แยกแผ่นแอฟริกาที่อยู่ทางตะวันตกออกจากแผ่นโซมาเลียที่อยู่ทางตะวันออก สมมติฐาน หนึ่งเสนอว่ามีเสาเนื้อโลก (mantle plume) อยู่ใต้บริเวณอาฟาร์ ขณะที่อีกสมมติฐานหนึ่งเสนอว่าการแยกนั้นเป็นเพียงพื้นที่ที่มีความอ่อนแอมากที่สุดของแผ่นแอฟริกาที่กำลังผิดรูป ขณะที่แผ่นเปลือกโลกทางด้านตะวันออกเคลื่อนตัวไปทางเหนืออย่างรวดเร็ว
ความเร็วของแผ่นแอฟริกาอยู่ที่ประมาณ 2.15 เซ็นติเมตรต่อปี[ 4] ในภาพรวมช่วง 100 ล้านปีที่ผ่านมามีการเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ตัวแผ่นเข้าใกล้แผ่นยูเรเชีย มากขึ้นและเกิดการมุดตัวของเปลือกโลก ในจุดที่เปลือกโลกภาคพื้นสมุทร บรรจบกับเปลือกโลกภาคพื้นทวีป (เช่น ตอนกลางและด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ) ในด้านตะวันตกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน การเคลื่อนที่ของแผ่นแอฟริกาและแผ่นยูเรเซียจะสัมพันธ์กัน ทำให้เกิดการรวมกันไปทางด้านข้างและแรงอัด โดยกระจุกกันอยู่ในบริเวณที่เรียกว่าเขตรอยเลื่อนยิบรอลตาร์–อะโซร์ส บริเวณขอบด้านตะวันออกเฉียงเหนือ แผ่นแอฟริกาถูกล้อมรอบด้วยการแยกทะเลแดง ซึ่งแผ่นอาหรับ กำลังเคลื่อนตัวออกจากแผ่นแอฟริกา
จุดความร้อนนิวอิงแลนด์ ในมหาสมุทรแอตแลนติก อาจเป็นตัวที่สร้างแนวเส้นสั้น ๆ บนภูเขาใต้ทะเล อายุกลางถึงปลายเทอเทียรี ขึ้น แต่ในปัจจุบันนั้นคล้ายว่าไม่มีกำลังแล้ว[ 5]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น