เซ็นทรัล เอ็มบาสซี |
|
|
ที่ตั้ง | 1031 ถนนเพลินจิต (ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า) 88 ถนนวิทยุ (โรงแรม)[1] แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร |
---|
เปิดให้บริการ | 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 (ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า) 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557 (โรงภาพยนตร์) 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 (โรงแรม)[1] |
---|
ผู้บริหารงาน | - บริษัท เซ็นทรัลแอมบาสซีพลาซา จำกัด
- บริษัท เซ็นทรัลแอมบาสซีโฮเต็ล จำกัด
|
---|
เจ้าของ | - บริษัท เตียง จิราธิวัฒน์ จำกัด
- บริษัท เซ็นทรัล แอนด์ ฮ่องกงแลนด์ จำกัด
|
---|
พื้นที่ชั้นขายปลีก | 144,000 ตารางเมตร |
---|
จำนวนชั้น | 41 ชั้น (อาคารเอ็มบาสซีปาร์ค) 56 ชั้น (อาคารเอ็มบาสซี เฟส 2) |
---|
ที่จอดรถ | 1,100 คัน |
---|
ขนส่งมวลชน | เพลินจิต รถโดยสารประจำทาง สาย 2, 13, 25, 40, 501, 508, 511, 3-1, 3-11, 3-53, 3-54, 4-3 |
---|
เว็บไซต์ | www.centralembassy.com |
---|
เซ็นทรัล เอ็มบาสซี (อังกฤษ: Central Embassy) เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรมแบบประสมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร อันประกอบไปด้วยศูนย์การค้าระดับบน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และอาคารสำนักงาน บริหารงานโดย กลุ่มธุรกิจบริหารสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และบริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ตั้งอยู่หัวมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแยกเพลินจิต (จุดตัดถนนเพลินจิตและถนนวิทยุ) บนพื้นที่ 35 ไร่ อันเป็นที่ตั้งเดิมของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ที่กลุ่มเซ็นทรัลชนะการประมูล โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพลินจิตซิตี้ ที่นำโครงการโดย บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด เจ้าของอาคารปาร์คเวนเจอร์ รวมทั้งโรงแรมโอคุระเพรสทีจ กรุงเทพฯ และโครงการเซ็นทรัลแบงค็อก ของกลุ่มเซ็นทรัล ที่เชื่อมต่อศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เข้าเป็นพื้นที่เดียวกัน
ประวัติ
ตามประวัติที่ดินอันเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย โดยสถานกงสุลอังกฤษ (สถานะเดิมของสถานเอกอัครราชทูตในขณะนั้น) ได้ซื้อที่ดินต่อมาจาก พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) เพื่อสร้างเป็นกงสุลแห่งใหม่ ในอดีตพื้นที่แห่งนี้ก่อนที่พระยาภักดีนรเศรษฐหรือนายเลิศเป็นเจ้าของนั้น พื้นที่เป็นทุ่งนาโล่งกว้างห่างไกลชุมชน การเดินทางทางเรือเป็นหลักโดยใช้ คลองแสนแสบ ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีถนนตัดผ่าน นายเลิศได้เล็งการณ์ไกลไว้ว่าถ้ามีสถานกงสุลอังกฤษมาตั้งในย่านนี้ พื้นที่ย่านนี้จะเจริญขึ้นในอนาคตแน่นอน ซึ่งก็เป็นจริงตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อทางราชการได้มีการตัด ถนนวิทยุ และ ถนนเพลินจิต ขึ้น
โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี มีจุดเริ่มต้นมาจาก เมื่อปี พ.ศ. 2549 ที่กลุ่มเซ็นทรัลได้ชนะการประมูลที่ดินบริเวณด้านหน้าของ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ติดกับถนนเพลินจิต โดยได้รับการจัดอันดับจากสื่อมวลชนหลายแขนงว่าเป็นที่ดินที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น ซึ่งทางสถานทูตชี้แจงว่าสาเหตุที่ขายออกเพราะต้องการนำเงินจากการขายที่ดินไปปรับปรุงอาคารสถานทูตเก่าที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม หลังจากชนะการประมูลแล้ว กลุ่มเซ็นทรัล ได้มอบหมายให้เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ แต่เนื่องจากในขณะนั้นเซ็นทรัลพัฒนาเองมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการหลายโครงการ กลุ่มเซ็นทรัลจึงนำโครงการมาบริหารและพัฒนาด้วยตนเอง โดยจัดตั้ง บริษัท เซ็นทรัลแอมบาสซีพลาซา จำกัด สำหรับบริหารศูนย์การค้า และ บริษัท เซ็นทรัลแอมบาสซีโฮเต็ล จำกัด สำหรับบริหารโรงแรม โดยความร่วมมือกับกลุ่มโรงแรมไฮแอท ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร่วมกันบริหารพื้นที่โรงแรมในโครงการเซ็นทรัลลาดพร้าว[2] ส่วนเซ็นทรัลพัฒนาซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารศูนย์การค้าจะเป็นผู้ช่วยดูแลโครงการ
ตามแผนแล้วเซ็นทรัล เอ็มบาสซีมีแผนเปิดศูนย์การค้าอย่างเป็นทางการในปลายปี พ.ศ. 2556 แต่เนื่องจากความล่าช้าในการก่อสร้าง ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดศูนย์การค้ามาเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 แต่หลังจากที่กลุ่ม กปปส. ได้เริ่มปักหลักชุมนุมในพื้นที่บริเวณกรุงเทพมหานครชั้นใน ทำให้การก่อสร้างโครงการต้องหยุดชะงักลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และทำให้เซ็นทรัล เอ็มบาสซีต้องเลื่อนเปิดศูนย์การค้าอีกครั้ง เป็นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 แต่จากสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลต้องเลื่อนการเปิดศูนย์การค้าอีกครั้งนับเป็นครั้งที่ 4 คือภายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 หลังจากเหตุสงบลง กลุ่มเซ็นทรัลก็ได้ประกาศวันเปิดตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งก็คือวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 โดยในวันดังกล่าวจะมีร้านค้าบางส่วนเปิดทำการ
ปัจจุบันทั้งตัวศูนย์การค้าและโรงแรมปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ ได้เปิดบริการครบทุกส่วนแล้ว ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลได้จัดงานเปิดตัวศูนย์การค้าและโรงแรมอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ภายใต้แนวคิด "นี่ คือสิ่งที่พาฉันมา" (This Brings Me Here)[3]
โครงการส่วนขยาย
ใน พ.ศ. 2560 กระทรวงการต่างประเทศแห่งประเทศอังกฤษ และรัฐบาลอังกฤษได้ประกาศขายที่ดินอันเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยในส่วนที่เหลือทั้งหมดจำนวน 9.2 เอเคอร์ หรือ 23 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา โดยมีผู้เข้าร่วมประมูลคือ กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชัน และกลุ่มเซ็นทรัล โดยผู้ชนะการประมูลคือกลุ่มเซ็นทรัลและกลุ่มทุนฮ่องกงแลนด์ จากฮ่องกง ที่ประมูลไปในราคา 420 ล้านปอนด์ หรือตีเป็นเงินไทยกว่า 19,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ดินสูงที่สุดในประเทศไทยที่ตารางวาละ 2.2 ล้านบาท และยังทำลายสถิติเดิมของราคาที่ดินสถานทูตอังกฤษเดิมที่กลุ่มเซ็นทรัลประมูลมาพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่ราคา 900,000 บาทต่อตารางวา
โดยที่ดินผืนดังกล่าวจะถูกนำไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบประสมอันประกอบด้วย ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และอาคารชุดพักอาศัย โดยกลุ่มเซ็นทรัลจะเป็นผู้ลงทุนในส่วนโครงการทั้งหมด และกลุ่มฮ่องกงแลนด์จะเป็นผู้ลงทุนในโครงการอาคารชุดพักอาศัย หรือคอนโดมิเนียม และเป็นนายหน้าในการขายโครงการให้กับผู้ที่สนใจจากต่างประเทศ
ต่อมาในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562 กลุ่มเซ็นทรัลได้มอบหมายให้ เซ็นทรัลพัฒนา เป็นผู้พัฒนาโครงการเฟสที่ 2 นี้ โดยเซ็นทรัลพัฒนาได้ตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ และเอชเคแอล ในนาม บริษัท ซีพีเอ็น แอนด์ เอชเคแอล จำกัด เพื่อศึกษารูปแบบและความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการต่อไป[4]
การจัดสรรพื้นที่
ปัจจุบัน เซ็นทรัล เอ็มบาสซี แบ่งโครงการออกเป็นสองส่วน ได้แก่ อาคารเอ็มบาสซีปาร์ค เป็นอาคารศูนย์การค้าแบบตอนเดียว ออกแบบอาคารโดยบริษัทสถาปนิก อมานดา เลเวนเต จากประเทศอังกฤษ ตัวอาคารมีรูปทรงคล้ายกับสัญลักษณ์อนันต์เมื่อมองจากมุมมองด้านบน อันแสดงถึงการพัฒนาอย่างไม่สิ้นสุดของกลุ่มเซ็นทรัล ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และก้าวไปยังอนาคต และอาคารเอ็มบาสซี เฟส 2 เป็นอาคารศูนย์การค้า,ห้างสรรพสินค้า พร้อมอาคารสำนักงาน ออกแบบอาคารโดย บริษัท แทนเดม อาร์คิเทค (2001) จำกัด ภายใต้การปรึกษาและแนะนำจากกลุ่มสถาปนิก บีอาร์ก อินเกิลส์ จากประเทศเดนมาร์ก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการปรับพื้นที่เตรียมการก่อสร้าง โดยมีพื้นที่สำคัญดังนี้
เอ็มบาสซีปาร์ค
- อีตไทย
- ยูนิโคล่
- มูจิ
- ศิวิลัย สโตร์
- ศิวิลัย ซิตี้ คลับ
- โอเพ่น เฮาส์ โค ลิฟวิ่งสเปซ
- โรงแรมปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ โรงแรมระดับสูงสุดของกลุ่มไฮแอท จำนวน 222 ห้อง[1]
นอกจากนี้ยังมีทางเชื่อมไปยังสถานีเพลินจิตของรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิทที่ชั้น 1 และทางเชื่อมไปยังเซ็นทรัล ชิดลมที่ชั้น 2
เอ็มบาสซี เฟส 2
- ศูนย์การค้าและร้านค้าระดับบน
- อาคารสำนักงานเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
- อาคารชุดเพื่อการพักอาศัย จำนวน 141 หน่วย
โดยทั้งสองอาคารจะเชื่อมต่อกันที่ชั้นบี5 ถึงบี2 และชั้นจี ถึงชั้น 6
การคมนาคม
- รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท: สถานีชิดลม (เชื่อมกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม ที่ชั้น 2) และ สถานีเพลินจิต (เชื่อมกับอาคารเอ็มบาสซีปาร์คโดยตรง ที่ชั้น 1)
- รถโดยสารประจำทาง
- สาย 76(4-14),62(3-42),511,501(1-53),48(3-11),40(4-39),3-53,2(3-1),3-54,13(3-38),17(4-3)
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
เซ็นทรัลแบงค็อก | |
---|
เซ็นทรัล ไลฟ์คอมเพล็กซ์ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) | |
---|
เซ็นทรัล ไลฟ์คอมเพล็กซ์ (ภูมิภาค) | |
---|
โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล) | |
---|
โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ (ภูมิภาค) | |
---|
ท็อปส์ พลาซา | |
---|
ศูนย์การค้า | |
---|
ต่างประเทศ | |
---|
ตัวเอียง = กำลังก่อสร้าง |
|
---|
แขวง | | |
---|
ประวัติศาสตร์ |
- อำเภอ/เขต
- อำเภอประทุมวัน กรุงเทพพระมหานคร มณฑลกรุงเทพ ฯ
- อำเภอสามเพ็ง ตำบลประทุมวัน กรุงเทพพระมหานคร มณฑลกรุงเทพ ฯ
- อำเภอประทุมวัน กรุงเทพพระมหานคร มณฑลกรุงเทพ ฯ
- อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร
- เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
- วังสระปทุม
สถานีวิทยุศาลาแดง
- เหตุการณ์ร่วมสมัย
|
---|
เศรษฐกิจ | |
---|
สังคม | การศึกษา |
- มหาวิทยาลัย/สถาบัน
- โรงเรียน
|
---|
ราชการ | |
---|
สาธารณสุข | |
---|
กีฬา | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
|
---|
|