เจ้าจอมมารดานุ้ยใหญ่ เป็นพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเป็นพระชนนีในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
เจ้าจอมมารดานุ้ยใหญ่ เป็นธิดาของเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (พัฒน์ ณ นคร) และท่านผู้หญิงนวล (ทูลกระหม่อมหญิงใหญ่เมืองนคร[1]) มารดาเดิมมีนามว่าเจ้าหญิงชุ่ม เป็นธิดาพระเจ้านครศรีธรรมราช (หนู) กับหม่อมทองเหนี่ยว มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 2 คน ได้แก่
ท่านเกิดในพระราชวังบวรเมืองนครศรีธรรมราชในระหว่างที่กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า เมืองนครศรีธรรมราชตั้งตนเป็นอิสระ พระเจ้านครศรีธรรมราช (หนู) ตั้งตนขึ้นเป็นกษัตริย์ และได้แต่งตั้งพระมหาอุปราช (พัฒน์) เป็นวังหน้า เรียกกันว่า "วังหน้าเมืองนคร"[ต้องการอ้างอิง] ช่วงที่ท่านเกิดท่านจึงมีสถานะเป็นเจ้า ต่อมาหลังสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงยึดเมืองนครศรีธรรมราชได้ก็ทรงโปรดให้เป็นประเทศราช
พระมหาอุปราช (พัฒน์) นั้นคราวหนึ่งไปราชการทัพ คุณชุ่มหรือนวลถึงแก่กรรมลง ธิดาทั้งสองจึงเป็นกำพร้า ครั้นเสร็จราชการสงครามแล้ว อุปราชพัฒน์เข้ามาเฝ้าเมื่อ พ.ศ. 2317 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีตรัสปลอบว่า "อย่าเสียใจนักเลย จะให้น้องสาวไปแทนที่จะได้เลี้ยงลูก" จึงพระบรมราชโองการให้ท้าวนางส่งตัวเจ้าจอมปรางไปพระราชทานเป็นภรรยาเจ้าพัฒน์ ท้าวนางกราบบังคมทูลว่า เจ้าจอมปรางขาดระดูมา 2 เดือนแล้ว มีพระราชดำรัสว่า "ได้ลั่นวาจายกให้แล้ว จงส่งตัวออกไปเถิด" เจ้าจอมปรางจำใจไปตามพระบรมราชโองการ และเจ้าพัฒน์ก็จำใจรับไว้เป็นศรีเมืองนครศรีธรรมราช เจ้าจอมปรางก็เลี้ยงดูธิดาทั้ง 2 ด้วยความทะนุถนอม[2]
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ พระมหาอุปราช (พัฒน์) ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราช ท่านได้ถวายธิดาคนใหญ่เป็นพระสนมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และธิดาคนเล็กเป็นพระสนมในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เจ้าจอมมารดานุ้ยใหญ่ มีพระราชโอรสพระองค์เดียว คือ พระองค์เจ้าอรุโณทัย ต่อมาทรงได้รับพระราชทานทรงกรมเป็น กรมหมื่นศักดิพลเสพ ในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงได้รับพระราชทานอุปราชาภิเษกเป็น กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ
หลังกรมหมื่นศักดิพลเสพ ทรงได้รับพระราชทานอุปราชาภิเษกแล้ว เจ้าจอมมารดานุ้ยใหญ่ ได้ย้ายไปประทับที่พระตำหนักในพระราชวังบวร ชาวพระราชวังบวรขนานนามว่า "เจ้าคุณพระชนนี"[3] ในพระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีไปถึงพระองค์เจ้าปัทมราช ทรงตรัสเรียกเจ้าจอมมารดานุ้ยใหญ่ว่า "เจ้าป้าของหม่อมฉัน"[4]
เจ้าจอมมารดานุ้ยใหญ่ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อพ.ศ. 2370 พระราชทานเพลิงศพ ณ วัดสระเกศ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2370 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระโกศกุดั่นน้อย เนื่องด้วยเป็นพระชนนีในกรมพระราชวังบวรสถานมงคล อัฐิเดิมเก็บไว้ที่พระราชวังบวรสถานมงคล ภายหลังจากสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพสวรรคตแล้ว พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปัทมราชเชิญไปไว้ ณ วัดท่าโพธิ์วรวิหาร ร่วมกับเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (พัฒน์) ท่านผู้หญิงนวล และเจ้าจอมมารดานุ้ยเล็ก[3]