วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
บริเวณทางเข้าวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ซึ่งปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่
แผนที่
ชื่อสามัญวัดระฆังโฆสิตาราม, วัดระฆัง, วัดหลวงพ่อโต
ที่ตั้งถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
ประเภทพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดวรมหาวิหาร
นิกายเถรวาท
เจ้าอาวาสพระเทพประสิทธิคุณ (ประจวบ ขนฺติธโร ป.ธ.๔)
เวลาทำการทุกวัน 8.00-17.00 น.
จุดสนใจสักการะรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) , ชมหอพระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 1
กิจกรรมเทศนาธรรม ทุกวันพระ
21 มิ.ย.: งานอุทิศส่วนกุศล ให้อดีตเจ้าอาวาส
เว็บไซต์http://www.watrakhang.org
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในแขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรมหาวิหาร อยู่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์มหานิกายภาค 1

วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางหว้าใหญ่ ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางหว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดบางหว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับวัด ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” เป็น “วัดราชคัณฑิยาราม” (คัณฑิ แปลว่าระฆัง) แต่ไม่มีคนนิยมเรียกชื่อนี้ ยังคงเรียกว่าวัดระฆังต่อมา

วัดระฆังโฆสิตารามมีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยกรุงธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระพระไตรปิฎก​

ประวัติ

เดิมเป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ และขึ้นยกเป็นพระอารามหลวง และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชในสมัยรัตนโกสินทร์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎก ซึ่งอัญเชิญมาจากนครศรีธรรมราชขึ้นที่วัดนี้

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับวัด

ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูกไก่

อาณาเขตที่ตั้งวัด

เขตติจีวราวิปวาส

เขตวิสุงคามสีมา

ที่ธรณีสงฆ์

ปูชนียวัตถุสำคัญ

พระประธานยิ้มรับฟ้า

พระประธานยิ้มรับฟ้า

พระประธานยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ หน้าตักกว้างประมาณ 4 ศอกเศษ เบื้องพระพักตร์มีรูปพระสาวก 3 องค์ นั่งประนมมือดุจรับพระพุทธโอวาท พระประธานองค์นี้ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก จนปรากฏว่าครั้งหนึ่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมาถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดระฆังโฆสิตาราม ได้มีพระราชดำรัสแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดว่า ไปวัดไหนไม่เหมือนมา วัดระฆังพอเข้าประตูโบสถ์พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที ด้วยเหตุนี้จึงทรงถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์ และมหาปรมาภรณ์ช้างเผือกแด่พระประธานองค์นี้เป็นพิเศษ และพระประธานองค์นี้ก็ได้นามว่า พระประธานยิ้มรับฟ้า ตั้งแต่นั้นมา

โบราณสถานสำคัญ

พระอุโบสถ

พระอุโบสถ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

เป็นทรงแบบรัชกาลที่ 1 หลังคาลด 3 ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และคันทวยสลักเสลาอย่างสวยงาม บริเวณมุขด้านหน้าและหลังทำปีกนกคลุมมุขอยู่ในระยะไขราหน้าจั่ว ตอนใต้จั่วหรือหน้าบัน ที่จำหลักลายพระนารายณ์ทรงครุฑ ประดับลายกนกปิดทองอย่างประณีต เจาะเป็นช่องหน้าต่าง 2 ช่อง แทนแผงแรคอสองเหนือประตูหน้าต่างรอบพระอุโบสถติดกระจังปูนปั้นปิดทองทำเป็นรูปซุ้มบนบานประตูหน้าต่างด้านนอกเขียนลายรดน้ำปิดทองมีรูประฆังเป็นเครื่องหมาย ด้านในเขียนภาพทวารบาลยืนแท่นระบายสีงดงาม บริเวณฝาผนังภายในพระอุโบสถโดยรอบเขียนภาพจิตรกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าฝีมืองดงามมาก โดยผนังด้านหน้าพระประธานเขียนเป็นภาพพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ก่อนเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และตอนเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ด้านหลังพระประธานเขียนภาพพระมาลัยขณะขึ้นไปนมัสการพระมหาจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เบื้องล่างเขียนภาพสัตว์นรกในอาการต่างๆ ภาพฝาผนังส่วนที่เหลือ เบื้องบนเขียนเป็นเทพชุมนุม ตอนล่างเขียนภาพทศชาติ ซึ่งเขียนได้อย่างมีชีวิตชีวาอ่อนช้อยและแสงสีเหมาะสมกับเรื่องราว ภาพเหล่านี้เขียนโดย พระวรรณวาดวิจิตร (ทอง จารุวิจิตร) จิตรกรเอกในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อราว พ.ศ. 2465 ครั้งมีการบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถในรัชกาลนั้น

พระวิหาร (พระอุโบสถหลังเก่า)

พระวิหาร

เป็นทรงแบบรัชกาลที่ 1 หลังคาลด 3 ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และคันทวยสลักเสลาอย่างสวยงาม บริเวณมุขด้านหน้าและหลังทำปีกนกคลุมมุขอยู่ในระยะไขราหน้าจั่ว ตอนใต้จั่วหรือหน้าบัน ที่จำหลักลายพระนารายณ์ทรงครุฑ ประดับลายกนกปิดทองอย่างประณีต เจาะเป็นช่องหน้าต่าง 2 ช่อง แทนแผงแรคอสองเหนือประตูหน้าต่างรอบพระอุโบสถติดกระจังปูนปั้นปิดทองทำเป็นรูปซุ้มบนบานประตูหน้าต่างด้านนอกเขียนลายรดน้ำปิดทองมีรูประฆังเป็นเครื่องหมาย ด้านในเขียนภาพทวารบาลยืนแท่นระบายสีงดงาม บริเวณฝาผนังภายในพระอุโบสถโดยรอบเขียนภาพจิตรกรรมที่ได้รับการยกย่องว่าฝีมืองดงามมาก โดยผนังด้านหน้าพระประธานเขียนเป็นภาพพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ก่อนเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และตอนเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ด้านหลังพระประธานเขียนภาพพระมาลัยขณะขึ้นไปนมัสการพระมหาจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เบื้องล่างเขียนภาพสัตว์นรกในอาการต่างๆ ภาพฝาผนังส่วนที่เหลือ เบื้องบนเขียนเป็นเทพชุมนุม ตอนล่างเขียนภาพทศชาติ ซึ่งเขียนได้อย่างมีชีวิตชีวาอ่อนช้อยและแสงสีเหมาะสมกับเรื่องราว ภาพเหล่านี้เขียนโดย พระวรรณวาดวิจิตร (ทอง จารุวิจิตร) จิตรกรเอกในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อราว พ.ศ. 2465 ครั้งมีการบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถในรัชกาลนั้น

พระปรางค์

พระปรางค์

รัชกาลที่ 1 มีพระราชศรัทธาสร้างพระปรางค์ พระราชทานร่วมกุศลกับสมเด็จพระพี่นางพระองค์ใหญ่ (สมเด็จเจ้าฟ้าหญิง กรมพระเทพสุดาวดี พระนามเดิม สา) ตั้งอยู่หน้าพระวิหาร ได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ว่า เป็นพระปรางค์ที่ทำถูกแบบที่สุดในประเทศไทย พระปรางค์องค์นี้จัดเป็นพระปรางค์แบบ สถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ยุคต้น ที่มีทรวดทรงงดงามมาก จนยึดถือเป็นแบบฉบับของพระปรางค์ที่สร้างในยุคต่อมา

หอระฆัง

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้สืบถามเรื่องระฆังของวัดบางหว้าใหญ่ซึ่งเป็นระฆังที่มีเสียงไพเราะยิ่งนัก ที่ขุดได้ในวัดนั้นว่าขุดได้ ณ ที่ใด ทรงขอระฆังเสียงดีลูกนั้นไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงสร้างหอระฆังจตุรมุขพร้อมทั้งระฆังอีก 5 ลูก พระราชทานไว้แทน เพราะเหตุแห่งการขุดระฆังได้ จึงได้ชื่อตามที่ประชาชนเรียกว่า วัดระฆัง ตั้งแต่นั้นมา

หอพระไตรปิฎก

หอพระไตรปิฎก

เป็นรูปเรือน 3 หลังแฝด หอด้านใต้ลักษณะเป็นหอนอน หอ กลางเป็นห้องโถง หอด้านเหนือเข้าใจว่าเป็นห้องรับแขก ของเดิมเป็นหลังคามุงจาก ได้เปลี่ยนเป็นมุงกระเบื้อง ชายคาเป็นรูปเทพพนมเรียงรายเป็นระยะๆ เปลี่ยนฝาสำหรวดไม้ขัดแตะเสียบกระแชงเป็นขัดด้วยหน้ากระดานไม้สักระหว่างลูกสกล ใช้แผ่นกระดานไม้สักเลียบฝาภายในแล้วเขียนรูปภาพต่าง ๆ บานประตูด้านใต้เขียนลายรดน้ำ บานประตูหอกลางด้านตะวันออกแกะเป็นลายกนกวายุภักษ์ ประกอบด้วยกนกเครือเถา บานซุ้มประตูนอกชานแกะเป็นมังกรลายกนกดอกไม้ภายนอกติดคันทวยสวยงาม ภายในมีตู้พระไตรปิฎกขนาดใหญ่เขียนลายรดน้ำ 2 ตู้ ประดิษฐานไว้ในหอด้านเหนือ 1 ตู้ หอด้านใต้ 1 ตู้ หอพระไตรปิฎกนี้ตั้งอยู่ภายในเขตพุทธาวาส ทิศใต้ของพระอุโบสถ

ศาลาการเปรียญ

หอพระไตรปิฎก (คณะ 2)

อยู่หน้าตำหนักแดง ในคณะ 2 เป็นเรือนไม้ฝาปะกน ปิดทอง ทาสีเขียวสด ประตูหน้าต่างเขียนลายรดน้ำสวยงามมาก

พระเจดีย์สามองค์

สร้างโดยเจ้านายวังหลัง 3 องค์ คือ กรมหมื่นนราเทเวศร์ (พระองค์เจ้าชายปาล ต้นสกุล ปาลกะวงศ์) กรมหมื่นนเรศร์โยธี (พระองค์เจ้าชายบัว) และกรมหมื่นเสนีย์บริรักษ์ (พระองค์เจ้าชายแดง ต้นสกุล เสนีวงศ์) สร้างโดยเสด็จพระราชกุศลในรัชกาลที่ 3 เมื่อคราวสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ เป็นเจดีย์ย่อเหลี่ยมไม้ยี่สิบ ทรงจอมแห ทรวดทรงงดงามมาก แต่เป็นเจดีย์ขนาดย่อม ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือของพระอุโบสถหลังปัจจุบัน

สถานที่น่าสนใจภายในวัด

พระวิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์โต

เป็นพระวิหารทรงเดียวกับ พระวิหารสมเด็จพระสังฆราช (สี) ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน มีเครื่องหมายสำคัญที่หน้าบันทั้งสองข้าง เป็นรูปพัดยศจารึกอักษรไว้ว่า “พระวิหารสมเด็จ ๒๕๐๓” เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระราชาคณะของวัดนี้ 3 องค์ ได้แก่

  • สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งรู้จักกันดีในนาม “สมเด็จโต” หรือ “หลวงพ่อโต” พระเถระผู้แตกฉานในพระไตรปิฎก และทรงคุณทางวิปัสสนาธุระ
  • สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ม.จ.ทัด เสรีวงศ์) เป็นพระเถระที่มีพระเกียรติคุณปรากฏอีกองค์หนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงได้รับการถวายเจ้านายโดยเฉพาะ เป็นเหตุให้พระเครื่องที่ทรงทำร่วมกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ผู้เป็นอาจารย์ ได้รับขนานนามว่า “สมเด็จปิลันทน์” และมีชื่อเสียงควบคู่กันมา
  • สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว. เจริญ อิศรางกูร) ผู้มีชื่อเสียงในทางเทศนาวิธีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชี่ยวชาญการเทศน์มหาชาติทั้ง 13 กัณฑ์ ได้เป็นเปรียญ ๓ ประโยคตั้งแต่ยังเป็นสามเณร หรือมีอายุได้ 14 ปี เท่านั้น และสำเร็จเป็นเปรียญ 8 ประโยค ในเวลาต่อมา เมื่อครั้งเป็นที่พระพิมลธรรม ท่านได้รับพระราชทานสุพรรณบัฏเป็นพิเศษกว่าสมเด็จพระราชาคณะองค์อื่น ๆ และเมื่อมรณภาพ ในรัชกาลที่ 6 ก็ได้รับการพระราชทานเพลิงที่พระเมรุสนามหลวงเป็นเกียรติด้วย

ตั้งอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ หลังคามุงกระเบื้องเคลือบติดคันทวยตามเสาสวยงาม หน้าบันทั้งสองด้าน จำหลักรูปฉัตร 3 ชั้นอันเป็นเครื่องหมายพระยศสมเด็จพระสังฆราช วิหารหลังนี้เดิมหลังคาเป้นทรงปั้นหยา เรียกว่าศาลาเปลื้องเครื่อง พระราชธรรมภาณี (ละมูล) ได้เปลี่ยนเป็นหลังคาทรงไทยมีช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ เมื่อ พ.ศ. 2504 เพื่อประดิษฐานพระอัฐิสมเด็จพระสังฆราช (สี) ซึ่งเดิมบรรจุอยู่ในรูปพระศรีอาริยเมตไตรย ประดิษฐานในซุ้มพระปรางค์ของวัดระฆัง ต่อมาได้ย้ายมาประดิษฐานที่พระวิหารที่ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ เพื่อยกย่องพระเกียรติของพระองค์

พิพิธภัณฑ์วัดระฆังโฆสิตาราม (อาคารเฉลิมพระเกียรติริมแม่น้ำเจ้าพระยา)

ลำดับเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม

วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีมาจนถึงยุคปัจจุบันนี้ มีอธิบดีสงฆ์ปกครองวัดมาแล้ว 12 รูปด้วยกัน ดังนี้

ลำดับ เจ้าอาวาส วาระ (พ.ศ.)
1. สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) 2312 — 2337
2. พระพนรัตน (นาค) 2337 — ?
3. พระพุฒาจารย์ (อยู่) ? — ?
4. สมเด็จพระพนรัตน (ทองดี) ? — ?
5 สมเด็จพระพนรัตน (ฤกษ์) ? — ?
6. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) 2395 — 2415
7. หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัด) 2415 — 2437
8. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (หม่อมราชวงศ์เจริญ ญาณฉนฺโท) 2437 — 2470
9. พระเทพสิทธินายก (นาค โสภโณ) 2470 — 2514
10. พระเทพญาณเวที (ละมูล สุตาคโม) 2515 — 2530
11. พระเทพประสิทธิคุณ (ผัน ติสฺสโร)[1] 2532 — 2550
12. พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม) 2550 — 2564
13. พระเทพประสิทธิคุณ (ประจวบ ขนฺติธโร) 19 กุมภาพันธ์ 2565 - ปัจจุบัน

อื่น ๆ

พระเครื่องที่จัดสร้างโดยวัดระฆังโฆสิตาราม

โครงการไหว้พระ ๙ วัด

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

13°45′10″N 100°29′08″E / 13.752683°N 100.485485°E / 13.752683; 100.485485

Read other articles:

Para otros usos de este término, véase Marta González (desambiguación). Marta González González en el Anima Film Fest de 2013.Información personalNombre de nacimiento Martina Agustina GonzálezNacimiento 28 de noviembre de 1944 (79 años) Argentina, Buenos AiresNacionalidad ArgentinaFamiliaCónyuge Osvaldo “Chiche” SosaInformación profesionalOcupación actriz[editar datos en Wikidata] Martina Agustina González (Buenos Aires; 28 de noviembre de 1944), más cono...

 

آيت امحند أوبولمان تقسيم إداري البلد المغرب  الجهة بني ملال خنيفرة الإقليم بني ملال الدائرة أغبالة الجماعة القروية بوتفردة المشيخة آيت بولمان السكان التعداد السكاني 501 نسمة (إحصاء 2004)   • عدد الأسر 86 معلومات أخرى التوقيت ت ع م±00:00 (توقيت قياسي)[1]،  وت ع م+01:00 (توقيت

 

Pemilihan umum Bupati Trenggalek 2015201020209 Desember 2015Kandidat   Calon Emil Dardak Kholiq Partai PDI-P PKB Pendamping Mochamad Nur Arifin Priyo Handoko Suara rakyat 291.171 91.132 Persentase 76,16% 23,84% Peta persebaran suara Peta lokasi Trenggalek Bupati Trenggalek terpilih Emil Dardak PDI-P Sunting kotak info • L • BBantuan penggunaan templat ini Pemilihan umum Bupati Trenggalek 2015 adalah pemilihan kepala daerah Trenggalek yang dilaksanakan pada tanggal 9 De...

Extinct family of reptiles Not to be confused with Dryosauridae. DyrosauridaeTemporal range: 83.5–47 Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N Campanian - Eocene Skull of the dyrosaurid Arambourgisuchus khouribgaensis Scientific classification Domain: Eukaryota Kingdom: Animalia Phylum: Chordata Class: Reptilia Clade: Pseudosuchia Clade: Crocodylomorpha Suborder: †Tethysuchia Family: †Dyrosauridaede Stefano, 1903 Genera †Anthracosuchus †Cerrejonisuchus †Chenanisuchus †Guarinisuchus

 

American film producer (1937–2015) Jerry WeintraubWeintraub in 1975BornJerome Charles Weintraub(1937-09-26)September 26, 1937Brooklyn, New York, U.S.DiedJuly 6, 2015(2015-07-06) (aged 77)Santa Barbara, California, U.S.Resting placeHillside Memorial Park CemeteryOccupations Film producer talent agent concert promoter actor Years active1974–2015Spouses Janice Greenberg ​(divorced)​ Jane Morgan ​ ​(m. 1965, separated 1980s...

 

Pirámide de Navidad. Pirámide gigante en Düsseldorf. La Pirámide de Navidad (en alemán Weihnachtspyramide) es un elemento decorativo navideño tradicional típico de los Montes Metálicos (en alemán Erzgebirge) en Alemania y República Checa. Consiste en una especie de pequeño carrusel elaborado en madera y decorado con diferentes motivos navideños en su interior (ángeles, belén, etc). La pirámide contiene una hélice en su parte superior que se propulsa, haciendo girar el carrusel...

British 2nd Line Territorial Army formation For the unrelated formation in First World War, see 46th (North Midland) Division. 46th Infantry DivisionFormation sign of the 46th Infantry DivisionActive1939–1947Branch Territorial ArmyTypeInfantryRoleInfantrySizeWar establishment strength: 13,863–18,347 men[a]Nickname(s)Oak Tree Division[2][3]EngagementsSt Omer-La BasséeEl KourizaTunisItalian Campaign:*Salerno landings*Naples*Volturno Line*Monte Camino*Gothic Line**Co...

 

Mass Rapid Transit station in Singapore  CC24 Kent Ridge肯特岗கெண்ட் ரிஜ் Mass Rapid Transit (MRT) stationPlatform level of the stationGeneral informationLocation301 South Buona Vista RoadSingapore 118177Coordinates1°17′36″N 103°47′04″E / 1.293383°N 103.784394°E / 1.293383; 103.784394Operated bySMRT Trains Ltd (SMRT Corporation)Line(s)  Circle LinePlatforms2 (1 island platform)Tracks2ConnectionsBus, TaxiConstructio...

 

Temple Xingjiao Présentation Culte Bouddhisme Géographie Pays République populaire de Chine Province Shaanxi Ville Xi'an Coordonnées 34° 05′ 29″ nord, 109° 02′ 02″ est Géolocalisation sur la carte : Chine modifier  Le temple Xingjiao (en mandarin simplifié : 兴教寺; en Pinyin :Xīngjiào Sì) est un temple bouddhiste situé à Xi'an dans la province de Shaanxi en République populaire de Chine. Il a été fondé en 669 sous le r...

Public library in Chennai, India Connemara Public LibraryEntrance of Connemara Public LibraryLocationEgmore, Chennai, Tamil Nadu, India., IndiaTypePublic libraryEstablished5 December 1896(127 years ago) (1896-12-05)CollectionItems collectedBooks, academic journals, magazines, Braille books, manuscripts The Connemara Public Library at Egmore in Chennai, Tamil Nadu, India, is one of the four National Depository Libraries which receive a copy of all books, newspapers and periodicals pu...

 

The Bone Key Cover of first editionAuthorSarah MonetteCountryUnited StatesLanguageEnglishSeriesKyle Murchison BoothGenreHorror fictionPublisherPrime BooksPublication date2007Media typeprint (paperback)Pages255ISBN978-0-8095-5777-6 The Bone Key: The Necromantic Mysteries of Kyle Murchison Booth is a collection of mystery horror short stories by American writer Sarah Monette featuring her puzzle-solving archivist character Kyle Murchison Booth. It was first published in trade paperback by ...

 

ОкругОкруг СапатаZapata County 27°00′ с. ш. 99°11′ з. д.HGЯO Страна США Входит в Техас Адм. центр Запата История и география Дата образования 1858 год Площадь 2740 км² Часовой пояс CDT Население Население &&&&&&&&&&012182.&&&&&012 182 чел. (2000) Плотн...

1971 Indian filmPreetamPosterDirected byBhappi SonieStarringShammi Kapoor Leena ChandavarkarCinematographyApurba BhattacharjeeEdited byM. S. ShindeMusic byShankar JaikishanRelease date26 July 1971CountryIndiaLanguageHindi Preetam is a 1971 Bollywood romance film directed by Bhappi Sonie. The film stars Shammi Kapoor and Leena Chandavarkar. Cast Shammi Kapoor as Preetam Leena Chandavarkar as Sharan Sinha / Bindiya Vinod Khanna as Anil Helen as Sarita Mehmood as Barber Safachat Raj Mehra as Mr....

 

LG G Pad 10.1 Производитель LG Electronics Серия LG серия G Операционная система Android LG G Pad 8.3LG G Pad 8.0 LG G Pad 10.1 (также известный как LG G Tab 10.1) — это 10,1-дюймовый планшетный компьютер на базе Android, производимый и продаваемый LG Electronics. Он принадлежит к серии LG G и был анонсирован 13 мая 2014 года вме...

 

For other uses, see Father of the Bride (disambiguation). American TV series or program Father of the BrideOriginal title card with animated Cupid.GenreSitcomWritten byCharles E. AndersonKen CooperJohn ElliotteDale EunsonKatherine EunsonMathilda FerroTheodore FerroMort GreenEdward StreeterCarey WilberDirected byMort GreenAnton LeaderFletcher MarkleGene ReynoldsRichard WhorfStarringLeon AmesRuth WarrickMyrna FaheyTheme music composerDavid RaksinCountry of originUnited StatesOriginal langu...

American baseball player (born 1949) Baseball player Bobby GrichGrich with the Baltimore Orioles in 1976Second basemanBorn: (1949-01-15) January 15, 1949 (age 74)Muskegon, Michigan, U.S.Batted: RightThrew: RightMLB debutJune 29, 1970, for the Baltimore OriolesLast MLB appearanceOctober 2, 1986, for the California AngelsMLB statisticsBatting average.266Home runs224Runs batted in864 Teams Baltimore Orioles (1970–1976) California Angels (1977–1986) Career h...

 

Questa voce o sezione deve essere rivista e aggiornata appena possibile. Sembra infatti che questa voce contenga informazioni superate e/o obsolete. Se puoi, contribuisci ad aggiornarla. Questa voce sull'argomento competizioni cestistiche è solo un abbozzo. Contribuisci a migliorarla secondo le convenzioni di Wikipedia. FIBA Americas Championship Under-18Sport Pallacanestro FederazioneFIBA Americas OrganizzatoreFIBA Americas TitoloCampione d'America Under-18 Cadenzabiennale Aperturaesta...

 

Almería urbo Almería (Almería, Andaluzio)Almería (Almería, Andaluzio) municipo en Hispanio Flago Blazono Administrado Statuso Municipo Lando Hispanio Ŝtato  Hispanio Aŭtonoma Komunumo  Andaluzio Provinco Almería Municipo Almería  Ĝemelurboj Ajuno • Melilo • Ovalle • Cochabamba • Tadjoura • Rastatt • Neuwied • Orano • Boulogne-Billancourt • Caspe • Ĥako • Bon...

Monumen 19, dari La Venta (1200-400 SM), representasi ular berbulu yang pertama dikenal di Mesoamerika.Courtesy George & Audrey DeLange, digunakan dengan izin. Agama orang-orang Olmek mempunyai pengaruh penting pada perkembangan sosial dan pandangan dunia mitologis Mesoamerika. Para cendekiawan juga memperhatikan adanya entitas supernatural Olmek dalam agama-agama dan mitologi-mitologi pada hampir semua kebudayaan Mesoamerika pada masa Pra-Kolumbus akhir. Peradaban Mesoamerika pertama, Ol...

 

Replik der Reichssturmfahne: eine Standarte mit langem Wimpel Bempflinger Vertrag in der Chronik Ortliebs Werner IV. „von Grüningen“ (* um 1060; † 22. Februar 1121) war Graf von Maden bzw. Gudensberg, Burggraf von Worms, Graf im Neckargau und als Reichssturmfähnrich Graf von Grüningen. Inhaltsverzeichnis 1 Herkunft und Familie 2 Leben 2.1 Besitz und Vogteien 2.2 Schwäbische Spuren 2.2.1 Bempflinger Vertrag 2.2.2 Förderer des Klosters Hirsau 2.2.3 Vogt des Klosters Zwiefalten 2.3 Ro...

 

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!