พลังคือสิ่งที่มอบพลังอำนาจให้กับเหล่าเจได มันเป็นสนามพลังที่ถูกสร้างโดยสิ่งมีชีวิตทั้งมวล มันอยู่รอบตัวเรา และแทรกซึมเข้าไปในตัวเรา รวมทั้งเชื่อมโยงกาแลกซีทั้งกาแลกซีเข้าไว้ด้วยกัน
ในจักรวาลสตาร์ วอร์ส นั้น "พลัง" หมายถึงสิ่งเหนือธรรมชาติที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งซึ่งถูกใช้โดยลัทธิเจไดและซิธ ด้วยเหตุว่ามีเพียงสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว มิดิคลอเรียน เท่านั้น ที่สามารถสื่อสารกับ "พลัง" ได้ การที่บุคคลจะมี "พลัง" สถิตแข็งกล้านั้นย่อมขึ้นอยู่กับจำนวนของมิดิคลอเรียนที่อยู่ในร่างของบุคคลนั้น
อาจารย์เจได โอบีวัน เคโนบี อธิบายว่า "พลัง" คือ "สนามพลังที่ถูกสร้างโดยสิ่งมีชีวิตทั้งมวล" บางสังคมหรือกลุ่มองค์กรเชื่อว่า "พลัง" เป็นสิ่งที่มีความคิดสติปัญญาราวกับเป็นพระเจ้าอย่างหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มคนอื่นเชื่อว่า "พลัง" เป็นสิ่งที่มีอยู่เป็นธรรมดา และสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำการต่างๆ ได้ตามปรารถนา
นอกจากเจไดและซิธที่นำ "พลัง" มาใช้ได้แล้ว ยังมีกลุ่มบุคคลและแนวคิดอีกมากที่สามารถใช้ประโยชน์จาก "พลัง" ได้ในรูปแบบต่างๆ กันออกไป
ด้านสว่าง
ด้านสว่างของพลัง (อังกฤษ: ภาษาอังกฤษ: light side of the Force) ยังรู้จักโดยทั่วไปว่า อาชล่า (Ashla) หรือเรียกง่ายๆ ว่า พลัง เป็นด้านหนึ่งของพลังที่อยู่บนความซื่อสัตย์ ความเห็นใจ ความเมตตา เสียสละ และความรู้สึกด้านบวกอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้ว เจไดจะสื่อถึงด้านนี้ของพลัง
มันง่ายมากที่จะรู้ถึงแสงสว่าง เจไดต้องรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างทั้งสองด้านของพลัง ในตัวเขาเอง และจักรวาล
— ธอน, Tales of the Jedi (audio)
ผู้ยึดเหนี่ยวและผู้สอนด้านสว่างส่วนใหญ่นั้นคือนิกายเจได ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อรักษาความสงบและความยุติธรรมของกาแลกซี่ เจไดยังระวังในอันตรายของด้านมืดของพลัง ดังที่มันเป็นตัวแทนของความเสื่อมและความเพิกเฉยต่อระเบียบของจักรวาล ด้านมืดถูกมองว่าเป็นความรู้ของซิธ ผู้ซึ่งเจไดพยายามจะทำลายเพื่อรักษาสมดุลของพลัง
พลังมีบทบาทอย่างมากในการใช้กระบี่แสงของเจได ทำให้พวกเขามีความสามารถที่จะทำนายสิ่งที่จะขึ้นในอนาคต ความระวังตน และความเร็วที่น่าตะลึง ซึ่งป้องกันให้พวกเขาปลอดภัยจากอุบัติเหตุซึ่งเกิดจากตัวพวกเขาเองขณะทำการต่อสู้และทำให้พวกเขามีความสามารถอื่นๆ อย่างการใช้กระบี่แสงสะท้อนการยิงจากบลาสเตอร์ เจไดจะใช้พลังเพื่อช่วยพวกเขาในการสร้างกระบี่แสง ทั้งการประกอบและให้พลังงาน
ด้วยประสบการณ์ ดูเหมือนว่าด้วยการใช้ด้านสว่าง เจไดจะทำได้แทบทุกอย่าง สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับเจไดเท่านั้น แต่เป็นใครก็ตามที่ใช้พลังได้ เจไดใช้พลังของพวกเขาเพื่อให้ได้ความรู้มากขึ้น ต่างกับศัตรูแต่โบราณของพวกเขา พวกซิธ ในทางตรงกันข้าม ซิธจะใช้พลังของพวกเขาเพื่อพยายามครอบครองกาแลกซี่ เจไดจะใช้พลังของพวกเขาเพื่อป้องกันตัวและนำทาง ถึงแม้ว่าความแตกต่างนี้จะไม่ได้เห็นชัดนักก็ตาม นั่นทำให้ผู้คนมากมายไม่เชื่อใจในนิกายเจไดในการเป็นผู้นำของสาธารณรัฐเก่า
ด้านสว่างของพลังอยู่ในแนวเดียวกับความสุข ความสนุก รัก และความดี ซึ่งบางคนเชื่อในการใช้ด้านสว่างและเข้าใจในจริยธรรมในการใช้ของมัน มันถูกมองโดยทั่วไปว่าเป็นความคิดของความดี ความมีน้ำใจ การเยียวยา และสติปัญญา ตรงกันข้ามกับความชั่วร้าย ความรุนแรง และความหุนหัน เพื่อที่จะผสานเข้ากับด้านสว่างของพลัง ผู้ฝึกจะต้องนั่งสมาธิบ่อยครั้งเพื่อขจัดอารมณ์ของพวกเขา โดยเฉพาะอารมณ์ความรู้สึกด้านลบอย่างความเกรียวกราด ความโกรธ และความเกลียดชัง เพราะเหล่านี้จะนำเจไดเข้าสู่ด้านมืด
น่าประหลาด และถึงแม้ว่าจะมีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัด ด้านสว่างนั้นเกิดจากปัญญาที่มีเจตจำนงและแห่นความดีที่ชัดเจน ตามที่การตีความแบบระวังตนเอง ด้านสว่างส่งอิทธิพลทำให้เจไดบางคนคิดว่าตัวของพวกเขาเป็น"เครื่องมือ"ของพลัง แม้ว่าสิ่งนี้ทำให้เกิดข้อบกพร่องหากมองในแง่ของชะตากรรมแต่ละบุคคล เจไดในฐานะของผู้นำของด้านสว่าง พวกเขายืนกรานว่ามันเป็นเหมือน"จิตใจที่เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์"มากกว่า สิ่งที่เจไดอธิบายนี้คือพลัง (อย่างน้อยก็ด้านสว่าง) ไม่ได้เป็นการบังคับใคร ชะตากรรมอาจถูกยอมรับหรือปฏิเสธ และทุกคนสามารธเลือกทางเลือกได้อย่างอิสระ
เพราะว่าอาชล่ายังเป็นชื่อของพลังเอง ก่อนที่มันจะหมายถึงเพียงด้านสว่างเท่านั้น มันจึงอาจเป็นไปได้ว่าด้านสว่างนั้นยังหมายถึงธรรมชาโดย"ปกติ"ของพลัง มุมมองนี้เห็นด้วยโดยผู้ที่เลื่อมใสในคำสอนแบบโพเทนเชี่ยม มันถูกตีความหมายอย่างผิดๆ ว่าด้านสว่างนั้นไม่ใช่ความดี ด้านมืดก็ไม่ใช่ความชั่วร้ายเช่นกัน
ผู้มีสัมผัสแห่งพลัง
ผู้มีสัมผัสแห่งพลัง (อังกฤษ: force-sensitive) หรือผู้ใช้พลัง (อังกฤษ: force-user) คือบุคคลที่มีความสามารถที่จะสัมผัสและใช้พลังได้ พวกเขาจะมีความสามารถพิเศษ สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น สามารถตอบสนองได้รวดเร็ว หากได้รับการฝึก พวกเขาจะสามารถสัมผัสและควบคุมพลังนี้และใช้เป็นพลังพิเศษได้
กลุ่มคนหลายๆ กลุ่มได้ฝึกฝนผู้มีสัมผัสแห่งพลังให้สามารถใช้พลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจมีปรัชญาที่แตกต่างกัน เช่น นิกายเจไดใช้พลังเพื่อปกป้องกาแลกซี ซิธใช้พลังเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน กลุ่มอื่นๆ เช่น เหล่าผู้ครองพลัง (force wielder) ดังเช่นที่ปรากฎแก่อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ เมื่อครั้งเดินทางไปยังมอร์ทิส เหล่านักบวชแห่งพลัง (force priestesses) ที่ปรากฎแก่โยดา กลุ่มนายแห่งดาโกยา (Dagoyan masters) ที่จาร์ จาร์ บิงคส์พบเมื่อครั้งไปเยือนบาร์ดอตตา และเหล่าสตรีพี่น้องแห่งดาโธมีร์ เป็นต้น
ด้านมืดแห่งพลัง
ด้านมืดของพลัง, ถูกเรียกว่าโบกันโดยเจไดโบราณ, เป็นเครื่องมือหลักของซิธลอร์ด, และเป็นด้านที่มีพลังทำลายมากกว่าในด้านอื่นของพลัง ต่างกับด้านสว่างของพลัง, ผู้ใช้ด้านมืดมีพลังจากอารมณ์, ทั้งด้านบวกและลบ; พลังมาจากความแข็งแกร่งและรุนแรง ในขณะที่ด้านสว่างนั้นเกี่ยวข้องกับการสร้างและชีวิต, ด้านมืดนั้นเกี่ยวข้องกับความตายและการทำลาย ผู้ใช้พลังที่ซึ่งเดินบนทางของด้านมืดจะถูกเรียกว่าผู้อยู่ด้านมืด
ใช่, ความแข็งแกร่งของเจไดมาจากพลัง แต่จงระวังด้านมืดเอาไว้ โกรธ, กลัว, เกรี้ยวกราด ด้านมืดของพลังคือพวกมัน ง่ายกว่าที่จะเข้าร่วมขณะเจ้าต่อสู้ เมื่อใดที่เจ้าจมดิ่งสู่ด้านมืด, มันจะครอบงำชะตากรรมของเจ้าตลอดไป กลืนกินเจ้า, มันจะทำ…เหมือนอย่างที่มันทำกับศิษย์ของโอบีวัน
— โยดาพูดกับลุค สกายวอล์คเกอร์, สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 5 : จักรวรรดิโต้กลับ
แหล่งข้อมูลอื่น