แต่ไม่ว่าเขาจะมีแหล่งข้อมูลมาจากที่ใด ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Historia Regum Britanniae ของเจฟฟรีย์ส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมยุคหลังเป็นอย่างมาก มีงานเขียนฉบับคัดลอกจากต้นฉบับภาษาละตินของเจฟฟรีย์หลงเหลือมาถึงปัจจุบันมากกว่า 200 ฉบับ ทั้งนี้ยังไม่รวมฉบับที่แปลออกไปเป็นภาษาอื่น ๆ อีก[46] เช่นมีต้นฉบับของ Historia ในภาษาเวลส์มากกว่า 60 ฉบับ ฉบับที่เก่าแก่ที่สุดพบว่าเขียนขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ผลจากความนิยมอย่างสูงนี้ Historia Regum Britanniae ของเจฟฟรีย์จึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อวิวัฒนาการของตำนานอาร์เทอร์ในยุคกลางตอนปลาย ซึ่งไม่เพียงจะเป็นแรงผลักดันในจินตนาการเกี่ยวกับวีรกรรมของอาร์เทอร์เท่านั้น แต่ทุกเสี้ยวส่วนในตำนานล้วนได้รับการหยิบยืมไปพัฒนาแตกหน่อขยายเรื่องราวออกไป (ตัวอย่างเช่น เรื่องของพ่อมดเมอร์ลิน และชะตากรรมสุดท้ายของอาร์เทอร์) และได้สร้างกรอบทางประวัติศาสตร์ขึ้นให้กับเหล่าผู้นิยมนิทานโรแมนซ์ เรื่องราวของเวทมนตร์อันศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนการผจญภัยอันน่ามหัศจรรย์[47]
อาร์เทอร์ และข้าราชบริพารของเขายังปรากฏอยู่ในงานเขียนบางส่วนใน Lais ของ มารี เดอ ฟรังซ์[54] แต่งานที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคือกวีนิพนธ์ของกวีชาวฝรั่งเศส เครเตียง เดอ ทรัว (Chrétien de Troyes) ซึ่งส่งผลให้ตัวละคร "อาร์เทอร์" และตำนานของพระองค์วิวัฒนาการไปอย่างมาก[55] เครเตียงเขียนวรรณกรรมโรแมนซ์เกี่ยวกับตำนานอาร์เทอร์ 5 เรื่องระหว่างปี ค.ศ. 1170 ถึง 1190 Erec and Enide และ Cligès เป็นนิทานเกี่ยวกับความรักในวังหลวงโดยมีราชสำนักของอาร์เทอร์เป็นฉากหลังของเรื่อง แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากเรื่องราวเชิงวีรบุรุษของเวลส์และวรรณกรรมแบบกัลฟริเดียน ขณะที่ Yvain, the Knight of the Lion เป็นเรื่องของ ยไวน์ กับ กาเวน ในการผจญภัยเหนือจินตนาการ ส่วนอาร์เทอร์เป็นแค่ตัวประกอบ ทว่าการพัฒนาการของตำนานอาร์เทอร์ส่วนที่มีนัยสำคัญมากที่สุดคือเรื่อง Lancelot, the Knight of the Cart ที่เป็นนิยายแนะนำตัวแลนเซอล็อตและเบิกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกวินิเวียร์ ราชินีของอาร์เทอร์ เป็นการขยายแต่งเติมเพิ่มประเด็นความรักที่ผิดหวังของอาร์เทอร์ Perceval, the Story of the Grail เป็นตัวนำเรื่องของจอกศักดิ์สิทธิ์และกษัตริย์ตกปลา (Fisher King) ให้โด่งดัง และเช่นเดียวกับเรื่องอื่น ๆ คือบทบาทของอาร์เทอร์ถูกตัดทอนลงเหลือเพียงน้อยนิด[56] เครเตียงได้ทำให้ "แต่งแต้มตำนานของอาร์เทอร์ให้มีชีวิตชีวา และสร้างความสับสนให้กับตำนานมากยิ่งขึ้น"[55] เรื่องราวโดยมากที่เกิดขึ้นหลังจากยุคของเขาได้สร้างภาพพจน์ของอาร์เทอร์ขึ้นจากพื้นฐานที่เขาสร้างเอาไว้ เรื่องของเพอร์ซิวาลที่แม้จะยังไม่จบ ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก มีการประพันธ์บทกวีเกี่ยวกับเขาอย่างต่อเนื่องไปกว่าครึ่งศตวรรษ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับจอกศักดิ์สิทธิ์และภารกิจการค้นหา ซึ่งต่อมานักเขียนคนอื่น ๆ ก็นำไปประพันธ์ต่อเติมอีก เช่น โรเบิร์ต เดอ โบรอน นับว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ลดบทบาทของอาร์เทอร์ลงไปในวรรณกรรมโรแมนซ์บนแผ่นดินใหญ่[57] ในทำนองเดียวกัน เรื่องของแลนเซอล็อตกับการที่เขาหักหลังอาร์เทอร์ก็กลายเป็นหนึ่งในโครงเรื่องคลาสสิกเกี่ยวกับตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ แม้ว่าบทบาทของแลนเซอล็อตในงานเขียนยุคต่อมา เช่น Lancelot (ค.ศ. 1225) จะประสมประสานกันระหว่างแลนเซอล็อตในงานของเครเตียง กับ Lanzelet ของ Ulrich von Zatzikhoven ก็ตาม[58] ผลงานของเครเตียงยังส่งอิทธิพลกลับไปยังวรรณกรรมเกี่ยวกับอาร์เทอร์ในเวลส์ด้วย เมื่อบทบาทเชิงโรแมนซ์ของอาร์เทอร์เริ่มเข้ามาแทนที่วีรบุรุษอันห้าวหาญในขนบดั้งเดิมของวรรณกรรมเวลส์[52] ผลงานอันโดดเด่นที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการนี้ คือนิยายโรแมนซ์ของเวลส์ 3 เรื่องที่มีความคล้ายคลึงกับตำนานของเครเตียงมาก เพียงแตกต่างในรายละเอียดเล็กน้อย ได้แก่ Owain, or the Lady of the Fountain คล้ายกับเรื่องของ ยไวน์ ในงานของเครเตียง, Geraint and Enid คล้ายคลึงกับ Erec and Enide, และ Peredur son of Efrawg คล้ายคลึงกับเรื่องของเพอร์ซิวาล[59]
ตราบถึงคริสต์ทศวรรษ 1210 การเล่าเรื่องราวตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์บนภาคพื้นทวีปยุโรปจะดำเนินผ่านบทกวี หลังจากนั้นจึงเริ่มมีการเล่าเป็นนิทานแบบร้อยแก้ว ตัวอย่างงานร้อยแก้วที่สำคัญที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 13 คือ Vulgate Cycle (หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Lancelot-Grail Cycle) เป็นงานร้อยแก้วภาษาฝรั่งเศสยุคกลาง 5 เรื่องต่อเนื่องกัน เขียนขึ้นในช่วงครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษนั้น[60] งานเขียนทั้ง 5 เรื่องได้แก่ Estoire del Saint Grail, Estoire de Merlin, Lancelot propre, Queste del Saint Graal และ Mort Artu เมื่อรวมกันเข้าจะได้เป็นเรื่องเล่าเกือบครึ่งหนึ่งของตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์ทั้งหมด ตำนานเหล่านี้ทำให้แนวโน้มบทบาทของอาร์เทอร์ในตำนานของตัวเองลดน้อยลงเรื่อย ๆ ทั้งจากการเพิ่มบทบาทของกาลาฮัด และบทบาทที่เสริมเติมแต่งไปอย่างมากของเมอร์ลิน ทั้งยังสร้างให้มอร์เดร็ดกลายเป็นลูกนอกสมรสของอาร์เทอร์กับน้องสาวของตัวเอง บทบาทของคาเมล็อตก็เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในเรื่อง Lancelot ของเครเตียง ในฐานะราชสำนักดั้งเดิมของอาร์เทอร์[61] เรื่องราวเหล่านี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องใน Post-Vulgate Cycle (ค.ศ. 1230–40) โดยมีเรื่อง Suite du Merlin เป็นเรื่องเอก ลดบทบาทความสำคัญของเรื่องราวระหว่างแลนเซอล็อตกับกวินิเวียร์ลง หันไปเอาใจใส่กับภารกิจการค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น[60] แต่บทบาทของอาร์เทอร์ก็ยังน้อยนิดเหมือนเดิม อาร์เทอร์ยังคงเป็นตัวละครประกอบในนิยายโรแมนซ์ของฝรั่งเศส สำหรับในชุดตำนาน Vulgate นั้น เขาได้ปรากฏตัวเพียงในตอน Estoire de Merlin และ Mort Artu เท่านั้น
การพัฒนาของวรรณกรรมอาร์เทอร์ในยุคกลางตลอดจนบุคลิกของตัวละครอาร์เทอร์ในแบบโรแมนซ์ นำไปสู่ผลงาน Le Morte d'Arthur ของโทมัส มาโลรี ที่นำเรื่องเล่าตำนานทั้งหมดมาเล่าใหม่เป็นเรื่องเดียวกันในฉบับภาษาอังกฤษ ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 งานเขียนของมาโลรีเรื่องนี้เดิมใช้ชื่อว่า The Whole Book of King Arthur and of His Noble Knights of the Round Table โดยอ้างอิงเนื้อหาจากวรรณกรรมโรแมนซ์เรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Vulgate Cycle ถือเป็นผลงานที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับอาร์เทอร์เอาไว้ได้อย่างครบถ้วนที่สุด[62] ด้วยเหตุนี้ และด้วยเหตุที่ Le Morte D'Arthur เป็นวรรณกรรมฉบับพิมพ์เล่มแรก ๆ ในอังกฤษ (ตีพิมพ์โดย วิลเลียม แคกซ์ตัน ในปี ค.ศ. 1485) จึงทำให้งานเขียนอื่น ๆ เกี่ยวกับอาร์เทอร์ในยุคหลัง ล้วนพัฒนาต่อมาจากผลงานของมาโลรีทั้งสิ้น[63]
การดัดแปลงและตำนานยุคใหม่
วรรณกรรมหลังยุคกลาง
การสิ้นสุดลงของยุคกลาง ทำให้ความสนใจในตำนานพระเจ้าอาร์เทอร์เสื่อมถอยลงไปด้วย แม้งานแปลฉบับภาษาอังกฤษของ มาโลรี จากนิยายโรแมนซ์ฝรั่งเศสอันยิ่งใหญ่จะยังเป็นที่นิยม แต่ก็ได้กระพือการโจมตีเรื่องข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในนิยายอาร์เทอร์ทั้งหลาย นับตั้งแต่ยุคของเจฟฟรีย์แห่งมอนมัทเป็นต้นมา เพื่อค้นหาความถูกต้องของตำนานแห่งบริเตน ด้วยเหตุนี้ การที่นักมานุษยวิทยาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โพลีโดเร เวอร์จิล ปฏิเสธอาร์เทอร์ในฐานะกษัตริย์ผู้ปกครองคนหนึ่งในยุคหลังอาณาจักรโรมัน จึงโด่งดังมาก แนวคิดนี้พบได้ทั่วไปในวรรณกรรมแบบโพสต์-กัลฟรีเดียน ช่วงกลาง[64] การเปลี่ยนแปลงทางสังคมอันเป็นผลสืบเนื่องจากการสิ้นสุดของยุคกลาง รวมถึงการเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ล้วนช่วยกันลบอาร์เทอร์กับตำนานของเขาออกจากความคิดจิตใจอันตราตรึงของเหล่าผู้ฟัง เห็นได้จากในปี 1634 งานพิมพ์ Le Morte d'Arthur ครั้งสุดท้ายของมาโลรีก็ยังตกค้างอยู่เป็นเวลาเกือบ 200 ปี[65] พระเจ้าอาร์เทอร์กับตำนานของพระองค์ไม่ได้ถูกทอดทิ้งไปเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เป็นที่สนใจอย่างจริงจังตราบจนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยมากแล้วจะใช้เป็นเครื่องอุปมาอุปไมยสำหรับกิจการเมืองในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17-18[66] เช่นในงานมหากาพย์ Prince Arthur (1695) และ King Arthur (1697) ของ ริชาร์ด แบล็กมอร์ ก็ใช้อาร์เทอร์เป็นตัวแทนในการต่อสู้ของพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 ต่อต้านกับพระเจ้าเจมส์ที่ 2[66] วรรณกรรมเกี่ยวกับอาร์เทอร์ที่นิยมมากที่สุดในช่วงยุคนี้เห็นจะได้แก่ผลงานของ ทอม ทัมบ์ ซึ่งในตอนแรกเผยแพร่ทางหนังสือสวดมนต์ และต่อมาก็นำไปแสดงเป็นละครเวทีโดย เฮนรี ฟิลดิ้ง แม้ว่าการแสดงจะบอกว่าเกิดขึ้นในเกาะบริเตนของอาร์เทอร์ แต่เนื้อหากลับสื่อไปในทางขำขัน และอาร์เทอร์ก็ได้เปลี่ยนโฉมเป็นละครตลกแทนที่แนวโรแมนซ์[67]
เทนนีสัน และยุคฟื้นฟู
ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 แนวคิดแบบ medievalismศิลปะจินตนิยม และ สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค ได้หวนกลับมาให้ความสำคัญกับอาร์เทอร์และวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลางอีกครั้ง ความมีคุณธรรมของสุภาพบุรุษในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีพื้นฐานแบบอุดมคติอยู่กับบุคลิกของอาร์เทอร์ในแบบโรแมนซ์ สามารถสังเกตความนิยมอีกครั้งนี้จากการตีพิมพ์เรื่อง Le Morte d'Arthur ของมาโลรีซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งแรกหลังจากปี 1634[65] ตำนานอาร์เทอร์ในยุคกลางแบบดั้งเดิมมักจะเป็นที่สนใจของกวี และเป็นแรงบันดาลใจให้ประพันธ์ผลงานต่าง ๆ เช่น วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ เขียนเรื่อง "The Egyptian Maid" ในปี ค.ศ. 1835 ในทำนองเปรียบเปรยกับจอกศักดิ์สิทธิ์[68] ผลงานที่โดดเด่นในยุคนี้เป็นของอัลเฟรด ลอร์ด เทนนีสัน ผู้ประพันธ์บทกวี "The Lady of Shalott" ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1832[69] แม้ว่าอาร์เทอร์จะยังคงได้รับบทเพียงตัวประกอบเช่นเดียวกับในวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลาง แต่งานเขียนเกี่ยวกับตำนานอาร์เทอร์ของเทนนีสันได้สร้างความนิยมสูงสุดจากผลงานเรื่อง Idylls of the King ซึ่งนำเรื่องราวชีวิตของอาร์เทอร์มาบรรยายเสียใหม่ตามขนบของยุควิกตอเรีย ผลงานนี้พิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1859 และจำหน่ายได้ 10,000 ชุดภายในสัปดาห์แรก[70] ในเรื่องนี้ อาร์เทอร์กลายเป็นสัญลักษณ์ของบุรุษในอุดมคติ ผู้พยายามสร้างอาณาจักรอันสมบูรณ์ผาสุกท่ามกลางโลกที่ล่มสลายด้วยน้ำมือมนุษย์ผู้อ่อนแอ[70] งานของเทนนีสันสร้างแรงบันดาลใจต่อนักประพันธ์จำนวนมาก ทำให้สาธารณชนหันมาให้ความสำคัญกับตำนานอาร์เทอร์และตัวพระเจ้าอาร์เทอร์อีกครั้ง รวมถึงพาให้ผลงานของมาโลรีกลับมาสู่ความนิยมของผู้อ่าน[71] มีงานเขียนยุคใหม่ที่พัฒนาจากนิทานอาร์เทอร์ของมาโลรีตีพิมพ์ออกมาหลังจาก Idylls ไม่นานนัก (ค.ศ. 1862) หลังจากนั้นปรับปรุงอีกกว่า 6 ครั้งและมีผู้ประพันธ์เรื่องอื่น ๆ อีก 5 เรื่องก่อนจะสิ้นสุดศตวรรษ[72]
ความสนใจใน "อาร์เทอร์แบบโรแมนซ์" และภารกิจต่าง ๆ ของเขาดำเนินต่อเนื่องไปตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนล่วงเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 20 ส่งอิทธิพลต่อกวีมากมายหลายคน เช่น วิลเลียม มอร์ริส และศิลปินยุคพรีราฟาเอลไลท์มากมาย รวมไปถึง เอ็ดเวิร์ด เบิร์น-โจนส์[70] แม้แต่นิทานตลกขำขันของ ทอม ทัมบ์ ซึ่งนำตำนานอาร์เทอร์มาดัดแปลงเป็นเรื่องแรก ๆ ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ก็ได้รับการเขียนขึ้นใหม่หลังจาก Idylls ตีพิมพ์เผยแพร่ แม้ว่าทอมจะคงระดับของเรื่องและยืนหยัดความขบขันเอาไว้ แต่เรื่องใหม่ของเขาก็มีองค์ประกอบของความเป็นอาร์เทอร์ในวรรณกรรมโรแมนซ์ยุคกลางมากยิ่งขึ้น อาร์เทอร์ดูจริงจังมากขึ้นและมีตัวมีตนมากขึ้นในฉบับเรียบเรียงใหม่[9] ตำนานอาร์เทอร์แบบโรแมนซ์ยังส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมในสหรัฐอเมริกาด้วย จากผลงานหนังสือหลายเรื่อง เช่น The Boy's King Arthur ของ Sidney Lanier ในปี ค.ศ. 1880 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางและส่งแรงบันดาลใจต่องานเขียนล้อเลียนเรื่อง A Connecticut Yankee in King Arthur's Court ของ มาร์ค ทเวน (ค.ศ. 1889)[73] แม้ว่า "อาร์เทอร์แบบโรแมนซ์" จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของวรรณกรรมอาร์เทอร์ยุคใหม่ (เช่นที่ปรากฏใน The Last Sleep of Arthur in Avalon ของ เบิร์น-โจนส์) แต่บ่อยครั้งที่เขากลับไปสู่สถานะเดียวกับอาร์เทอร์ในยุคกลาง คืออยู่เพียงขอบข้างของเนื้อเรื่องหรือบางครั้งก็หายตัวไปเลย ตัวอย่างเช่นในละครโอเปร่าเกี่ยวกับตำนานอาร์เทอร์ของ วากเนอร์ เป็นต้น[74] อย่างไรก็ดี การฟื้นฟูความสนใจในตำนานอาร์เทอร์มิได้ดำเนินต่อเนื่องไปโดยตลอด เมื่อสิ้นสุดคริสต์ศตวรรษที่ 19 เรื่องราวของอาร์เทอร์ก็ตกไปอยู่ในรูปเลียนแบบของพวกพรีราฟาเอลไลท์[75] เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เกียรติยศศักดิ์ศรีของการต่อสู้ประลองของวีรบุรุษแบบยุคกลางก็ค่อย ๆ เลือนหายไป ภาพของอาร์เทอร์ในฐานะนักรบผู้ทรงเกียรติศักดิ์ก็เลือนหายไปด้วย[76] ทว่าขนบแบบโรแมนซ์ยังคงมีพลังเพียงพอจะส่งอิทธิพลต่อ โทมัส ฮาร์ดี ลอเรนซ์ บินยอน และ จอห์น เมสฟิลด์ ในการประพันธ์ละครเพลงเกี่ยวกับอาร์เทอร์[77][78][79]ที. เอส. อีเลียต ยังได้กล่าวถึงบางส่วนของตำนานอาร์เทอร์ (ไม่ใช่ตัวอาร์เทอร์) ในกวีนิพนธ์ของเขาเรื่อง The Waste Land โดยได้อ้างถึงกษัตริย์ตกปลา (Fisher King)[80]
วรรณกรรมยุคใหม่
ในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 อิทธิพลของอาร์เทอร์ในขนบแบบโรแมนซ์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยปรากฏในนวนิยายหลายเรื่อง เช่น The Once and Future King ของ ที. เอช. ไวท์ (ค.ศ. 1958) The Mists of Avalon ของ มาเรียน ซิมเมอร์ แบรดลีย์ (ค.ศ. 1982) รวมถึงในการ์ตูนสั้นเรื่อง Prince Valiant (ตั้งแต่ ค.ศ. 1937 เป็นต้นมา)[81][82] เทนนีสันได้เรียบเรียงนิยายโรแมนซ์เกี่ยวกับอาร์เทอร์ของเขาเสียใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัย งานเขียนหลาย ๆ เรื่องก็ได้ดัดแปลงเนื้อหาให้มีความทันสมัยมากขึ้นด้วย เช่นในนิทานของแบรดลีย์ มีบทบาทของฝ่ายสตรีในตำนานอาร์เทอร์มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับงานเขียนเกี่ยวกับตำนานอาร์เทอร์ในยุคกลาง[83] อาร์เทอร์แบบโรแมนซ์ยังกลายเป็นที่นิยมอย่างมากในโลกภาพยนตร์ ละครเพลงเรื่อง Camelot ซึ่งมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับความรักระหว่างแลนเซอล็อตกับกวินิเวียร์ ได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1967 ขนบแบบโรแมนซ์ของตำนานอาร์เทอร์กลายเป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยผลงานของโรเบิร์ต เบรสสัน เรื่อง Lancelot du Lac (ค.ศ. 1974) งานของอีริค โรห์เมอร์ เรื่อง Perceval le Gallois (ค.ศ. 1978) รวมไปถึงผลงานภาพยนตร์แฟนตาซีของจอห์น บัวร์แมน เรื่อง Excalibur (ค.ศ. 1981)[84]
↑ 4.04.1Charles-Edwards, Thomas M. (1991) , "The Arthur of History", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, Cardiff: University of Wales Press, pp. 15–32, ISBN 978-0708311073 .
↑ 5.05.15.2Sims-Williams, Patrick (1991) , "The Early Welsh Arthurian Poems", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, Cardiff: University of Wales Press, pp. 33–71, ISBN 978-0708311073 .
↑ 6.06.1Thorpe, Lewis, ed. (1966) , Geoffrey of Monmouth, The History of the Kings of Britain, Harmondsworth: Penguin, OCLC3370598.
↑ 7.07.17.27.3Padel, O. J. (1994) , "The Nature of Arthur", Cambrian Medieval Celtic Studies (27) : 1–31 .
↑Dumville, D. N. (1986) , "The Historical Value of the Historia Brittonum", Arthurian Literature (6) : 1–26 .
↑Charles-Edwards, Thomas M. (1991) , "The Arthur of History", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, Cardiff: University of Wales Press, pp. 15–32, ISBN 978-0708311073.
↑Morris, John (1973) , The Age of Arthur: A History of the British Isles from 350 to 650, New York: Scribner, ISBN 978-0684133133.
↑Myres, J. N. L. (1986) , The English Settlements, Oxford: Oxford University Press, ISBN 978-0192822352.
↑ 24.024.124.2Koch, John T. (1996) , "The Celtic Lands", in Lacy, Norris J., Medieval Arthurian Literature: A Guide to Recent Research, นิวยอร์ก: Garland, pp. 239–322, ISBN 978-0815321606.
↑Griffen, Toby D. (8 April 1994) (PDF) , Arthur's Name, Celtic Studies Association of North America, เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-05-22 . Conference paper.
↑Williams, Sir Ifor, ed. (1937) (เป็นภาษาเวลส์) , Canu Aneirin, Caerdydd [คาร์ดิฟฟ์]: Gwasg Prifysgol Cymru [สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์], OCLC 13163081 .
↑Charles-Edwards, Thomas M. (1991) , "The Arthur of History", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, pp. 15–32, ISBN 978-0708311073.
↑บทแปลกวีนิพนธ์ชุดนี้แบบออนไลน์ไม่ทันสมัยและมีความผิดพลาดค่อนข้างมาก โปรดดูบทแปลฉบับเต็มใน Haycock 2007, pp. 293–311, และบทวิพากษ์วิจารณ์ส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาร์เทอร์ ใน Green 2007b, p. 197.
↑ดูเพิ่มใน Green 2007b, pp. 54–67 และ Budgey 1992 ซึ่งได้รวบรวมคำแปลต่าง ๆ เอาไว้ด้วย
↑Koch, John T.; Carey, John (1994) , The Celtic Heroic Age: Literary Sources for Ancient Celtic Europe and Early Ireland and Wales, Malden, MA: Celtic Studies Publications, ISBN 978-0964244627.
↑For a discussion of the tale, see Bromwich & Evans 1992; see also Padel 1994, pp. 2–4; Roberts 1991a; and Green 2007b, pp. 67–72 and chapter three.
↑Bromwich, Rachel (1978) , Trioedd Ynys Prydein: The Welsh Triads, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, ISBN 978-0708306901. Second ed.
↑ 34.034.1Roberts, Brynley F. (1991a) , "Culhwch ac Olwen, The Triads, Saints' Lives", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, pp. 73–95, ISBN 978-0708311073 .
↑ฉบับแปลดูใน Coe & Young 1995, pp. 22–27. สำหรับนิทานเกี่ยวกับกลาสเตินเบอรี่และโลกหลังความตาย ดูใน Sims-Williams 1991, pp. 58–61.
↑White, Terence Hanbury (1958) , The Once and Future King, London: Collins, OCLC 547840.
↑Thorpe, Lewis, ed. (1966) , Geoffrey of Monmouth, The History of the Kings of Britain, Harmondsworth: Penguin, OCLC 3370598.
↑Geoffrey of Monmouth, Historia Regum Britanniae Book 8.19–24, Book 9, Book 10, Book 11.1–2
↑ 41.041.141.2Roberts, Brynley F. (1991b) , "Geoffrey of Monmouth, Historia Regum Britanniae and Brut Y Brenhinedd", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, pp. 98–116, ISBN 978-0708311073.
↑Bromwich, Rachel (1978) , Trioedd Ynys Prydein: The Welsh Triads, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, ISBN 978-0708306901 . Second ed.
↑Brooke, Christopher N. L. (1986) , The Church and the Welsh Border in the Central Middle Ages, Woodbridge: Boydell, ISBN 978-0851151755.
↑Ashe, Geoffrey (1985) , The Discovery of King Arthur, Garden City, NY: Anchor Press/Doubleday, ISBN 978-0385190329.
↑Padel, O. J. (Fall, 1995) , "Recent Work on the Origins of the Arthurian Legend: A Comment", Arthuriana 5 (3) : 103–14.
↑Crick, Julia C. (1989) , The "Historia regum Britanniae" of Geoffrey of Monmouth. 3: A Summary Catalogue of the Manuscripts, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, ISBN 978-0859912136.
↑Ashe, Geoffrey (1996) , "Geoffrey of Monmouth", in Lacy, Norris, The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 179–82, ISBN 978-1568654324.
↑Stokstad, M. (1996) , "Modena Archivolt", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 324–326, ISBN 978-1568654324.
↑Bromwich, Rachel (1983) , "Celtic Elements in Arthurian Romance: A General Survey", in Grout, P. B.; Diverres, Armel Hugh, The Legend of Arthur in the Middle Ages, วู้ดบริดจ์: Boydell and Brewer, pp. 41–55, ISBN 978-0859911320 . Bromwich, Rachel (1991) , "First Transmission to England and France", in Bromwich, Rachel; Jarman, A. O. H.; Roberts, Brynley F., The Arthur of the Welsh, คาร์ดิฟฟ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งเวลส์, pp. 273–98, ISBN 978-0708311073.
↑ 50.050.1Morris, Rosemary (1982) , The Character of King Arthur in Medieval Literature, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, ISBN 978-0847671182.
↑ดูตัวอย่างใน Geoffrey of Monmouth, Historia Regum Britanniae Book 10.3.
↑ 52.052.1Padel, O. J. (2000) , Arthur in Medieval Welsh Literature, Cardiff: University of Wales Press, ISBN 978-0708316825.
↑Lacy, Norris J. (1996a) , "Character of Arthur", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 16–17, ISBN 978-1568654324.
↑Burgess, Glyn S.; Busby, Keith, eds. (1999) , The Lais of Marie de France, ลอนดอน: เพนกวิน, ISBN 978-0140447590 . 2nd. ed.
↑ 55.055.1Lacy, Norris J. (1996b) , "Chrétien de Troyes", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 88–91, ISBN 978-1568654324.
↑Kibler, William; Carroll, Carleton W., eds. (1991) , Chrétien de Troyes: Arthurian Romances, ลอนดอน: เพนกวิน, ISBN 978-0140445213.
↑Roach, William, ed. (1949–83) , The Continuations of the Old French 'Perceval' of Chrétien de Troyes, ฟิลาเดลเฟีย: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งฟิลาเดลเฟีย, OCLC 67476613 . 5 vols.
↑Ulrich, von Zatzikhoven (2005) , Lanzelet, นิวยอร์ก: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย, ISBN 978-0231128698 . Trans. Thomas Kerth.
↑ดูเพิ่มใน Jones & Jones 1949 สำหรับงานแปลวรรณกรรมทั้งสามเรื่องนี้
↑ 60.060.1Lacy, Norris J. (1992–96) , Lancelot-Grail: The Old French Arthurian Vulgate and Post-Vulgate in Translation, นิวยอร์ก: Garland, ISBN 978-0815307570 . 5 vols.
↑ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนีได้จาก Burns, E. Jane (1985) , Arthurian Fictions: Re-reading the Vulgate Cycle, โคลัมบัส: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ, ISBN 978-0814203873.
↑อ่านเรื่องเกี่ยวกับมาโลรีและงานเขียนของเขาได้จาก : Field, P. J. C. (1993) , The Life and Times of Sir Thomas Malory, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, ISBN 978-0585165707.; Field, P. J. C. (1998) , Malory: Texts and Sources, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, ISBN 978-0859915366.
↑Vinaver, Sir Eugène, ed. (1990) , The Works of Sir Thomas Malory, ออกซฟอร์ด: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด, ISBN 978-0198123460 . Third, revised, ed.
↑Carley, J. P. (1984) , "Polydore Vergil and John Leland on King Arthur: The Battle of the Books", Interpretations (15) : 86–100.
↑ 65.065.1Parins, Marylyn Jackson (1995) , Sir Thomas Malory: The Critical Heritage, ลอนดอน: Routledge, ISBN 978-0415134002.
↑ 66.066.1Ashe, Geoffrey (1968) , "The Visionary Kingdom", in Ashe, Geoffrey, The Quest for Arthur's Britain, ลอนดอน: Granada, ISBN 0586080449
↑ดูรายละเอียดใน : Potwin, L. S. (1902) , "The Source of Tennyson's 'The Lady of Shalott'", Modern Language Notes 17 (8) : 237–239, doi:10.2307/2917812. ว่าด้วยแหล่งข้อมูลที่เทนนีสันใช้ในการประพันธ์ผลงาน
↑ 70.070.170.270.3Taylor, Beverly; Brewer, Elisabeth (1983) , The Return of King Arthur: British and American Arthurian Literature Since 1800, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, ISBN 978-0389202783.
↑Simpson, Roger (1990) , Camelot Regained: The Arthurian Revival and Tennyson, 1800–1849, เคมบริดจ์: บริวเวอร์, ISBN 978-0859913003.
↑Staines, D. (1996) , "Tennyson, Alfred Lord", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 446–449, ISBN 978-1568654324.
↑Twain, Mark (1889) , A Connecticut Yankee in King Arthur's Court, นิวยอร์ก: Webster, OCLC 11267671.
↑Watson, Derek (2002) , "Wagner: Tristan und Isolde and Parsifal", in Barber, Richard, King Arthur in Music, เคมบริดจ์: D. S. Brewer, pp. 23–34, ISBN 978-0859917673.
↑Mancoff, Debra N. (1990) , The Arthurian Revival in Victorian Art, นิวยอร์ก: Garland, ISBN 978-0824070403.
↑Workman, L. J. (1994) , "Medievalism and Romanticism", Poetica (39–40) : 1–44.
↑Hardy, Thomas (1923) , The Famous Tragedy of the Queen of Cornwall at Tintagel in Lyonnesse: A New Version of an Old Story Arranged as a Play for Mummers, in One Act, Requiring No Theatre or Scenery, ลอนดอน: Macmillan, OCLC 1124753.
↑Masefield, John (1927) , Tristan and Isolt: A Play in Verse, ลอนดอน: Heinemann, OCLC 4787138.
↑Eliot, Thomas Stearns (1949) , The Waste Land and Other Poems, ลอนดอน: Faber and Faber, OCLC 56866661.
↑White, Terence Hanbury (1958) , The Once and Future King, ลอนดอน: Collins, OCLC 547840.
↑Bradley, Marion Zimmer (1982) , The Mists of Avalon, นิวยอร์ก: Knopf, ISBN 978-0394524061.
↑Lagorio, V. M. (1996) , "Bradley, Marion Zimmer", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 57, ISBN 978-1568654324.
↑Harty, Kevin J. (1996) , "Films", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 152–155, ISBN 978-1568654324.; Harty, Kevin J. (1997) , "Arthurian Film", Arthuriana/Camelot Project Bibliography, เก็บข้อมูลเมื่อ 2008-05-22.
↑Thompson, R. H. (1996) , "English, Arthurian Literature in (Modern)", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 136–144, ISBN 978-1568654324.
↑ตัวอย่างเช่น: The Lantern Bearers (ค.ศ. 1959) และ Sword at Sunset (ค.ศ. 1963) ของโรสแมรี่ ซุตคลิฟฟ์; The Crystal Cave (1970) กับนิยายชุดต่อเนื่องของแมรี่ สจ๊วต; Firelord (1980) กับนิยายชุดต่อเนื่องของพาร์ค ก็อดวิน; Pendragon Cycle (1987–99) ของสตีเฟน ลอว์เฮด; The Coming of the King (1988) ของนิโคไล ตอลสตอย; Camulod Chronicles (1992–97) ของแจ็ค ไวท์; และ The Warlord Chronicles (1995–97) ของเบอร์นาร์ด คอร์นเวลล์ เป็นต้น ดูเพิ่มเติมใน รายชื่อหนังสือเกี่ยวกับพระเจ้าอาร์เทอร์
↑Lacy, Norris J. (1996c) , "Popular Culture", in Lacy, Norris J., The New Arthurian Encyclopedia, นิวยอร์ก: Garland, pp. 363–64, ISBN 978-1568654324.
หนังสืออ่านเพิ่มเติม
Ashe, Geoffrey (1985) , The Discovery of King Arthur, Garden City, NY: Anchor Press/Doubleday, ISBN 978-0385190329.
Budgey, A. (1992) , "'Preiddeu Annwn' and the Welsh Tradition of Arthur", Celtic Languages and Celtic People: Proceedings of the Second North American Congress of Celtic Studies, held in Halifax, August 16–19, 1989, Halifax, Nova Scotia: D'Arcy McGee Chair of Irish Studies, Saint Mary's University, pp. 391–404, ISBN 978-0969625209 .
Coe, John B.; Young, Simon (1995) , The Celtic Sources for the Arthurian Legend, Felinfach, Lampeter: Llanerch, ISBN 978-1897853832.
Haycock, M. (2007) , Legendary Poems from the Book of Taliesin, Aberystwyth: CMCS, ISBN 978-0952747895 .
Gilbert, Adrian; Wilson, Alan; Blackett, Baram (1998) , The Holy Kingdom, London: Corgi, ISBN 978-0552144896.
You Call It PassionPoster teatrikalNama lainHangul열정 같은 소리 하고 있네 Alih Aksara yang DisempurnakanYeoljeong Gateun Sori Hago Itne Sutradara Jeong Gi-hun Produser Jung Du-hwan Ditulis oleh Jeong Gi-hun Seo Yoo-min BerdasarkanYou Call It Passionoleh Lee Hye-rinPemeranPark Bo-young Jung Jae-youngPerusahaanproduksiBanzakbanzak FilmDistributorNEWTanggal rilis 25 November 2015 (2015-11-25) Durasi106 menitNegara Korea Selatan Bahasa Korea PendapatankotorUS$3,45 juta[1...
River system in Mindanao Rio Grande de MindanaoMindanao RiverTamontaka RiverCotabato RiverPulangi RiverDrainage map of Mindanao RiverMindanao River mouthShow map of MindanaoRio Grande de Mindanao (Philippines)Show map of PhilippinesLocationCountryPhilippinesRegionNorthern MindanaoSoccsksargenBARMMProvinceBukidnonMaguindanaoCotabatoCitiesMalaybalayValenciaKidapawanKoronadalCotabato CityPhysical characteristicsSourceKitanglad Mountain Range • locationBrgy. Kalabugao, Impasu...
Brachythecium rutabulum Gewoon dikkopmos Taxonomische indeling Rijk:Plantae (Planten)Stam:Bryophyta (Mossen)Klasse:BryopsidaOrde:HypnalesFamilie:Brachytheciaceae (dikkopmosfamilie)Geslacht:Brachythecium (dikkopmos) Soort Brachythecium rutabulum(Hedw.) Bruch, Schimp. & W.Gümbel (1853) Gewoon dikkopmos, habitus Afbeeldingen op Wikimedia Commons Brachythecium rutabulum op Wikispecies Portaal Biologie Gewoon dikkopmos (Brachythecium rutabulum) is een soort mos uit het geslacht d...
يفتقر محتوى هذه المقالة إلى الاستشهاد بمصادر. فضلاً، ساهم في تطوير هذه المقالة من خلال إضافة مصادر موثوق بها. أي معلومات غير موثقة يمكن التشكيك بها وإزالتها. (ديسمبر 2018) أم عمرو بنت جندب معلومات شخصية الزوج عثمان بن عفان الأولاد مريم بنت عثمان [لغات أخرى]عمرو بن ع
مشروب كحولي يحتوي على الكافيينأحد المشروبات الكحولية التي تحتوي على الكافيينمعلومات عامةالنوع مشروبات كحولية — مشروب محتوي على الكافيين تعديل - تعديل مصدري - تعديل ويكي بيانات المشروب الكحولي المحتوي على الكافيين (بالإنجليزية: Caffeinated alcoholic drink) هو مشروب يحتوي على كلٍ من ...
Part of a series onEthnicity in Baltimore African Americans Africans Appalachians Caribbeans Czechs Ethiopians French Germans Greeks Hispanics and Latinos Irish Italians Jews Koreans Lithuanians Native Americans Poles Russians Syrians Ukrainians White Americans Ethnic press vte The history of the Irish in Baltimore dates back to the early and mid-19th century. The city's Irish-American community is centered in the neighborhoods of Hampden, Canton, Highlandtown, Fell's Point and Locust Point. ...
Artikel ini perlu diwikifikasi agar memenuhi standar kualitas Wikipedia. Anda dapat memberikan bantuan berupa penambahan pranala dalam, atau dengan merapikan tata letak dari artikel ini. Untuk keterangan lebih lanjut, klik [tampil] di bagian kanan. Mengganti markah HTML dengan markah wiki bila dimungkinkan. Tambahkan pranala wiki. Bila dirasa perlu, buatlah pautan ke artikel wiki lainnya dengan cara menambahkan [[ dan ]] pada kata yang bersangkutan (lihat WP:LINK untuk keterangan lebih lanjut...
South African athlete This biography of a living person needs additional citations for verification. Please help by adding reliable sources. Contentious material about living persons that is unsourced or poorly sourced must be removed immediately from the article and its talk page, especially if potentially libelous.Find sources: Janet Lawless – news · newspapers · books · scholar · JSTOR (March 2021) (Learn how and when to remove this template message...
American boxer Hasim RahmanRahman in 2008BornHasim Shariff Rahman (1972-11-07) November 7, 1972 (age 51)Baltimore, Maryland, U.S.Other namesThe RockStatisticsWeight(s)HeavyweightHeight6 ft 2+1⁄2 in (189 cm)Reach82 in (208 cm)StanceOrthodox Boxing recordTotal fights62Wins50Wins by KO41Losses9Draws2No contests1 Hasim Sharif Rahman (born November 7, 1972) is an American former professional boxer who competed from 1994 to 2014. He is a two-time world heavy...
Markthalle in Saint-Lys Die Markthalle in Saint-Lys, einer französischen Gemeinde im Département Haute-Garonne der Region Okzitanien, wurde von 1842 bis 1846 errichtet. Im Jahr 2004 wurde die Markthalle an der Place Nationale als Monument historique klassifiziert.[1] Die Markthalle aus Backsteinmauerwerk wurde nach Plänen des Architekten Edmond Chambert erbaut. Das ovale Gebäude im Stil des Klassizismus ist durch 20 Rundbogenarkaden geöffnet. Die zwei größeren Arkaden bilden di...
Arachidonic acid 5-hydroperoxide Names Preferred IUPAC name (5S,6E,8Z,11Z,14Z)-5-Hydroperoxyicosa-6,8,11,14-tetraenoic acid Identifiers CAS Number 74581-83-2 Y 3D model (JSmol) Interactive image ChemSpider 4446295 Y IUPHAR/BPS 2483 MeSH Arachidonic+acid+5-hydroperoxide PubChem CID 5280778 InChI InChI=1S/C20H32O4/c1-2-3-4-5-6-7-8-9-10-11-12-13-14-16-19(24-23)17-15-18-20(21)22/h6-7,9-10,12-14,16,19,23H,2-5,8,11,15,17-18H2,1H3,(H,21,22)/b7-6-,10-9-,13-12-,16-14+ YKey: JNUUNUQ...
Species of fish Naso fageni juvenile, Western Australia Conservation status Least Concern (IUCN 3.1)[1] Scientific classification Domain: Eukaryota Kingdom: Animalia Phylum: Chordata Class: Actinopterygii Order: Acanthuriformes Family: Acanthuridae Genus: Naso Species: N. fageni Binomial name Naso fageniMorrow, 1954 Synonyms[2] Cyphomycter fageni (Morrow, 1954) Cyphomycter cavallo J. L. B. Smith, 1955 Rhinodactylus baixopindae J. L. B. Smith, 1957 Naso fageni, the ho...
Yakobus 4Surat Yakobus 3:13-4:4 yang tertulis pada sisi recto naskah Papirus 100, yang dibuat sekitar abad ke-3 M.KitabSurat YakobusKategoriSurat-surat AmBagian Alkitab KristenPerjanjian BaruUrutan dalamKitab Kristen20← pasal 3 pasal 5 → Yakobus 4 (disingkat Yak 4) adalah bagian dari Surat Yakobus dalam Perjanjian Baru di Alkitab Kristen.[1][2] Digubah oleh Yakobus, saudara seibu Yesus Kristus.[3] Teks Surat aslinya ditulis dalam bahasa Yunani. Sejumlah nas...
Professional baseball league, highest-level of baseball in South Korea KBO LeagueCurrent season, competition or edition: 2023 KBO League seasonSportBaseballFounded1982; 41 years ago (1982)FounderKBONo. of teams10CountrySouth KoreaMost recentchampion(s)LG Twins (3rd title) (2023)Most titlesKia Tigers (11 titles)TV partner(s)KoreaKBSMBCSBSSPOTVOutside KoreaTSN (Canada)ESPNFox Sports (Asia-Pacific)Official websiteKoreaBaseball.com The KBO League (Korean: KBO 리그), o...
Physiologist (1929–2023) John Graham NichollsNicholls in 2007Born(1929-12-19)19 December 1929London, EnglandDied13 July 2023(2023-07-13) (aged 93)Trieste, ItalyNationalityBritish, SwissAlma materKing's College LondonCharing Cross HospitalUniversity College LondonScientific careerFieldsPhysiologyInstitutionsUniversity College London, Charing Cross Hospital, University of Oxford, Harvard University, Yale University, Stanford University, Biozentrum University of Basel, International ...
גרשם שלוםGershom Scholemשלום ב־1935 לידה 5 בדצמבר 1897ברלין, הקיסרות הגרמנית פטירה 21 בפברואר 1982 (בגיל 84)ירושלים, ישראל ענף מדעי מדעי היהדות, תורת הסוד היהודית מקום מגורים גרמניה, ישראל מקום קבורה בית הקברות סנהדריה מקום לימודים אוניברסיטת מינכן אוניברסיטת הומבולדט של ברלין מנחה לדוקט...
Jeff BridgesJeff Bridges di San Diego Comic-Con tahun 2017LahirJeffrey Leon Bridges4 Desember 1949 (umur 74)Los Angeles, California, Amerika SerikatPekerjaanPemeran, penyanyi, produser, komposerTahun aktif1962–sekarangSuami/istriSusan Geston (1977–sekarang) 3 anak: Isabelle, Jessica dan Hayley Jeffrey Leon Bridges (lahir 4 Desember 1949) adalah seorang aktor berkebangsaan Amerika Serikat. Dia meraih penghargaan Nominasi Academy Award dalam bidang film. Dia menikah dengan Susan ...
Cet article est une ébauche concernant le monde insulaire et la Grèce. Vous pouvez partager vos connaissances en l’améliorant (comment ?) selon les recommandations des projets correspondants. TragonísiNom local (el) ΤραγονήσιGéographiePays GrèceDiocèse décentralisé Diocèse décentralisé d'ÉgéePériphérie Égée-MéridionaleDistrict régional district régional de Mýkonos (d)Dème dème de Mýkonos (d)Baigné par Mer ÉgéeAltitude 83 mCoordonnées 37...