พระธรรมวงศ์มุนี หรือ หลวงปู่วิชัย เมตติโก (5 มิถุนายน พ.ศ. 2453 - 18 มีนาคม พ.ศ. 2556) เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดไผ่ล้อม
พระธรรมวงศ์มุนี หรือ หลวงปู่วิชัย เมตติโก มีนามเดิมว่า วิชัย แจ่มจรัส เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2453 ณ ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพชาวสวนผลไม้ เป็นอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี และเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม (พระอารามหลวง) ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี และท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในจังหวัดจันทบุรีที่มีอายุยืนนานเกินกว่า 100 ปี ในวัยเยาว์เรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดห้องคูหา ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี จากนั้นได้ลาออกเพื่อช่วยเหลือครอบครัวหาเลี้ยงชีพด้วยการทำสวนผลไม้ ต่อมาเมื่อมีอายุครบ 20 ปี ท่านได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดห้องคูหา ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี โดยมีพระครูพิศาลธรรมคุณ วัดไผ่ล้อม เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาหลังอุปสมบท ท่านได้ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดไผ่ล้อม ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ต่อมาหลังจากนั้นท่านจึงได้เรียนพระปริยัติธรรมและสอบได้เป็นนักธรรมตามลำดับดังนี้
ภายหลังจากท่านอุปสมบท ท่านก็ได้เริ่มมีการศึกษาปริยัติธรรม จนกระทั่งท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรีและชั้นโท ณ สำนักเรียนวัดลุ่มมหาชัยชุมพล จังหวัดระยองในปี พ.ศ. 2479 จากนั้นท่านได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรมบาลีณ สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2490 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค นาอจากการศึกษาพระปริยัติธรรม ท่านยังได้ให้ความสนใจศึกษาศาสตร์ในหลายแขนง จนเกิดความชำนาญพิเศษ อาทิ ด้านนวกรรม สามารถแสดงธรรมปาฐกถาสอนประชาชนและคณะสงฆ์จนมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ นอกจากนั้นท่านยังได้ให้การสนับสนุนทางด้านการศึกษาและเป็นประธานการสอบธรรมในพระอารามหลวงในปี พ.ศ. 2499 ก่อนหน้านี้ท่านก็ได้เปิดสำนักเรียนในพระอารามหลวง และเป็นครูสอนนักธรรมและรับเป็นผู้อุปการะโรงเรียนวัดไผ่ล้อม (อินทก์อุทัย) โรงเรียนระดับชั้นประถม ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ในปี พ.ศ. 2497 ต่อมาท่านจึงได้เปิดสำนักแผนกบาลี ที่วัดไผ่ล้อม โดยเป็นผู้จัดหาหนังสือเรียนหลักสูตรนักธรรม และบาลีไวยากรณ์ จัดหาอุปกรณ์การศึกษาถวายแก่นักเรียนผู้ศึกษาทุกรูป ถวายนิตยภัตประจำเดือนให้แก่ครูผู้สอนบาลีไวยากรณ์ และจีดหาปัจจัยเพื่อช่วยเหลือด้านพาหนะในการเดินทางไปสอบที่ต่างจังหวัดแด่พระภิกษุ - สามเณร ท่านเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตาและยังได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่เรียนดีแต่มีฐานะยากจน ปีละ 5 ทุน นาอจากนี้ ท่านได้ประสานขอบริจาคจาคสมทบทุนจำนวน 200,000 บาท จากสำนักส่งเสริมสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อที่จะนำเงินนี้ไปสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติม 1 หลัง ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 - 2530 ท่านได้จัดตั้งสงคราะห์การศึกษานักเรียนระดับชั้นประถม บริจาคเงินนำร่อง จำนวน 10,000 บาท และจัดตั้งกองทุนการศึกษาแด่ภิกษุ - สามเณร เขตพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี จำนวนทุนก่อตั้ง 150,000 บาท ต่อมาท่านก็ได้เป็นหัวหน้าพระธรรมทูต ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ต่อมาท่านก็ได้เป็นประธานในการสร้างพระพุทธไสยาสน์ องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ บรรจุอยู่ในพระอุโบสถหลังใหญ่ สร้างหอบำเพ็ญวิปัสสนากัมมัฏฐาน สร้างกุฏิ หอสวดมนต์ สร้างซุ้มประตูวัดไผ่ล้อม (พระอารามหลวง) สร้างถนนและบูรณปฏิสังขรณ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ อุโบสถหลังใหม่ เจดีย์ เป็นต้น
ท่านได้รับการยกย่องเกียรติคุณจากชาวเมืองจันทบุรี ให้เป็นพระมหาเถระผู้รัตตัญญู เป็นผู้ปฏิบัติชอบตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จนเห็นผลแล้วสอนผู้อื่นให้กระทำตาม เป็นมิ่งขวัญแก่ชาวเมืองภาคตะวันออกมายาวนาน สร้างความปลาบปลื้มยินดีแก่พุทธศาสนิกชนชาวเมืองจันทบุรีเป็นยิ่งนัก ต่อมาท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ชาวจันทบุรีจึงได้จัดงานพิธีฉลองมุทิตาสักการะแด่พระธรรมวงศ์มุนี เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2549 เวลา 10.00 น. โดยมีขบวนแห่รับสัญญาบัตรพัดยศอย่างยิ่งใหญ่ ณ บริเวณหน้าวัดศรีเมือง ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ในฐานะผู้อุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม ศาสนา และประเทศชาติเป็นอเนกนานัปการ ควรค่าแก่การยกย่องประกาศเกียรติคุณ เพื่อเป็นทิฏฐานุคติแก่มหาชนสืบไป [1]
หลวงปู่วิชัย ท่านได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดจันทบุรีด้วยโรคชรา ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2555 และรักษาตัวเป็นระยะเวลา 336 วัน จนกระทั่งท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.59 น. สิริอายุ 102 ปี พรรษาที่ 82 ณ โรงพยาบาลสิริเวช จังหวัดจันทบุรี รวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมเป็นระยะเวลา 58 ปี [2]