บารอน คาร์ล กุสตาฟ เอมิล มันเนอร์เฮม (สวีเดน: Carl Gustaf Emil Mannerheim) เป็นผู้นำกองทัพและรัฐบุรุษชาวฟินแลนด์[1] มันเนอร์เฮมทำหน้าที่เป็นผู้นำกองทัพฝ่ายขาวในสงครามกลางเมืองฟินแลนด์ ผู้สำเร็จราชการแห่งฟินแลนด์ ( ค.ศ. 1918–1919) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังป้องกันฟินแลนด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จอมพลแห่งฟินแลนด์ และประธานาธิบดีแห่งฟินแลนด์คนที่ 6 (ค.ศ. 1944–1946)
มันเนอร์เฮมได้เป็นทหารในกองทัพจักรวรรดิรัสเซีย ได้รับตำแหน่งยศพลโท เขายังมีส่วนในพิธีราชาภิเษกของซาร์นิโคลัสที่ 2 และต่อมาก็มีการพบปะเป็นการส่วนตัวหลายครั้งกับพระเจ้าซาร์ ภายหลังบอลเชวิคก่อการปฏิวัติ ฟินแลนด์ได้ประกาศอิสรภาพแต่ไม่นานก็ได้เข้าพัวพันกับสงครามกลางเมืองระหว่าง"ฝ่ายแดง" ที่สนับสนุนต่อบอลเชวิค และ "ฝ่ายขาว" ซึ่งเป็นกองกำลังทหารของวุฒิสภาแห่งฟินแลนด์ ได้รับการสนับสนุนจากทหารจักรวรรดิเยอรมัน
มันเนอร์เฮมได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำกองทัพฝ่ายขาว สิบสองปีต่อมา เมื่อฟินแลนด์ทำสงครามกับสหภาพโซเวียตถึงสองครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1939 ถึงเดือนกันยายน ค.ศ. 1944 มันเนอร์เฮมได้ประสบความสำเร็จในการนำกองทัพทำการป้องกันประเทศฟินแลนด์ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดของประเทศ ในปี ค.ศ. 1944 เมื่อเห็นโอกาสที่เยอรมันจะพ่ายแพ้สงครามในสงครามโลกครั้งที่สองอย่างชัดแจ้ง มันเนอร์เฮมได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งฟินแลนด์และควบคุมการเจรจาสันติภาพกับสหภาพโซเวียตและสหราชอาณาจักร เขาได้ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 1946 และได้เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1951
ในการสำรวจประเทศฟินแลนด์ใน 53 ปีภายหลังจากที่เขาเสียชีวิต มันเนอร์เฮมได้รับการโหวตว่าเป็นชาวฟินแลนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล[2] เมื่อได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฟินแลนด์และประเทศอื่นๆในบทบาทที่ไม่มีใครเทียบได้ในการก่อตั้งและต่อมาได้รักษาเอกราชของประเทศฟินแลนด์จากรัสเซีย มันเนอร์เฮมได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งฟินแลนด์ในยุคปัจจุบัน[3][4][5][6][7] และเฮลซิงกิ เมืองหลวงฟินแลนด์ได้มีพิพิธภัณฑ์มันเนอร์เฮมที่เป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเขาและช่วงเวลานั้นเรียกว่า "สิ่งที่ใกล้ที่สุดคือ อนุสรณ์แห่งชาติ[ฟินแลนด์]"[8] นอกจากนี้เขายังเป็นชาวฟินแลนด์เพียงคนเดียวที่ได้รับตำแหน่งจอมพล ซึ่งเป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ที่มอบให้แก่นายพลทหารที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะ
<ref>
The New York Times Travel – David Binder4