กลุ่มอาการทารกในครรภ์ได้รับแอลกอฮอล์ (อังกฤษ: fetal alcohol syndrome, FAS) เป็นชุดของความบกพร่องทางร่างกายและจิตใจที่เกิดกับทารกในครรภ์มารดาที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นปริมาณมากระหว่างตั้งครรภ์ แอลกอฮอล์สามารถผ่านรกไปถึงทารก ทำให้การเจริญเติบโตช้าลง น้ำหนักน้อย มีลักษณะเฉพาะเห็นได้จากใบหน้า สมองและเซลล์ประสาทถูกทำลาย ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาทางพฤติกรรมและทางจิตได้ รวมทั้งอาจทำให้เกิดความผิดปกติอื่นๆ ทางร่างกาย[8][9][10] [11] ผลกระทบสำคัญที่สุดของ FAS คือความเสียหายอย่างถาวรต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะสมอง เซลล์สมองและโครงสร้างของสมองที่กำลังพัฒนาอาจมีการเจริญผิดรูป หรือหยุดชะงักลงเมื่อได้รับแอลกอฮอล์ขณะอยู่ในครรภ์ ซึ่งสามารถทำให้มีความพิการทางการนึกคิดและการทำงานของสมองได้ เช่น ความจำไม่ดี สมาธิสั้น ก้าวร้าว ขาดเหตุผล และอาจนำไปสู่ปัญหาต่อเนื่อง เช่น เพิ่มความเสี่ยงของโรคทางจิต ติดยา เป็นต้น[10][12] การได้รับแอลกอฮอล์ไม่ว่าระยะใดของการตั้งครรภ์ล้วนมีความเสี่ยงต่อพัฒนาการทางสมองทั้งสิ้น เพราะสมองมีการพัฒนาตลอดการตั้งครรภ์ไม่ว่าระยะใดๆ[13]
FAS เป็นสาเหตุที่พบบ่อยมากอย่างหนึ่งของภาวะสติปัญญาบกพร่องในประเทศทางตะวันตก[14][15] ความชุกของ FAS ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปอยู่ที่ประมาณ 0.2-2 ใน 1000 การเกิดมีชีพ[16][17] ทั้งนี้ไม่ควรสับสน FAS กับ Fetal Alcohol Spectrum Disorder หรือ FASD (กลุ่มของโรคที่เกี่ยวข้องกับทารกในครรภ์ได้รับทางแอลกอฮอล์ ที่มีลักษณะความรุนแรงหลากหลาย (เป็น spectrum) ) ซึ่งนับรวมโรคหลายโรครวมถึง FAS ด้วย กลุ่มโรคนี้ทั้งหมดพบได้ 1% ของการเกิดมีชีพในสหรัฐอเมริกา (ประมาณ 10 ใน 1000 การเกิดมีชีพ)[18][19][20][21] ประมาณการณ์กันว่าในการดูแลผู้ป่วย FAS คนหนึ่งตลอดชีวิต จะมีค่าใช้จ่ายทั้งด้านการแพทย์และด้านสังคมสูงสุดถึง 800,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 25 ล้านบาท)[22] ผลสำรวจผู้ตั้งครรภ์ในสหรัฐอเมริกาพบว่าผู้ตั้งครรภ์ 10-15% ยังดื่มแอลกอฮอล์อยู่ และเกือบ 30% เคยดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อยครั้งหนึ่งระหว่างตั้งครรภ์[23][24] ปัจจุบัน Surgeon General of the United States, British Department of Health และ Australian Government National Health and Medical Research Council แนะนำตรงกันว่าผู้ตั้งครรภ์ควรงดดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาดตลอดการตั้งครรภ์[25][26][27][28]
มีการทำระบบวินิจฉัยขึ้นในในอเมริกาเหนือหลายระบบ
{{cite journal}}