กรดแอบไซซิก
|
ชื่อ
|
IUPAC name
[ S-( Z,E)]-5-(1-Hydroxy-2,6,6 -trimethyl-4-oxo-2-cyclohexen- 1-yl)-3-methyl-2,4-pentanedienoic acid [1]
|
เลขทะเบียน
|
|
|
|
|
ตัวย่อ
|
ABA
|
ECHA InfoCard
|
100.040.275
|
|
|
InChI=1/C15H20O4/c1-10(7- 13(17)18)5-6-15(19) 11(2)8-12(16)9-14 (15,3)4/h5-8,19H,9H2, 1-4H3,(H,17,18)/b6- 5+,10-7-/t15-/m0/s1/ f/h17H
|
CC1=CC(CC(C)(C)[C@@](/C=C/C(C) =C\C(O)=O)1O)=O
|
คุณสมบัติ
|
|
C15H20O4
|
มวลโมเลกุล
|
264.32 g/mol
|
จุดหลอมเหลว
|
161-163 °C
|
จุดเดือด
|
120 °C (sublimes)
|
|
Chemical compound
กรดแอบไซซิก (อังกฤษ: Abscisic acid) เป็นฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของพืช ทำให้พืชทนต่อสภาวะเครียดต่างๆได้ดี มีบทบาทในการเจริญพัฒนาของเอ็มบริโอ การพักตัวของเมล็ดและของตาพืช พบในพืชที่มีระบบท่อลำเลียงทั่วไป มอสส์ สาหร่าย แต่ไม่พบในลิเวอร์เวิร์ต[2] การออกฤทธิ์ทางสรีรวิทยาที่สำคัญของกรดแอบไซซิกที่สำคัญ ได้แก่ [3] [4]
- ปากใบที่ได้รับกรดแอบไซซิกจะปิดไม่ว่าจะอยู่ในที่มืดหรือสว่าง
- เมื่อพืชอยู่ในดินเค็มหรืออากาศหนาวเย็น พืชจะสร้างกรดแอบไซซิกมากขึ้นเช่นกัน โดยในพืชทนเค็มนั้น กรดแอบไซซิกจะกระตุ้นให้มีการสร้างโปรตีนพิเศษชื่อออสโมตินมากขึ้น
- ผลต่อการงอกของเมล็ด กรดแอบไซซิกมีผลยับยั้งการงอกของเมล็ด ทำให้มีการพักตัวของเอ็มบริโอ จนกว่าเมล็ดเริ่มงอก เอ็มบริโอจึงเริ่มเจริญอีกครั้งหนึ่ง
- การพักตัวของพืช กรดแอบไซซิกเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ทำให้ตาพืชเข้าสู่ระยะพักตัว
- ชักนำการหลุดร่วงและการเสื่อมชรา ผลต่อการหลุดร่วงของกรดแอบไซซิกเป็นผลโดยอ้อม คือไปกระตุ้นให้เซลล์พืชที่แก่สร้างเอทิลีนมากขึ้น
- การควบคุมการสังเคราะห์โปรตีน กรดแอบไซซิกมีผลทำให้การสังเคราะห์โปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตน้อยลง
- กรดแอบไซซิกมีผลในการลดการคายน้ำและเพิ่มการดูดซึมน้ำของราก กระตุ้นการดูดไอออนเข้าสู่ราก ชักนำการเติบโตของราก กระตุ้นการเกิดรากแขนงแต่กดการเจริญของใบ ทำให้ใบมีขนาดเล็กลง
- กรดแอบไซซิกชักนำการออกดอกในพืชวันสั้นและยับยั้งการออกดอกในพืชวันยาว
- ยังยั้งการขยายของเซลล์โดยออกฤทธิ์ในทางตรงกันข้ามกับออกซิน
- กระตุ้นการเคลื่อนไหวที่ตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วง
อ้างอิง
- วันทนี สว่างอารมณ์. 2542. การเจริญและการเติบโตของพืช. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
- สัมฤทธิ์ เฟื่องจันทร์. 2544. สรีรวิทยาการพัฒนาการของพืช. กรุงเทพฯ: คลังนานาวิทยา.