Switched Multi-Megabit Data Service (SMDS) ถูกออกแบบโดย Bell ในปี ค.ศ. 1991 เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมโยงเครือข่ายแบบ WAN ที่ใช้ datagram การสลับ packet ที่มีความเร็วสูง ใช้ในการสื่อสารทั่วเครือข่ายข้อมูลสาธารณะ (PDNs) SMDS สามารถใช้อุปกรณ์เชื่อมโยงที่ทำจากทองแดง หรือเส้นใยนำแสง ช่วยให้เกิดความเร็ว 1.544 Mbps ทั่วบริเวณที่มีการถ่ายทอดสัญญาณดิจิทัล ระดับ 1 (DS-1) หรือ ความเร็ว 44.736 Mbps ทั่วบริเวณที่มีการถ่ายทอดสัญญาณดิจิทัล ระดับ 3 (DS-3) นอกจากนั้น หน่วยข้อมูล SMDS มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับ IEEE 802.3 IEEE802.5 และ ระบบต่อประสานข้อมูลแบบกระจายโดยใช้เส้นใยนำแสง (FDDI) ทั้งหมด
SMDS ได้รับการออกแบบมาสำหรับโปรแกรมประยุกต์ที่มีการส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบอย่างไม่ต่อเนื่อง การใช้งานทั่วไปมักจะเป็นโครงสร้างของระบบเครือข่ายองค์กร (Enterprise Network) ที่เชื่อมต่อระบบ LAN หลายแห่งเข้าด้วยกัน
อุปกรณ์ที่ประกอบขึ้นเป็นเครือข่าย SMDS ได้แก่
สถานที่ของลูกค้า (CPE) และ อุปกรณ์เครื่องส่ง ทำให้มีการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างสองเครือข่าย
เครือข่าย SMDS ประกอบด้วยด้วยอุปกรณ์ที่สำคัญหลายชิ้นที่ใช้ในการให้บริการข้อมูลด้วยความเร็วสูง อุปกรณ์เหล่านี้ ได้แก่ อุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) อุปกรณ์เครื่องส่ง และ อุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายของ subscriber (SNI) CPE เป็นอุปกรณ์เครื่องรับปลายทางที่ลูกค้ามักเป็นเจ้าของและดูแล
CPE ประกอบด้วยอุปกรณ์เครื่องรับปลายทาง เช่น คอมพิวเตอร์เครื่องรับและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และ อุปกรณ์เชื่อมต่อ เช่น routers modems และ multiplexers ซึ่งบางครั้งมีอยู่ในอุปกรณ์เครื่องส่ง อุปกรณ์เครื่องส่ง MSDS มักประกอบด้วย switches WAN ที่มีความเร็วสูงที่ต้องเข้าได้กับข้อมูลจำเพาะ (specification) ของอุปกรณ์เครือข่ายบางอย่าง เช่น ข้อมูลจำเพาะที่ได้จากการวิจัยด้านสื่อสารของเบล (Bellcore)
ข้อมูลจำเพาะเหล่านี้เป็นตัวกำหนดการทำงานของเครือข่าย อุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างเครือข่ายเครื่องส่งภายในองค์กร และ เครือข่ายเครื่องส่งทางไกล และเป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงระหว่าง switches สองตัว ภายในเครือข่ายเครื่องส่งเดียว
SNI เป็นอุปกรณ์เชื่องโยงระหว่างอุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) และอุปกรณ์เครื่องส่ง อุปกรณ์เชื่องโยงนี้เป็นจุดสิ้นสุดเครือข่ายลูกค้า และเป็นจุดเริ่มต้นเครือข่ายของเครื่องส่ง หน้าที่ของ SNI คือทำให้เกิดเทคโนโลยีและการปฏิบัติงานของเครือข่ายเครื่องส่ง SMDS ที่โปร่งใสให้กับลูกค้า
โพรโทคอลที่เชื่อมต่อ SMDS (SIP) ถูกใช้ในการสื่อสารระหว่างระหว่างอุปกรณ์อุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) และ อุปกรณ์เครื่องส่ง SMDS SIP ให้บริการแบบไร้การเชื่อมต่อทั่วทั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายของ subscriber (SNI) ทำให้ CPE เข้าถึงเครือข่าย SMDS SIP เป็นไปตามมาตรฐาน IEEE 802.6 การเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจาย (DQDB) สำหรับถ่ายทอดสัญญาณไปทั่วระบบเครือข่ายระดับเมือง (MANs) การเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจาย (DQDB) ถูกเลือกให้เป็นพื้นฐานของ SIPเพราะเป็นมาตรฐานเปิดที่ช่วยทำให้เกิดลักษณะการให้บริการ SMDS ทั้งหมด นอกจากนั้น การเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจาย (DQDB) ยังถูกออกแบบมาให้เข้าได้กับมาตรฐานการถ่ายทอดสัญญาณของเครื่องส่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และ เข้าได้กับมาตรฐานที่กำลังกำหนดขึ้นสำหรับ Broadband ISDN (BISDN) ซึ่งช่วยทำให้การเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจาย (DQDB) สามารถทำงานร่วมกับ broadband video และ บริการทางด้าน video ต่างๆ
SIP ประกอบด้วย สามระดับ SIP ระดับ 3 ทำงานที่ layer ย่อย Media Access Control (MAC) ของ layer ที่เชื่อมต่อข้อมูลของรูปแบบ OSI SIP ระดับ 2 ทำงานที่ layer ย่อย Media Access Control (MAC) ของ layerที่เชื่อมต่อข้อมูล SIP ระดับ 1 ทำงานที่ layer ที่เห็นได้จากภายนอกของรูปแบบ OSI
การเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจาย (DQDB) เป็นโพรโทคอลในการสื่อสาร layer เชื่อมต่อข้อมูล ออกแบบมาให้ใช้ในเครือข่ายระบบเมือง (MANs) DQDB เป็นตัวกำหนดรูปแบบของเครือข่ายที่ประกอบด้วยการเชื่อมโยงเครือข่ายตามตรรกะซึ่งเชื่อมโยงระหว่างระบบหลายระบบ
กำหนดไว้ในมาตรฐาน IEEE 802.6 DQDB รายละเอียดการเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจายเพื่อเข้าสู่ระบบที่ปรากฏ มีเพียงการทำงานของโพรโทคอลที่มีการเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจาย (ใน SMDS และ SIP) ทั่วอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายของผู้ใช้ (ใน SMDS ทั่ว SNI) การทำงานดังกล่าวแตกต่างจากการทำงานของโพรโทคอลที่มีการเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจาย ในลักษณะอื่น (ยกตัวอย่างเช่น การทำงนของโปรโตรคอลที่มีการเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจาย ระหว่างอุปกรณ์เครื่องส่งสัญญาณ ภายใน เครือข่ายข้อมูลโพรโทคอล (PDN) ในระบบ SMDS )
การเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจายเพื่อเข้าสู่ระบบประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐานของเครือข่าย SMDS ดังนี้
โดยทั่วไป การเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจายเพื่อเข้าสู่ระบบ SMDS ถูกจัดเตรียมในโครงสร้างอุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) หนึ่งเครื่อง หรือ หลายเครื่อง โครงสร้างอุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) หนึ่งเครื่อง ประกอบด้วย switch หนึ่งตัวในเครือข่ายเครื่องส่งสัญญาณ SMDS และ สถานี เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) หนึ่งสถานีที่สถานที่ใช้งานของ subscriber โครงสร้างอุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) ) ที่การเชื่อมต่อเครือข่ายสายรวมแบบกระจายหนึ่งเครื่อง ทำให้เกิดเครือข่ายย่อยสายรวมแบบกระจายสองเครือข่าย การสื่อสารเกิดขึ้นเพียงระหว่าง switch และเครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) หนึ่งเครื่องทั่วอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายของ subscriber ( SNI) ในการเชื่อมต่อแบบอนุกรม เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) จะไม่แย่งกันรับสัญญาณ เพราะไม่มีเครื่องรับ
ในสถานที่ของลูกค้า (CPE) เครื่องอื่นพยายามที่จะเข้ามาในเครือข่าย โครงสร้างภายนอกของ เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) แบบหลายเครื่อง ประกอบด้วย switch หนึ่งตัวในเครือข่ายเครื่องส่งสัญญาณ SMDS และ เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) ที่เชื่อมโยงกันหลายเครื่องในบริเวณที่ subscriber ใช้งาน (ทั้งหมดเป็นของ subscriber รายเดียว) สำหรับโครงสร้างภายนอกของ เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) แบบหลายเครื่อง การสื่อสารระหว่างภายในระหว่างอุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) อาจเกิดขึ้นได้ โดยบางครั้งอาจเห็นได้จาก switch ที่ใช้กับ อุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายของ subscriber ( SNI) และ บางครั้ง อาจไม่เห็น
ในการต่อเชื่อมแบบอนุกรมโดยมีอุปกรณ์หลายชื้น จะทำให้เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) แย่งกันรับสัญญาณ จึงจำเป็นต้องใช้สูตรคำนวณในการเรียงเชื่อมต่อเครือข่ายแบบกระจายซึ่ง ทำให้การเชื่อมต่อโครงสร้าง เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) แบบหลายเครื่องมีความซับซ้อนมากกว่าการเชื่อมต่อโครงสร้าง เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) แบบเครื่องเดียว
ระดับของข้อมูลที่เข้าสู่ระบบเครือข่าย SMDS ช่วยทำให้เครือข่ายของ SMDS มีขอบข่ายข้อกำหนดในการเชื่อมโยงเครือข่ายและความสามารถของอุปกรณ์ที่กว้าง ระดับของข้อมูลที่เข้าสู่ระบบช่วยจำกัดอุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) ในเรื่องของระดับการโอนข้อมูลโดยเฉลี่ยหรือระดับข้อมูลที่สามารถรองรับได้ โดยการกำหนดระดับของข้อมูลที่สามารถโอนได้มากที่สุดและปริมาณข้อมูลระดับสูงสุดที่สามารถให้ทะลักเข้ามาได้ (คำว่า การระเบิด ในบริบทนี้ หมายถึง แนวโน้มของเครือข่ายในการที่จะเผชิญกับข้อมูลที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน) บางครั้งระดับของข้อมูลที่เข้าสู่ระบบเครือข่าย SMDS ถูกนำมาใช้ในแผนการบริหารสินเชื่อ
ในกรณีนี้ สูตรคำนวณแผนการบริหารสินเชื่อสามารถกำหนดและสืบค้นยอดคงเหลือในบัญชีสินเชื่อ สำหรับอุปกรณ์เชื่อมโยงของลูกค้าแต่ละราย เมื่อแพ็คเก็ตถูกส่งเข้าไปในเครือข่าย ยอดคงเหลือในบัญชีสินเชื่อ จะลดลง โดยจะมีการให้สินเชื่อใหม่เป็นระยะจนถึงระดับสูงสุดตามที่กำหนดไว้ การบริหารสินเชื่อถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์เชื่อมโยงสัญญาณดิจิทัล ระดับ 3 ( DS-3) เท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์เชื่อมโยงสัญญาณดิจิทัล ระดับ 1 ( DS-1)
ระดับของข้อมูลที่เข้าสู่ระบบเครือข่าย SMDS ห้าระดับถูกนำมาใช้ในข้อมูลที่มีการส่งด้วยสัญญาณดิจิทัลระดับ 3 (ตามปริมาณข้อมูลที่สามารถรับได้) ปริมาณข้อมูลที่สามารถรับได้ คือ 4 10 16 25 และ 34Mbps
หน่วยข้อมูลโพรโทคอลSMDS เป็นตัวส่ง address ทั้งจากต้นทางและปลายทาง address ของ SMDS เป็นตัวเลข 10 หลัก คล้ายกับหมายเลขโทรศัพท์ในสมัยก่อนการสร้าง address ในเครือข่าย SMDS ทำให้เกิดการสร้าง address กลุ่มและคุณลักษณะเรื่องความปลอดภัย
Address กลุ่ม ของ SMDS ทำให้ address เดียวสามารถอ้างอิงกับอุปกรณ์เครื่องรับในสถานที่ของลูกค้า (CPE) หลายสถานีนี้ ซึ่งกำหนด address ของกลุ่มใน address ปลายทางของหน่วยข้อมูลโพรโทคอล (PDU) เครือข่ายจะสร้างสำเนา PDU ขึ้นมาหลายชุด ซึ่งจะถูกส่งไปยังสมาชิกทุกคนของงกลุ่ม address ของกลุ่มช่วยลดจำนวนของที่มาของเครือข่ายที่จำเป็นสำหรับการกระจายข้อมูล แก้ไข address และ ค้นหาที่มาของเครือข่าย
การสร้าง address ของกลุ่ม ในเครือข่าย SMDS คล้ายกับการทำ multicasting ในการเชื่อมต่อ LANs
SMDS มีคุณลักษณะในเรื่องความปลอดภัยสองลักษณะ ได้แก่ มี address ต้นทางที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีการกรอง address การมี address ต้นทางที่ถูกต้องตามกฎหมายทำให้แน่ใจว่า address ต้นทางของหน่วยข้อมูลโพรโทคอล (PDU) จะถูกส่งไปยังอุปกรณ์เชื่อมโยง
เครือข่ายของ subscriber จากแหล่งกำเนิดข้อมูลนั้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การมี address ต้นทางที่ถูกต้องตามกฎหมายช่วยป้องกันการนำ address ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย ซึ่งการใช้เครือข่ายที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายย่อมหมายถึง address ต้นทางของอุปกรณ์ที่ผิดกฎหมาย การกรอง address ช่วยให้ subscriber สามารถติดตั้งเครือข่ายส่วนตัวที่ใช้จริง โดยแยกออกจากเครือข่ายที่ไม่พึงประสงค์ หาก address ใดไม่ได้รับอนุญาต หน่วยข้อมูลก็จะไม่ถูกส่งไป
bit ที่สำคัญที่สุดสี่ตัวเลขของ address ปลายทางได้แก่ ตัวเลข 0001 ( รหัสเมืองของอเมริกาเหนือที่กำหนดใช้ทั่วโลก) หมายเลข 40 bit ถัดไปเป็นรหัสตัวเลขฐาน 2 ของ address ในเครือข่าย SMDS ที่มีตัวเลข 10 ตัว bit ตัวท้าย 16 ตัว (สำคัญน้อยที่สุด) มักซ่อนอยู่กับตัวเลขอื่นๆ
ตัวเลข การตรวจสอบด้วยส่วนซ้ำซ้อนแบบวน (CRC) ของ Payload ไม่รวมถึงหน่วยข้อมูลที่มีการควบคุมการป้อนข้อมูลเข้าและข้อมูลการควบคุมเครือข่าย
บทความนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล
หมายเหตุ: ขอแนะนำให้จัดหมวดหมู่โครงให้เข้ากับเนื้อหาของบทความ (ดูเพิ่มที่ วิกิพีเดีย:โครงการจัดหมวดหมู่โครงที่ยังไม่สมบูรณ์)