เอจออฟเอ็มไพร์ส
เอจออฟเอ็มไพร์ส (อังกฤษ : Age of Empires ) เป็นชุดวิดีโอเกมวางแผนเรียลไทม์ อิงประวัติศาสตร์ เดิมมีเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์เป็นผู้พัฒนา และเอ็กซ์บ็อกซ์เกมสตูดิโอส์เป็นผู้จัดจำหน่าย เกมแรกของชุด คือ เอจออฟเอ็มไพร์ส ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2540 มีการออกเกมเจ็ดเกม และสปินออฟสามเกม
เอจออฟเอ็มไพร์ส เน้นเหตุการณ์ในทวีปยุโรป แอฟริกาและเอเชีย กินเวลาตั้งแต่ยุคหิน ถึงยุคเหล็ก เกมภาคเสริมสำรวจการก่อตั้งและการขยายจักรวรรดิโรมัน ภาคต่อ เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: เอจออฟคิงส์ มีฉากท้องเรื่องในยุคกลาง ส่วนภาคเสริมเน้นการพิชิตเม็กซิโกของสเปน บางส่วน เกมต่อมาสามเกม เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 สำรวจสมัยใหม่ตอนต้น เมื่อยุโรปกำลังทำให้ทวีปอเมริกาเป็นอาณานิคม และหลายประเทศในทวีปเอเชียกำลังถดถอย เกมล่าสุด เอจออฟเอ็มไพร์สออนไลน์ ใช้แนวทางใหม่เป็นเกมออนไลน์ไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยใช้ เกมฟอร์วินโดวส์ไลฟ์ เกมสปินออฟ เอจออฟมีโธโลจี มีฉากท้องเรื่องอยู่ในสมัยเดียวกับเอจออฟเอ็มไพร์ส แต่เน้นส่วนปรัมปราวิทยาของเทพปกรณัมกรีก อียิปต์และนอร์ส เกมหลักที่สี่ในชุด เอจออฟเอ็มไพร์ส 4 อยู่ระหว่างการพัฒนา
ชุด เอจออฟเอ็มไพร์ส ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์ โดยขายได้กว่า 20 ล้านก๊อปปี นักวิจารณ์ยกให้ความสำเร็จบางส่วนมาจากแก่นประวัติศาสตร์และการเล่นอย่างยุติธรรม ผู้เล่นปัญญาประดิษฐ์ มีข้อได้เปรียบน้อยกว่าในเกมคู่แข่งหลายเกม
เกม
เกมในชุดเน้นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หลายสมัย เอจออฟเอ็มไพร์ส ครอบคลุมเหตุการณ์ระหว่างยุคหิน และยุคคลาสสิก ในทวีปยุโรปและเอเชีย ภาคเสริม ไรซ์ออฟโรม ติดตามการก่อตั้งและความรุ่งเรืองของจักรวรรดิโรมัน ดิเอจออฟคิงส์ และสปินออฟนินเทนโด ดีเอส ติดตามทวีปยุโรปและเอเชียตลอดยุคกลาง เดอะคองคะเรอส์ ภาคเสริมของ เอจออฟคิงส์ มีฉากท้องเรื่องในสมัยเดียวกัน แต่รวมฉากเกี่ยวกับการพิชิตเม็กซิโกของสเปน เอลซิด และอัตติลา เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 และ เดอะวอร์ชีฟส์ เกิดขึ้นระหว่างการทำให้ทวีปอเมริกาเป็นอาณานิคมของยุโรป ภาคเสริมที่สอง ดิเอเชียนไดแนสตีส์ ติดตามความเจริญของทวีปเอเชียในสมัยเดียวกัน เอจออฟเอ็มไพร์สออนไลน์ เน้นอารยธรรมกรีก และอียิปต์ สปินออฟของซีรีส์ เอจออฟมีโธโลจี และภาคเสริม เดอะไททันส์ มีฉากท้องเรื่องระหว่างยุคสำริด แต่เน้นไปยังปรัมปราวิทยา เป็นแก่น แทนที่เน้นประวัติศาสตร์
ชุดหลัก
เอจออฟเอ็มไพร์ส
เอจออฟเอ็มไพร์ส วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2540[ 1] เป็นเกมแรกในชุด เช่นเดียวกับเป็นเกมใหญ่เกมแรกจากเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ [ 2] เป็นเกมวางแผนเรียลไทม์อิงประวัติศาสตร์เกมแรก ๆ ที่มีการสร้าง[ 3] โดยใช้เกมเอนจินจีนี เกมสปอตอธิบายว่าเกมนี้เป็นลูกผสมของ ซิวิไลเซชัน (Civilization ) และ วอร์คราฟต์ (Warcraft )[ 4] เกมให้ผู้เล่นเลือกเล่น 12 อารยธรรมเพื่อพัฒนาจากยุคหินสู่ยุคเหล็ก ภาคเสริม ไรซ์ออฟโรม (Rise of Rome ) ซึ่งไมโครซอฟท์วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2541 ริเริ่มคุณลักษณะใหม่ และอารยธรรมใหม่ 4 แห่ง รวมทั้งโรมัน แม้ทั้งสองเกมจะมีซอฟต์แวร์บั๊ก หลายอย่าง แต่หลายแพทช์ ก็แก้ไขปัญหาได้หลายประการ[ 5] [ 6]
เอจออฟเอ็มไพร์ส โดยทั่วไปได้รับการตอบรับดี แม้มีบทปฏิทรรศน์เชิงลบอย่างสูงอยู่บ้าง เกมสปอตวินจารณ์การออกแบบที่ชวนสับสน ส่วน คอมพิวเตอร์แอนด์วิดีโอเกม ยกย่องเกมว่ามีจุดแข็งทั้งในภาวะเล่นคนเดียวและหลายผู้เล่น[ 7] อะคาเดมีออฟอินเตอร์แอ็กทีฟอาตส์แอนด์ไซเอินซ์ยกให้ เอจออฟเอ็มไพร์ส เป็น "เกมวางแผนคอมพิวเตอร์แห่งปี" 2541[ 8] เกมยังอยู่ในอันดับต้น ๆ ของชาร์ตขายดีอีกหลายปี โดยขายได้กว่าสามล้านหน่วยเมื่อถึงปี 2543[ 9] ไรซ์ออฟโรม ขายได้หนึ่งล้านยูนิตในปี 2543[ 9] และได้คะแนนสะสม 80% จากเกมแรงกิงส์ [ 10]
ในเดือนมิถุนายน 2560 แอดัม อิสกรีน ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของไมโครซอฟท์สตูดิโอส์ประกาศ เอจออฟเอ็มไพร์ส: เดฟินิทีฟเอดิชัน ที่อิเล็กทรอนิกส์เอ็นเตอร์เทนเมนต์เอ็กซ์โป 2017 เกมจะมีกราฟิกส์ที่ได้รับการยกเครื่องที่รองรับความละเอียด 4เค ซาวด์แทร็กที่ทำสำเนาใหม่และการปรับปรุงการเล่นเกมอื่น ๆ และมีแผนวางจำหน่ายในวันที่ 19 ตุลาคม 2560 แต่เลื่อนเป็นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เมื่อมีการวางจำหน่ายในไมโครซอฟท์สโตร์[ 11] [ 12] [ 13] วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ไมโครซอฟท์ประกาศว่าเดฟินิทีฟเอดิชันจะมีการวางขายในสตีมในอนาคต ร่วมกับเดฟินิทีฟเอดิชันของทั้งเอจออฟเอ็มไพร์ส 2 และเอจออฟเอ็มไพร์ส 3 [ 14] [ 15]
เอจออฟเอ็มไพร์ส 2
เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: ดิเอจออฟคิงส์ วางจำหน่ายวันที่ 30 กันยายน 2542 โดยใช้เกมเอนจินจีนี และมีเกมการเล่นคล้ายกับเกมก่อนหน้า[ 16] ดิเอจออฟคิงส์ มีฉากท้องเรื่องในยุคกลางตั้งแต่ยุคมืด จนถึงยุคจักรวรรดิ เปิดให้ผู้เล่นเลือกเล่นอารยธรรมหนึ่งจาก 13 อารยธรรมจากทวีปยุโรป เอเชียและตะวันออกกลาง[ 17]
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2543 ไมโครซอฟท์วางจำหน่ายภาคเสริม เดอะคองคะเรอส์ เพิ่มยูนิตใหม่และห้าอารยธรรมใหม่ ซึ่งรวมอารยธรรมเมโสอเมริกา สองอารยธรรม ได้แก่ มายา และแอซเท็ก [ 18] ดิเอจออฟคิงส์ ประสบความสำเร็จในเชิงคำวิจารณ์มากกว่าสองเกมแรก โดยมีคะแนนเกมแรงกิงส์และเมตาคริติก 92%[ 19] [ 20] ไมโครซอฟท์ส่งมอบเกมกว่าสองล้านก๊อปปีให้ผู้ค้าปลีก และเกมได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมาย[ 21] นักวิจารณ์เห็นตรงกันว่า เดอะคองคะเรอส์ ต่อเติมจาก ดิเอจออฟคิงส์ ได้ดี แม้ยังมีการยกประเด็นเกมการเล่นที่ไม่สมดุล[ 22] ดิเอจออฟคิงส์ และ เดอะคองคะเรอส์ คว้ารางวัล "เกมวางแผนคอมพิวเตอร์แห่งปี" 2543 และ 2544 จากอะคาเดมีออฟอินเตอร์แอ็กทีฟอาตส์แอนด์ไซเอินซ์ ตามลำดับ[ 23] [ 24]
ในเดือนเมษายน 2556 เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: เอชดีเอดิชัน วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มจำหน่ายดิจิทัลสตีม สำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เอชดีเอดิชันยังรวมทั้งเกมดั้งเดิมและภาคเสริม เดอะคองคะเรอส์ ตลอดจนกราฟิกส์ที่มีการปรับสำหรับหน่วยแสดงผลความละเอียดสูง[ 25] ในเดือนพฤศจิกายน 2556 ไมโครซอฟท์วางจำหน่ายภาคเสริมที่สองชื่อ เดอะฟะกอทึน เฉพาะสำหรับ เอชดีเอดิชัน [ 26] ภาคเสริมที่สามชื่อ ดิแอฟริกันคิงดัมส์ มีการวางจไหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2558 เฉพาะสำหรับ เอชดีเอดิชัน เช่นกัน[ 27] ภาคเสริมที่สี่ชื่อ ไรซ์ออฟเดอะราจาส์ มีการวางจำหน่ายในวันที่ 19 ธันวาคม 2559[ 28] เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2560 ไมโครซอฟท์ประกาศ เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: เดฟินิทีฟเอดิชัน [ 29]
ในเดือนมิถุนายน 2561 แอดัม อิสกรีน ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แฟรนไชส์สำหรับเอจออฟเอ็มไพร์ส แบ่งปันสารสนเทศเพิ่มเพิมเกี่ยวกับ เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: เดฟินิทีฟเอดิชัน ที่อิเล็กทรอนิกส์เอ็นเตอร์เทนเมนต์เอ็กซ์โป 2019 เขายืนยันว่า เดฟินิทีฟเอดิชัน อยู่ระหว่างพัฒนาโดยฟะกอทึนเอ็มไพร์ส, แทนทาลัสมีเดียและวิกเค็ดวิชซอฟต์แวร์ เขาประกาศว่าเกมจะใช้กราฟิกส์ 4เคใหม่ การรองรับเอ็กซ์บ็อกซ์ ไลฟ์สำหรับหลายผู้เล่น ความสำเร็จ (achievement) เฉพาะเกม อารยธรรมใหม่สี่อารยธรรม แคมเปญ (campaign) ใหม่สามแคมเปญ ภาวะสังเกตใหม่และคุณลักษณะทัวร์นาเมนต์ และการปรับปรุงเพื่อเพิ่มคุณภาพการเล่นเพิ่มเติม ขณะนี้เวลาวางจำหน่ายตามแถลงคือฤดูใบไม้ร่วงปี 2562[ 30] [ 31] [ 32] เบิร์ด บีกแมน ผู้ร่วมก่อตั้งฟะกอทึนเอ็มไพร์ส ยืนยันเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนว่าจะไม่ถอด เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: เอชดีเอดิชัน ออกจากการวางขายหลังวางจำหน่าย เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: เดฟินิทีฟเอดิชัน [ 33]
เอจออฟเอ็มไพร์ส 3
เอจออฟเอ็มไพร์ส วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2548 สร้างอยู่บนรุ่นปรับปรุงของเกมเอนจิน เอจออฟมีโธโลจี ปรับปรุงโดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สุดได้แก่เอนจินกราฟิกส์ที่มีการปรับและการรวมเอนจินฮาว็อกฟิสิกส์มิดเดิลแวร์[ 34] [ 35] เกมดังกล่าวมีฉากท้องเรื่องอยู่ในยุคระหว่างปี 1964 ถึง 2393 และผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเป็นชาติหนึ่งในแปดชาติยุโรป เกมนี้ริเริ่มคุณลักษณะใหม่จำนวนมาก เช่น นครเหย้า เอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์อธิบายว่าเป็น "ระบบสนับสนุนสำคัญต่อความพยายามของคุณในโลกใหม่" นครเหย้าให้ทรัพยากร ยุทธภัณฑ์ ทหารและอัปเกรดแก่ผู้เล่น นครเหย้าสามารถใช้ได้ในหลายเกม และอัปเกรดหลังจบการศึกแต่ละครั้ง มีการเปรียบคุณลักษณะเป็นตัวละครเกมสวมบทบาท จากเอ็นเซิมเบิลสตูดิโอส์[ 36] ภาคเสริมแรกของ เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 ชื่อ เดอะวอร์ชีฟส์ มีการวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2549 การเปลี่ยนแปลงการเล่นเกมในแพ็กเสริมส่วนใหญ่เล็กน้อย แต่ภาคนี้นำเสนอสามอารยธรรมใหม่ โดยเน้นชนพื้นเมืองอเมริกัน [ 37] สิ่งที่โดดเด่นที่สุดได้แก่การริเริ่มยูนิตวอร์ชีฟ[ 38] ภาคเสริมที่สอง ดิเอเชียนไดแนสตีส์ วางขายวันที่ 23 ตุลาคม 2550 เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาร่วมกัน บิกฮิวจ์เกมส์ช่วยเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์พัฒนาเกม โดยไบรอัน เรย์โนลส์เป็นหัวหน้านักออกแบบร่วมกับบรูซ เชลลี เกมขยายจักรวาล เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 ไปสู่ทวีปเอเชียและแนะนำอารยธรรมใหม่สามอารยธรรม[ 40] การตอบรับ เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 นั้นผสมกัน เกมเรโวลูชันอธิบายว่ามัน "สนุกพอ ๆ กับ" หนังสือประวัติศาสตร์ ขณะที่เกมโซนแย้งว่ามันเป็น "เกมดูดีที่สุดเกมหนึ่ง เป็นเกมอาร์ทีเอสน้อยกว่า ซึ่งออกสู่ตลอดในปัจจุบัน" เกมขายได้กว่าสองล้านก๊อปปีและคว้ารางวัล "เกมวางแผนเรียลไทม์แห่งปี" ของเกมสปาย[ 41] [ 42] วอร์ชีฟส์ ไม่สามารถเทียบความสำเร็จได้เท่ากับเกมก่อนหน้า โดยมีคะแนนต่ำกว่าทั้งเกมแรงกิงส์และเมตาคริติก ส่วนคะแนนของ เอเชียนไดแนสตีส์ ยิ่งต่ำลงไปอีกอยู่ที่ 80%[ 43] [ 44] [ 45] [ 46]
รุ่นสะสมหลายรุ่นของเอจออฟเอ็มไพร์ส 3 มีหนังสือศิลป์ปกแข็ง หน้าสุดท้ายของหนังสือศิลป์มีการพรรณนาภาพของชุด ตัวเลขโรมัน ใต้แผงแต่ละแผงมีตั้งแต่ I ถึง V โดยบ่งชี้ว่าชุดจะรวม เอจออฟเอ็มไพร์ส 4 และเอจออฟเอ็มไพร์ส 5 ลูกจ้างเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ แซนดี ปีเตอร์เซน กล่าวว่าภาพนั้น "เป็นการตั้งข้อสังเกตล้วน ๆ ในส่วนของ[พวกเขา]"[ 47]
ในปี 2561 ไมโครซอฟท์ประกาศว่าพวกเขาปิดตัวเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์หลังสร้างเกม ฮาโลวอส์ สำเร็จ ลูกจ้างบางส่วนตั้งทีมใหม่เป็นส่วนหนึ่งของไมโครซอฟท์สตูดิโอส์[ 48] เควิน อันแนงส์ (Kevin Unangst) ผู้อำนวยการเกมส์ฟอร์วินโดวส์ ปฏิเสธว่าการปิดตัวดังกล่าวเป็นจุดจบของซีรีส์ เอจออฟเอ็มไพร์ส โดยให้สัมภาษณ์เดอะซานฟรานซิสโกโครนิเคิล ว่า "เราตื่นเต้นมากเกี่ยวกับศักยภาพในอนาคตสำหรับเอจออฟเอ็มไพร์ส"[ 49] เอดจ์ ยืนยันในการสัมภาษณ์กับรองประธานฝ่ายบันเทิงเชิงโต้ตอบของบริษัทไมโครซอฟท์ เชน คิม ว่า ไมโครซอฟท์ยังเป็นเจ้าของ เอจออฟเอ็มไพร์ส และว่าพวกเขามีแผนดำเนินซีรีส์ต่อ[ 50] อย่างไรก็ตาม บรูซ เชลลีเขียนในบล็อกของเขาว่าเขาจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของสตูดิโอส์ใหม่ที่เพิ่งตั้งใด ๆ[ 51] [ 52]
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2560 ไมโครซอฟท์ประกาศ เอจออฟเอ็มไพร์ส 3: เดฟินิทีฟเอดิชัน [ 29] วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ไมโครซอฟท์ประกาศว่า เดฟินิทีฟเอดิชัน จะวางขายในสตีมในอนาคต ร่วมกับ เดฟินิทีฟเอดิชัน ของทั้ง เอจออฟเอ็มไพร์ส และเอจออฟเอ็มไพร์ส 2 [ 14] [ 15]
เอจออฟเอ็มไพร์ส 4
วันที่ 21 สิงหาคม 2560 ไมโครซอฟท์ประกาศ เอจออฟเอ็มไพร์ส 4 พัฒนาโดยเรลิกเอ็นเตอร์เทนเมนต์[ 53]
จวบจนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 "ไม่มีวันวางจำหน่ายที่ประกาศสำหรับเอจออฟเอ็มไพร์ส 4 "[ 54] ฟิล สเป็นเซอร์ รองประธานบริหารของไมโครซอฟท์ฝ่ายเกม ยืนยันเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2561 ว่า เอจออฟเอ็มไพร์ส 4 ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโดยมีสารสนเทศเพิ่มเติมตามมาในปี 2562[ 55]
เกมสปินออฟ
เอจออฟมีโธโลจี มีองค์ประกอบเกมการเล่นหลายอย่างเหมือนกับซีรีส์หลัก[ 56] และถือเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ แม้มีจุดเน้นคนละอย่างกัน[ 57] [ 58] แคมเปญใน เอจออฟมีโธโลจี เล่านิยายของอาร์แคนทอสชาวแอตแลนติส และภารกิจค้นหาว่าเหตุใดประชากรของเขาจึงไม่ได้รับความโปรดปรานจากเทพเจ้าโพไซดอน [ 59] ไมโครซอฟท์วางจำหน่ายเกมเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2545[ 60] และภาคเสริม เดอะไททันส์ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2546[ 61] เดอะไททันส์ นำเสนอแอตแลนติสเป็นอารยธรรมใหม่[ 62] แคมเปญของเกมสั้นกว่าภาคก่อน และเน้นแคสเตอร์ บุตรของอาร์แคนทอสเป็นศูนย์กลาง ซึ่งตกหลุมพรางมุสาของเหล่าไททันและปลดปล่อยพวกมันจากทาร์ทารัส [ 63] เอจออฟมีโธโลจี ขายได้กว่าหนึ่งล้านก๊อปปีในสี่เดือน[ 64] ได้คะแนน 89% ในเกมแรงกิงส์และเมตาคริติก[ 65] [ 66] เดอะไททันส์ ไม่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายเท่ากับ เอจออฟมีโธโลจี แม้นักวิจารณ์ให้คะแนนสูง[ 67] [ 68]
แบ็กโบนเอ็นเตอร์เทนเมนต์พัฒนา เอจออฟเอ็มไพร์ส: ดิเอจออฟคิงส์ เป็นเกมเทิร์นเบสสำหรับนินเทนโด ดีเอส มาเจสโกเอ็นเตอร์เทนเมนต์เผยแพร่เกมเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549 เกมนี้คล้ายกับเกมเทิร์นเบสอื่น ๆ เช่น แอดแวนซ์วอร์ แต่มีเกมการเล่นบนพีซี[ 69] Age of Empires: The Age of Kings scored 80% on Game Rankings and Metacritic.[ 70] [ 71] เอจออฟเอ็มไพร์ส: ดิเอจออฟคิงส์ ได้คะแนน 80% จากเกมแรงกิงส์และเมตาคริติก โคนามินำเกมชื่อเดียวกันมาลงเพลย์สเตชัน 2 ประมาณห้าปีก่อนรุ่นดีเอส แต่เกมนั้นมีการส่งเสริมน้อยและขายได้ไม่ดี[ 72]
วันที่ 16 สิงหาคม 2553 ไมโครซอฟท์ประกาศ เอจออฟเอ็มไพร์สออนไลน์ ซึ่งเป็นเกมออนไลน์ทางเกมส์ฟอร์วินโดวส์ที่เล่นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พัฒนาโดยร่วมมือกับโรบอตเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เกมมีคุณลักษณะประสบการณ์เล่นได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยทางเกมส์ฟอร์วินโดวส์ไฟล์ตลอดจนเมืองหลวงออนไลน์ตลอดเวลาที่มีชีวิตและเติบโตแม้ผู้เล่นออฟไลน์ ภารกิจหลายผู้เล่นแบบร่วมมือ การค้าขายและระบบยึดระดับที่ทำให้ผู้เล่นพัฒนาได้ตามจังหวะของตนเอง[ 73] สำหรับเนื้อหาพรีเมียมสามารถได้หรือซื้อหาได้ เช่น การเข้าถึงพิมพ์เขียวและไอเท็มพิเศษ ตลอดจนภารกิจและคุณลักษณะเพิ่มเติม ในเดือนกันยายน 2556 มีประกาศว่าเกมจะเปิดใช้การได้จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 แล้วจะปิดตัวเนื่องจากค่าบำรุงรักษาเนื้อหาแพงเกินไป[ 74]
วันที่ 13 เมษายน 2557 มีการประกาศ เอจออฟเอ็มไพร์ส: เวิลด์ดอมิเนชัน เคแล็บเกมส์เป็นผู้พัฒนาสำหรับไอโอเอส แอนดรอยด์และวินโดวส์ โฟน [ 75] It was released on December 7, 2015,[ 76] มีการวางตำหน่ายเกมวันที่ 7 ธันวาคม 2558 โดยยกเลิกการให้บริการในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559[ 77]
วันที่ 25 สิงหาคม 2557 มีการประกาศ เอจออฟเอ็มไพร์ส: แคสเซิลซีนจ์ เป็นเกมแบบสัมผัส ซึ่งสโมกกิงกันอินเตอร์แอ็กทีฟเป็นผู้พัฒนา มีการวางจำหน่ายสำหรับวินโดวส์พีซีและวินโดวส์ โฟน 8 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2557[ 78] [ 79]
การพัฒนา
องค์ประกอบประวัติศาสตร์
ระยะการพัฒนาของเกม เอจออฟเอ็มไพร์ส ต่าง ๆ คล้ายกันในหลายทาง เนื่องจากเกมอิงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ทีมผู้พัฒนาจึงมักต้องศึกษาค้นคว้าปริมาณมาก[ 80] อย่างไรก็ดี การศึกษาค้นคว้านั้นมิได้เจาะลึก ซึ่งผู้ออกแบบ เอจออฟเอ็มไพร์ส บรูซ เชลลี ว่าเป็น "ความคิดที่ดีสำหรับผลิตภัณฑ์บันเทิงส่วนใหญ่"[ 80] เชลลียังว่าเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์นำหนังสืออ้างอิงส่วนใหญ่มาจากส่วนเด็กที่ห้องสมุด เขาชี้ว่าเป้าหมายคือเพื่อให้ผู้เล่นเกมสนุก "ไม่ใช่นักออกแบบหรือนักวิจัย[เกม]"[ 80] ที่การประชุมผู้พัฒนางานประชุมเกมปี 2550 เชลลีสานต่อความคิดนี้และอธิบายว่า ความสำเร็จของชุดตั้งอยู่บน "การทำเกมซึ่งดึงดูดทั้งผู้เล่นเกมครั้งคราวและฮาร์ดคอร์"[ 81] เชลลียังตั้งข้อสังเกตว่าเกม เอจออฟเอ็มไพร์ส มิได้ว่าด้วยตัวประวัติศาสตร์เอง แต่ "เกี่ยวกับประสบการณ์ของมนุษย์"[ 81] พวกเขามุ่งเน้นไม่เพียงแต่สิ่งที่มนุษย์เคยทำไว้แล้วเท่านั้น แต่ยังเน้นสิ่งที่มนุษย์ทำได้ในอนาคตอย่าง "การไปอวกาศ" ด้วย[ 81] เอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์พัฒนา เอจออฟมีโธโลจี ในทางที่ต่างไปจากสองเกมก่อนหน้า ทีมยังกังวลว่าพวกเขาจะ "ไม่สามารถเอาตัวรอด" ด้วยเกมอิงประวัติศาสตร์เกมที่สาม และเลือกปรัมปราวิทยาเป็นฉากท้องเรื่องหลังอภิปรายหลาย ๆ ตัวเลือกแล้ว[ 82]
ปัญญาประดิษฐ์
นักออกแบบพัฒนาและปรับปรุงปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่ใช้ในซีรีส์ เอจออฟเอ็มไพร์ส อย่างสม่ำเสมอ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอ เดฟ พอตติงเจอร์ กล่าวว่า ทีมพัฒนาให้ความสำคัญกับเอไอในเกมดั้งเดิมเป็นลำดับสูงมากและใช้เวลาพัฒนากว่าหนึ่งปี เขากล่วาว่า เอไอในเกมอาศัยยุทธวิธีและยุทธศาสตร์เพื่อเอาชนะแทน "การโกง" โดยให้ทรัพยากรพิเศษแก่ตนเอง หรือดัดแปลงยูนิตให้แข็งแกร่งกว่าปกติ[ 83] ภายหลังพอตติงเจอร์สังเกตว่า ทีมซีรีส์ เอจออฟเอ็มไพร์ส รู้สึกภาคภูมิใจที่เอไอของพวกตน "เล่นอย่างยุติธรรม"[ 84] และไม่ทราบว่าผู้เล่นกำลังทำอะไรอยู่ และต้องเล่นบนกฎเดียวกับคู่แข่งมนุษย์[ 85]
เอจออฟเอ็มไพร์ส เปิดให้ผู้เล่นเลือกเล่นตามเงื่อนไขที่มีเนื้อเรื่องรองรับและสร้างมาเป็นพิเศษหรือเล่นต่อสู้กับเอไอ (และผู้เล่นอื่น) เป็นครั้ง ๆ การเลือกต่อสู้กับเอไอแทนการเล่นตามเนื้อเรื่องทำให้เอไอสามารถปรับให้เข้ากับกลยุทธ์ของผู้เล่นและจำได้ว่าเกมใดที่มันชนะและแพ้ ในที่สุดเอไอจะเอาชนะกลยุทธ์ของผู้เล่นและทำลายหมู่บ้านของผู้เล่นได้อย่างง่ายดายหลังผ่านไปหลายเกม ตัวอย่างเช่นใน เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 สิ่งนี้เรียกว่าเล่น "สเกอร์มิช" (skirmish) อย่างไรก็ตาม เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 เปิดให้ผู้เล่นปรับแต่งกลยุทธ์ของพวกเขาเพิ่มเติมในการพบกับเอไอโดย "การสร้างสำรับ" ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นเปลี่ยนการส่งสินค้าจาก "นครเหย้า" ด้วยทางเลือกที่ปรับปรุง
ในเอจออฟเอ็มไพร์ส 2: เดอะคองคะเรอส์ เอได้รับลำดับความสำคัญสูง ผลลัพธ์คือคุณลักษณะ "ชาวบ้านฉลาด" (smart villager) ซึ่งมีอยู่ในเกมหลังจากนั้นทุกเกม โดยหลังสร้างสิ่งก่อสร้างที่เก็บหรือผลิตทรัพยากร ชาวบ้านฉลาดจะเก็บทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับสิ่งก่อสร้างนั้นทันที เช่น ธัญพืชจากไร่นา หรือแร่จากแหล่งแร่[ 86]
เอจออฟมีโธโลจี: เดอะไททันส์ ให้ผู้เล่นใช้โปรแกรมแก้ไขจุดบกพร่องเอไอเมื่อสร้างฉากปรับเอง ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าของผู้เล่นคอมพิวเตอร์และทำให้เอไอประพฤติตามแบบรูปบางอย่างได้[ 87] การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานกว่านั้นต่อเอไอเดิมสามารถเข้าถึงได้ในสองเกมแรกของซีรีส์[ 88]
กราฟิกส์และภาพ
กราฟิกและภาพของ เอจออฟเอ็มไพร์ส ดีขึ้นในทุกเกมที่ออกมาแต่ละครั้ง จากการออกเกมแรกถึงเกมที่สอง เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: ดิเอจออฟคิงส์ เป็นพัฒนาการที่โดดเด่นที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์หลายคน[ 89] [ 90] [ 91] เมื่อมีการออก เอจออฟมีโธโลจี การยกย่องยังดำเนินต่อไป[ 89] [ 92] [ 93] [ 94] และเกมที่สี่ เอจออฟเอ็มไพร์ส 4 ได้รับการยกย่องเพิ่มอีก[ 95] [ 96] [ 97]
เกมสปอตยกย่องกราฟิกที่ได้รับการปรับปรุง[ 89] ในเกมที่สอง เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: ดิเอจออฟคิงส์ ยูโรเกมเมอร์ยินดีต้อนรับการเปิดตัวชาวบ้านหญิง[ 98] เมื่อเทียบกับแบบเดิมที่มีเฉพาะเพศชาย ออลเกมยกย่องระบบการจัดกลุ่มและการค้นหาเส้นทางขั้นสูงในเกมที่สอง[ 90] แต่แม้มีกราฟิกส์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ออลเกมบ่นว่าบางทียูนิตใน เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: ดิเอจออฟคิงส์ แยกแยะออกจากกันได้ยาก[ 90] ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ทบทวนหลายคนเห็นตรงกัน[ 89] [ 99] อย่างไรก็ตาม เกมเรโวลูชันเขียนว่าเกมที่สองเป็น "เกมอาร์ทีเอส 2ดีที่ดูดีที่สุดในตลาดขณะนี้"[ 91]
กราฟิกส์ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องใน เอจออฟมีโธโลจี และได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ ไอจีเอ็น จัดอันดับกราฟิกในเกมที่สามนี้ว่า "มีความสุขที่ได้ชม ... ยอดเยี่ยม"[ 92] เกมสปอตเห็นตรงกัน และให้คะแนนกราฟิกส์ 9 เต็ม 10[ 89] เกมเรโวลูชันก็เช่นกัน[ 93] โดยพีซีเกมเมอร์ระบุว่ากราฟิกส์ในเกมที่สาม "อัดแน่นด้วยรายละเอียด"[ 94]
แนวโน้มกราฟิกที่ได้รับการปรับปรุงดำเนินต่อจนถึงเกมถัดไป เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 ซึ่งผู้ทบทวนยินดีมาก ไอจีเอ็นระบุว่า "หลังจากเห็นภาพหน้าจอ ขากรรไกรของเรากระแทกกับพื้นด้วยปริมาณรายละเอียด"[ 95] วันอัพดอตคอมอธิบาย เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 ว่าเป็น "เกมสวยงามที่สุดเกมหนึ่งที่คุณจะติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณในอนาคตอันใกล้"[ 96] เกมสปายเห็นด้วย โดยระบุว่า "กราฟิกส์ เอจ 3 ไร้ที่เปรียบในประเภทวางแผน"[ 97] เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 สร้างบนรากฐานและนำเสนอคุณลักษณะใหม่สำหรับเกมก่อนหน้า เอจออฟมีโธโลจี เช่น การใส่เกมเอนจินมิดเดิลแวร์จำลองฟิสิกส์ฮาว็อก[ 100] สำหรับฉบับวินโดวส์ และฟิสเอ็กซ์สำหรับแมคโอเอสเท็น ผลลัพธ์ที่เป็นนวัตกรรมทำให้เลี่ยงแอนิเมชันสร้างล่วงหน้า แต่มีการคำนวณเหตุการณ์ตามเอนจินฟิสิกส์ ผลที่ได้ทำให้ภาพเหตุการณ์อย่างการทำลายสิ่งปลูกสร้างและต้นไม้โค่นไม่มีบันทึกล่วงหน้า เกมสปอตยังยกย่องกราฟิกส์ในเกมที่สี่แต่บ่นเรื่อง "พฤติกรรมยูนิตที่ดูเก้กัง"[ 101] คุณลักษณะกราฟิกส์ของเกมอีกอย่างหนึ่งคือการให้แสงบลูม (bloom) และการรองรับพิกเซลเฉดเดอร์ 3.0[ 102]
เกมสปายให้รางวัล "กราฟิกส์ยอดเยี่ยม" แก่ เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 ที่ "เกมแห่งปี 2548" ของเกมสปาย[ 103]
ดนตรี
สตีเฟน ริปปีเป็นผู้กำกับเพลงของซีรีส์ตั้งแต่เกมแรก บางครั้งเขาได้รับความช่วยเหลือเป็นครั้งคราวจากเดวิด ริปปี ญาติชายของเขา และเควิน แม็กมัลแลน เขาสร้างเพลงต้นฉบับใน เอจออฟเอ็มไพร์ส ด้วยเสียงเครื่องดนตรีจากยุคสมัยในเกม[ 104] เสียงเหล่านี้มาจากเครื่องดนตรีจริงและตัวอย่างดิจิทัล[ 104] ทูนเหล่านี้เป็นผลจากการวิจัยอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับวัฒนธรรม ลีลาและเครื่องดนตรีที่ใช้[ 104] ริปปีกล่าวว่าการพัฒนาเสียงของ เอจออฟเอ็มไพร์ส ทำได้ง่าย เนื่องจากมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องดนตรีที่ใช้ในยุคกลาง ฉะนั้น พวกเขาจึงสามารถผลิตซ้ำทูนสำหรับซาวน์แทร็กของเกมได้[ 105] ในเอจออฟมีโธโลจี มีการใช้เครื่องดนตรีออเครสตรา แทน แม็กมัลแลนว่า ทีมยังรวบรวมบันทึกเสียงจำนวนมากจากสวนสัตว์ และสร้าง "คลังเสียงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเนื้อหาของพวกเขาเอง"[ 106] ดนตรีของ เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 คล้ายกับ ดิเอจออฟคิงส์ ซึ่งทีมใช้เครื่องดนตรีในประวัติศาสตร์มากขึ้น ริปปีระบุว่าทีมใช้เครื่องดนตรีอย่างปี่สกอตและกลองสนามเพื่อให้ความรู้สึกสมจริง[ 107]
ความร่วมมือ
เอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ร่วมงานกับ บิ๊กฮิวจ์เกมส์ เพื่อพัฒนา ดิเอเชียนไดแนสตีส์ ภาคเสริมที่สองของ เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 เป็นการลงทุนร่วมครั้งแรกระหว่างสองทีม เหตุผลที่ร่วมงานกันเพราะมีตารางเวลาเข้กันได้ ซึ่งขณะนั้นเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์กำลังง่วนอยู่กบโครงการอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฮโลวอส์ ส่วนทีมวางแผนเรียลไทม์ของบิ๊กฮิวจ์เกมส์ก็มีโครงการอยู่บ้าง บิ๊กฮิวจ์เกมส์เป็นผู้สร้างหลัก แต่นักออกแบบ เกร็ก สตรีตและแซนดี ปีเตอร์สันของเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ร่วมระดมสมองด้วย และควบคุมผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย[ 108] สตูดิโอส์ทั้งสองมีบาทบาทในการทดสอบเกมก่อนวางขาย[ 109]
การตอบรับและมรดก
ซีรีส์ เอจออฟเอ็มไพร์ส ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ จนถึงปี 2551 เกมในซีรีส์จำนวนห้าเกมขายได้เกินหนึ่งล้านก๊อบปี เกมมาสูตราระบุว่า เอจออฟเอ็มไพร์ส ขายได้กว่าสามล้านก๊อบปี และไรซ์ออฟโรม ขายได้หนึ่งล้านก๊อบปีเมื่อถึงปี 2543[ 9] ในเวลาเดียวกัน ไมโครซอฟท์ประกาศว่าบริษัทส่งมอบ ดิเอจออฟคิงส์ จำนวนกว่าสองล้านก๊อบปีแล้ว[ 21] ในปี 2546 ไมโครซอฟท์ประกาศว่า เอจออฟมีโธโลจี ขายได้หนึ่งล้านก๊อบปี[ 64] จนถึงปี 2547 ก่อนการออกเอจออฟเอ็มไพร์ส 3 แฟรนไชส์ เอจออฟเอ็มไพร์ส ขายได้กว่า 15 ล้านก๊อบปี[ 123] วันที่ 18 พฤษภาคม 2550 เอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ประกาศว่าขาย เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 ได้สองล้านก๊อบปี[ 41] เกมในชุดทำคะแนนได้สูงอย่างต่อเนื่องในเว็บไซต์รวบรวมบทปฏิทัศน์วิดีโอเกม เกมแรงกิงส์ และเมตาคริติก ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ปฏิทัศน์หลายแห่ง จากตารางขวามือ เกมที่ได้คะแนนสูงสุด คือ เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: ดิเอจออฟคิงส์ โดยได้คะแนน 92% จากทั้งสองเว็บไซต์[ 19] [ 20]
นักวิจารณ์ให้ความชอบแก่ เอจออฟเอ็มไพร์ส สำหรับการมีอิทธิพลต่อเกมกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ (RTS) อย่าง ไรซ์ออฟเนชันส์ (Rise of Nations ), เอ็มไพร์เอิร์ธ (Empire Earth ) และคอสแซ็กส์ (Cossacks )[ 124] [ 125] ฝ่ายสตาร์ วอร์ส: กาแล็กติกแบตเทิลกราวส์ (Star Wars: Galactic Battlegrounds ) ยังได้รับอิทธิพลจากซีรีส์ดังกล่าว คือ เกมมันใช้เกมเอนจินจีนีแบบเดียวกับ เอจออฟเอ็มไพร์ส และ เอจออฟเอ็มไพร์ส 2: ดิเอจออฟคิงส์ และนักวิจารณ์ถือว่าเป็นรูปถอดแบบเหมือนมากของเกมทั้งสอง ไอจีเอ็น เริ่มบทปฏิทัศน์ด้วยถ้อยแถลงว่า "ฉันชอบ เอจออฟสตาร์ วอร์ส ฉันหมายถึงสตาร์เอ็มไพร์ส ไม่ว่าจะเรียกอะไร ฉันเอาหมด"[ 126] และเกมสปอต เขียนว่า "หลักมูลของเอนจินเอจออฟเอ็มไพร์ส 2 อย่างอยู่ดีในสตาร์ วอร์ส: กาแล็กติกแบตเทิลกราวส์ จนผู้ที่เล่นเกมนั้นจนชำนาญแล้วสามารถเข้ามาเล่นได้ทันที"[ 127] ในเดือนตุลาคม 2548 เชลลีย์ออกความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของซีรีส์ ในบทสัมภาษณ์แก่เกมสปาย เขาอธิบายว่าบิดามารดา "บอกเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ว่าลูกของพวกตนกำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับกรีซโบราณเพราะพวกเขาชอบเล่นกับไตรรีม มาก หรือพวกเขาต้องการหาซื้อหนังสือประวัติศาสตร์สมัยกลางเพราะเกมสอนให้พวกเขารู้จักสิ่งที่เรียกว่าเทรบูเชต "[ 128]
เชลลีย์กล่าวว่ากุญแจสู่ความสำเร็จของเกมคือนวัตกรรม ไม่ใช่เลียนแบบเกมแนวเดียวกัน เขายังอ้างว่าองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ในเกม "ช่วยสร้างชื่อเสียงของเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญประเภทวางแผนเรียลไทม์"[ 129] มาร์ก โบซอนจากไอจีเอ็นเขียนในบทปฏิทัศน์ ดิเอจออฟคิงส์ ของเขาไว้ว่า "ซีรีส์ เอจออฟเอ็มไพร์ส เป็นเกมวางแผนเรียลไทม์บนพีซีที่เป็นนวัตกรรมมากที่สุดเกมหนึ่งในทศวรรษที่ผ่านมาหรือราวนั้น"[ 130] กาเมนนิกกีเรียกเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ว่า "ผู้ผลิตที่เริ่มต้นทุกสิ่ง" เมื่อพวกเขากล่าวถึงสิ่งที่ เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 กระทำเพื่อพัฒนาประเภทวางแผนเรียลไทม์[ 131] เชลลีย์ยอมรับว่าความสำเร็จและนวัตกรรมของ เอจออฟเอ็มไพร์ส ช่วยให้เอ็นเซ็มเบิลอยู่รอดได้ในช่วงแรกตั้งแต่เป็นสตาร์ตอัป[ 132] ในปี 2548 เชลลีย์บ่นถึงนักวิจารณ์ที่มี "อคตินวัตกรรม" ต่อซีรีส์ โดยพาดพิงคะแนน 60% จากคอมพิวเตอร์เกมมิงเวิลด์ เขาว่าแม้ เอจออฟเอ็มไพร์ส 3 "บางทีอาจเป็นเกมพีซีขายดีที่สุดในโลก" แต่นักปฏิทัศน์คาดหมาย "สิ่งใหม่จริง ๆ" และให้คะแนนอย่างไม่ปรานี[ 133]
บันจีเลือกเอ็นเซ็มเบิลสตูดิโอส์ให้พัฒนาเฮโลวอร์ส ซึ่งเป็นเกมอาร์ทีเอสที่มาจากซีรีส์เฮโล ของบริษัท พวกเขาบอกว่าเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาเลือกร่วมงานกับเอ็นเซ็มเบิลเป็นเพราะซีรีส์เอจออฟเอ็มไพร์ส [ 134] พวกเขายังตั้งข้อสังเกตว่า เอ็นเซ็มเบิลเป็นตัวเลือกสมบูรณ์แบบ "เพื่อให้รับรู้ฉบับดั้งเดิมของ เฮโล " ซึ่งเริ่มต้นชีวิตในฐานะเกมอาร์ทีเอส[ 134]
อ้างอิง
↑ "Age of Empires screenshots and statistics" . Universal Videogame List. สืบค้นเมื่อ May 21, 2011 .
↑ Jeff Sengstack (February 14, 1997). "Age of Empires Preview: Microsoft takes a stab at the golden age of wargaming" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Bruce Shelley (April 9, 2007). "Play Age of Empires – Study History in College" . Ensemble Studios . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ February 17, 2008. สืบค้นเมื่อ April 21, 2008 .
↑ T. Liam McDonald (October 27, 1997). "Age of Empires Review" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ James Holland. "Age of Empires" . PC Gameworld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ December 21, 2007. สืบค้นเมื่อ January 14, 2008 .
↑ "Age of Empires Downloads" . Microsoft . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ February 27, 2008. สืบค้นเมื่อ February 28, 2008 .
↑ 7.0 7.1 "Age of Empires (pc: 1997)" . Metacritic . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 20, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Computer Strategy Game of the Year" . Academy of Interactive Arts & Sciences . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 28, 2008. สืบค้นเมื่อ January 19, 2008 .
↑ 9.0 9.1 9.2 Matt Pritchard (March 7, 2000). "Postmortem: Ensemble Studios' Age of Empires II: The Age of Kings" . Gamasutra . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ February 27, 2008. สืบค้นเมื่อ February 1, 2008 .
↑ 10.0 10.1 "Age of Empires: The Rise of Rome" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 25, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Livingston, Chrisopher (June 12, 2017). "The original Age of Empires is being remastered in the Definitive Edition" . PC Gamer . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 17, 2017. สืบค้นเมื่อ June 12, 2017 .
↑ Pereira, Chris. "Age Of Empire: Definitive Edition Remaster's Release Date Announced" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ 21 August 2017 .
↑ Makuch, Eddie. "PC's Age Of Empires: Definitive Edition Gets New Release Date After Delay" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ 19 January 2018 .
↑ 14.0 14.1 Nunneley, Stephany (May 30, 2019). "Microsoft to release Gears of War 5, Age of Empires: Definitive Editions, more PC titles on Steam" . VG247 . สืบค้นเมื่อ June 4, 2019 .
↑ 15.0 15.1 Fenlon, Wes (May 30, 2019). "Microsoft is bringing more games to Steam, says 'We believe you should have choice in where you buy your PC games' " . PC Gamer . สืบค้นเมื่อ June 4, 2019 .
↑ "The Art of Empires" (.doc ) . Gamasutra . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 24, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Civilizations" . Microsoft . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 17, 2008. สืบค้นเมื่อ January 17, 2008 .
↑ Elliott Chin (มิถุนายน 14, 2000). "Age II: The Conquerors – The Mayans Showcase" . GameSpot . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ December 5, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ 19.0 19.1 19.2 "Age of Empires II: The Age of Kings" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 24, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ 20.0 20.1 20.2 "Age of Empires II: The Age of Kings (pc: 1999)" . Metacritic . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 23, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ 21.0 21.1 " "Age of Empires II: The Age of Kings" Crowned No. 1 On Holiday Sales Charts Around the World" . Microsoft . January 27, 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 3, 2008. สืบค้นเมื่อ January 17, 2008 .
↑ 22.0 22.1 "Age of Empires II: The Conquerors (pc: 2000)" . Metacritic . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Computer Strategy Game of the Year" . Academy of Interactive Arts & Sciences . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 28, 2008. สืบค้นเมื่อ January 19, 2008 .
↑ "PC Strategy" . Academy of Interactive Arts & Sciences . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 28, 2008. สืบค้นเมื่อ January 19, 2008 .
↑ Makuch, Eddie (March 7, 2013). "Age of Empires II HD arriving April 9" . GameSpot . CBS Interactive . สืบค้นเมื่อ August 26, 2014 .
↑ Gaston, Martin (November 8, 2013). "Age of Empires 2 HD gets new expansion pack" . GameSpot . CBS Interactive . สืบค้นเมื่อ August 26, 2014 .
↑ "Age of Empires II HD: The African Kingdoms to be released on November 5, 2015" .
↑ "Announcing Age of Empires II HD: Rise of the Rajas!" .
↑ 29.0 29.1 Knezevic, Kevin (August 21, 2017). "Age Of Empires 2 And 3 Remasters Announced" . GameSpot . CBS Interactive . สืบค้นเมื่อ September 6, 2017 .
↑ Isgreen, Adam (June 9, 2019). "E3 2019: Age of Empires II: Definitive Edition Launching Fall 2019, Beta Coming Soon" . Xbox Wire . สืบค้นเมื่อ June 12, 2019 .
↑ Chalk, Andy (June 9, 2019). "Age of Empires 2 Definitive Edition confirmed at E3, coming this fall (updated)" . PC Gamer . สืบค้นเมื่อ June 12, 2019 .
↑ Gilliam, Ryan (June 10, 2019). "Age of Empires 2: Definitive Edition and new campaign coming to Xbox Game Pass" . Polygon . สืบค้นเมื่อ June 12, 2019 .
↑ Franzese, Tomas (June 12, 2019). "Age of Empires II: HD Edition Won't Be Taken Off Steam When Definitive Edition Launches" . DualShockers . สืบค้นเมื่อ June 12, 2019 .
↑ Steve Butts (March 9, 2005). "Age of Empires III" . IGN . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2008-12-06. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ David Adams (April 4, 2005). "Havok in Age of Empires" . IGN . สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Home City" . Ensemble Studios . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ January 3, 2008. สืบค้นเมื่อ January 18, 2008 .
↑ Steve Butts (March 17, 2006). "Age of Empires III: The WarChiefs: Ensemble's lead designer Sandy Petersen answers our questions" . IGN . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 11, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Allen 'Delsyn' Rausch (August 8, 2006). "Age of Empires III: The WarChiefs (PC) Preview" . GameSpy . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 11, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Allen 'Delsyn' Rausch (May 23, 2007). "Age of Empires III: The Asian Dynasties (PC) interview" . GameSpy . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 24, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ 41.0 41.1 " "Age of Empires III" Expands into the Eastern World This Fall" . Ensemble Studios . Age Community. May 18, 2007. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ February 12, 2008. สืบค้นเมื่อ January 18, 2008 .
↑ "PC Real-Time Strategy Game of the Year" . GameSpy . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 21, 2008. สืบค้นเมื่อ January 19, 2008 .
↑ 43.0 43.1 "Age of Empires III: The WarChiefs" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ February 14, 2008. สืบค้นเมื่อ January 18, 2008 .
↑ 44.0 44.1 "Age of Empires III: The WarChiefs (pc: 2006)" . Metacritic . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2008. สืบค้นเมื่อ January 18, 2008 .
↑ 45.0 45.1 "Age of Empires III: The Asian Dynasties – PC" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ February 25, 2008. สืบค้นเมื่อ January 18, 2008 .
↑ 46.0 46.1 "Age of Empires III: The Asian Dynasties (pc: 2007)" . Metacritic . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ January 20, 2008. สืบค้นเมื่อ January 18, 2008 .
↑ Botolf (May 3, 2006). "Age 4 and 5?!?" . Age of Empires III Heaven . HeavenGames. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Levi Buchanan (September 9, 2008). "Microsoft Shuttering Ensemble" . IGN . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ September 15, 2008. สืบค้นเมื่อ September 24, 2008 .
↑ Lou Kesten (September 15, 2008). "Game news: Microsoft to close 'Halo Wars' studio" . The San Francisco Chronicle . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ March 15, 2009. สืบค้นเมื่อ September 24, 2008 .
↑ Joe Keiser (กันยายน 10, 2008). "Kim: We Still Believe in PC Games" . Edge . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 26, 2011. สืบค้นเมื่อ September 24, 2008 .
↑ Bruce Shelley (September 22, 2008). "Ensemble Studios Closing" . Ensemble Studios . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ September 24, 2008. สืบค้นเมื่อ September 24, 2008 .
↑ Brendan Sinclair (September 24, 2008). "Ensemble dev speaks out on closure" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ September 24, 2008 .
↑ Matulef, Jeffery (August 21, 2017). "Age of Empires 4 revealed with Relic at the helm" . Eurogamer . สืบค้นเมื่อ August 21, 2017 .
↑ Roberts, Samuel (2019-02-08). "Age of Empires 4: everything we know" . PC Gamer (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2019-04-05 .
↑ Roberts, Samuel (June 11, 2019). "Age of Empires 4 is 'making good progress', and Microsoft will talk about it later this year" . PC Gamer . สืบค้นเมื่อ June 12, 2019 .
↑ Greg Kasavin (November 1, 2002). "Age of Mythology review" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ William Harms. "Age of Mythology" . PC Gamer . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ April 12, 2008. สืบค้นเมื่อ April 22, 2008 .
↑ Kristian Brogger. "Microsoft Age of Mythology" . Game Informer . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ June 29, 2012. สืบค้นเมื่อ April 22, 2008 .
↑ Rob Fahey (December 10, 2002). "Age of Mythology review" . Eurogamer . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2007-10-12. สืบค้นเมื่อ January 14, 2008 .
↑ "Age of Mythology Info" . MobyGames . สืบค้นเมื่อ January 14, 2008 .
↑ "Age of Mythology: The Titans Info" . MobyGames . สืบค้นเมื่อ January 14, 2008 .
↑ "Age of Mythology:The Titans" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 24, 2007. สืบค้นเมื่อ January 14, 2008 .
↑ Tom Bramwell (October 21, 2003). "Age of Mythology: The Titans review" . Eurogamer . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2008-12-04. สืบค้นเมื่อ January 14, 2008 .
↑ 64.0 64.1 " "Age of Mythology" Goes Platinum With More Than 1 Million Units Sold" . PressPass . Microsoft . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ December 22, 2007. สืบค้นเมื่อ January 14, 2008 .
↑ 65.0 65.1 "Age of Mythology Reviews" . GameRankings . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2007-07-07. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ 66.0 66.1 "Age of Mythology (pc: 2002): Reviews" . Metacritic . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ 67.0 67.1 "Age of Mythology: The Titans – PC" . GameRankings . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2007-12-24. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ 68.0 68.1 "Age of Mythology: The Titans (pc: 2003): Reviews" . Metacritic . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2008-06-11. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Edwin Kee (กุมภาพันธ์ 2007). "Age of Empires: Age of Kings" . Mobile Tech Review. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ ธันวาคม 16, 2007. สืบค้นเมื่อ มกราคม 18, 2008 .
↑ 70.0 70.1 "Age of Empires: The Age of Kings – DS" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 6, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ 71.0 71.1 "Age of Empires: The Age of Kings (ds: 2006)" . Metacritic . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 16, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Chris Kirchgasler (มกราคม 4, 2001). "Age of Empires II: The Age of Kings preview" . GameSpot . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ March 20, 2009. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Microsoft (สิงหาคม 16, 2010). "Microsoft Heralds a New Age of Gaming With "Age of Empires Online" " . Microsoft . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ August 19, 2010. สืบค้นเมื่อ August 16, 2010 .
↑ "AGE OF EMPIRES ONLINE SHUTS DOWN" . IGN .
↑ Renaudin, Clement (April 10, 2014). " 'Age of Empires: World Domination' Announced for iOS, Coming this Summer" . Touch Arcade. สืบค้นเมื่อ August 26, 2014 .
↑ " 'Age of Empires: World Domination' Soft-Launches in Select Countries on iOS and Android" . TouchArcade . 2015-12-07. สืบค้นเมื่อ 2016-08-24 .
↑ "Age of Empires: World Domination Official | KLabGames" . Age of Empires: World Domination Official site | KLabGames . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2016. สืบค้นเมื่อ พฤศจิกายน 21, 2016 .
↑ Hammad Saleem (September 17, 2014). "Age of Empire Castle Siege now available for Windows Phone and Windows 8.1" . WinBeta . สืบค้นเมื่อ September 21, 2014 .
↑ McWhertor, Michael (August 25, 2014). "The new Age of Empires is a fast-paced, touch-based game for Windows 8" . Polygon . Vox Media . สืบค้นเมื่อ August 26, 2014 .
↑ 80.0 80.1 80.2 "Bruce Shelley" . Microsoft . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ February 5, 2008. สืบค้นเมื่อ January 22, 2008 .
↑ 81.0 81.1 81.2 Emma Boyes (August 22, 2007). "GC '07: Don't ignore casual gamers, says Age of Empires panel" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Stuart Bishop (August 19, 2002). "Interview: Rock of Ages" . Computer and Video Games . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ February 11, 2008. สืบค้นเมื่อ January 23, 2008 .
↑ "Dave Pottinger" . Microsoft . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 18, 2008. สืบค้นเมื่อ January 22, 2008 .
↑ "Age of Empires III Q&A – Technology Overview" . GameSpot . March 9, 2005. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Moss, Richard C. (8 January 2018). " 'The least-worst idea we had'—The creation of the Age of Empires empire" . Ars Technica (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 10 January 2018 .
↑ "Age of Empires II: The Conquerors – First Impression" . GameSpot . พฤษภาคม 31, 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ December 5, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Rob Fermier (สิงหาคม 25, 2003). "Age of Mythology: The Titans – Volume 1" . Dev Diaries . GameSpy . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ March 15, 2009. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "AI Tools" . GameSpy . October 26, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ April 11, 2008. สืบค้นเมื่อ April 28, 2008 .
↑ 89.0 89.1 89.2 89.3 89.4 Greg Kasavin (October 12, 1999). "Age of Empires: The Age of Kings for PC review" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ September 18, 2008 .
↑ 90.0 90.1 90.2 House, Michael L. "Age of Empires II: The Age of Kings > Overview" . AllGame . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ November 14, 2014. สืบค้นเมื่อ September 22, 2008 .
↑ 91.0 91.1 "Age of Empires 2: The Age of Kings – PC Review" . Game Revolution . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ July 25, 2008. สืบค้นเมื่อ September 22, 2008 .
↑ 92.0 92.1 "Age of Mythology review" . Steve Butts . IGN. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ October 19, 2007. สืบค้นเมื่อ October 5, 2007 .
↑ 93.0 93.1 "Age of Mythology" . Game Revolution . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ มกราคม 25, 2012. สืบค้นเมื่อ ตุลาคม 5, 2007 .
↑ 94.0 94.1 William Harms. "PC Gamer review" . PC Gamer . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ February 25, 2007. สืบค้นเมื่อ October 6, 2007 .
↑ 95.0 95.1 "2005 strategy gaming preview" . IGN . January 11, 2005. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ September 12, 2007. สืบค้นเมื่อ October 14, 2007 .
↑ 96.0 96.1 Garnett Lee (ตุลาคม 14, 2005). "1UP review" . 1UP.com . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ มกราคม 5, 2010. สืบค้นเมื่อ ตุลาคม 14, 2007 .
↑ 97.0 97.1 Dave "Fargo" Kosak (October 19, 2005). "GameSpy review, page 1" . GameSpy . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2007. สืบค้นเมื่อ October 14, 2007 .
↑ Geoff Richards (November 9, 1999). "Age of Empires II : Age of Kings" . Eurogamer . สืบค้นเมื่อ September 22, 2008 .
↑ Richie Shoemaker. "Age of Empires II: The Age Of Kings" . PC Zone . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ October 14, 2008. สืบค้นเมื่อ September 22, 2008 .
↑ "Age of Empires III" . Havok. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ October 29, 2006. สืบค้นเมื่อ November 26, 2006 .
↑ Greg Kasavin (October 14, 2005). "GameSpot review, page 3" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ October 14, 2007 .
↑ "Technology" . Ensemble Studios. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 2, 2006. สืบค้นเมื่อ November 26, 2006 .
↑ "GameSpy's Game of the Year 2005, Best Graphics" . GameSpy . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ ตุลาคม 13, 2007. สืบค้นเมื่อ ตุลาคม 14, 2007 .
↑ 104.0 104.1 104.2 "Ensemble Studios Chat 16Oct97" . Age of Empires Heaven . HeavenGames. October 16, 1997. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2006-11-11. สืบค้นเมื่อ January 24, 2008 .
↑ Peter Suciu (เมษายน 30, 2001). "Soundtracks on CD-ROM: Stirring Music That Accompanies the Interactive" . Film Score Monthly . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ October 14, 2007. สืบค้นเมื่อ January 23, 2008 .
↑ Steve Butts (September 6, 2002). "Age of Music" . IGN . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 19, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Interview with Age of Empires III lead composer Stephen Rippy" . Music4Games . February 1, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ February 17, 2008. สืบค้นเมื่อ January 23, 2008 .
↑ Allen 'Delsyn' Rausch (May 23, 2007). "Age of Empires III: The Asian Dynasties (PC)" . GameSpy . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 16, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Brian Reynolds Interview – Part 1 – July 2007" . Age of Empires III Heaven . HeavenGames. สืบค้นเมื่อ January 23, 2008 .
↑ "Age of Empires" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 4, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Age of Empires II: The Conquerors" . GameRankings . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-08-27. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Age of Empires III" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 9, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Age of Empires III (pc: 2005)" . Metacritic . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 20, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ "Age of Empires: Mythologies" . GameRankings . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 4, 2009. สืบค้นเมื่อ June 18, 2009 .
↑ "Age of Empires: Mythologies" . Metacritic . สืบค้นเมื่อ June 18, 2009 .
↑ "Age of Empires Online" . GameRankings . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2011-08-10. สืบค้นเมื่อ March 29, 2012 .
↑ "Age of Empires Online" . Metacritic . สืบค้นเมื่อ March 29, 2012 .
↑ "Age of Empires II: HD Edition" . GameRankings . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2013-04-11. สืบค้นเมื่อ March 13, 2013 .
↑ "Age of Empires II: HD Edition" . Metacritic . สืบค้นเมื่อ November 13, 2013 .
↑ "Age of Empires Castle Siege Reviews" . GameRankings . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2017-08-22. สืบค้นเมื่อ August 21, 2017 .
↑ "Age of Mythology: Extended Edition" . GameRankings . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2014-05-20. สืบค้นเมื่อ May 20, 2014 .
↑ "Age of Mythology: Extended Edition" . Metacritic . สืบค้นเมื่อ May 20, 2014 .
↑ "Best-Selling Age Franchise Tops 15 Million Mark" . Games for Windows . Microsoft . May 7, 2004. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 10, 2008. สืบค้นเมื่อ January 14, 2008 .
↑ Elliott Chin (May 21, 2003). "Rise of Nations for PC review" . GameSpot . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 26, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Peter "Dirg" Suciu. "Cossacks: The Art of War (PC)" . GameSpy . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ April 9, 2008. สืบค้นเมื่อ April 22, 2008 .
↑ "Star Wars: Galactic Battlegrounds Review" . IGN . November 19, 2001. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 13, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Tom Chick (November 20, 2001). "Star Wars: Galactic Battlegrounds for PC Review" . GameSpot . สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Allen 'Delsyn' Rausch (October 14, 2005). "Art & Design: The Alternate History of Age of Empires III" . GameSpy . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ May 11, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Bruce Shelley . "Guidelines for Developing Successful Games" (DOC) . Gamasutra . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ June 24, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ Mark Bozon (February 10, 2006). "The Age of Kings is truly upon us..." IGN . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ July 13, 2008. สืบค้นเมื่อ June 17, 2008 .
↑ David Driscoll. "Age of Empires III" . Gamenikki. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ February 20, 2008. สืบค้นเมื่อ April 3, 2008 .
↑ Russ Pitts (November 28, 2006). "From Borg to Boss" . The Escapist . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2008. สืบค้นเมื่อ February 2, 2008 .
↑ John Houlihan (December 22, 2005). "Shelley decries 'innovation bias' " . ComputerAndVideoGames.com . สืบค้นเมื่อ April 3, 2008 .
↑ 134.0 134.1 KPaul (กันยายน 29, 2006). "Bungie Weekly Update" . Bungie . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ มีนาคม 11, 2008. สืบค้นเมื่อ กุมภาพันธ์ 2, 2008 .
แหล่งข้อมูลอื่น