เวย์น เฮนเนสซีย์

เวย์น เฮนเนสซีย์
เฮนเนสซีย์กับเวลส์ในปี 2016
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม เวย์น โรเบิร์ต เฮนเนสซีย์[1]
วันเกิด (1987-01-24) 24 มกราคม ค.ศ. 1987 (37 ปี)[2]
สถานที่เกิด แบงกอร์ เวลส์
ส่วนสูง 6 ft 6 in (1.98 m)[3]
ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
นอตทิงแฮมฟอเรสต์
หมายเลข 13
สโมสรเยาวชน
0000–2003 แมนเชสเตอร์ซิตี
2003–2006 วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2006–2014 วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 152 (0)
2006บริสตอลซิตี (ยืม) 0 (0)
2007สต็อกพอร์ตเคาน์ตี (ยืม) 15 (0)
2013โยวิลทาวน์ (ยืม) 12 (0)
2014–2021 คริสตัลพาเลซ 110 (0)
2021–2022 เบิร์นลีย์ 2 (0)
2022– นอตทิงแฮมฟอเรสต์ 4 (0)
ทีมชาติ
เวลส์ อายุไม่เกิน 17 ปี 6 (0)
เวลส์ อายุไม่เกิน 19 ปี 7 (1)
2005–2009 เวลส์ อายุไม่เกิน 21 ปี 6 (0)
2007– เวลส์ 109 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 23:20, 2 มกราคม ค.ศ. 2022 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2022 (UTC)

เวย์น โรเบิร์ต เฮนเนสซีย์ (เกิดวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 1987) เป็นนักฟุตบอลชาวเวลส์ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูแก่นอตทิงแฮมฟอเรสต์ สโมสรในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติเวลส์

เฮนเนสซีย์เริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นผู้รักษาประตูที่สามารถทำสถิติรักษาคลีนชีตส์ติดต่อกันได้มากที่สุดในฟุตบอลลีกเมื่อครั้งเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลสต็อกพอร์ตเคาน์ตีในอีเอฟแอลลีกทู ด้วยสัญญายืมตัวจาก วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ โดยเขาทำสถิติไม่เสียประตูถึง 9 นัดติดต่อกัน เมื่อหมดสัญญายืมตัวเฮนเนสซีย์กลับมาเล่นให้กับวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ โดยได้ลงเล่นให้กับสโมสรไป 166 นัดในช่วง 8 ฤดูกาล ซึ่งรวมถึงสามปีที่เล่นในพรีเมียร์ลีก ต่อมาเขาย้ายไปคริสตัลพาเลซใน ค.ศ. 2014

เฮนเนสซีย์ได้เล่นให้กับทีมชาติมาตั้งแต่ ค.ศ. 2007 เขาเป็น 1 ใน 3 นักฟุตบอลชาวเวลส์ที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติมากถึง 100 นัด โดยลงสนามให้กับทีมชาติมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก คริส กันเทอร์ และ แกเร็ธ เบล และเป็นผู้รักษาประตูที่ลงเล่นให้ทีมชาติมากที่สุดเป็นอันดับ 1 นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมชาติชุดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 และ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ส่วนผลงานระดับสโมสรเขาเคยลงเล่นในระดับพรีเมียร์ลีกให้กับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์, คริสตัลพาเลซ และ เบิร์นลีย์

ทีมชาติ

เฮนเนสซีย์เคยเล่นให้กับทีมชาติเวลส์รุ่นอายุไม่เกิน 17, 19 และ 21 ปี เขาเคยทำประตูให้กับทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ด้วยลูกยิงฟรีคิก 40 หลาในนัดที่พบกับตุรกี[4]

เฮนเนสซีย์ลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชาติเวลส์ในนัดกระชับมิตรที่เสมอกับนิวซีแลนด์ 2–2 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 และหลังจากนั้น เขาก็ได้กลายเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติ[5] เฮนเนสซีย์ลงเล่นให้กับเวลส์ครบ 50 นัดในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2015 ในนัดที่เอาชนะไซปรัส 1–0 ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือก[6]

เฮนเนสซีย์ได้ลงเล่นให้กับเวลส์ครบทุกนัดในรอบคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 โดยเสียประตูเพียง 4 ลูก ทำให้เวลส์ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรายการระดับนานาชาติเป็นครั้งนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1958 เขามีชื่อเป็นหนึ่งใน 23 คนในชุดลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 โดยเขาถูกวางเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หลัง ทำให้เขาพลาดการลงเล่นในนัดเปิดสนามที่เอาชนะสโลวาเกีย 2–1 โดยมี แดนนี วอร์ด ลงเล่นแทน[7]

เกียรติประวัติ

วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์

คริสตัลพาเลซ

รางวัลส่วนตัว

  • ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี พีเอฟเอ: แชมเปียนชิป 2007–08[10]
  • ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งเดือน ลีกทู: กุมภาพันธ์ 2007[11]
  • ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์: 2007–08[12]

อ้างอิง

  1. "Updated squads for 2017/18 Premier League confirmed". Premier League. 2 February 2018. สืบค้นเมื่อ 11 February 2018.
  2. Hugman, Barry J., บ.ก. (2009). The PFA Footballers' Who's Who 2009–10. Edinburgh: Mainstream Publishing. ISBN 978-1-84596-474-0.
  3. "Crystal Palace FC Player Profiles Wayne Hennessey". Crystal Palace F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-06-05. สืบค้นเมื่อ 14 December 2014.
  4. Stuart Brennan (16 January 2007). "Hennessey puts County strikers in shade". Manchester Evening News. สืบค้นเมื่อ 4 March 2007.
  5. "Wayne Hennessey out to establish himself as Wales' No 1 goalkeeper". South Wales Echo. 9 October 2009.
  6. Gwilym, Andrew (3 September 2015). "Cyprus vs Wales match report: Gareth Bale's bullet header has Welsh on brink of Euro 2016". The Independent. สืบค้นเมื่อ 4 September 2015.
  7. "Euro 2016: Hennessey ruled out of Wales opener with back spasm". BBC Sport. 11 June 2016. สืบค้นเมื่อ 12 June 2016.
  8. Rollin, Glenda; Rollin, Jack, บ.ก. (2009). Sky Sports Football Yearbook 2009–2010. London: Headline Publishing Group. pp. 44, 416–417. ISBN 978-0-7553-1948-0.
  9. McNulty, Phil (21 May 2016). "Crystal Palace 1–2 Manchester United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 18 May 2019.
  10. "Ronaldo named player of the year". BBC Sport. 27 April 2008. สืบค้นเมื่อ 14 December 2018.
  11. "Hennessey's heroics secure award". BBC Sport. 4 March 2007. สืบค้นเมื่อ 4 March 2007.
  12. "Hennessey Scoops Player of the Season Titles". Wolverhampton Wanderers F.C. 2 May 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 July 2011.

แหล่งข้อมูลอื่น

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!