อาสนวิหารบูร์โกส

อาสนวิหารบูร์โกส *
  แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก
อาสนวิหารบูร์โกส
ประเทศ สเปน
ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม
เกณฑ์พิจารณา(ii) (iv) (vi)
ประวัติการขึ้นทะเบียน
ขึ้นทะเบียน2527 (คณะกรรมการสมัยที่ 8)
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก
จากทางเหนือจากซ้ายไปขวา ชาเปลคอนดาสเตเบิลเป็นหอแปดเหลี่ยม และหอมียอดแหลมแบบกอทิกวิจิตร (Flamboyant gothic)

อาสนวิหารบูร์โกส (สเปน: Catedral de Burgos) อุทิศให้แก่พระแม่มารี ตั้งอยู่ที่เมืองบูร์โกส ประเทศสเปน สถาปัตยกรรมของอาสนวิหารเป็นแบบสถาปัตยกรรมกอทิกเป็นส่วนใหญ่ และมีชื่อเสียงว่าเป็นอาสนวิหารขนาดใหญ่ที่เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

ประวัติ

พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 3 แห่งกัสติยา และบาทหลวงเมาริซิโอ (Bishop Mauricio) เป็นผู้สั่งให้สร้างอาสนวิหารบูร์โกส การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1221 บนอาสนวิหารโรมาเนสก์เดิม โดยเริ่มจากด้านตะวันออกบริเวณ “chevet” (บริเวณที่มีคูหาสวดมนต์ต์ยื่นออกไปทางหลังวัด) หรือคูหาสวดมนต์ต์รอบจรมุข ใช้เวลา 9 ปีจึงสร้างส่วนนั้นเสร็จ แท่นบูชาเอกเริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1260 แต่ก็หยุดไป 200 ปี ก่อนที่จะสร้างต่อจนเสร็จเมื่อสร้างหอโคมเหนือจุดตัดเมื่อ ค.ศ. 1567

สถาปนิกผู้สร้างอาสนวิหารนี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นชาวฝรั่งเศส และในคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นชาวเยอรมัน เมื่อบาทหลวงแห่งบูร์โกสเข้าร่วมประชุมสังคายนาคอนสแตนซ์ (Council of Constance) เมื่อปี ค.ศ. 1417 ท่านก็ได้นำสถาปนิกจอห์นแห่งโคโลญกลับมาสร้างหอและยอด "ฉลุหิน" จนเสร็จ

บาทหลวงคนที่สำคัญที่สุดของอาสนวิหารบูร์โกสในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ที่เป็นทั้งผู้คงแก่เรียนและนักประวัติศาสตร์คือ อัลฟอนซุส อา ซังก์ตา มาริอา (Alphonsus a Sancta Maria)

เมื่อ ค.ศ. 1919 อาสนวิหารเป็นที่ฝังศพของโรดริโก ดิอัซ เด บิบาร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "เอลซิด" ผู้เป็นขุนศึกชาวสเปนผู้เก่งกาจ และภรรยาฆิเมนา (Doña Jimena)

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1984 อาสนวิหารบูร์โกสได้รับเลือกจากองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

สถาปัตยกรรม

คริสต์ศตวรรษที่ 15 ด้านตะวันตกหรือด้านหน้าของอาสนวิหารเป็นแบบกอทิกแบบฝรั่งเศส ขนาบสองข้างด้วยหอสองหอบนฐานเป็นสี่เหลี่ยม ตอนบนของหอเป็นยอดแหลมแปดเหลี่ยมทำด้วยหินสลักลวดลายโปร่ง ด้านหน้าเป็นสามชั้นมีประตูสามประตูที่มีรูปสลักหินเหนือประตู เหนือระดับประตูขึ้นไปเป็นหน้าต่างกุหลาบ เหนือหน้าต่างกุหลาบมีระเบียงรูปสลักหินบนฐานภายในกรอบหน้าต่างโค้ง เหนือบริเวณนั้นขึ้นไปเป็นอักษรสลัก PULCHRA ES ET DECORA ("Beautiful art Thou, and graceful" -- พระเยซูผู้ทรงมีราศีและความสง่างาม) ตรงกลางเป็นรูปพระแม่มารี ยอดกลางสูง 80 เมตร

ผังของอาสนวิหารเป็นแบบกางเขน ทางเดินกลางยาว 106 เมตร ด้านในมีคูหาสวดมนต์ 15 คูหาที่ทางเดินข้างและแขนกางเขน ระเบียงทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของอาสนวิหาร และวังบาทหลวงทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในอาสนวิหารมีสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะซึ่งรวมทั้งแท่นบูชาทั้งเอกและรองหลายแท่น และอนุสรณ์สำหรับบุคคลสำคัญ ๆ

ชาเปลคอนเดสเตเบิล (Condastable Chapel) เป็นชาเปลแปดเหลี่ยมแบบกอทิกวิจิตร (Flamboyant Gothic) เต็มไปด้วยลวดลายสลักเสลาอย่างสวยงาม อัศวินและเทวดาและตราประจำตระกูล และเป็นที่ฝังศพของเปโดร เฟร์นันเดซที่ 3 แห่งเบลัสโก (Pedro Fernández III de Velasco) และครอบครัว ผู้เป็น Constable of Castile คนที่ 6 เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 15

ข้อมูลเพิ่มเติม

แหล่งข้อมูลอื่น

สมุดภาพ

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!