ศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์

ศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์
เกิดหม่อมเจ้าศรีสว่างวงศ์ ยุคล
17 สิงหาคม พ.ศ. 2489 (78 ปี)
คู่สมรสศักดา บุญจิตราดุลย์
บุตรทีฆ บุญจิตราดุลย์
ศศินทุ์ บุญจิตราดุลย์
บิดามารดาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร
ทองแถม ประยูรโต

ศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์ (เดิม: หม่อมเจ้าศรีสว่างวงศ์ ยุคล; ประสูติ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2489) เป็นธิดาในพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ประสูติแต่ทองแถม ประยูรโต เป็นโสทรเชษฐภคินีในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล

ประวัติ

ศรีสว่างวงศ์ บุญจิตราดุลย์ เป็นธิดาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ประสูติแต่ทองแถม ประยูรโต เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2489 มีเจ้าน้องร่วมหม่อมมารดาสององค์ คือ หม่อมเจ้าหญิง (ถึงชีพิตักษัยเมื่อชันษา 1 วัน) และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล และมีเจ้าพี่เจ้าน้องต่างหม่อมมารดาอีกสี่องค์ สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (ตอ. 26) และระดับปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สิงห์ดำ 18)

ศรีสว่างวงศ์ขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2521[1] เพื่อสมรสกับศักดา บุญจิตราดุลย์ มีบุตรสองคน คือ ทีฆ บุญจิตราดุลย์ และศศินทุ์ บุญจิตราดุลย์[2]

การทำงาน

ศรีสว่างวงศ์เป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไปปฏิบัติกรณีกิจอยู่บ่อยครั้ง เช่น ไปในการบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553[3] นอกจากนี้ยังได้ถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาทมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลก่อนสืบเนื่องมาจนถึงรัชกาลปัจจุบันเช่น

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราชพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง[4]

ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปี พ.ศ. 2560 ร่วมเดินในริ้วขบวนอิสริยศ ริ้วขบวนที่ 2 ร่วมกับ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล, ร้อยเอก หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล และหม่อมเจ้านภดลเฉลิมศรี ยุคล[5]

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2560 เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีตักบาตรเนื่องในพระราชพิธีสงกรานต์ โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 150 รูป เข้าไปรับพระราชทานบิณฑบาตที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง[6]

ในปี พ.ศ. 2563 ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานในพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 50 รูป ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร, วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เข้าไปรับพระราชทานอาหารบิณฑบาตบริเวณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง[7]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

ลำดับสาแหรก

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งราชวงศ์, เล่ม 96, ตอนที่ 16, 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522, หน้า 587
  2. กิติวัฒนา (ไชยันต์) ปกมนตรี, หม่อมราชวงศ์. สายพระโลหิตในพระพุทธเจ้าหลวง. กรุงเทพฯ : ดีเอ็มดี, พ.ศ. 2551. 290 หน้า. ISBN 978-974-312-022-0
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-21. สืบค้นเมื่อ 2020-07-03.
  4. ข่าวในพระราชสำนัก วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พุทธศักราช 2559
  5. https://news.thaipbs.or.th/content/266944
  6. https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/750236
  7. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-23. สืบค้นเมื่อ 2020-06-22.
  8. ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

แหล่งข้อมูลอื่น

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!