มวยไทยเลิศฤทธิ์[2] หรือ มวยไทยแบบทหาร (อักษรย่อ: MMT) เป็นศิลปะการต่อสู้ของไทยที่ได้รับการคิดค้นโดยอาจารย์ วิสิทธิ์ เลิศฤทธิ์ มวยรูปแบบนี้ใช้โดยทหารรักษาพระองค์, กองกำลังป้องกันเมืองหลวง, หน่วยป้องกันของช้างศึก และกองทหารราบพิเศษ[4] มวยไทยเลิศฤทธิ์มีพื้นฐานมาจากการผสมผสานอันแยบยลของอาวุธจากร่างกายทั้งเก้า (นวอาวุธ) ได้แก่ สองหมัด, สองเท้า, สองเข่า, สองศอก และหนึ่งหัว ที่ใช้ในการโจมตีและป้องกัน นอกจากนี้ ยังอิงตามกลยุทธ์ของจตุลังคบาทที่ใช้โดยหน่วยทหารราบพิเศษ ได้แก่ ทุ่ม, ทับ, จับ, หัก[5] ส่วนภูมิหลังทางเทคนิคได้รับการจัดระบบและปรับปรุงเพื่อให้พลเรือนนำไปใช้ มวยในปัจจุบันเป็นศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมที่เกิดจากคำสั่งสอนของนักรบสยามสมัยบรรพบุรุษ ซึ่งปรับให้เข้ากับความต้องการในการป้องกันตัวของผู้ฝึกสมัยใหม่ ไม่ว่าลักษณะทางกายภาพ และสภาวการณ์ภายใต้เทคนิคของมวย[6]
คุณสมบัติทางเทคนิค
กลยุทธ์การต่อสู้ของมวยไทยเลิศฤทธิ์เน้นอย่างมากในการตีระยะใกล้ โดยใช้ส่วนของร่างกายที่แข็ง เช่น ส้นเท้าและสันมือ, ขา (ส้นเท้า, กระดูกหน้าแข้ง) หัวเข่า, ข้อศอก และกะโหลกศีรษะ ผู้ฝึกหัดได้รับการฝึกฝนให้โจมตีและล้มคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว เพื่อใช้สยบหรือการเคลื่อนไหวขั้นสุดท้ายอย่างมีประสิทธิภาพ จุดสำคัญของร่างกายจะถูกระบุจากการฝึกซ้อมครั้งแรก เพื่อฝึกให้นักเรียนโจมตีได้อย่างง่ายดาย และเพื่อปกป้องส่วนที่อ่อนแอที่สุดทางกายวิภาคศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว[6]
การฝึกเน้นการโจมตีระยะสั้นที่ทรงพลังซึ่งใช้อาวุธจากร่างกายเก้าจุด (นวอาวุธ) การปรับสภาพร่างกายจะรวมอยู่ในการฝึกทุกครั้ง และได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก รวมถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ทำให้ร่างกายของผู้เข้ารับการฝึกแข็งแรงขึ้น การจับ (มวยปล้ำ) แบบไทยเป็นแนวทางปฏิบัติหลักสำหรับนักเรียนมวยทุกคน: การแก้ปีญหาร่วมกับพาร์ตเนอร์ของการฝึกที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเรียนรู้วิธีการต่อสู้ในระยะประชิด[7] นักเรียนมวยทุกคนได้รับการฝึกให้ใช้การกอด, ปะทะ, สอย และกระบวนท่าสยบคู่ต่อสู้ในระยะประชิด ส่วนการมุ่งเน้นกายจิตได้สร้างขึ้นภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อม เพื่อสร้างสภาวะการรุกในชีวิตจริง[6]
สิ่งสืบทอด
ปัจจุบัน มวยไทยเลิศฤทธิ์จะมีการสอนกันอย่างเต็มรูปแบบภายในโรงเรียนเตรียมทหาร และที่สมาคมพันธมิตรมวยไทยโลก (World Muay Thai Alliance Association) มีพลเอก ธันวาคม ทิพยจันทร์ หนึ่งในลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาโดยตรงจากอาจารย์วิสิทธิ์ เลิศฤทธิ์ เป็นผู้ดำเนินการสอน[3]
นอกจากประเทศไทย มวยไทยเลิศฤทธิ์ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในทวีปยุโรป จากการตระเวนนำเสนอโดยภาคบุคคล เช่น อาจารย์ มาร์โก เด เชซาริส จากประเทศอิตาลี[1]
มีการกล่าวกันว่า ตัวละครเกมต่อสู้สตรีทไฟเตอร์ อย่างเวก้า (เอ็ม.ไบสัน ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ) เป็นผู้นำวิชามวยไทยเลิศฤทธิ์มาใช้ในการต่อสู้เช่นกัน[8]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
หนังสืออ่านเพิ่ม
- อาจารย์ วิสิทธิ์ เลิศฤทธิ์. ไฮไฟติ้งคิคบ๊อกซิ่ง คาราเต้ ไอคิโด การเดินกำลังภายใน วิชาเบาตัว. แพร่พิทยา. พระนคร. พ.ศ. 2510.
- อาจารย์ วิสิทธิ์ เลิศฤทธิ์. การฝึกวิชาตัวเบา และอำนาจกำลังภายใน. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกษมบรรณกิจ. โรงพิมพ์ กรุงธน. ธนบุรี. พ.ศ. 2510.
- อาจารย์ วิสิทธิ์ เลิศฤทธิ์. หลักการต่อสู้แบบคาราเต้ ไอคิโด ไฮไฟ้ติ้งคิ้กบ๊อกซิ้ง การเดินลมปราณ และอำนาจกำลังภายใน. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกษมบรรณกิจ. โรงพิมพ์ กรุงธน. ธนบุรี. ม.ป.ป.
- อาจารย์ วิสิทธิ์ เลิศฤทธิ์. กลเม็ดการต่อสู้แบบคาราเต้ ไอคิโด ไฮไฟ้ติ้งคิ้กบ๊อกซิ้ง การเดินลมปราณ และอำนาจกำลังภายใน. ห้างหุ้นส่วนจำกัด เกษมบรรณกิจ. โรงพิมพ์ กรุงธน. ธนบุรี. พ.ศ. 2511.
|
---|
ผู้บัญชาการ | | |
---|
เหล่าทัพ | |
---|
หน่วยทหาร | |
---|
วิทยาลัย/โรงเรียน | |
---|
หน่วยงานอื่น | |
---|
กำลังกึ่งทหาร | |
---|
กำลังพลสำรอง | |
---|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | |
---|