| มีข้อสงสัยว่าบทความนี้อาจ ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ระบุไม่ได้ชัดเจนเพราะขาด แหล่งที่มา หรืออ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังตรวจสอบไม่ได้ หากแสดงได้ว่าบทความนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แทนป้ายนี้ด้วย {{ ละเมิดลิขสิทธิ์}} หากคุณมั่นใจว่าบทความนี้ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แสดงหลักฐาน ในหน้าอภิปราย โปรดอย่านำป้ายนี้ออกก่อนมีข้อสรุป |
บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (อังกฤษ: TrueMove H Universal Communication Co., Ltd) หรือในชื่อทางการตลาดว่า ทรูมูฟ เอช (อังกฤษ: TrueMove H) เดิมคือ ฮัทซ์ เป็นบริษัทในเครือของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ทำธุรกิจให้บริการโทรศัพท์มือถือ โดยเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศตามจำนวนผู้ใช้งาน
ประวัติ
ในยุคเริ่มแรกจดทะเบียนก่อตั้งเป็น บริษัท ฮัทจิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด โดยเป็นการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มทุนฮัทจิสัน วัมเปา (ปัจจุบันคือ ซีเค ฮัทจิสัน โฮลดิ้ง) กับ กสท. โทรคมนาคม เพื่อดำเนินการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบซีดีเอ็มเอบนคลื่นความถี่ 800 MHz ของ กสท. โทรคมนาคม ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า ฮัทซ์ และ แคท ซีดีเอ็มเอ ต่อมาการดำเนินการเกิดขาดสภาพคล่อง กลุ่มทุนฮัทจิสันจึงเสนอขายกิจการให้ กสท. โทรคมนาคม เพื่อถอนทุนออกจากประเทศไทย แต่เนื่องจากในขณะนั้นการดำเนินการของ กสท. โทรคมนาคม ยังต้องผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี กสท. โทรคมนาคม จึงปฏิเสธการเข้าซื้อกิจการ และเปิดทางให้เอกชนรายอื่นเข้ามาซื้อกิจการแทน และเป็นกลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ชนะการประมูล และสามารถเข้าซื้อกิจการได้โดยผ่านความเห็นชอบจากกสท. โทรคมนาคม[1] โดยกลุ่มทรูมุ่งหวังในการเข้าถือครองสัมปทานคงเหลือของฮัทซ์ เพื่อนำคลื่นความถี่ 800 MHz มาดำเนินการโครงข่ายโทรศัพท์มือถือระยะที่ 3 หรือ 3 จี
อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนทางกฎหมาย กลุ่มทรูไม่สามารถเข้าดำเนินการบนสัมปทานคงเหลือได้โดยตรง เนื่องจากหลายส่วนขัดต่อ พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ที่กำหนดให้คลื่นความถี่เมื่อหมดหรือถูกเลิกสัมปทาน จะต้องนำส่งคืน กสทช. เพื่อดำเนินการเปิดประมูลเป็นรายได้แผ่นดิน กสท. โทรคมนาคม จึงนำคลื่นความถี่กลับคืนทั้งหมด และแต่งตั้ง บริษัท เรียลมูฟ จำกัด ให้เป็นคู่สัญญาการร่วมลงทุนเครือข่าย รวมถึงเป็นตัวแทนขายส่งต่อบริการของ กสท. โทรคมนาคม ภายใต้ความจุโครงข่ายส่วนหนึ่งแทน ซึ่งเรียลมูฟ ได้นำความจุโครงข่ายส่วนหนึ่งมาเปิดให้บริการ 3 จี ภายใต้ชื่อ ทรูมูฟ เอช เป็นระยะเวลา 14 ปี
ต่อมา กลุ่มทรู คอร์ปอเรชัน ได้จัดตั้ง บริษัท เรียลฟิวเจอร์ จำกัด (ปัจจุบันคือ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด) เพื่อเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมบนคลื่นความถี่ 2100 MHz, 1800 MHz, 900 MHz, 700 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz กับ กสทช. ตามลำดับ เพื่อเสริม ขยายกิจการ และสะสมคลื่นความถี่สำหรับให้บริการได้อย่างคุ้มค่า โดยปัจจุบัน ทรูมูฟ เอช มีความถี่สะสมเป็นอันดับ 2 ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
- ระบบ 2 จี
- บนคลื่นความถี่ 900 และ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ ภายใต้ชื่อการค้า "ทรูมูฟ เอช" และ "ดีแทค"
- ระบบ 3 จี
- บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ์ ในฐานะเป็นตัวแทนขายส่งต่อบริการของ กสท. โทรคมนาคม ด้วยเทคโนโลยี เอชเอสพีเอ+ ความเร็วสูงสุด 42 เมกะบิตต่อวินาที ภายใต้ชื่อการค้า "ทรูมูฟ เอช 3G+ (TrueMove H 3G+)"
- บนคลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์ ด้วยเทคโนโลยี เอชเอสพีเอ+ ความเร็วสูงสุด 42 เมกะบิตต่อวินาที ภายใต้ชื่อการค้า "ทรูมูฟ เอช (TrueMove H)" "ดีแทค (dtac)" และ "ฟินน์ โมบายล์ (Finn Mobile)"
- ระบบ 4 จี
- บนคลื่นความถี่ 900, 1800, 2100 และ 2600 เมกะเฮิร์ตซ์ ด้วยเทคโนโลยี แอลทีอี แอดวานซ์ 3 ซีเอ มีชื่อการค้าว่า "ทรูมูฟ เอช 4G พลัส (TrueMove H 4G+)" "ดีแทค (dtac)" และ "ฟินน์ โมบายล์ (Finn Mobile)"
- บนคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิร์ตซ์ ด้วยเทคโนโลยี แอลทีอี แอดวานซ์ 3 ซีเอ มีชื่อการค้าว่า "ดีแทค เทอร์โบ (dtac Turbo)"
- ระบบ 5 จี
- บนคลื่นความถี่ 2600 เมกะเฮิร์ตซ์ ภายใต้ชื่อการค้า "ทรู 5G (True 5G)"
- บนคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิร์ตซ์ ภายใต้ชื่อการค้า "ดีแทค 5G (dtac 5G)"
คลื่นความถี่ที่ใช้งาน
ปัจจุบัน ทรูมูฟ เอช ได้จัดสรรการให้บริการแต่ละคลื่นความถี่ภายใต้แบรนด์ให้บริการดังต่อไปนี้
ทรูมูฟ เอช
ความถี่ |
ย่าน |
ขนาด |
เทคโนโลยี |
ประเภท |
สถานะ |
เปิด |
เวลา
|
850 MHz |
5 |
2x15 MHz |
UMTS/DC-HSPA+ |
3G |
กำลังให้บริการ (ความถี่สัมปทานจากเอ็นที) |
8 พ.ค.56 |
สิ้นสุด 2568
|
2100 MHz |
1 |
2x5 MHz |
UMTS/HSPA+ |
3G
|
กำลังให้บริการ |
8 พ.ค.56 |
สิ้นสุด 2570
|
2100 MHz |
1 |
2x10 MHz |
LTE/VoLTE |
4G |
8 พ.ค.56
|
900 MHz |
8 |
2x10 MHz |
LTE |
4G |
กำลังให้บริการ |
1 พ.ค.59 |
สิ้นสุด 2574
|
900 MHz |
8 |
GiLTE
|
GSM/GPRS/EDGE |
2G |
2533
|
1800 MHz |
3 |
2x15 MHz |
LTE-Advanced
|
4G |
กำลังให้บริการ |
4 ธ.ค.58 |
สิ้นสุด 2576
|
26000 MHz |
-
|
800 MHz |
5GNR |
5G |
กำลังให้บริการ |
2563 |
สิ้นสุด 2578
|
2600 MHz |
-
|
90 MHz |
LTE/VoLTE,5GNR |
4G,5G
|
700 MHz |
-
|
2x10 MHz |
LTE/VoLTE,5GNR |
4G,5G
|
ดีแทค และ ฟินน์ โมบายล์
คลื่นความถี่ |
หมายเลขช่องสัญญาณ |
จำนวนคลื่นความถี่ |
เทคโนโลยี |
ประเภท |
สถานะบริการ |
เปิดให้บริการ |
ระยะเวลาดำเนินการ
|
700 MHz |
28 |
2x10 MHz |
LTE |
4G/5G |
ให้บริการอยู่ |
24 ธันวาคม พ.ศ. 2563 |
สิ้นสุด พ.ศ. 2578 (ใบอนุญาต)
|
900 MHz |
8
|
2x5 MHz |
UMTS/HSPA+ |
3G
|
ให้บริการอยู่ |
พฤษภาคม พ.ศ. 2556
|
สิ้นสุด พ.ศ. 2576 (ใบอนุญาต)
|
1800 MHz |
3 |
2x5 MHz |
LTE 42Mbps |
4G |
กันยายน พ.ศ. 2561 |
สิ้นสุด พ.ศ. 2576 (ใบอนุญาต)
|
1800 MHz |
3 |
GiLTE |
GSM/GPRS/EDGE |
2G
|
2100 MHz |
1 |
2x5 MHz |
UMTS/HSPA+ 35Mbps |
3G |
ให้บริการอยู่ |
พฤษภาคม พ.ศ. 2556
|
สิ้นสุด พ.ศ. 2570 (ใบอนุญาต)
|
2100 MHz |
1 |
2x10 MHz |
LTE 75Mbps |
4G
|
2300 MHz |
40 |
20 MHz + 20 MHz + 20 MHz |
TD-LTE with Intraband 3CA & Massive MIMO |
4G |
มิถุนายน พ.ศ. 2561 |
สิ้นสุด พ.ศ. 2568 (สัญญาเช่ากับ NT)
|
26 GHz |
2 |
2x100 MHz |
5G
1000mbps
|
5G |
ให้บริการอยู่ |
กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2563
|
สิ้นสุด พ.ศ. 2578
|
ข้อวิจารณ์
วันที่ 13 เมษายน 2561 สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) รายงานอ้างอิงนิอัลล์ เมอร์ริแกน (Niall Merrigan) นักวิจัยด้านความมั่นคงว่า ข้อมูลผู้ใช้บริการทรูมูฟ เอชรั่วไหล เนื่องจากเก็บข้อมูลในแอมะซอน เอส3 บักเก็ต (Amazon S3 bucket) ที่รักษาความปลอดภัยไม่เพียงพอ โดยเป็นไฟล์สแกนสำเนาบัตรประชาชน ใบขับขี่และหนังสือเดินทางระหว่างปี 2559 ถึง 2561 จำนวนประมาณ 46,000 ไฟล์[2] ทั้งนี้ หากบุคคลภายนอกทราบยูอาร์แอลก็สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้ทั้งหมด[3] ทางเมอร์ริแกนพยายามติดต่อบริษัทตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม โดยบริษัทยอมรับว่าไม่มีหน่วยงานด้านความปลอดภัยเฉพาะ[3] เพิ่งมาปิดความเป็นสาธารณะไปเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2561[4]
ต่อมา ทรูออกแถลงการณ์ยอมรับว่าถูกแฮกข้อมูลผ่านไอทรูมาร์ต (Itruemart) โดยผู้ได้รับผลกระทบได้แก่ผู้ซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมแพคเกจบริการทรูมูฟ เอช และลงทะเบียนซิมทางไอทรูมาร์ต ทีมงานจะมีการส่งแจ้งเตือนไปยังลูกค้ากลุ่มดังกล่าว[5] ด้านสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) แนะนำให้ประชาชนไปลงบันทึกประจำวันแจ้งไว้เป็นหลักฐานป้องกันผู้ร้ายนำไปสวมรอยหรือปลอมแปลง[2]
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรียกให้ทรูมูฟ เอช เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 17 เมษายน 2561 ด้านเลขาธิการ กสทช. ระบุว่า หากมีความผิดอาจถึงขั้นพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาต[6]
วันที่ 17 เมษายน 2561 ผู้บริหารบริษัทไอทรูมาร์ทและ ทรู คอร์เปอเรชั่นเข้าชี้แจงกับ กสทช. โดยให้ข้อมูลว่าข้อมูลที่เก็บไว้ในคลาวด์มีจำนวน 11,400 เลขหมาย จากจำนวนลูกค้า 1 ล้านรายที่ลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์ และการเข้าถึงข้อมูลตามข่าวมาจากการเจาะข้อมูลด้วยเครื่องมือพิเศษ 3 ชั้นซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ ด้าน กสทช. ยังไม่สรุปว่าทรูมีความผิดหรือไม่ แต่จะทำหนังสือเตือนผู้ให้บริการทุกเครือข่ายโทรทัศน์ให้ตรวจสอบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และอาจใช้งบประมาณจากกองทุนบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) จัดทำฐานจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เครือข่ายทุกค่ายแทนเอกชน[7]
วันที่ 18 เมษายน 2561 กสทช. สั่งให้บริษัท เรียล มูฟ จำกัด เยียวยาความเสียหายต่อผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบภายใน 7 วัน โดยหากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับไม่ต่ำกว่าสองหมื่นบาทต่อวัน[8]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
ผู้ให้บริการหลัก | |
---|
ผู้ให้บริการเสมือน | |
---|
อดีตผู้ให้บริการ | |
---|
|
---|
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร | ผลิตภัณฑ์อาหาร | |
---|
ร้านอาหาร | |
---|
อาหารสัตว์ | |
---|
|
---|
ซีพี ออลล์ | ธุรกิจค้าปลีก | |
---|
ธุรกิจค้าส่ง | |
---|
ผลิตภัณฑ์อาหาร | |
---|
บริการด้านการเงิน | |
---|
บริการด้านการศึกษา | |
---|
บริการด้านโลจิสติกส์ | |
---|
|
---|
ทรู คอร์ปอเรชั่น | |
---|
บริษัทภายใต้การบริหารของกลุ่มทรู | |
---|
ธุรกิจอื่น ๆ | |
---|
ส่วนที่เกี่ยวข้อง | |
---|
ผู้บริหารระดับสูง | |
---|