ตำบลเกาะตะเภา |
---|
|
การถอดเสียงอักษรโรมัน |
---|
• อักษรโรมัน | Tambon Ko Taphao |
---|
วัดพระบรมธาตุ สร้างเลียนแบบเจดีย์ชเวดากอง สันนิษฐานว่าสร้างครอบเจดีย์องค์เดิมไว้โดยพระครูพิทักษ์บรมธาตุ (หลวงพ่อทองอยู่) |
ประเทศ | ไทย |
---|
จังหวัด | ตาก |
---|
อำเภอ | บ้านตาก |
---|
พื้นที่ |
---|
• ทั้งหมด | 108.61 ตร.กม. (41.93 ตร.ไมล์) |
---|
ประชากร (2563) |
---|
• ทั้งหมด | 6,062 คน |
---|
• ความหนาแน่น | 55.81 คน/ตร.กม. (144.5 คน/ตร.ไมล์) |
---|
รหัสไปรษณีย์ | 63120 |
---|
รหัสภูมิศาสตร์ | 630205 |
---|
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
เกาะตะเภา เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวอำเภอ ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านตากประมาณ 7 กิโลเมตร และห่างจากศาลากลางจังหวัดตากประมาณ 27 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1175 ถนนเจดีย์ (บ้านตาก) - แม่ระมาด และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน)
ตำบลเกาะตะเภาทั้งตำบลอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะตะเภาซึ่งเดิมมีฐานะเป็นสภาตำบลเกาะตะเภาในปี พ.ศ. 2517[1] ก่อนที่ต่อมาจะได้รับการจัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะตะเภาในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2539[2]
ที่ตั้งและอาณาเขต
ตำบลเกาะตะเภาตั้ มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลบ้านนา ตำบลย่านรี และตำบลสามเงา อำเภอสามเงา
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลแม่สลิด และตำบลตากออก อำเภอบ้านตาก
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลตากตก อำเภอบ้านตาก
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลท้องฟ้า อำเภอบ้านตาก
ประวัติ
สันนิษฐานว่าตำบลเกาะตะเภา คือบริเวณเมืองตากในอดีตเป็นเมืองที่มีชาวมอญอยู่มาก่อน ดังมีหลักฐานศิลปะมอญปรากฏอยู่ เมืองตากเป็นหนึ่งในหัวเมืองที่มีอายุขัยเกินกว่าสองพันปีขึ้นไป เมื่อมีการอพยพของชนชาติไทยจากลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนใต้ ลงมาตามแนวลำน้ำดง (ลำน้ำสาละวิน) มีพวกหนึ่ง ได้ข้ามลำน้ำสาละวินผ่านลุ่มน้ำเมยหรือแม่น้ำต่องยินเข้ามาทางช่องเขาด้านอำเภอแม่สอด และมาถึงบริเวณที่เรียกว่า “เมืองตาก” ผู้นำกลุ่มไทยได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองตากในยุคนั้นได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ปกครองสืบทอดต่อเนื่องกันมาจนถึงปี พ.ศ. 560 รัชสมัยพระเจ้าสักดำ ซึ่งเป็นกษัตริย์เมืองตากที่ยิ่งใหญ่มาก มีอาณาเขตที่อยู่ในอำนาจแผ่ไปจนจรดทะเลอันดามัน ดังมีบันทึกในพงศาวดารเหนือ กล่าวว่าในรัชสมัยพระเจ้าสักดำนั้น เมืองตากมีการค้าขายกับเมืองอินเดียด้วย เมืองตากคงจะเสื่อมลงในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10 พระยากาฬวรรณดิศ ผู้เป็นเชื้อสายกษัตริย์เมืองตากที่อพยพมาจากตอนใต้ของลุ่มน้ำแยงซีเกียง ได้โยกย้ายไปสร้างราชธานีขึ้นใหม่ที่เมืองละโว้ ทางตอนใต้ของเมืองตากลงไปอีก มีบางยุคเมืองตากถูกทอดทิ้งกลายเป็นเมืองร้างดังในพงศาวดารเหนือ ได้กล่าวถึง การเสด็จทางชลมารคของพระนางจามเทวี พระราชธิดากษัตริย์เมืองละโว้ เพื่อไปปกครองแคว้นหริภุญไชย (ลำพูน) ในราว พ.ศ. 1200 โดยทางลำน้ำปิง พระนางจามเทวีขึ้นไปสำรวจบนฝั่งแม่น้ำพบร่องรอยกำแพงเมืองเก่าๆ ถูกทิ้งร้าง จึงโปรดให้สร้างเป็นบ้านเมืองใหม่ ชื่อว่า “เมืองตาก” ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 1805 ขุนสามชนเมืองฉอดได้ยกทัพมาประชิดเมืองตากซึ่งเป็นเมืองชายแดนของกรุงสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ทรงจัดกองทัพออกไปรบโดยมีพระราชโอรสองค์เล็กซึ่งมีพระชนมายุได้ 19 พรรษา ติดตามไปด้วย กองทัพทั้งสองฝ่ายปะทะกันที่บริเวณเชิงดอยนอกเมืองตากประมาณกิโลเมตรเศษ ราชโอรสองค์เล็กได้ทรงชนช้างกับขุนสามชนกระทำยุทธหัตถีกัน ขุนสามชนสู้ไม่ได้แตกพ่ายไป ต่อมาภายหลังทรงพระนามว่า “พ่อขุนรามคำแหงมหาราช” และ ได้ทรงสร้างเจดีย์ขึ้นเป็นที่ระลึกถึงชัยชนะในการทำยุทธหัตถี ครั้งนั้น เป็นศิลปะแบบสุโขทัย ซึ่งเจดีย์ยุทธหัตถีนี้อยู่ที่วัดพระบรมธาตุ ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก ห่างจากตัวเมืองไปทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ราว 31 กิโลเมตร ต่อมาในแผ่นดินมหาธรรมราชาได้ย้ายเมืองตากลงมาทางตอนใต้ตามล้ำน้ำปิง ไปตั้งอยู่ที่ป่ามะม่วงฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ซึ่งอยู่ในเขตตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตาก ในปัจจุบัน
จากประวัติความเป็นมาจึงน่าจะเป็นข้อสันนิษฐานหนึ่งว่าเป็นที่มาของชื่อตำบลเกาะตะเภา ซึ่งเชื่อกันว่าพระนางจามเทวีได้ล่องเรือสำเภามาตามแม่น้ำปิงจนถึงบ้านแม่พะยวบ ตรงนั้นเป็นจุดรวมของแม่น้ำปิงกับแม่น้ำวังซึ่งไหลมาบรรจบกัน บริเวณบ้านปากวัง บริเวณดังกล่าวมีน้ำลึกมาก เป็นวังวน เรือสำเภาถูกกระแสน้ำพัดจนเรือแตก ไหลตามน้ำมาติดตรงเกาะบริเวณบ้านพระธาตุ จึงเรียกบริเวณนี้ว่าเกาะตะเภา
อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งคือในสมัยก่อนจะมีบ้านเรือนกลุ่มหนึ่งตั้งอยู่บนเกาะซึ่งโอบล้อมด้วยลำน้ำปิงและลำน้ำแควสะเปา (ลำน้ำแควสะเปาได้ถูกถมให้เป็นถนนเพื่อป้องกันน้ำท่วมในสมัยหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช) ลำน้ำแควสะเปาไหลผ่านจากบ้านพระธาตุถึงบ้านศรีค้ำ คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า คนบ้านอื่นจะเรียกคนแถบนี้ว่า “คนบ้านเกาะ” ซึ่งน่าจะหมายถึง “คนบ้านเกาะแควสะเปา” และต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “คนบ้านเกาะตะเภา” จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งที่มาของชื่อ ตำบลเกาะตะเภา[3]
อ้างอิง