แอปเปิลพาร์ก

แอปเปิลพาร์ก
มุมมองเหนือศีรษะ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2018
Apple Parkตั้งอยู่ในย่านอ่าวซานฟรานซิสโก
Apple Park
Apple Park
Location in the San Francisco Bay Area
Apple Parkตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
Apple Park
Apple Park
Location in the U.S. state of California
Apple Parkตั้งอยู่ในสหรัฐ
Apple Park
Apple Park
Location in the contiguous United States
ชื่ออื่นApple Campus 2; One Apple Park Way
ข้อมูลทั่วไป
สถานะเสร็จสมบูรณ์
สถาปัตยกรรมNeo-futurism
ที่อยู่1 แอปเปิลพาร์กเวย์[1]
เมืองคูเปอร์ติโน, รัฐแคลิฟอร์เนีย
ประเทศสหรัฐ
พิกัด37°20′06″N 122°00′32″W / 37.3349°N 122.0090°W / 37.3349; -122.0090
ตั้งชื่อให้บริษัท แอปเปิล
ลงเสาเข็ม2013
เริ่มสร้าง2014
เปิดใช้งานเมษายน ค.ศ. 2017
ค่าก่อสร้างUS$5 พันล้าน (ราคาที่ดินประมาณ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)[3]
เจ้าของบริษัทแอปเปิล
ขนาด
เส้นผ่านศูนย์กลาง0.29 mi (0.46 km)
เส้นรอบวง0.91 mi (1.46 km)
ด้านอื่น ๆรองรับพนักงานได้มากกว่า 15,000 คน (ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2023)
ข้อมูลทางเทคนิค
วัสดุอลูมิเนียม,กระจก
จำนวนชั้น4[4]
พื้นที่แต่ละชั้น2,820,000 sq ft (262,000 m2)[4]
พื้นที่ชั้นล่าง64 เอเคอร์ (0.26 km2)[2]
การออกแบบและการก่อสร้าง
สถาปนิกนอร์แมน ฟอสเตอร์[5]
บริษัทออกแบบFoster and Partners[4]
วิศวกรโครงสร้างอารุป[6]
วิศวกรบริการอารุป[6]
ข้อมูลอื่น
ที่จอดรถ14,200
แอปเปิลพาร์กในปี พ.ศ. 2566

แอปเปิลพาร์ก (อังกฤษ: Apple Park) เป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทแอปเปิล ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 1 ถนนแอปเปิลพาร์ก (One Apple Park Way) ในคูเปอร์ติโน แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ เปิดในเดือนเมษายน พ.ศ. 2560 ในขณะที่การก่อสร้างยังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยย้ายมาจากสำนักงานใหญ่เดิมที่ 1 Infinite Loop ซึ่งเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2536 [7]

นอร์แมน ฟอสเตอร์[8] ได้ออกแบบโครงสร้างของแอปเปลพาร์กให้มีขนาดและรูปร่างวงกลมทำให้โครงสร้างนี้ได้รับฉายาว่า “the spaceship" [9][10][11]

แอปเปิลพาร์ก ตั้งอยู่บนพื้นที่ชานเมือง 175 เอเคอร์ (71 เฮกตาร์) มีพนักงานมากกว่า 12,000 คนในอาคารทรงกลมสี่ชั้นตรงกลาง ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2,800,000 ตารางฟุต (260,000 ตารางเมตร) สตีฟ จ็อบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งของ Apple ต้องการให้ศูนย์ดูไม่เหมือนสวนสำนักงานและเป็นเหมือนที่หลบภัยธรรมชาติมากกว่า 80% ของสถานที่ประกอบด้วยพื้นที่สีเขียวที่ปลูกด้วยต้นไม้ทนแล้งและพืชพื้นเมืองในพื้นที่คูเปอร์ติโนและลานตรงกลางของอาคารหลักมีสระน้ำประดิษฐ์ [11]

อ้างอิง

  1. "Trademark/Service Mark Application, Principal Register". USPTO. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2018. สืบค้นเมื่อ 24 February 2018.
  2. 2.0 2.1 "Apple Park opens to employees in April". Apple Newsroom. Apple Inc. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2017. สืบค้นเมื่อ 22 February 2017.
  3. Apple Campus 2 cost 5 billion เก็บถาวร 16 พฤศจิกายน 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Projects: Foster and Partners
  4. 4.0 4.1 4.2 "Apple Campus 2: Project Description" (PDF). City of Cupertino. Cupertino, CA: Apple Inc. Sep 2013. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 10 June 2014. สืบค้นเมื่อ 17 June 2014.
  5. Wainwright, Oliver (15 November 2013). "All hail the mothership: Norman Foster's $5bn Apple HQ revealed". The Guardian. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 October 2016.
  6. 6.0 6.1 "Request for Proposal: Professional Construction Inspection and Public Works Inspection Services for the City of Cupertino for the Apple Campus 2 Project". City of Cupertino. Cupertino, CA: City of Cupertino – Inspection Services. 12 พฤศจิกายน 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (pdf)เมื่อ 6 พฤศจิกายน 2014. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2014.
  7. Reisinger, Don (May 31, 2016). "Apple Campus 2 Looking Good in New Drone Flyover". Fortune. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 10, 2016. สืบค้นเมื่อ June 22, 2016.
  8. "New Apple Headquarters The Best Office Building In The World, Designed In London". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 25, 2019. สืบค้นเมื่อ May 25, 2019.
  9. Moore, Amy. "Complete guide to Apple Park, Apple's new 'spaceship' campus". Macworld UK (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 7, 2017. สืบค้นเมื่อ May 7, 2017.
  10. VanHemert, Kyle. "Look Inside Apple's Spaceship Headquarters With 24 All-New Renderings". WIRED (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 21, 2017. สืบค้นเมื่อ May 7, 2017.
  11. 11.0 11.1 O'Brien, Chris (June 4, 2016). "A look at Apple's insanely ambitious tree-planting plans for its new spaceship campus". VentureBeat. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 19, 2017.

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!