แอกเซล โรส

แอ็กเซิล โรส
แอ็กเซิล โรส ในปี 2017
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดวิลเลียม บรูซ โรส จูเนียร์
รู้จักในชื่อแอ็กเซิล โรส
เกิด (1962-02-06) กุมภาพันธ์ 6, 1962 (62 ปี)
ที่เกิดลาฟาแยต รัฐอินดีแอนา สหรัฐอเมริกา
แนวเพลงฮาร์ดร็อค เฮฟวี่เมทัล
อาชีพนักร้อง , นักแต่งเพลง , โปรดิวเซอร์
เครื่องดนตรีไมโครโฟน , เปียโน , กีตาร์ , เครื่องสังเคราะห์เสียง , คียบอร์ด , เพอร์คัชชัน
ช่วงปีค.ศ. 1983 - ปัจจุบัน
ค่ายเพลงGeffen , UZI Suicide
คู่สมรสErin Everly (1990 - 1991)
เว็บไซต์www.gunsnroses.com

ดับเบิลยู. แอ็กเซิล โรส (อังกฤษ: W. Axl Rose) (ชื่อเกิด วิลเลียม บรูซ โรส จูเนียร์; ต่อมาเปลี่ยนเป็น วิลเลียม บรูซ เบลีย์, 6 กุมภาพันธ์ 1962)[1] เป็นนักร้องชาวอเมริกัน และนักแต่งเพลง เขายังเป็นนักร้องนำและเป็นสมาชิกดั้งเดิมเพียงคนเดียวของวงฮาร์ดร็อก กันส์แอนด์โรสเซส แอ็กเซิล โรส เป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องที่มีเสียงอันทรงพลังและการแสดงสดอันยอดเยี่ยม โรสยังถูกเข้าชิงชื่อเป็นหนึ่งในนักร้องที่เยี่ยมที่สุดตลอดกาลโดยนิตยสารต่างๆ อาทิ โรลลิงสโตน และ NME[2][3]

เกิดและเติบโตใน ลาฟาแยต , อินเดียน่า, โรสย้ายไปยังลอสแองเจอริสในช่วงต้นยุค 80's ซึ่งในช่วงนั้นเขาก็ยังทำหน้าที่แก่หลายวงเช่น Hollywood Rose และ L.A. Guns ในปี 1985 เขายังได้เป็นผู้ก่อตั้งวง Guns N' roses ซึ่งต่อมาประผลความสำเร็จอย่างมากในปลายยยุค 80's ถึงยุค 90's โดยอัลบั้มชุดแรก แอปพีไทต์ฟอร์เดสตรักชัน (1987) มียอดขายไปกว่า 30 ล้านแผ่นเสียงทั่วโลก[4][5] โดยอัลบั้ม Use Your Illusion I และ Use Your Illusion II (1991) ติดอันดับ 2 และ 1 ใน บิลบอร์ด 200 และยังมียอดขาย 35 ล้านแผ่นเสียงทั่วโลก[4][5]

หลังจากปี 1994 , ทัวร์คอนเสริ์ตอัลบั้มชุดที่ 3 Use Your Illusion ซึ่งกินเวลาไปครึ่งปี หลังจากนั้นแอ็กเซิล โรสก็หายไปจากชีวิตประชาชนถึงหลายปี ในขณะที่ภายในวงมีปัญหากันระหว่างสมาชิกอันเนื่องมาจากความแตกต่างของแนวเพลงดนตรีของสมาชิก แต่ก็ยังเป็นสมาชิกยุคบุกเบิกคนเดียวภายในวง เขาก็ยังสามารถทำงานอย่างต่อเนื่องกับวง กันส์แอนด์โรสเซส เพราะชื่อวงของเขาถูกต้องตามกฎหมาย ในปี 2001 เขาไลน์อัพวง กันส์แอนด์โรสเซสขึ้นมาใหม่ในเทศกาลดนตรี Rock in Rio 3 อีกทั้งยังมีการทัวร์คอนเสริ์ตอยู่เป็นระยะเพื่อโปรโมตอัลบั้มชุดที่หก Chinese Democrazy ซึ่งมีความคาดหวังอย่างมากในวงการเพลงก่อนที่จะถูกปล่อย [6] ในปี 2012 , แอ็กเซิล โรสได้แต่งตั้งให้อยู่ใน หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล ในฐานะสมาชิกวงกันส์แอนด์โรสเซส แต่เขาปฏิเสธการเข้าร่วมและการร้องขอจากหอเกียรติยศ[7]

ประวัติ

แอ็กเซิล โรส มีชื่อเกิดว่า วิลเลียม บรูซ โรส จูเนียร์ ในลาฟาแยต , อินเดียน่า เป็นลูกคนแรกของ ชารอน อี (née Lintner), ขณะนั้นชารอนอียังอายุสิบหก ซึ่งเธอกำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษา[8] และพ่อของเขา วิลเลียม บรูซ โรสขณะนั้นอายุยี่สิบ .[9][10] พ่อของแอกโซลกล่าวว่า เธอเป็นตัวปัญหาในชุมชน และการตั้งครรภ์โดยไม่วางแผน.[8] พ่อแม่ของเขาแยกทางกันเมื่อเขาอายุได้เพียงสองขวบ , พ่อของเขายังถูกกล่าวหาว่า ลักพาตัวและทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะหนีไปจากเมืองลาฟาแยต[8] แม่ของเขาแต่งงานใหม่กับ สตีเฟ่น เอล เบลีย์ และเปลี่ยนชื่อลูกชายเป็น วิลเลียม บรูซ เบลีย์.[10][11] เขามีสองพี่น้องที่อายุน้อยกว่า - น้องสาว เอมี่ และลูกพี่ลูกน้อง , จวร์ตส จนอายุได้ 17 , โรสเชื่อว่าไบลีย์เป็นพ่อแม่บุญธรรม[12] เขายังไม่เคยพบพ่อแม่แท้ๆจนโตเป็นผู้ใหญ่ , วิลเลียม บรูซ , ซีเนียร์ เขายังไม่เคยพบพ่อแม่แท้ๆจนโตเป็นผู้ใหญ่ , วิลเลียม บรูซ ซีเนียร์พ่อแท้ๆของแอกแซล โรสถูกฆาตกรรมที่เมืองมาริออน , รัฐอิลลินอย ในปี 1984 โดยถูกฆาตกรรมจากคนใกล้ตัวเองและถูกตัดสินลงโทษ[13][14] โรซยังไม่ได้ทราบเรื่องคดีฆาตกรรมจนกระทั่งปีถัดมา[15]

ครอบครัวไบลีย์เคร่งครัดในศาสนา โรสและครอบครัวของเขามักเข้าโบสถ์เพนเทคอสต์อยู่บ่อยครั้ง , ซึ่งเขาจะต้องมาโบสถ์ 3-8 ครั้งต่อสัปดาห์อีกทั้งยังต้องมาโรงเรียนคริสถ์ทุกวันอาทิตย์[16] โรสได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องการเรียนภายหลังว่า เขารู้สึกไม่สบายใจนักเพราะโดนกดขี่ โรสได้อธิบายไว้ดังนี้ "เราต้องการได้โทรทัศน์ภายในอาทิตย์เดียว แต่พ่อเลี้ยงผมโยนมันเพราะพวกเขามีจิตใจอำมหิต ผมไม่ได้รับการยินยอมให้ฟังเพลง ผู้หญิงคือปีศาจ ทุกสิ่งคือปีศาจ"[16]

อ้างอิง

  1. "Monitor". Entertainment Weekly (1245): 22. Feb 8, 2013.
  2. Lethem, Jonathan (2008-11-27). "100 Greatest Singers of All Time". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ 2011-06-03.
  3. "Michael Jackson tops NME's Greatest Singers poll". NME. 2011-06-21. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-27. สืบค้นเมื่อ 2011-07-10.
  4. 4.0 4.1 Smith, Sara (2012-11-18). "'American Masters' highlights David Geffen's influence but only hints at a dark side". The Kansas City Star. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-09. สืบค้นเมื่อ 2014-03-11.
  5. 5.0 5.1 Havelock, Laurie (2012-08-09). "Column - Still hungry? 25 years of Guns N' Roses' Appetite for Destruction". Q magazine. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-11. สืบค้นเมื่อ 2014-03-11. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)
  6. Erlewine, Stephen Thomas. "Guns N' Roses Biography". AllMusic. สืบค้นเมื่อ December 18, 2011.
  7. "ไม่ขอเผาผี! "แอ็กเซล" ยันไม่เข้า "หอเกียรติยศร็อค" กับอดีต Guns N' Roses". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-13. สืบค้นเมื่อ 2015-04-29.
  8. 8.0 8.1 8.2 Davis, Stephen (2008). Watch You Bleed: The Saga of Guns N' Roses. Gotham Publishing. ISBN 978-1-59240-377-6.
  9. Reitwiesner, William Addams. "Ancestry of Axl Rose". William Addams Reitwiesner Genealogical Services. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-15. สืบค้นเมื่อ 2011-06-06.
  10. 10.0 10.1 "Axl Rose: Biography". Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-06. สืบค้นเมื่อ 2011-06-06.
  11. Tannenbaum, Rob (1988-11-17). "The Hard Truth About Guns N' Roses". Rolling Stone.
  12. Neely, Kim (1992-04-02). "Axl Rose: The Rolling Stone Interview". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-11. สืบค้นเมื่อ 2011-06-03.
  13. Spiller, Harry (2003). Murder in the Heartland. 20 Case Files. Book 1. Missing Body. Turner Publishing. p. 171.
  14. Wall, Mick (1990-04-21). "Stick to Your Guns". Kerrang. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-11. สืบค้นเมื่อ 2011-06-06.
  15. Wall, Mick (1990-04-21). "Stick to Your Guns". Kerrang. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 July 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-06-06.
  16. 16.0 16.1 James, Del (November 1992). "I, Axl – Part III". RIP. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 June 2011. สืบค้นเมื่อ 2011-06-06.

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!