แทมมี อับราฮัม
อับราฮัมขณะกำลังอุ่นเครื่องให้กับ
โรมา ในปี 2023
ชื่อเต็ม
Kevin Oghenetega Tamaraebi Bakumo-Abraham[ 1] วันเกิด
(1997-10-02 ) 2 ตุลาคม ค.ศ. 1997 (27 ปี) [ 2] สถานที่เกิด
แคมเบอร์เวล อังกฤษ ส่วนสูง
6 ft 3 in (1.90 m)[ 3] ตำแหน่ง
กองหน้า สโมสรปัจจุบัน
มิลาน (ยืมตัวจากโรมา ) หมายเลข
90 2004–2016
เชลซี ปี
ทีม
ลงเล่น
(ประตู ) 2016–2021
เชลซี
58
(21) 2016–2017
→ บริสตอลซิตี (ยืมตัว)
41
(23) 2017–2018
→ สวอนซีซิตี (ยืมตัว)
31
(5) 2018–2019
→ แอสตันวิลลา (ยืมตัว)
37
(25) 2021–
โรมา
83
(26) 2024–
→ มิลาน (ยืมตัว)
1
(0) 2014–2015
อังกฤษ อายุไม่เกิน 18 ปี
5
(2) 2015–2016
อังกฤษ อายุไม่เกิน 19 ปี
14
(5) 2016–2019
อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี
25
(9) 2017–
อังกฤษ
11
(3)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2022 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2021 (UTC)
แทมมี อับราฮัม (เกิดวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1997) เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้า ให้แก่โรมา ในเซเรียอา และทีมชาติอังกฤษ
อับราฮัม เป็นผู้เล่นที่มาจากทีมเยาวชนของเชลซี เขาได้เลื่อนมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ใน ค.ศ. 2016 ก่อนที่จะถูกปล่อยยืมตัวให้กับบริสตอลซิตี ในแชมเปียนชิป ในช่วงนั้น เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม ผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยม และดาวซัลโว ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกของบริสตอลที่สามารถคว้าถึงสามรางวัลในหนึ่งฤดูกาล ต่อมาเขาถูกปล่อยยืมตัวอีกครั้งให้กับสวอนซีซิตี ซึ่งจบฤดูกาลด้วยการตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก ต่อมาใน ค.ศ. 2018 เขาถูกปล่อยยืมตัวให้กับแอสตันวิลลา และเป็นผู้เล่นคนแรกนับตั้งแต่ปี 1977 ที่ยิงถึง 25 ประตูในการเล่นหนึ่งฤดูกาลให้กับวิลลา
อับราฮัม เคยลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี 2017 ซึ่งจัดขึ้นที่โปแลนด์ ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก
สโมสร
เชลซี
หลังจากที่ถูกปล่อยยืมตัวถึงสามครั้ง อับราฮัมได้กลับสู่เชลซี ซึ่งเขาได้รับเสื้อหมายเลข 9 ซึ่งเคยเป็นหมายเลขของ จิมมี โฟลยด์ ฮัสเซิลบังก์ , กันลูคา วีอัลลี, เฟร์นันโด ตอร์เรส , มาร์ก สตีน และ เอร์นัน เกรสโป [ 4] [ 5]
เขาลงเล่นเป็นตัวสำรองนัดแรกของฤดูกาลในยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 พบกับ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 14 สิงหาคม โดยในช่วงของการยิงลูกโทษ อับราฮัมยิงไปติดเซฟของอาเดรียน สุดท้าย เชลซีพ่ายแพ้ในการยิงลูกโทษ 5–4[ 6] เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้เขาถูกโจมตีในทวิตเตอร์ [ 7] สิบวันถัดมา อับราฮัม ทำประตูแรกในสีเสื้อเชลซี นัดที่บุกไปชนะนอริชซิตี 3–2[ 8] และในเดือนถัดมา อับราฮัม ยิงแฮตทริก และทำเข้าประตูตัวเอง ในนัดที่เชลซีบุกไปเอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 5–2[ 9] เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงสามประตูต่อหนึ่งนัดในพรีเมียร์ลีก โดยมีอายุเพียง 21 ปี 347 วัน[ 10]
ทีมชาติ
วันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 อับราฮัม เป็นหนึ่งในสามผู้เล่นหน้าใหม่ ที่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ ในเกมกระชับมิตร นัดที่พบกับเยอรมนี และบราซิล [ 11] [ 12] ต่อมาในวันที่ 10 พฤศจิกายน เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในนัดที่ อังกฤษ เสมอกับ เยอรมนี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ 0–0[ 13]
สถิติอาชีพ
ทีมชาติ
ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2019 [ 14]
ทีมชาติ
ปี
ลงเล่น
ประตู
อังกฤษ
2017
2
0
2019
2
1
รวมทั้งหมด
4
1
ประตูในนามทีมชาติ
ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2019 [ 14]
เกียรติประวัติ
แอสตันวิลลา
โรมา
ทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี
Toulon Tournament: 2018[ 17]
รางวัลส่วนตัว
PFA Fans' Championship Player of the Month: August/September 2016[ 18]
Championship Player of the Month: November 2018[ 19]
Bristol City Player of the Season: 2016–17[ 20]
Bristol City Young Player of the Season: 2016–17[ 20]
Bristol City top scorer: 2016–17[ 20]
PFA Team of the Year: 2018–19 Championship[ 21]
อ้างอิง
↑ "T. Abraham: Summary" . Soccerway . Perform Group. สืบค้นเมื่อ 6 August 2018 .
↑ "Tammy Abraham" . 11v11.com . AFS Enterprises. สืบค้นเมื่อ 11 November 2017 .
↑ "Tammy Abraham: Overview" . Premier League. สืบค้นเมื่อ 21 June 2019 .
↑ "Chelsea 2019/20 Squad Numbers Announced" . Chelsea F.C . 2 August 2019. สืบค้นเมื่อ 25 August 2019 .
↑ "Ranking every player to wear No.9 for Chelsea in the Premier League" . Planet Football . 24 July 2019.
↑ "Liverpool sink Chelsea to lift Super Cup thanks to Adrián shootout save" . Guardian . 14 August 2019. สืบค้นเมื่อ 15 August 2019 .
↑ Steinberg, Jacob (16 August 2019). "Frank Lampard ready to play Tammy Abraham for Chelsea after racial abuse" . The Guardian . สืบค้นเมื่อ 17 August 2019 .
↑ "Norwich 2-3 Chelsea: Tammy Abraham scores twice as Frank Lampard gets first win as Blues boss" . BBC Sport . 24 August 2019. สืบค้นเมื่อ 24 August 2019 .
↑ "Wolves 2–5 Chelsea" . BBC Sport . 15 September 2019.
↑ Burton, Chris (14 September 2019). "Abraham matches Ronaldo exploits as Chelsea striker beats Hazard record" . Goal. สืบค้นเมื่อ 14 September 2019 .
↑ "Joe Gomez, Ruben Loftus-Cheek and Tammy Abraham get England call-ups" . ESPN. 2 November 2017. สืบค้นเมื่อ 2 November 2017 .
↑ "England: Tammy Abraham, Joe Gomez & Ruben Loftus-Cheek called up" . BBC Sport. 2 November 2017. สืบค้นเมื่อ 2 November 2017 .
↑ McNulty, Phil (10 November 2017). "England 0–0 Germany" . BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 11 November 2017 .
↑ 14.0 14.1 "Abraham, Tammy" . National Football Teams . Benjamin Strack-Zimmermann. สืบค้นเมื่อ 14 November 2019 .McNulty, Phil (14 November 2019). "England 7–0 Montenegro" . BBC Sport . สืบค้นเมื่อ 15 November 2019 .
↑ McNulty, Phil (14 November 2019). "England 7–0 Montenegro" . BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 15 November 2019 .
↑ Woodcock, Ian (27 May 2019). "Aston Villa 2–1 Derby County" . BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 27 May 2019 .
↑ "Final fightback takes England U21S to Toulon hat-trick with win over Mexico" . The Football Association. 9 June 2018. สืบค้นเมื่อ 10 June 2019 .
↑ "Tammy Abraham wins PFA Fans' Championship Player of the Month" . Professional Footballers' Association. สืบค้นเมื่อ 30 September 2016 .
↑ Taiwo, Taiye (7 December 2018). "Outstanding Tammy Abraham named Championship Player of the Month" . Goal. สืบค้นเมื่อ 29 December 2018 .
↑ 20.0 20.1 20.2 Baker, Adam (7 May 2017). "Abraham makes history with triple crown of awards" . Bristol City F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 3 January 2018. สืบค้นเมื่อ 8 May 2017 .
↑ "Championship: Norwich and Leeds dominate PFA selection of team of 2018-19" . BBC Sport. 24 April 2019. สืบค้นเมื่อ 25 April 2019 .
แหล่งข้อมูลอื่น