เมืองกำแพงเกาลูนเมื่อ ค.ศ.1991
เมืองกำแพงเกาลูน (จีน : 九龍寨城 ; ยฺหวิดเพ็ง : gau2 lung4 zaai6 sing4 ; อังกฤษ : Kowloon Walled City ) เป็นชุมชนแออัดในฮ่องกง ตั้งอยู่ที่เมืองเกาลูนในอาณานิคมฮ่องกง ของอังกฤษ เดิมเป็นป้อมปราการทางทหารของจีน ในสมัยต่อมา ถึงแม้ว่าฮ่องกงจะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่เมืองนี้ก็ยังถือเป็นดินแดนของจีนโดยพฤตินัย จำนวนประชากรในเมืองเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการยึดครองฮ่องกงของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1990 เมืองนี้มีประชากรประมาณ 50,000 คน[ 1] และมีพื้นที่ประมาณ 2.6 เฮกตาร์ (6.4 เอเคอร์) เมืองกำแพงเกาลูนเคยถูกควบคุมโดยกลุ่มอั้งยี่ จึงมีอัตราการค้าประเวณี การพนัน และการใช้ยาเสพติดสูง
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1987 รัฐบาลฮ่องกง ได้ประกาศแผนการรื้อถอนเมืองกำแพงเกาลูน หลังจากถ่ายโอนที่ดินมาจากประเทศจีน ได้สำเร็จ การรื้อถอนเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1993 และแล้วเสร็จในเดือนเมษายน ค.ศ. 1994 ปัจจุบันนี้ เมืองกำแพงเกาลูนกลายเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ โดยภายในสวนมีการจัดแสดงโบราณวัตถุและมีโบราณสถานต่าง ๆ ที่หลงเหลืออยู่จากการรื้อถอน
ลักษณะของเมือง
โครงสร้างและสถาปัตยกรรม
แต่เดิมนั้นเมืองกำแพงเกาลูนเคยเป็นป้อมปราการมาก่อน โดยป้อมปราการถูกสร้างขึ้นบนเนิน มีความกว้าง 210 เมตร ยาว 120 เมตร มีประตูเข้าออกอยู่ 4 ทาง และมีกำแพงหนา 4.6 เมตร ซึ่งกำแพงนี้ถูกรื้อถอนไปเมื่อ ค.ศ. 1943 [ 2] [ 3]
ในช่วง 60 ปีแรก เมืองกำแพงเกาลูนเป็นเพียงย่านชุมชนแออัดธรรมดาที่ประกอบไปด้วยตึกเตี้ย ๆ ไม่กี่แห่ง จนเมื่อเข้าสู่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 และ 1970 ก็มีการก่อสร้างอาคารสูงจำนวนมาก จนในที่สุดเมืองนี้ก็กลายเป็นย่านแออัดที่เต็มไปด้วยตึกสูงกว่า 10 ชั้นนับร้อยตึกเรียงติดกันอยู่อย่างมิดชิด[ 4] [ 5]
ภายในเมืองเต็มไปด้วยตรอกซอยเล็ก ๆ ที่กว้างประมาณ 1–2 เมตรซึ่งมีแสงไฟส่องไม่ทั่วถึง[ 6] บริเวณชั้นบนมีบันไดมากมายเชื่อมต่อกันเป็นระบบ ทำให้ผู้คนสามารถเดินทางได้ทั่วเมืองโดยไม่ต้องลงมาที่พื้นดินเลย[ 4] ตึกในเมืองประมาณ 350 ตึกถูกสร้างโดยไร้การควบคุมจากรัฐบาล ทำให้หลายตึกมีรากฐานไม่มั่นคงและไม่มีระบบสาธารณูปโภค อย่างทั่วถึง[ 4] นอกจากนี้ ในเมืองมีห้องอพาร์ทเมนต์ ที่ค่อนข้างแคบ (ประมาณ 23 ตร.ม./ห้อง) จึงมีการสร้างส่วนต่อขยาย เช่น ระเบียง เพิงบนหลังคาตึก เป็นต้น[ 7] บริเวณหลังคาของแต่ละตึกเต็มไปด้วยเสาอากาศโทรทัศน์ ราวตากผ้า และถังน้ำ แต่ละตึกในเมืองสูงไม่เท่ากัน จึงมีบันไดพาดเอาไว้ให้สามารถปีนผ่านหลังคาของแต่ละตึกได้[ 4]
อ้างอิง
↑ "Life Inside The Most Densely Populated Place On Earth [Infographic]" . Popular Science (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 18 มีนาคม 2019.
↑ Sinn, Elizabeth. "Kowloon Walled City: Its Origin and Early History" (PDF) . Journal of the Hong Kong Branch of the Royal Asiatic Society . 27 : 30–31. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 30 เมษายน 2011. สืบค้นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2009 .
↑ Benedetti, Paul (18 กันยายน 1982). "A nervy tour of Kowloon's Walled City" . The Globe and Mail . สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2009.
↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 Lambot, Ian (กันยายน 2007). City of Darkness: Life in Kowloon Walled City . Watermark. ISBN 978-1-873200-13-1 .
↑ Goddard, Charles. "The Clearance". City of Darkness: Life in Kowloon Walled City . pp. 208–11. ISBN 1-873200-13-7 .
↑ Wesley-Smith, Peter (1998). Unequal treaty, 1898–1997: China, Great Britain, and Hong Kong's new territories (rev. ed.). Hong Kong: Oxford University Press. pp. 189–90. ISBN 0-19-590354-4 .
↑ Basler, Barbara (16 มิถุนายน 1992). "Hong Kong Journal; The Walled City, Home to Huddled Masses, Falls" . The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331 . สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2021 .