เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลอาร์ แม็คลาเรน |
---|
|
ภาพรวม |
---|
บริษัทผู้ผลิต | |
---|
เริ่มผลิตเมื่อ | ค.ศ. 2003 – 2010 |
---|
แหล่งผลิต | โวคิง, เซอร์รีย์, ประเทศอังกฤษ |
---|
ผู้ออกแบบ | กอร์เดน เวเจเนอร์ (Gorden Wagener) (ค.ศ. 1998) |
---|
ตัวถังและช่วงล่าง |
---|
ประเภท | รถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง (Luxury grand tourer) |
---|
รูปแบบตัวถัง | 2 ประตู คูเป 2 ประตูโรดสเตอร์ 2-door สปีดสเตอร์ (Stirling Moss) |
---|
โครงสร้าง | เครื่องยนตร์หน้าลำ ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (FMR) |
---|
จำนวนประตู | 2 แบบบัตเทอร์ฟลายดอร์ (Butterfly doors) |
---|
ระบบส่งกำลัง |
---|
เครื่องยนต์ | 5.4 L ซูเปอร์ชาร์จ เครื่องเมอร์เซเดส เอ็ม155 เอสแอลอาร์ V8 |
---|
ระบบเกียร์ | เกียร์ออโต้ 5 จังหวะ |
---|
มิติ |
---|
ระยะฐานล้อ | 2,700 mm (110 in) |
---|
ความยาว | 4,656 mm (183.3 in) |
---|
ความกว้าง | 1,908.5 mm (75.14 in) |
---|
ความสูง | 1,261 mm (49.6 in) 2006–08: 1,252 mm (49.3 in) |
---|
น้ำหนัก | 1,743–1,768 kg (3,843–3,898 lb) [1]
1,791.5 kg (3,950 lb) (SLR Roadster)[2] |
---|
ระยะเหตุการณ์ |
---|
รุ่นก่อนหน้า | เมอร์เซเดส-เบนซ์ 300 เอสแอลอาร์ (spiritual) |
---|
รุ่นต่อไป | เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอ็มจี (เมอร์เซเดส-เบนซ์) แม็คลาเรน 12ซี (แมกลาเรน) |
---|
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลอาร์ แม็คลาเรน (อังกฤษ: Mercedes-Benz SLR McLaren) เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง เครื่องยนตร์กลางลำหน้า ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (FMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 2003 - 2010 โดยมีโรงงานอยู่ที่ พอร์ตสมัท ประเทศอังกฤษ เอสแอลอาร์ เป็นรถที่ได้ร่วมกันพัฒนาขึ้น ระหว่าง บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ และแม็คลาเรน บริษัทผลิตซูเปอร์คาร์ของอังกฤษ โดยบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ครองหุ้นส่วน 40% ของแม็กคาเรน
"เอสแอลอาร์" ย่อมาจาก "Sport Leicht Rennsport" (สปอร์ต เบา แข่ง) เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า จะผลิตเอสแอลอาร์ จำนวน 3,500 คันภายใน 7 ปี หรือปีละ 500 คันเท่านั้น[3]
โฉมพิเศษของเอสแอลอาร์
722 Edition (2006)
ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Mercedes-Benz SLR McLaren 722 Edition โดยหมายเลข 722 เป็นการให้เกียรติแก่ เซอร์สเตอร์ลิง มอสส์ นักแข่งรถสูตรหนึ่งชื่อดังจากอังกฤษ โดยในขณะนั้นเขาขับ Mercedes-Benz 300 SLR และออกตัวในเวลา 7.22 น. พอดี จึงกลายเป็นที่มาของเลข 722 ใช้แม็กสีดำ ขนาด 19 นิ้ว
722 Edition มีกำลังเครื่องขนาด 650 PS (480 kW; 640 hp) ที่ 6,500 rpm และ 820 N·m (600 lb·ft) ที่ 4,000 rpm สามารถทำความเร่ง 0-100 km/h (62 mph) ในเวลาเพียง 3.6 วินาที, 200 km/h (120 mph) ในเวลา 10.2 วินาที และ 300 km/h (190 mph) ในเวลา 27.6 วินาที, สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 337 km/h (209 mph) ซึ่งเร็วกว่ารุ่นธรรมดา
Roadster (2007)
จำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2007 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 AMG ในสไตล์โรสเตอร์เปิดประทุน ส่วนความเร็วถือว่าลดลงเล็กน้อย โดยอัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ที่ 3.8 วินาที และความเร็งสูงสุดที่ 334 km/h (208 mph)
Roadster 722 S (2009)
กับรุ่นจำกัดจำนวน ที่จำหน่ายเพียง 150 คันเท่านั้น สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 334 km/h (208 mph) และอัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ที่ 3.6 วินาที โฉมนี้ได้จำหน่ายครั้งแรกในช่วง เดือนมกราคมปี ค.ศ. 2009
722 GT (2007)
โฉมแต่ง สไตล์รถแข่ง ได้รับการออกแบบและผลิตโดย บริษัทสัญชาติอังกฤษ เรย์ มัลล็อก จำกัด ( Ray Mallock Ltd. )
Stirling Moss (2009)
โฉมจำกัดจำนวนที่ 75 คันเท่านั้น นับเป็นโฉมที่แปลกตาที่สุดในบรรดาโฉมทั้งหมด เนื่องจากเป็นโฉมในสไตล์ สปีดสเตอร์ ( Speedster ) ซึ่งเป็นทรงไม่มีหลังคา จึงทำให้รถออกไปทางรถแข่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นโฉมสุดท้ายที่ผลิตในฐานะ หุ้นส่วนการผลิต ระหว่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ แม็คลาเรน โดยรถได้รับการออกแบบโดย นักออกแบบรถชาวเกาหลีใต้ ยูน อิล ฮุน ( Yoon Il-hun )
Stirling Moss มาพร้อมกับเครื่องชนิด V8 กำลัง 650 PS (480 kW; 640 hp) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 350 km/h (220 mph) และอัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้ที่ 3.5 วินาที รถได้เปิดตัวครั้งแรกที่งาน นอร์ท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้ โชว์ ปี 2009
McLaren Edition (2011)
ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2010 แม็คลาเรน ได้ทำโฉมสุดท้าย ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 25 คันเท่านั้น โดยเป็นการผสานระหว่าง เอสแอลอาร์ ปกติ เข้ากับ สเตอร์ลิง มอสส์
ลักษณะทั่วไป
ยอดจำหน่ายในสหรัฐ
ปี
|
ทั้งหมด
|
สหรัฐอเมริกา
|
2003 |
|
370[4]
|
2004 |
|
45
|
2005 |
615 |
200[5]
|
2006 |
261 |
189
|
2007 |
275 |
104[6]
|
2008 |
|
106
|
2009 |
|
110[7]
|
2010 |
|
7[8]
|
อ้างอิง
ดูเพิ่ม