เจ้าชายอาลี เรซาที่ 2 ปาห์ลาวี (เปอร์เซีย:رضا پهلوی, ประสูติ 28 เมษายน ค.ศ. 1966 - 4 มกราคม ค.ศ. 2011) พระราชโอรสในพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี[2] และจักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวี[3] ชาห์และจักรพรรดินีองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ปาห์ลาวีและอิหร่าน
พระประวัติ
เจ้าชายอาลี เรซาที่ 2 ปาห์ลาวี ประสูติเมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1966[4][5] พระองค์เป็นพระราชโอรสองค์เล็กในพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี และจักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวี พระองค์มีพระเชษฐา พระเชษฐภคิณี และพระขนิษฐา คือ เจ้าชายเรซา ปาห์ลาวี มกุฎราชกุมารแห่งอิหร่าน, เจ้าหญิงฟาราห์นาซ ปาห์ลาวี และเจ้าหญิงไลลา ปาห์ลาวี นอกจากนี้พระองค์ยังมีพระเชษฐภคิณีต่างพระมารดาคือ เจ้าหญิงชาห์นาซ ปาห์ลาวี
หลังจากทรงสำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษา พระองค์ได้ย้ายมาประทับลี้ภัยยังสหรัฐอเมริกา[6] ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ปริญญาศิลปะ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย[7] และกำลังศึกษาคณะอักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์อิหร่านศึกษา และนิรุกติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา[8][9]
พระองค์ได้คบหาดูใจกับนางสาวซาราห์ ตาบาตาบัย (Sarah Tabatabai) โดยพระองค์ทรงได้ทำการหมั้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 2001 โดยหากเมื่อพระองค์สำเร็จการศึกษาในราวปี ค.ศ. 2004 พระองค์อาจจะเสกสมรสกับพระคู่หมั้นหลังจากการรอคอยมายาวนาน[8] แต่ความรักของพระองค์กับเธอก็สิ้นสุดลง[10] พระองค์จึงได้รับสมัญญานามว่า "เจ้าชายช่างเลือก"[11]
ทรงแสดง
พระองค์ทรงแสดงในซีรีส์เรื่อง V.I.P.-Schaukel[12] ในภาค 1 ในปี ค.ศ. 1973 และภาค 3.1 ในปีเดียวกัน โดยแสดงเป็นพระองค์เอง (เรซา ปาห์ลาวี) และแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Hannity & Colmes[13] ภาค 1 ในปี ค.ศ. 2006 โดยแสดงเป็นพระองค์เองเช่นกัน
การสิ้นพระชนม์
ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 เจ้าชายอาลี เรซา ทรงกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยพระแสงปืนในบ้านพักในบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา สาเหตุเกิดจากโรคซึมเศร้าที่มีมายาวนานตั้งแต่การสูญเสียพระราชบิดา และเจ้าหญิงไลลา พระขนิษฐาองค์เล็ก รวมไปถึงการวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองของอิหร่าน[14] สิริพระชนมายุได้ 44 พรรษา[15]
ขณะเดียวกันที่สถานีโทรทัศน์ของประเทศอิหร่าน ได้มีการพาดหัวข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ไว้ว่า "ลูกชายอดีตเผด็จการแห่งอิหร่านฆ่าตัวตาย"[16] ส่วนในเว็บไซต์และเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เป็นสื่อหลักของการต่อต้านรัฐบาลอิหร่านของชาวอิหร่านพลัดถิ่นได้แสดงปฏิกิริยาต่อต้านรัฐบาลชุดปัจจุบันของอิหร่านที่ปกครองอย่างเข้มงวด มีการส่งคำไว้อาลัยและแสดงความเสียใจต่อการจากไปของพระองค์[16]
เจ้าชายเรซา ปาห์ลาวี มกุฎราชกุมารแห่งอิหร่าน ได้ออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์ส่วนพระองค์เพื่อไว้อาลัยการจากไปของพระอนุชา ความว่า "นี่เป็นอีกครั้ง ที่เราร่วมชะตากรรมเดียวกับพระมารดา พระบิดา และเครือญาติของเหยื่ออีกมากมายในช่วงเวลาแห่งความมืดมิดของประเทศของเรา"[16] ส่วนสภาอเมริกัน-อิหร่านแห่งชาติออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมนี้[16]
อ้างอิง